วันนี้เมื่อปีที่แล้ว


ผมไม่ต้องการให้นิสิตเหล่านี้ขับรถกลับบ้านเลย ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล เพราะเป็นห่วงเรื่องสวัสดิภาพในการเดินทาง

ที่นี่ ....ผู้คนมักพูดกันเสมอว่าน่าจะเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่นิสิตมีรถจักรยานยนต์ขับขี่มากที่สุดอีกสถาบันหนึ่งในประเทศไทย และในวันนี้ เมื่อปีที่แล้ว  (28 ธันวาคม 2548) กองกิจการนิสิต มมส ก็ได้จัดกิจกรรมที่มีชื่อว่า "เช็คก่อนใช้ ปลอดภัยก่อนเดินทาง"  ขึ้นมา ณ อาคารบริการกลาง หรือที่คนที่นี่เรียกกันติดปากว่า "พลาซ่า" 

งานนี้ประสบความสำเร็จเกินคาด มีคนเข้าใช้บริการร่วม 300 กว่าคน ซึ่งกิจกรรมก็ประกอบด้วยการตรวจเช็คสภาพรถจักรยานยนต์ฟรี เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องในราคา 20 บาท จำหน่ายหมวกนิรภัยราคาต้นทุน อบรมและฝึกปฏิบัติการขับขี่ปลอดภัย  รวมถึงการอำนวยความสะดวกเรื่องการซื้อ พ.ร.บ./ ต่อ พ.ร.บ. ฯลฯ

 

แน่นอนครับ...จะว่าไปแล้วกิจกรรมนี้ก็ไม่ได้มีพลังทางปัญญาเท่าที่ควรนัก  หากแต่จัดขึ้นบนแนวคิด "การให้บริการ" แก่นิสิต และย้ำเน้นเรื่องกฎจราจร พร้อมทั้งการกระตุ้นเตือนให้นิสิตมีความพร้อมในการขับขี่ในช่วงเทศกาลปีใหม่  ..ให้เกิดความพร้อมทั้งรถ ทั้งคน และถูกต้องตามกฎจราจร ที่สำคัญคือ เป็นกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้งบประมาณมากมายเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ประสานห้างร้านมาช่วยดำเนินการ ทุกอย่างก็ถือว่า "นิสิตได้ประโยชน์" 

 ผมขำไม่หายที่นิสิตบางคนบอกว่าไม่เคยตรวจเช็คสภาพรถมานานถึง 4 เดือนเต็ม ๆ (ทั้งไม่ให้ความสำคัญและไม่มีเวลาพอที่จะไปดำเนินการ)  เรื่องเช่นนี้ คือ การมองข้ามความปลอดภัยอย่างเห็นได้ชัด !!

บางคนก็กำลังจะขับรถมอเตอร์ไซด์กลับบ้านในช่วงปีใหม่ จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่ได้ตรวจเช็คความพร้อมของรถก่อนการเดินทาง...ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริง ผมไม่ต้องการให้นิสิตเหล่านี้ขับรถกลับบ้านเลย ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล เพราะเป็นห่วงเรื่องสวัสดิภาพในการเดินทาง  ยิ่งเทศกาลที่มีการสัญจรคับค่างเช่นนี้ ผมยิ่งเป็นห่วงมากกว่าปกติ  กระนั้นก็ได้แต่อวยพรให้พวกเขาโชคดีในการกลับบ้านและกลับมายังมหาวิทยาลัยอย่างปลอดภัย

 

เช็คก่อนใช้ ปลอดภัยก่อนเดินทาง (วันนี้เมื่อปีที่แล้ว)  จึงเป็นอีกวันหนึ่งที่ผมนำมาบอกเล่าในวิถีของคนทำกิจกรรม 

อย่างน้อยก็เป็นกระบวนการหนึ่งของกิจกรรมที่กระตุ้นเตือนให้นิสิตตื่นตัวในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุ  ...

เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ผมคิดถึงก่อนกลับบ้านในเทศกาลปีใหม่...และน่าเสียดายว่ากิจกรรมดังกล่าวไม่เกิดขึ้นในปีนี้ ทั้งที่เป็นกิจกรรมที่ง่าย ๆ ไม่ต้องใช้งบมากมาย แต่ก็ได้ประโยชน์ต่อนิสิต

อย่างน้อยก็เป็นการให้บริการในอีกมิติหนึ่งของชาวกิจกรรมอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ

และยิ่งเรื่องพรรค์นี้  ถ้าไม่คาดหวังกับจิตสำนึกที่นิสิตต้องตระหนักในความปลอดภัยของตัวเอง  เราเองก็ต้องจัดกิจกรรมให้จริงจังและต่อเนื่อง  ....

