Vancouver เมืองในฝันที่ไม่เคยกล้าฝันว่าจะได้ไปเยือน ตอนที่๕ "เดินลั้นลากันใน DownTown อันแสนกว้างใหญ่"


ต่อจากบันทึกนี้เลยนะคะ Vancouver เมืองในฝันที่ไม่เคยกล้าฝันว่าจะได้ไปเยือน ตอนที่๔ "ลงทะเบียนและนำเสนอ"

หลังจากเล่าเรื่องราวเครียดๆไปแล้ว มาที่แวนคูเวอร์ทั้งที ต้องไม่พลาดสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์คของที่นี่แน่นอนค่ะ


จริงๆครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่หนึ่งและสาม เดินทางไปต่างประเทศเองโดยไม่พึงบริษัททัวร์ และโปรแกรมทัวร์ต่างๆ ก็ศึกษาจาก Review ต่างๆที่หาได้ในเน็ทค่ะ ต้องขอขอบคุณทุกๆท่านที่เขียน Review แบ่งปันประสบการณืไว้ด้วยนะคะ มีประโยชน์มากๆจริงๆ

รองเท้าพร้อมเดินตั้งแต่วันมาเลยค่ะ อิอิ

เนื่องจากเรางบน้อย ก็ต้องค่อยๆใช้สอยอย่างประหยัดค่ะ นอกจากมาม่าคัพที่นำไปจากอุดรเพื่อเป็นอาหารเช้าทุกวันแล้ว เรื่องค่ารถโดยสารถ้าไม่จำเป็นเราก็จะหลีกเลี่ยงค่ะ โชคดีมากที่โรงแรมที่เราพักอยู่ที่ Downtown การเดินเที่ยวนี่ดี๊ดีนะคะ ทั้งได้ออกกำลังกายได้ ได้ถ่ายรูปทุกๆที่แม้แต่เกาะกลางถนนก็ไม่เว้น อิอิ แถมประหยัดอีกต่างหาก

แผนที่ใน downtown ที่สาม print มาตั้งแต่ก่อนเดินทาง ตัวเลขตามจุดต่างๆเป็น 42 จุดหากเราใช้บริการรถนำเที่ยวใน Downtown

ขอบคุณภาพจาก : http://vancouvertrolley.com/tours

ซึ่งตอนแรกแพลนว่าเราจะขึ้นรถ HIP-ON,HOP-OFF (เป็นรถนำเที่ยวใน Downtown แต่เราต้องจ่ายตังค์คนละ $42 รถจะจอดให้ลงไปถ่ายรูป 42 จุดตามแผนที่ข้างบนค่ะ ซึ่งแพงมากกกกกกกกกกกกกกกกกก)

หลังจากออกจากห้องประชุมเราก็ออกมาเตรียมตัวเป็นนักท่องเที่ยว อิอิ เราสอบถามเส้นทางกับพี่ๆจนท.บริเวณหน้าโรงแรม และได้คำแนะนำดีๆว่า เราสามารถเดินไป Downtownได้ เริ่มต้นจาก เดินข้ามถนนไปเพียง 2 block ก็จะถึง Downtown แล้วค่ะ จากนั้นเราค่อยถามทางต่อเรื่อยๆ

บริเวณหน้าโรงแรมค่ะ ก็ไม่พลาดที่จะโดดๆๆ ก่อนจะ เดินๆๆ อิอิ

บอกแล้วว่า การเดินมีข้อดีก็ตรงนี้ค่ะ เจอตู้ไปรษณีย์น่ารักๆก็ถ่ายรูป 555

เกาะกลางถนนก็ไม่เว้นนะคะ อิอิ

ดีใจมากกกกเจอเซเว่นด้วย อิอิ

คือว่า ร้าน Starbucks เยอะมากจริงๆค่ะ มีทุกมุมเมืองเลย

คือว่าที่นี่อากาศดี บ้านเมืองสวยงามแปลกตา สะอาด ถ่ายรูปตรงไหนก็สวยไปหมด

ผู้คนที่นี่ก็น่ารัก มีนำ้ใจมากๆค่ะ

เราเดินๆๆไปเรื่อยๆ เก็บภาพไปเรื่อยๆ จนไม่รู้จุดหมายปลายทาง เดินไปเดินมา ก็มาโผล่ที่นี่ค่ะ English Bay Vancouver

