ผมได้มีโอกาสคุยกับคุณเจริญวิทย์ เสน่หา จากสำนักแผนและนโยบาย กระทรวงเกษตรฯ เมื่อคืนวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๔๙ ณ ศูนย์เรียนรู้ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ เกี่ยวกับอุปสรรคการทำงานตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงในกระทรวงเกษตรฯ ได้ข้อสรุปมาดังนี้
ขอโทษครับ ที่เอาเรื่องเศร้ามาเล่าแต่เช้า
อยากฟังความเห็นข้าราขการกระทรวงเกษตร และ เสียงนกเสียงกาทั้งหลาย มีความเห็นว่าอย่างไรครับ
เรียน ผศ.ดร.แสวง รวยสูงเนิน
ด้วยความเคารพ
อุทัย อันพิมพ์
อาจารย์ครับ
เศรษฐกิจพอเพียง (ศกพ.) มันต้อง "ระเบิดจากข้างใน" คือต้องเริ่มจากตัวเราออกไป
ไม่ใช่ว่านักวิชาการไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เขารู้แต่ไม่รับ คือไม่ปฏิบัติ รับก็รับแบบใจไม่เปิด ใช้เวลามานิยามแล้วนั่งตีความกัน ติดตำราเสมือนตกหลุมดำในเรื่อง (Process trap)
ผมรู้จักเด็กนักเรียนตัวเล็กตัวน้อยหลายคนที่นำหลักปรัชญาศกพ. มาปฏิบัติโดยไม่เข้าใจนิยามและความหมาย
ยากครับอาจารย์ ที่จะให้ ศกพ. เข้าไปอยู่ข้างในข้าราชการหรือนักวิชาการที่ยังเคารพและยึดติดคำว่า "ตัวกู" อุปมาเหมือนการนับถีอศาสนา แต่ไม่ปฏิบัติตามศาสนา
เรามาช่วยกันปฏิบัติ และขยายแนวร่วมในการปฏิบัติตามยุทธ์ศาสตร์ป่าล้อมเมืองกันดีกว่า เผื่อว่ายางอายมันจะซึมออกมาจากพวกเขาเหล่านั้นบ้าง
คุณพันธุ์บุณย์
ขอบคุณครับ
เห็นภาพชัดเลยครับ
ขอนำไปใช้ต่อนะครับ
แต่ การที่จะระเบิดจากข้างใน บางทีเชื้อไฟก็ไม่พอครับ อาจต้องเติมจากภายนอกบ้างครับ
ทีนี้เราต้องมาดูว่าภายนอกจะเติมอะไรได้บ้างจึงจะทำให้ระเบิดจากข้างในได้มาก และทั่วไปครับ
คุณวีรยุทธครับ
ขอพูดกันอย่างตรงไปตรงมา
ผมอยากฝากความหวังไว้กับหน่วยงานของท่าน เป็นหัวหอกนำทาง
แต่ฟังคุณเจริญวิทย์พูดแล้ว ผมก็เกิดอาการตันทางความคิด
ว่าผู้บริหารเขาไม่สนใจอะไรแบบนี้
จริง ไม่จริง อย่างไรช่วยขยายความตรงนี้ หรือเขียนบล็อกแลกหมัด เอ้ย แลกเปลี่ยน ได้สักนิดไหมครับ
อยากฟังจังเลย
พูดตรงไม่ได้ก็แย้มๆให้ฟังก็ได้ครับ