"คุณภาพของนักศึกษา ป.บัณฑิต ที่มาเรียนต่ำลง"
เสียงบ่นที่เป็นระยะ ๆ ของการสอนในภาคเรียนนี้
ในการสอนวิชานวัตกรรมฯ ที่ครูต้องทำสื่อการสอนให้เป็น
ไม่ว่าจะมีงานกี่ชิ้น ทุกชิ้นก็จะมีแต่คนส่งงานไม่ตรงเวลา
กำหนดส่งอาทิตย์นี้ อาทิตย์หน้าหรืออาทิตย์โน้นก็เพิ่งส่ง
โดยไม่กลัวว่าจะถูกหักคะแนนจะเรียนตกวิชานี้
ข้ออ้างที่ฟังอยู่เป็นประจำ คือ "งานที่โรงเรียนเยอะ"
คือมันเยอะจนไม่สามารถบริหารเวลาเรียนได้
ในใจก็คิดว่า "แล้วจะมาเรียนทำไม ถ้าบริหารเวลาไม่ได้"
ไปตัดโอกาสครูอีกหลายคนที่อยากเป็นครูอย่างแท้จริง
..
วิชานวัตกรรมฯ มีงานชิ้นใหญ่ที่ต้องทำให้เสร็จ คือ
การสร้างนวัตกรรมการศึกษาที่ชื่อว่า "บทเรียนสำเร็จรูป"
เป็นนวัตกรรมที่นักศึกษาต้องลงมือทำจริง
และต้องนำไปทดลองหาประสิทธิภาพจริง
แล้วเขียนออกมาในรูปของรายงาน
ปรากฏว่า เมื่อกำหนดการส่งงานมาถึง
มีคนทำไม่ทันถึง ๙ คน ออกแบบผิด อีก ๙ คน
แถมอีก ๗ คน เกรดยังไม่ถึงเกรดขั้นต่ำของ ป.บัณฑิตอีก
ทำให้ต้องตัดสินใจให้เกรด I ไว้ก่อน
เพื่อปล่อยเวลาไปอีก ๑ เดือน ทำงานและแก้ไขงานให้เสร็จ
..
วันนี้ วันรองสุดท้ายล่ะ มีคนมารายงานตัวขอแก้เกรด I แล้ว ๒๔ คน
ขาดอีก ๑ คนที่เงียบหายไป ซึ่งคนนี้มาวันนี้ ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่ถึง ๒ สัปดาห์
ที่ผู้สอนจะต้องแก้เกรดตามประกาศของมหาวิทยาลัย
เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในระหว่างการรับการติดต่อแก้เกรด I
และตรวจงานให้นักศึกษาคนอื่นที่อยากให้ตรวจก่อน
หัวหน้าห้อง ไม่ได้ติดเกรด I ได้มาให้กำลังใจเพื่อน
มีดีกรี คือ จบปริญญาโทแล้วจากอเมริกา
ขณะนี้กำลังสอนอยู่โรงเรียนมัธยมอันดันต้น ๆ ของเชียงใหม่
และประเทศไทย
เขาไม่ได้เกรด A วิชานวัตกรรมฯ ทั้ง ๆ ที่ทำงานเกือบทุกชิ้น ดี ถึง ดีมาก
"หนูรู้สึกดีมาก ๆ ที่ไม่ได้เกรด A ของอาจารย์ ทั้ง ๆ ที่วิชาอื่นหนูได้เกรด A หมด
เพราะถ้าหนูได้เกรด A ของอาจารย์อีกตัว หนูก็คงจะรู้ว่า ตัวเองเก่งกว่าคนอื่น
แล้วจะไม่รู้ว่า หนูจะต้องพัฒนาตัวเองอะไรอีก"
ผมจึงพูดกับเขาว่า "จริง ๆ เธอควรจะได้ A แต่เธอไม่ส่งงานตรงเวลา
เพราะเธอรอเพื่อนคนอื่นที่ยังไม่ส่ง ทำให้เธอได้คะแนนรวม ๗๙ เปอร์เซ็นต์
ไม่ถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ เธอจึงได้แค่ B+ อีกนิดเดียวจริง ๆ"
..
แต่กับอีกคนที่ติดเกรด I แล้วมาติดต่อเป็นคนสุดท้าย เมื่อเวลาใกล้หมด
เรียนจบกฏหมาย แต่มาเป็นครูการศึกษาพิเศษ
เขาทำบทเรียนสำเร็จรูปด้วยตัวเขาเอง โดยที่ผู้สอนไม่เคยมีโอกาสได้
ให้คำเสนอเขาเลย งานของเขาจึงออกมาผิดหลักการออกแบบ
งานชิ้นอื่น ๆ ก็ทำแบบลวก ๆ มาส่ง ทำให้คะแนนเก็บมันน้อยมาก
ถึงกับตกอยู่เกรด F
แต่นั่นก็ยังไม่ได้ให้เขารู้สึกตัวอะไร
เขายิงคำถามตรงมาที่ผู้สอนว่า "ทำไมงานการ์ตูนผมได้ แค่ ๖ เต็ม ๒๐
เพราะผมไม่ได้ระบายสีหรือ"
ผมเลยตอบเขาว่า "เธอเคยไปดูงานของเพื่อนคนอื่นไหมว่าเขาได้เท่าไหร่
แล้วทำไมเธอได้แค่ ๖ เต็ม ๒๐"
เขาก็เงียบไป แล้วพรึมพรำว่า เขาคิดว่า งานเขาดีแล้ว
นักศึกษาคนนี้เวลามาเรียนก็ไม่เคยตั้งใจทำงานอะไร ให้เขียนอะไรก็เขี่ย ๆ มาส่ง
งานเป็นชิ้นก็แย่เอามาก ๆ คะแนนที่ได้ก็เป็นไปตามจริง
เพียงแต่เขาไม่เคยคิดจะหันกลับมาดูตัวเอง กลับโยนความผิดของตัวเองไปให้คนอื่นหมด
นี่นะหรือ อนาคตที่ออกไปเป็นครูแท้ที่มีใบประกอบวิชาชีพครู
..
