ดิฉันเชื่อว่าใครหลาย ๆ คน ในตอนที่เป็นเด็กมักจะถูกตั้งคำถามด้วยคำถามที่ว่า...
"โตขึ้นอยากเป็นอะไร" แล้วคำตอบที่ได้ส่วนใหญ่ คือ หมอ ครู ทหาร หรือ ตำรวจ
ราวกับเป็นอาชีพในฝันของเด็ก ๆ หลายคน ที่ถูกปลูกฝังมาด้วยความเชื่อที่ว่า
ถ้าเรียนเก่ง ๆ จะได้เป็นหมอ หรือ ให้ทำงานรับราชการ เพื่อที่จะสบายในวันข้างหน้า
ดิฉันในตอนเป็นเด็ก ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ถูกปลูกฝังมาด้วยความเชื่อดังกล่าว
ในวัยเด็กของดิฉันจึงไม่ต่างจากเพื่อน ๆ วัยเดียวกันมากนัก คือ อยากเป็น หมอ หรือ ครู
แต่เมื่อดิฉันเติบโตขึ้นเข้าสู่ช่วงวัยมัธยมต้น เป็นยุคที่เริ่มมีการนำละครต่างประเทศมาเผยแพร่
ในทีวีสาธารณะ สื่อออนไลน์เริ่มเข้ามามีบทในการสร้างประสบการณ์ชีวิต ทำให้ได้มีโอกาสสัมผัส
วัฒนธรรมต่างชาติผ่านละคร และสื่อออนไลน์ ทำให้เกิดความสนใจในศิลปินต่างประเทศ
ฟังเพลงสากลจนทำให้เริ่มสนใจในภาษาอังกฤษเนื่องจากอยากรู้ว่าจะต้องร้องอย่างไรถึงจะถูกต้อง
และเนื้อร้องมีความหมายว่าอย่างไร ณ ตอนนั้นเองความฝันในวัยเด็กก็เริ่มเปลี่ยนไป
เพราะความสนใจด้านภาษาต่างประเทศ จึงเริ่มอยากที่จะทำงานเป็นนักการทูต เพราะจะได้ใช้
ภาษาอังกฤษในการสื่อสารพูดคุยโดยที่ยังไม่รู้จักอาชีพนี้ดีพอ ความสนใจด้านภาษาต่างประเทศ
เริ่มมีมากขึ้น และเริ่มเรียนวิชาคณิตศาสตร์ไม่ค่อยเข้าใจ ทำให้รู้สึกชอบวิชาภาษาอังกฤษ
และไม่ชอบวิชาคณิตศาตร์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งด้วยความชอบและความไม่ชอบดังกล่าวก็ส่งผล
กับการสอบเข้าเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายอย่างเห็นได้ชัด
เนื่องจากไม่สามารถสอบเข้าเรียนแผนการเรียนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ได้
แต่สอบได้แผนการเรียนที่เลือกไว้เป็นอันดับ 2 คือ แผนการเรียนภาษาอังกฤษ - จีน
เนื่องด้วยความเชื่อในระบบคุณภาพการเรียนการสอนของโรงเรียนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงจึงตัดสินใจ
เรียนต่อที่โรงเรียนแห่งนี้ในแผนการเรียนที่ไม่ได้ต้องการเรียนมากนัก ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว
ก็สามารถที่จะเรียนแผนการเรียนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ที่โรงเรียนชุมชนใกล้บ้านได้
นี่เป็นครั้งแรกที่ดิฉันได้เลือกเส้นทางเดินด้วยตนเอง และในช่วงเรียนมัธยมปลาย
เป็นช่วงที่ก้าวเข้าสู่ชีวิตวัยรุ่นเริ่มสนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากกว่าที่จะสนใจในการเรียน
จึงทำในมผลการเรียนที่ค่อนข้างแย่มาก คืออยู่ในลำดับท้าย ๆ ของห้องพอเข้าสู่ช่วงปีสุดท้าย
ก่อนที่จะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย ที่เริ่มมีการใช้ผลการเรียนคู่กับคะแนนสอบ ทำให้ดิฉันคิดว่า
หนทางเดียวที่จะสามารถเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในคณะที่อยากเรียนได้ ต้องสอบติดโควต้าเท่านั้น
เนื่องจากผลการเรียนในชั้น ม.4 แย่มาก และ ผลการเรียนในชั้น ม.5 และ ม.6 อยู่ในระดับปานกลาง
อาจจะไม่สามารถเทียบคะแนนสู้กับคนอื่น ๆ ได้ จึงตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อโอกาสเดียว
ที่จะสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ สุดท้ายความตั้งใจก็เป็นผลสำเร็จ
ดิฉันสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้โดยสอบเข้าในระบบโควต้า แต่ก็ดีใจเพียงครึ่งเดียว
เพราะไม่ได้ติดคณะที่ตั้งใจไว้ คือ คณะรัฐศาสตร์ แต่ติดคณะศึกษาศาสตร์เอกวิชาภาษาอังกฤษ
นี่เป็นครั้งที่สองที่ตัดสินใจเลือกเดินในทางที่ไม่ได้คาดหวังไว้ ด้วยการสนุกอยู่กับการใช้ชีวิตอย่างอิสระ
และไม่ต้องการให้ใครมาบังคับจึงทำให้สนใจทำกิจกรรมอื่น ๆ มากกว่าการเรียน
ประกอบกับความผิดพลาดในการจัดการชีวิตตนเองจนทำให้ผลการเรียนตกต่ำอีกครั้ง
จึงตัดสินใจที่จะเลือกสอบเข้าใหม่ในระบบแอดมิดชั่น และเลือกคณะที่มีคะแนนไม่สูงมาก
เพื่อเป็นหลักประกันว่าเราจะสามารถสอบเข้าได้ จนในที่สุดก็สอบติดคณะสังคมศาสตร์
พอเริ่มเรียนคณะใหม่ ก็มีการเริ่มมองหาประสบการณ์อื่น ๆ นอกจากการเรียนอีกครั้ง
จนมีโอกาสได้สอนภาษาอังกฤษเป็นครั้งแรกในฐานะติวเตอร์ ด้วยปัญหาด้านสุขภาพ และการทำงาน
ควบคู่กับการเรียนจึงทำให้ใช้เวลานานว่าจะสำเร็จการศึกษาในระหว่างเรียนในระดับมหาวิทยาลัย
นอกจากการสอนพิเศษและยังได้มีโอกาสทำงานในฐานนะผู้ช่วยนักวิจัย
ซึ่งเป็นสายงานเกี่ยวข้องกับคณะที่ได้เรียนมา แต่พอได้ลองมีโอกาสทำงานจริง ๆ แล้ว
ก็เริ่มรู้สึกไม่มีความสุข เจอแต่เอกสารและข้อมูลมากมาย
แต่กับอีกงานหนึ่งคือการสอนพิเศษเป็นงานที่ดิฉันทำแล้วไม่มีความรู้สึกเบื่อเลย
เมื่อจบการศึกษา จึงเลือกที่จะหางานทำที่เกี่ยวข้องกับการสอน
โดยสมัครเข้าทำงานในโรงเรียนนานาชาติ เนื่องจากตนเองชื่นชอบวิชาภาษาอังกฤษ
จึงคิดว่าน่าจะมีโอกาสในการพัฒนาทักษะด้านภาษากับเจ้าของภาษาโดยตรง
ครั้งแรกที่เข้าทำงานได้ทำงานในตำแหน่งครูผู้ช่วยซึ่งมีหน้าที่ช่วยเหลือนักเรียนห้องที่เราดูแลอยู่
รวมถึงจัดทำสื่อร่วมกับครูชาวต่างชาติ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสในการออกแบบการสอน
หรือสอนหน้าชั้นเรียน ซึ่งระหว่างทำงานเป็นครูผู้ช่วยก็ยังคงสอนพิเศษอยู่
จนวันหนึ่ที่ดิฉันรู้สึกว่า ตัวเองน่าจะมีศักยภาพในการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการได้
จึงได้พูดคุยกับผู้บริหาร และ ได้รับโอกาสในการเป็นครูผู้สอน ในรายวิชาภาษา วัฒนธรรม
และประวัติศาตร์ไทยสำหรับ นักเรียนชาวต่างชาติ พอได้มาสอนจริง ๆ แล้ว
รู้สึกว่านี่คืองานที่เราชอบ เราสนุกและมีความสุขกับงานนี้
ด้วยความชอบ ความสุขนี้เองก็เป็นแรงผลักดันให้กับตนเองในการตัดสินใจมาเรียน
หลักสูตร ป.บัณฑิตเพื่อพัฒนาความรู้ และศักยภาพของตนเองในสายอาชีพนี้ในฐานะของวิชาชีพ
--จากการเลือกในสิ่งทีไม่ได้ดั่งใจหวัง
สุดท้ายชีวิตก็เดินทางมาพบกับความฝันอีกครั้งหนึ่งเมื่อวัยเยาว์--
--ความฝันที่อยากจะเป็น ครู
เห็นได้ชัดเจนมากขึ้นในวันนี้วันที่ความฝันกับความคาดหวังคือสิ่งเดียวกัน--
--แต่บางคน..
--ชีวิตอาจไม่ได้เป็นดั่งใจ
ชีวิตอาจจะเจอทางแยกมากมาย แต่สุดท้ายเราคือคนที่เลือกทางเดินชีวิต--
--ประสบการณ์จะทำให้เราได้เติบโตและเรียนรู้ว่า
บางครั้งเราต้องลงมือทำก่อนถึงจะค้นพบความจริง--
-- ว่าสิ่งที่เราฝันไว้..เป็นสิ่งที่เราชอบหรือไม่ เพราะ บางครั้งสิ่งที่ฝัน..
กับความเป็นจริงมันอาจไม่เหมือนกับสิ่งที่คิดไว้..
