เมื่อคืน หลังเที่ยงคืน มีการเปลี่ยนแปลงใน GotoKnow อีกครั้ง หลังจากเปลี่ยนแปลงมาจากปีก่อน (๓๑ ธันวาคม ๔๙)
ครั้งก่อนเปลี่ยนแปลง โดยมีสั้ญลักษณ์ไอคอนต่างๆ ที่ Active เมนู
แต่ครั้งนี้เปลี่ยนแปลง โดยมีภาพหน้าเจ้าของข้อคิดเห็นปรากฏ ด้านบนของข้อคิดเห็น
ต่อไปผู้ที่ไม่แสดงตน หรือผู้ที่ไม่ได้ Log in เข้าระบบ ไปเขียนข้อคิดเห็นก็จะไม่พบใบหน้าของตัวเอง หรือไปเขียนบันทึกลงบล็อก ก็มีภาพอะไรก็ไม่รู้ที่หน้า Home...
จะเห็นว่า ต่อไปนี้ GotoKnow จะสร้างระบบ...ที่ทำให้เจ้าของบล็อกต้องเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง...ทีละน้อย..ทีละน้อย ไม่อย่างนั้น...จะไปลปรร.กับท่านอื่นๆ ได้ยาก
ในเมื่อเรายังไม่จริงใจต่อเขา...จะหวังให้เขาจริงใจต่อเราคงยาก
วัฒนธรรมของ GotoKnow... จะสร้างให้คน..และสังคมให้มีความจริงใจต่อกันและกัน...ครับ
BeeMan |
เอ่อ.. ไม่ทราบว่าจะเป็นการฟันธงตัดสิน กันเกินไปหรือเปล่าคะ ที่ว่า "การไม่แสดงตัวตน คือการไม่แสดงความจริงใจ"
และเมื่อ... ถ้าไม่มีความจริงใจ ก็จะไม่ได้รับความจริงใจจากผู้อื่น
ซึ่งนั่นก็เหมือนจะสรุปออกมาว่า... ถ้าไม่แสดงตัวตน ก็จะไม่ได้รับความจริงใจจากผู้อื่น เช่นกัน
.....
เป็นสมาชิกในโลกไซเบอร์มาสิบกว่าปีแล้ว แม้ตลอดมา จะไม่เคยแสดงชื่อเสียงเรียงนามรวมถึงหน้าตาที่แท้จริงในอินเตอร์เนต แต่ก็ไม่เคยปกปิดตัวตนแท้จริง ในโลกของความเป็นจริง เมื่อถูกเพื่อนๆในโลกไซเบอร์ถามหาเลย
เพียงแต่ไม่อยากจะเปิดเผยตัวตนจริงๆ ออกมาอย่างสาธารณะเท่านั้น
จริงอยู่..โลกใน G2K เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ สังคมของผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นโลกที่มีเสน่ห์อีกมุมหนึ่ง แต่ก็ยังมีคนบางคน อย่างเช่น k-jira ที่ยังเป็นสมาชิกอยู่ที่มุมอื่นในโลกไซเบอร์แห่งนี้อีก
ณ ที่นั่น เป็นโลกที่หลายๆคน เป็นประชากรสมมุติ เสน่ห์ของที่นั่น คือการมีความเป็นอิสระ มีความเท่าเทียมกัน การไม่รู้ตัวตนแท้จริงของกันว่าใครเป็นใคร ทำให้แต่ละคนไม่ต้องเผชิญความรู้สึกการถูกกดดันโดยฐานะของฝ่ายตรงข้ามที่มากด้วยวัย หรือวุฒิกว่า ที่นั่นทำให้แต่ละคนเรียนรู้กันและกันง่ายขึ้น ได้ฝึกตัวเองโดยการกล่อมเกลาของสังคม
ณ ที่แห่งนั้น พวกเราก็ไม่มีใครแสดงตัวตนแท้จริงเอาไว้บนอินเตอร์เนต แต่พวกเราก็สามารถมีความจริงใจต่อกันได้ และเมื่อมีความผูกพันถึงจุดๆหนึ่ง เราก็มาเปิดเผยตัวตนรู้จักกันในโลกของความเป็นจริง แล้วเป็นเพื่อน..เป็นพี่น้องที่ดีต่อกันมานับสิบปีแล้ว
สำหรับตนเองแล้ว...แยกโลกแห่งความเป็นจริง และโลกไซเบอร์ออกจากกัน เหมือนกับมี 2 ชีวิตอยู่ในคนๆเดียว
โลกไซเบอร์เหมือนโลกที่เป็นแบบฝึกหัดชีวิต ยอมรับว่าได้ประสบการณ์ การปรับตัวเองหลายอย่างจากโลกใบนั้น ที่นำมาปรับปรุงใช้ในโลกแห่งความเป็นจริง
ถึงแม้จะไม่เคยแสดงตัวตนไว้ในโลกอินเตอร์เนต แต่ก็มีความจริงใจ และปฏิบัติตัวเป็นประชากรที่ดีในโลกไซเบอร์เสมอ พยายามทำตนให้มีประโยชน์ เป็นเพื่อนที่ดี ไม่เคยล่วงเกินหรือสร้างความเดือดร้อนให้ใคร หรือสังคมแห่งใดในโลกไซเบอร์เลย
เพราะโลกไซเบอร์ ทำให้เรามีความอิสระ มีตัวตนที่เราต้องการ สามารถเข้าถึงกันและกันได้ง่าย โดยไม่ต้องขัดเขินใจ หรือมีฐานะทางสังคมใดมาเป็นอุปสรรคขัดขวาง นั่นจึงเป็นเสน่ห์ที่ทำให้หลงใหล และเข้ามา relax รวมทั้งเข้ามาเรียนรู้ชีวิตอย่างมากมาย