มีคลิปด้วย แต่ทำไมลงแล้วไม่ขึ้นก็ไม่รู้ ใส่ลิงค์ไว้ละกันนะคะ

https://www.facebook.com/suwinya/videos/1010873525…

มีแต่มุมสวยๆ ไม่ถ่ายก็ไม่ได้จริงๆค่ะ

สงสัยตอนนี้จะยาว เพราะรูปเยอะมากๆ อิอิ เดี๋ยวมาต่อนะคะ

ต่ออีกนิดดีกว่าค่ะ

เราเดินมาถึงบริเวณนี้ กำลังหยุดดูแผนที่กัน (เดินไปเดินมาหลงทางซะงั้น อิอิ) ก็มีชายหนุ่มเป็นคนไทยที่มาทำงานที่นี่ค่ะ เดินเข้ามาทัก และชี้เส้นทางให้เราไปต่อได้ อิอิ จากตรงนี้ เราจะมุ่งหน้าไปสู่ Art Gallery กันค่ะ เค้าบอกว่าเราสามารถเดินไปได้ ไม่ไกลมาก

ก่อนไปก็ถ่ายรูปๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอีก อิอิ

เค้าบอกไม่ไกล แต่รู้สึกเหนื่อยและหิวน้ำมากๆ คาดว่าเกิดจากการขาดคาเฟอีนในกระแสเลือดเป็นระยะเวลานานเกินไป อิอิ เจอร้านชานมที่นี่ซึ่งหาค่อนข้างยากค่ะ ส่วนใหญ่มักเป็นร้านกาแฟ เวลาจะสั่งแต่ละครั้ง กว่าจะได้มา 1 แก้ว เล่นเอาเหนื่อยเลย

เทคนิกการสั่งชา หรือกาแฟ ที่นี่ มีคนแนะนำไว้ว่า เวลาพนักงานถามต่อจากที่เราสั่ง ให้ตอบ no ไว้ก่อน ไม่งั้นจะเพิ่มนู่นนี่นั่น เช่นเพิ่มพุดดิ้ง ไข่มุก หรืออื่นๆ ทำให้ราคาชานมของเราเพิ่มมูลค่าไปจากเดิมอีกมากมาย อาจถึงขั้นล้มละลายได้เลยทีเดียว แหะๆๆ อย่างชานมนินจาพุดดิ้ง ที่หนึ่งสั่งนี้ถ้าไม่ใส่พูดดิ้งราคาอยู่ที่ 5ดอล แต่เติมพุดดิ้งราคาอยู่ที่ 5.75ดอลค่ะ (อันนี้หนึ่งตั้งใจใส่พุดดิ้งเพราะอยู่ที่นี่ก็ติดชานมพุดดิ้งนมงอมแงมค่ะ) และคำถามสุดท้ายคือ ถามชื่อ ชื่อหนึ่ง สังเกตดูแล้ว ไม่ว่าจะเป็นร้าน Starbucks ร้านกาแฟหรือร้านชา หรือร้าน Mc , A&W ที่เข้าไปใช้บริการ ทุกร้าน มักมีปัญหาการอ่านออกเสียงและเขียนชื่อหนึ่งลงไปบนแก้วหรือบนถุงกระดาษ อิอิ ... รู้สึกสนุกดีค่ะ กว่าจะสั่งเสร็จ พอสั่งเสร็จ คราวนี้ก็ต้องมานั่งลุ้น ฟังดีๆๆๆๆว่าของที่ได้ใช่ของเรารึยัง เพราะเมื่อเค้าทำเสร็จ เค้าจะตะโกนเรียกชื่อเราพร้อมบอกว่าเป็นเมนูอะไรค่ะ