แน่นอนครับ...คิดถึงวันนี้เมื่อปีที่แล้ว คิดถึง โครงการ "เช็คก่อนใช้ ปลอดภัยก่อนเดินทาง"  กิจกรรมง่าย ๆ ที่ไม่เปลืองงบ ...

หมายเลขบันทึก: 69946เขียนเมื่อ 28 ธันวาคม 2006 19:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

เหมือนอย่างที่คุณแผ่นดิน รำพันเมื่อบันทึกก่อนๆว่า เมื่อคนเคลื่อน งานจบ ก็คงเป็นจริง

ในความจริง กิจกรรมดีๆ ที่เคยทำมาแล้ว หากมีการคิดต่อยอดจะดีมาก ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องคิดใหม่ เพียงแต่ปรับแต่งเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์

การตื่นตัวในการป้องกันปัญหา มีค่อนข้างน้อยในสังคมไทย คนไทยส่วนใหญ่จึงต้องก้มหน้าก้มตาแก้ปัญหาต่อไป

คุณ จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

  • ผมเห็นด้วยนะครับกับทัศนะ "คนเคลื่อน งานจบ"
  • มันเป็นภาพสะท้อนปัญหาสังคมการทำงานที่เด่นชัดมาก  และนี่คือปัญหาสำคัญของการทำให้องค์กรขาดความต่อเนื่องและเข้มแข็ง
  • บุคคลอาจจะใหม่ต่องาน แต่นั่นก็มิได้หมายความว่า ในองค์กรนั้นจะไม่มีประวัติศาสตร์ให้ศึกษาและ ต่อยอด
  • ผมเองย้ำในเวทีการเสวนาเสมอว่า  เรามักสร้างสิ่งใหม่ ๆ ที่ปราศจากการศึกษาประวัติศาสตร์ เพราะมนุษย์ต่างก็ต้องการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับตนเอง
  • โดยลืมไปว่าที่แท้จริง ในบางเรื่อง  เราก็สามารถสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ต่อยอดจากประวัติศาสตร์เดิมที่มีอยู่ได้
  • ก็คงเหมือนกับที่คุณจตุพรเคยกล่าวถึงในทำนอง เราต้องใหม่พยายามยัดเยียดสิ่งใหม่เข้าไปในชุมชนโดยปราศจากการศึกษาที่ถี่ถ้วน
  • ขอบคุณครับ

 

อาจารย์ เม็กดำ 1

  • นับวันผมยิ่งชื่นชมในมุมมองการทำงานและชีวิตของอาจารย์มาก
  • เรื่องครูดี กับครูดีเด่นเป็นอีกเรื่องที่ผมอ่านมากกว่า 4 เที่ยวแล้ว
  • และอยากมีโอกาสไปเยี่ยมชมและจัดกิจกรรมที่โรงเรียนฯ มาก  ยิ่งได้ซึมซับว่ามีอาจารย์และผู้บริหารที่ให้ความสำคัญต่อกระบวนการศึกษายิ่งน่าสนใจ...
  • ไม่แน่ครับ  คงได้มีกิจกรรมร่วมกันสักครั้ง
  • ชอบคุณมาก ๆ นะครับ
  • ต้องขอบคุณคุณพนัสและกองกิจการนิสิตที่สร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ที่ให้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม 
  • หวังจะเห็นกิจกรรมที่ดี ๆ นี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขอเป็นกำลังใจให้ 

คุณ อ้อ - สุชานาถ

  • ขอบคุณครับ
  • เรากำลังถกคิดเรื่องการสานต่อภารกิจ โดยเฉพาะกิจกรรมที่ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณ  รวมถึงการกระตุ้นในนิสิตได้รับผิดชอบกิจกรรมหล่านี้ด้วยตนเอง
  • ปีนี้ตอนอบรมผู้นำผมจึงใช้สโลแกนว่า "ต่อยอดความคิด สู่พันธกิจทางสังคม"
  • แต่ยังต้องใช้เวลาอีกสักนิดครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท