วัฒนธรรมการเรียนรู้ : เรื่องเบื้องหลังไฟฟ้าดับ


เถาวัลย์ไร้ดวงตาแต่ไปสู่เป้าหมายได้

วันนี้ที่ทำงานพอผมมาถึงเปิดประตูเดินเข้ามาได้สักพักไฟฟ้าดับปุ๊บ...ผมเลยเดินไปเปิดหน้าต่างมองออกไปไกลสุดสายตาเห็นแผ่นน้ำราบเรียบสงบเย็น...

สักครู่ก็มีรอยคลื่นใต้น้ำเพียงบางเบา...แหงนมองขึ้นไปที่ฟ้ากว้างเมฆหมอกจางเห็นเงาขุนเขาสลับซับซ้อนเพียงลาง ๆเป็นเว้าแหว่ง...อยู่ชายขอบฟ้ากับนน้ำทะเลที่เป็นเส้นแบ่งโน้น

กลับมามองสีสดเขียวของยอดไม้ที่เอียงลงไปตามเชิงเขาดูแต่ละใบสงบนิ่ง...มีเพียงเถาวัลย์ที่เลื้อยยาวชูยอดตรงไปอีกยอดไม้หนึ่งที่ไม่ไกลนักเท่านั้นที่ไหวติง...

ซึ่งผมกำลังสังเกตุดูอยู่ว่าเป็นเพราะลมพัดผ่านหรือว่าเป็นความพยายามเคลื่อนไหวภายในตัวของเถาวัลย์เอง...ที่ต้องการไปเกาะจับอีกยอดพุ่มไม้หนึ่ง...ทั้งที่ไร้ดวงตาแต่ก็ไปสู่เป้าหมายได้...

ย้อนมองคนที่มีดวงตา...แต่ยังไม่รักษาดวงตาให้ดีที่สุด...แถมยังไปทำลายดวงตาของตนเองโดยไปมองสิ่งไร้ค่า...ไร้ประโยชน์...ก่อเกิดโทษนานาประการ...

กำลังคิดอยู่ดี ๆ เสียงคนเดินมา...สวัสดี...เป็นวัฒนธรรมเพื่อนร่วมงาน...ทำไมมันมืด...ฮา ๆ เอิก ๆ...ก็ไฟมันดับ...และประมาณ 20 นาที  ไฟจึงสว่างขึ้นพอได้เริ่มทำงานครับ...ฮา ๆ เอิก ๆ...
หมายเลขบันทึก: 65688เขียนเมื่อ 7 ธันวาคม 2006 09:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:38 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

..เถาวัลย์ไร้ดวงตาแต่ไปสู่เป้าหมายได้..

ชอบประโยคนี้จริงๆ ครับอาจารย์  ผมรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้มนุษย์รับรู้โดยใช้สายตาเป็นหลัก จนทำให้การรับรู้จากด้านอื่นๆ ลดลงไป ไม่ว่าจะเป็น การฟัง การคิด รวมไปถึงการใช้ "ความรู้สึก" ครับ     

ขอบคุณสำหรับบันทึกของอาจารย์ที่ช่วยกระตุ้นให้ใช้ความคิดมากขึ้นครับ

สวัสดีครับ  คุณ  เจษฎา  ศุนาลัย

ขอบคุณครับที่เข้ามาต่อยอดแนวคิดนี้...

ผมเห็นด้วยครับ...

ขอบคุณครับ

จาก...umi

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท