โครงการ Patho OTOP2 จบลงไปด้วยดี จากที่ประเมินด้วยสายตา นับว่า season นี้ มี rating ดีพอสมควร ซึ่งนั่นหมายถึงว่าเราอาจจะมี season 3, 4 , 5......ต่อไปเรื่อยๆ
อยากรู้เหมือนกันว่า นอกจากผลงานที่เห็นเป็นตัวเป็นตนแล้ว คนทำงานเค้าได้อะไรจากโครงการนี้บ้าง เลยหันไปถามคนใกล้ตัว คุณกุศล ณ สงขลา (พี่ศล เป็นหัวหน้าโครงการทั้ง OTOP1 และ 2)
ถามว่า "พี่ศล ได้อะไรจากการทำโครงการ Patho OTOP คะ" พี่ศลตอบกลับมาแบบฉับพลันทันทีว่า "ได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม" เหอะ...เหอะ ได้ยินคำตอบแล้วก็ขำค่ะ แหม...ช่างเป็นคำตอบที่ตอบกันเป็น pattern เหมือนนางงามเลย ทุกทีมที่นำเสนองานในช่วงที่ผ่านมา ตอบเหมือนกันเด๊ะเลยว่า "สิ่งที่ได้จากโครงการคือ ได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม" (กรุณาอ่านแบบประสานเสียง)
เลยบอกพี่ศลว่า เอาใหม่ๆ ไม่เอาคำตอบนี้ พี่ศลทำท่านึกอยู่ซักห้านาที แล้วก็นึกได้ว่า "อ๋อ......นั้นไง เรื่อง present น่ะ พี่รู้สึกว่าทำได้ดีกว่าคราวที่แล้ว คราวนี้สั่นน้อยลง แล้วมันภูมิใจว่า เราก็ทำได้เหมือนกัน"
นำเรื่องนี้มาเล่าเพราะเห็นแล้วรู้สึกได้ว่านี่แหละใช่เลย ทุกครั้งที่จะมีการนำเสนองาน พี่ศลจะเกิดอาการ "ขี้หด ตดหาย" (ขออภัยที่ใช้คำไม่สุภาพ แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ) ด้วยความที่มักจะคิดว่าตัวเองพูดไม่คล่อง ทำให้ไม่อยากจะพูดอยากจะฝึกอะไร คราวนี้ก็เหมือนกัน ตอนแรกว่าจะไม่พูดแล้ว จะให้น้องอีกคนนำเสนอแทน แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจพูดเอง
คราวนี้ซ้อมอยู่หลายรอบ จนมั่นใจ มีการซ้อมตอบคำถามด้วยนะ คือบรรดาพี่เลี้ยง ที่ปรึกษา ช่วยกันเก็งคำถามและคำตอบไว้ล่วงหน้า (เหมือนนางงามเลยล่ะ) พอถึงเวลานำเสนอจริงๆ ปรากฏว่าเจ้าตัวทำได้ดีเกินคาด ตอบคำถามได้ตรงประเด็นและไม่ติดขัด
หลังจาก present จบ นอกจากรู้สึกโล่งอก แล้ว เห็นได้ชัดว่าพี่ศลรู้สึกภูมิใจ ว่า "ฉันทำได้ (แล้วนะ)" มันเหมือนอาการ "ฟู" ของขนมถ้วยฟู มีแรงทำอะไรได้อีกหลายอย่าง
ในฐานะคนเฝ้ามอง เห็นแล้วก็อดดีใจแทนไม่ได้ค่ะ อยากให้ฟูอย่างนี้ไปนานๆ จังเลย
แบบนี้ต้องหาเวทีที่ใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ไง ว่ามั๊ย ? พี่ nidnoi
เป็นการทบทวนบทเรียน (AAR) ที่น่าชื่นชมครับกับความสำเร็จครับ