เพราะในโลกของความเป็นจริง คนมักแบกเอาฐานะทางสังคมกันไว้ บางครั้งก็อดถามไม่ได้ว่า สิ่งที่แสดงต่อกันนั้น คือความจริงใจกันหรือ ? อย่างเช่น ผู้บริหาร กับผู้ใต้บังคับบัญชา เข้ามาอยู่ในโลกไซเบอร์ด้วยกัน สำหรับผู้บริหารที่เข้มงวดในชีวิตจริง ผู้ใต้บังคับบัญชาผู้นั้น จะกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นแท้จริงของตนออกมาหรือ แต่ถ้าสองคนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ต่างฝ่ายต่างไม่ต้องใส่หน้ากากทางสังคมต่อกัน ไม่แน่สองคนอาจเป็นเพื่อนกัน ที่ได้เรียนรู้สิ่งดีๆในชีวิต ซึ่งไม่ได้บรรจุในหนังสือวิชาการที่ไหนก็ได้.. เรื่องลักษณะนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาอยู่บ่อยครั้ง
ยังขอยืนยันว่า.. เราไม่จำเป็นต้องตัดสินการจริงใจต่อกัน ด้วยการแสดงฐานะแท้จริงกันอย่างเปิดเผย ในที่สาธารณะบนอินเตอร์เนตหรอกค่ะ ชื่อเสียงเรียงนาม ที่อยู่ที่ทำงานของแต่ละคน อาจจะมีการกรอก แล้วเก็บไว้ในฐานข้อมูลที่เป็นความลับของระบบดีกว่า ส่วนใครใคร่เปิดเผยก็ได้ ไม่เปิดเผยก็ได้ และถ้าหากคนผู้นั้นกระทำสิ่งใดอันไม่สมควร ก็ค่อยให้ admin เข้าไปเปิดดูข้อมูลในฐานข้อมูลลับเอา
และก็ยังคงยืนยันด้วยความรู้สึกอันแท้จริงว่า ยินดีที่จะเปิดเผยชื่อที่อยู่จริงๆของตนเอง รวมถึงการพบปะเผชิญหน้ากันในโลกแห่งความจริงได้เสมอ แต่จะรู้สึกอึดอัดใจมาก..หากต้องให้เปิดเผยชื่อ รวมทั้งรูปภาพไว้บนโลกไซเบอร์
และถ้าหากว่า..สังคมแห่งนี้ยืนยันจะให้สมาชิกเปิดเผยตนเองทุกคน และตัดสินความจริงใจของคนผู้นั้นด้วยการเปิดเปิดตนเองอย่างสาธารณะ บางทีก็คงถึงเวลาที่ตัดสินใจเลือกแสดงความจริงใจของตนเอง โดยการตัดไปจากที่นี่ เพราะไม่สามารถปฏิบัติตามวัฒนธรรมทางสังคมของที่นี่ได้จริงๆ T_T
ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นจากใจจริง และจริงใจ หากข้อความใดเป็นการล่วงเกิน ก็ต้องขออภัยอย่างยิ่งนะคะ
^____^
ความเห็นของคุณ k-jira ลึกซึ้งครับ
ที่จริงแล้ว "ตัวตน" ในที่นี้เราไม่ได้หมายถึงต้องเป็นชื่อจริงเท่านั้นครับ แต่เป็น "ตัวตน" ที่ชัดเจนว่าเป็นใครครับ (creditable identity)
อย่าง "k-jira" นี่เป็นตัวอย่างของ creditable identity ครับ
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือคุณ Conductor นี่จะทราบกันทั้งวงการอินเทอร์เน็ตประเทศไทยทีเดียวว่าคือคุณตฤณ CEO ของ INET ถ้าคุณตฤณใช้ชื่อจริงเมื่อไหร่คนอาจจะไม่รู้จักครับ
ตัวอย่างที่ชัดเจนมากอีกท่านก็ไม่ใช่ใครอื่นครับ Beeman ของเรานั่นเอง
creditable identity นี่จะสำคัญใน context ของ KM ครับ ดังนั้นเราจะชูประเด็นนี้เป็นหลักเนื่องจากระบบเรามุ่งเพื่อวัตถุประสงค์ KM ครับ
สวัสดีปีใหม่คะอาจารย์...
กะปุ๋มย่องตามหลัง ดร.จันทวรรณ และ ดร.ธวัชชัยมาคะ...มาทิ้งรอย...ภาพน่ารักๆ...คะ
(^___^)
กะปุ๋ม
ว้า....ทำไมรูปกะปุ๋มไม่ขึ้นเลยคะ...
Y__*
มาสวัสดีปีใหม่ด้วยคนค่ะ รู้สึกว่า ยังไม่ได้สวัสดี อ.Beeman
... ขอให้อุดมไปด้วยสิ่งที่ดี สิ่งที่งาม เพื่อร่วมกันจรรโลงสังคมไทยกันตลอดไปนะคะ ...
หวังว่า ตัวตน ที่ อ.beeman คงไม่ได้หมายถึง อัตตา หรอกน่ะครับ