อ้อ...เทคนิกอีกอย่างที่คนงบน้อยอย่างเราเวลาจะสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มแต่ละร้าน เราต้องสังเกตดูว่าเค้ามีโปรโมชั่นอะไรบ้างวันนี้ เช่นร้านชานมนินจาร้านนี้ เค้าเขียนโปรโมชั่นว่า ถ้าเช็คอินเฟสบุค จะได้ส่วนลด 10% โอ้ว....คือดีงาม แต่ต้องเช็คอินและโชว์ให้เค้าดูตั้งแต่ตอนสั่งเลยนะคะ มาโชว์ทีหลังก็ไม่ได้อีก

เมื่อนั่งพักและเติมคาเฟอีนในกระแสเลือดในระดับนึงแล้ว เราก็ออกเดินกันต่อไปยังเป้าหมายค่อ Art Gallery

https://www.facebook.com/suwinya/videos/1010892528...

คือจะใส่คลิปแต่ทำไม่ได้ค่ะ แหะๆ

ถึง Art Gallery แล้วนะคะ

บริเวณลานข้างหน้าค่ะ

มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะ บอกเลย อิอิ

ตรงทางเข้าค่ะ

ก่อนที่เราจะเข้าไปเพื่อรับรู้ว่า เสียค่าเข้าคนละ 100ดอล OMG!!

ก่อนออกจาก Art Gallery ก็แวะเข้าห้องน้ำ(ฟรี) และเก็บภาพกะ ET จิ๋ว ตัวนี้ อิอิ

เดินออกมา ตามถนนใน Downtown ซึ่งคิดว่าเราคงหลงทาง แต่ไม่น่ากลัวเพราะยังไงเดี๋ยวเราก็จะต้องหาทางกลับโรงแรมเจอแน่ๆค่ะ อิอิ พบบูท Starbucks กำลังแจกกาแฟที่เพิ่งออกใหม่ให้ลองชิมค่ะ ของฟรีนี่...ดี๊ดี อร๊อยยยยอร่อยยย หุหุหุ

...ง่วงอีกแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาต่อนะคะ...

...เดินเล่นลั้นลากันต่อเลยดีกว่าค่ะ...

เดินลั้นลากันจนเหนื่อย (จริงๆบอกเลยว่าเดินที่นี่รู้สึกเหนื่อยมากมาย อาจด้วยสภาพพื้นที่เป็นเนินเขา เดี่ยวขึ้นเดี๋ยวลง บวกกับหลงทางเดินวนไปวนมาด้วยอีกต่างหาก เลยเหนื่อยเป็นพิเศา อิอิ) เวลาจะหาร้านอาหารหรือเครื่องดื่มใน Downtown ไม่ยากเลยค่ะ มีเยอะมาก และหลากหลายด้วย อาหารแทบจะทั่วโลกมารวมกันอยู่ที่นี่ อาหารไทย จีน เวียดนาม เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย ฯลฯ สังเกตว่าที่นี่ ร้านญี่ปุ่น เกาหลี จะขายดีมาก คิวยาวออกมานอกร้านเลยค่ะ โดยเฉพาะร้านราเมน แต่เวลาหนึ่งกะสามเลือกร้านอาหาร เราไม่ได้ดูว่าร้านไหรน่าจะอร่อย หรืออะไร เราดูที่ราคา 555 ที่นี่แทบทุกร้าน ที่น่าเข้า ราคาเริ่มต้นที่ 9 ดอลขึ้นไป ยังไม่รวมเครื่องดื่ม

เราตัดสินใจเลือกเบอร์เกอร์ เพราะราคาถูกสุดแว้ว 2ชิ้น 5ดอล (ราคานี้เฉพาะช่วงเวลา Happy meal เท่านั้นด้วยค่ะ) พนักงานน่ารักมากๆ

ชอบตรงนี้ค่ะ สั่งน้ำอัดลม เค้าให้แก้วเปล่ามา ชอบอะไรก็กดเอาเอง หมดแล้วก็เติมได้อีก ดี๊ดี...