สิ่งสำคัญคือ การตั้งเป้าหมาย และลงมือทำตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
สวัสดีค่ะ คุณกวิสรา ดิฉันประทับใจการเขียนเล่าเรื่องของคุณมาก เนื้อหาอ่านแล้วประทับใจในหลายๆเหตุการณ์ เป็นกำลังใจในการสร้างบทความที่ดีแบบนี้ต่อไปค่ะ ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับ คุณกวิสรา ชัยมงคล ชื่นชมงานเขียนของคุณครับ ขอเป็นกำลังใจให้คุณนะครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ คุณกวิสรา เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ คุณกวิสรา. ทุกความฝันล้วนเป็นเป้าหมายให้เราก้าวเดินไป เป็นกำลังใจให้นะครับ
สวัสดีค่ะ คุณกวิสรา ประทับใจในการถ่ายทอดเรื่องราวของคุณค่ะ จากฝัน ก็กลายเป็นมากกว่าฝัน ฝันกลายเป็นจริงขึ้นมา เห็นด้วยกับข้อความว่าสิ่งที่เราฝันไว้เป็นสิ่งที่เราชอบหรือไม่ เพราะบางครั้งสิ่งที่ฝันกับความเป็นจริงมันอาจไม่เหมือนกับสิ่งที่คิดไว้ เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณกวิสรา เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
สวัสดีครับ คุณกวิสรา ผมประทับใจในผลงานของคุณมากครับ เป็นกำลังใจให้ในการสร้างสรรค์ผลงานต่อๆไปนะครับ
สวัสดีครับ คุณกวิสรา ผมชื่นชมผลงานของคุณนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ เขียนงานให้อ่านอีกนะครับ
สวัสดีครับ คุณกวิสรา ผมประทับใจในงานเขียนของคุณมาก ขอเป็นกำลังใจให้ในงานเขียนครั้งต่อไปครับ
สวัสดีค่ะ คุณกวิสรา ดิฉันประทับใจในงานเขียนของคุณมาก ขอเป็นกำลังใจให้ในงานเขียนครั้งต่อไปค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณกวิสรา ฉันประทับใจในงานเขียนและเป็นกำลังใจให้กับงานเขียนของคุณนะคะ ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณกวิสรา ดิฉันชื่นชอบในการเขียนผลงานของคุณอ่านแล้วรู้สึกประทับใจมากค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้คุณนะคะขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับคุณคุณกวิสรา ความฝันที่มากกว่าฝัน คือตื่นจากฝันแล้วมันเป็นความจริงครับ ผมชื่นชอบ และประทับใจในงานเขียนของคุณ ขอเป็นกำลังใจให้กับงานเขียนของคุณในชิ้นต่อ ๆ ไปนะครับ
สวัสดีครับ คุณกวิสรา ผมชอบงานเขียนของคุณมากครับเขียนได้ดีครับ ถ่ายทอดเรื่องราวได้ดีมากครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอบคุณมากครับ
สวัสดีค่ะ คุณกวิสรา ชื่นชอบเรื่องราวของคุณ ขอเป็นกำลังใจนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณกวิสรา ดิฉันชอบงานเขียนของคุณมากค่ะเขียนได้ดี และถ่ายทอดเรื่องราวได้น่าประทับใจมากค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณสิริญาภร ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และเป็นกำลังใจให้ในการเขียนงานครั้งต่อ ๆ ไปนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณครูเล็ก ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และเป็นกำลังใจให้กันนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณชัชวาล ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และเป็นกำลังใจให้กันนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณกรกต ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และเป็นกำลังใจให้กันนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณนริศรา ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และเป็นกำลังใจให้กันนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณประภาพร ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และเป็นกำลังใจให้กันนะคะ
สวัสดีค่ะ คุรศิริมงคล ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และเป็นกำลังใจในการเขียนงานครั้งต่อ ๆ ไปนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณศักดิ์ชัย ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และเป็นกำลังใจในการเขียนงานครั้งต่อ ๆ ไปนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณเฉลิมศักดิ์ ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และเป็นกำลังใจในการเขียนงานครั้งต่อ ๆ ไปนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณอรอุมา ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และเป็นกำลังใจในการเขียนงานครั้งต่อ ๆ ไปนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณสุนิสา ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และเป็นกำลังใจให้กันนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณนภัสวรรณ ขอบคุณที่ชื่นชอบงานเขียนของดิฉัน และเป็นกำลังใจให้กันนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณวชิรวิชญ์ ขอบคุณที่ชื่นชอบงานเขียนของดิฉัน และเป็นกำลังใจในการสร้างสรรค์งานเขียนครั้งต่อ ๆ ไปของดิฉันนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณทศวรรษ ขอบคุณที่ชื่นชอบานเขียนของดิฉัน และเป็นกำลังใจให้กันนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณกล้วยไม้ ขอบคุณที่ชื่นชอบงานเขียนของดิฉันและเป็นกำลังใจให้กันนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณพัชรินทร์ ขอบคุณที่ชื่นชอบงานเขียนของดิฉัน และเป็นกำลังใจให้กันนะคะ
สวัสดีค่ะ คุณกวิสรา เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าประทับใจมากค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณกวิสรา ดิฉันชื่นชมในสิ่งที่คุณได้เขียนมาเป็นผลงานที่น่าประทับใจและขอให้กำลังใจนะคะขอบคุณมากค่ะ