นักศึกษาครู ๒ คน อยู่ห้องเดียวกัน แต่ทัศนคติในการเป็นครูต่างกันมาก
คนหนึ่ง มีความพร้อมที่จะเรียนรู้และพยายามมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ทั้งที่เรียนจบมาดีเอามาก ๆ แล้ว
ในขณะที่อีกคน กลับไม่เคยคิดว่า ตัวเองผิด ไม่เคยยอมรับในการกระทำของตัวเองเลย
อนาคตของชาติจะฝากไว้กับมือ นักศึกษาครูคนที่สองนี้ได้หรือไม่
สังคมคงจะแย่มาก ประเทศชาติไม่รู้จะอยู่ยังไง
..
นี่เป็นแค่ตัวอย่างเล็ก ๆ แต่การติดเกรด I ถึง ๒๕ คนจาก ๓๐ คน
เป็นการวัดง่าย ๆ ว่า คุณภาพของนักศึกษา ป.บัณฑิต มันต่ำลงมาก
อาชีพครูเป็นอาชีพที่คนหลงทางไปเรียนวิชาชีพอื่นอยากกลับมา
หลายคนแค่อยากเป็นครู เพราะไม่รู้จะทำอะไรดี
หลายคนแค่อยากเป็นครู เพราะเงินทอง ความมั่นคง
หลายคนแค่อยากเป็นครู เพราะพ่อแม่บังคับมาเรียน
จะเหลือสักกี่คนในรุ่นหลัง ๆ ที่อยากเป็นครูที่แท้จริง
คนสอนหลักสูตรนี้มา ๑๐ ปี ขออนุญาตเหนื่อยอ่อนก่อน
สอนเต็มที่เสมอ แต่กลับเจอนักศึกษาประเภทนี้เยอะขึ้น
และแทรกซึมอยู่หน่วยงานการศึกษาเยอะแยะมากมาย
..
ก็เพราะตัวเองเป็นครู ถึงได้รู้สึกแบบนี้มาก
นี่ถ้าประกอบอาชีพอื่น จะไม่รู้สึกมากเท่านี้
คุณภาพของการสร้างใครสักคนให้เป็นครูที่ดี
ยากจริงหนอ
ตราบใดที่ผู้ใหญ่ในชาติ คนในกระทรวงฯ
หรือแม้กระทั่งครูผู้สอนทั้งหลาย
ตระหนักในหน้าที่ของ "ครูของครู" กันบ้าง
สังคมเราคงจะไม่แย่ไปกว่านี้
บุญรักษา ประเทศไทย ;)...
..
เพราะเป็นเช่นนั้นแล…
มาให้กำลังใจจ้าวววว…ท่านอ.วัต..สบายดีนะคะ..^_^
คิดถึงพี่สีคร้าบ ;)…
-สวัสดีครับครู-บริหารเวลา..-บริหารชีวิต-ขอเป็นกำลังใจให้แม่พิมพ์ของชาติทุกๆ คนด้วยนะครับ…-สู้ๆ
ขอบคุณมากครับ คุณเพชรฯ ;)….
คนที่หลงทางไม่รู้ตัวว่าจะเป็นมืออาชีพในเรื่องนั้น ๆ อย่างไร ทั้งที่มีอาชีพนั้นอยู่แล้ว … น่าสงสาร
แต่น่าสงสารกว่า คือ คนที่หลงทางมาอยากทำอาชีพครู โดยไม่ได้ถูกขัดเกลาเพียงพอที่จะเป็นครูที่แท้
น่าสงสารที่สุด คือ ผู้รับผลงานที่คนหลงทางเหล่านั้นออกไปสอน … นักเรียน นักศึกษา สังคม ประเทศชาติ ฯ
ขอให้กำลังใจคุณครูทุกท่าน ที่มีจิตวิญาณความเป็นครูทุกวินาที ครูผู้สร้างลูกศิษย์ที่มีหัวใจความเป็นครูรุ่นต่อรุ่น ครูของครู … ดังเช่นคุณครูเงานะคะ
อย่าเพิ่งรีบเหนื่อยอ่อนสิคะ อีกตั้งหลายปีกว่าจะเกษียณ สู้ ๆ ค่ะ ^_,^
กว่าจะเกษียณก็ ๑๐ ปีอัพ ครับ คุณหมอธิ ;)…
คุณหมอธิกล่าวไม่เกินจริงเลย ปัญหายังคงดำเนินต่อไปอย่างน่ากลัวครับ ;)…