บรรยากาศร้านสวยๆที่น่าเข้าแต่ติดตรงที่ราคา 555

เดินเล่นลั้นลาใน Downtown วันเดียวไม่สามารถเดินได้ทั่วค่ะ ค่อยๆเดินกันไป วันต่อมาเราก็ไปอีกฝั่งของ Downtown วันนี้เรามีไกด์อาสาด้วยค่ะ Alex เป็นชาวไต้หวัน แต่มาทำธุรกิจอยู่ที่แวนคูเวอร์ 10ปีแล้วค่ะ ตอนนี้เลยกลายเป็นแคนาเดียนเต็มตัว อาสาพาหนึ่งและสามเที่ยวใน Downtown น่ารักมากๆค่ะ (บอกเลยว่าคนที่นี่เป็นมิตรและมีน้ำใจทุกคนที่เราพบเจอจริงๆค่ะ) แรกเริ่มเลย Alex ตั้งใจจะพาเราไปทานอาหารที่นี่ค่ะ Top of Vancouver ซึ่งลำพังหนึ่งกับสาม ไม่คิดที่จะได้ขึ้นไปแน่ๆ ติดที่ราคาอย่างเดียวเลยค่ะ 555 บังเอิญว่าที่นี่ต้องจองล่วงหน้า หรือถ้ามีโต๊ะว่างต้องมาให้ตรงกับช่วงเวลาที่ว่างค่ะ เราเลยไปที่อื่นกันต่อ

เดินออกมาก็เจอร้านชอปปิ้งแบรนด์ที่คนไทยรู้จักดี alex ถามว่าปกติเราชอบสินค้าแบรนด์เนมมั้ย ตอบไปเลยว่าไม่เน้น อิอิ เราเน้นใส่แล้วสวย แบรนด์หรือไม่ไม่ใช่ปัญหานะคะ

เดินไปเรื่อยๆ เดินบ้างโดดบ้าง อิอิ เป้าหมายต่อไปคือ เราจะไปชมนาฬิกาเรือนแรกของโลก

Gastown Steam Clock นาฬิกาเรือนแรกของโลกที่ใครๆก็ต้องมาชมค่ะ ทุกๆ 1 ชม. นาฬิกาจะพ่นไอน้ำ และมีเสียงเพลง ตีระฆังบอกเวลาด้วยค่ะ โชคดีมากที่เราเดินมาถึงก่อนเวลาเพียง 10นาที ทำให้เรามีเวลาตั้งหลักในการถ่ายคลิปทันด้วย อยากลงคลิปแต่ลงไม่เป็น ลงเป็นลิงค์ไว้ก่อนนะคะ เข้าไปฟังเพลงจากนาฬิกาเรือนแรกของโลกได้ที่นี่เลยค่ะ => https://www.facebook.com/suwinya/videos/1010952275...

วันนี้เราได้มีโอกาสนั่ง Sea bus ด้วยค่ะ ขอเปิดบันทึกใหม่ดีกว่านะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และทุกๆคอมเม้นด้วยค่ะ ^^



หมายเลขบันทึก: 593288เขียนเมื่อ 9 สิงหาคม 2015 21:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2016 15:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

น่าอิจฉายิ่งนักครับ ;)...

ได้เที่ยวด้วย

เย้ๆๆ

สนุกสนานน่าดูเลย

ได้เที่ยวแบบเครียดๆค่ะอาจารย์ขจิต (ลั้นลาขนาดนี้เครียดตรงไหนกันนะ 555) คือหนึ่ง present วันที่ 10 แต่เราไปถึงวันที่ 8 ซึ่งถ้ายังไม่ผ่านพ้นวัน present ก็จะยังคงกังวลตลอดๆๆๆ แต่จะปล่ยให้แต่ละวันในแวนคูเวรอ์ผ่านพ้นไปเปล่าๆก็ไม่ดี แถมกว่าพระอาทิตย์จะตกดิน เริ่มมืดจริงๆก็สี่ทุ่มอีกต่างหากค่ะ เลยเที่ยวต้องเที่ยว อิอิ แต่หลังวันที่ 10 แล้ว คือจัดเต็มเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยวที่ต้องนั่งเครื่องบินนานมากกกกก 555

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท