ดื่มน้ำมากไปก็ตายไวนะจ๊ะ


ดื่มน้ำมากไปก็ตายไวนะจ๊ะ

วันก่อนได้กล่าวถึงเรื่องคำแนะนำของ นักศึกษาพยาบาล ในเรื่องของการดื่มน้ำที่ดูว่าจะผิดไปมากจากสิ่งที่ควรจะเป็น ดิฉันเชื่อว่าทุกวันนี้แพทย์ และพยาบาลหลายคนอาจไม่ได้คำนึงถึง เห็นว่าน้ำ แคลอรี่0 % มันคงไม่เป็นอันตรายของร่างกายเราแน่ เพราะไม่มีพลังงาน แต่ที่ไม่มีพลังงานนี่คุณคงลืมไปว่ามันมีปริมาณ นะ อะไรที่มากไป หรืออะไรที่น้อยไปมันมักไม่ดีเสมอ น้อยไปก็ขาด มากไปก็เกิน แต่เวลาการเรียนการสอนของพยาบาลนี่ มักตั้งคำถามให้นักศึกษาเสมอว่า แนะนำการดื่มน้ำมากๆ อาจารย์พยาบาลถามว่า เอ้า ที่ว่ามากของเธอนั่นเท่าไหร่ ต้องเป็นวิทยาศาสตร์ วัดได้ นักศึกษาก็งง อยู่พักหนี่ง กรรมแล้วเท่าไหร่จะพอว่ะ คุณครูบอกกลับไปอ่านตำรามาตอบ เดี๋ยวนี้ มันต้องเป็นวิทยาศาสตร์ วัดได้ นักศึกษาก็ค้นกันใหญ่เลย ทั้งอินเตอร์เน็ตตำราบ้าบอไปหมด อ่านเจอ แทบเหมือนกัน 6-8 แก้วต่อวัน จะให้ดี 12 แก้วต่อวัน ป๊าด 12 X 220 =2640 cc หรือ สองลิตรครึ่ง ตำราลอกฝรั่งมาทั้งเพแบบไม่ต้องคิด นักศึกษาพยาบาลก็ถือใจซื่อ ตอบแบบนี้เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่โดนครูด่า แล้วนำไปสู่การปฏิบัติ แนะนำคนไข้ 10 คน เหมือนกันหมด โดยไม่คำนึงว่า คนไข้คนนั้น อายุเท่าไหร่ เพศไร น้ำหนักตัวเท่าไร มีโรคประจำตัวมั๊ย ฉันมีหน้าที่แนะนำ ก็แนะนำอย่างเดียว คือเรียนมาแบบท่องจำนำไปสอบ คนไข้บ้านเราก็ซื่อ นะ ทำตามแบบไม่คิดเพราะเชื่อว่า สิ่งที่แพทย์พยาบาลแนะนำนั้นมันคือสิ่งที่ถูกต้องกับสุขภาพแล้ว บางคนก็มีถามกลับนะ แล้วกินเท่าไหร่มันถึงจะบอกว่าพอล่ะหมอ เอ้ตอบแบบวิทยาศาตร์วัดได้ ให้เอขวดน้ำอัดลม ขวดลิตรนะ ใส่น้ำ แล้วตั้งเป้าไว้เลยว่า กินวันละเท่านี้แหล่ะ ผลพวง สมองบวม ไตวาย หัวใจวาย hyponathemia ตายเร็วกว่าเดิมอีก อันนี้ แบบว่าหมอพยาบาลลืมคิดว่า คนไข้คนนี้ ลืมคิดถึงข้อจำกัดคนไข้ว่า คนไข้คนนั้น อายุเท่าไหร่ เพศไร น้ำหนักตัวเท่าไร มีโรคประจำตัวมั๊ย นั่นเอง อีกอย่างคือบริบถของอาหารบ้านเรา ไม่เหมือนฝรั่ง บ้านเขาอาหารแต่ละมื้อ มีอาหารที่เป็นน้ำน้อยมาก แต่บ้านเราโอ๊ยสารพัด แล้วนักวิชาการบางคนที่จบมาเพราะว่าท่องจำนำไปสอบนี่ก็เหมือนกัน เขียนบทความออกมาว่า อย่าหารที่เป็นน้ำนั้นคือน้ำนะ นั่นเป็นอาหาร แม่เจ้า คิดมาได้ไง กินน้ำวันละ 2 ลิตร กินต้มยำวันละ ครึ่งลิตร กินนมอีก หน่อย กาแฟ น้ำส้ม อีกคุณว่าจะได้น้ำไปปริมาณเท่าไหร่คงไม่ใช่แค่ 2 ลิตรแน่คุณว่ามั๊ย แต่ก็มีคนแย้งว่าเอ้าหากไม่ใส่ขวดตั้งไว้ จะรู้ได้อย่างไรว่าน้ำพอไม่พอ หากใครถามแบบนี้ในใจให้กลับไปอ่าน การประเมิน dehydration ใหม่แล้วจะได้คำตอบ การประเมินการขาดน้ำมันไม่ได้ประเมินแค่ปริมาณน้ำที่กินไปนะจ๊ะ และดูเหมืนว่าจะมีคนเห็นเช่นเดียวกับดิฉันหลายคนในตอนหลังนี้การเขียนบทความประมาณว่าดื่มน้ำมากไปก็ตายไว จึงขอยกตัวอย่างบทความที่ค้นเจอ สดๆใหม่ ๆนั่งแปลกันไปก่อนนะแล้วจะมาแปลให้ฟังวันหน้า ตอนนี้ไม่ไหวแล้วตื่นแต่ตี 1 ของีบสักชั่วโมงแล้วกัน บทความนี้ใครอ่าจบจะปรบมือให้ดังๆ เพราะรู้สึกว่าเขียนยาวมาก ทั้งที่เนื้อหายังไม่จบ แต่บางคนเห็นหัวข้อและชื่อคนเขียนอาจไม่อยากอ่านเพราะเขียน โดยพยาบาลบ้านนอก มิใช่คนดังและตำแหน่งสำคัญใดนั่นเอง 555

ชลัญธร

http://www.menshealth.com/health/overhydration-dangers

คำสำคัญ (Tags): #การดื่มน้ำ
หมายเลขบันทึก: 579108เขียนเมื่อ 22 ตุลาคม 2014 05:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 ตุลาคม 2014 05:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

รออ่านอยู่เจ้าค่ะ...แม้ว่าจะเห็นตัวเองว่าคนอื่นเขาจะเห็นเราเป็นแค่..พยาบาลบ้านนอก..(นั่นคงไม่ใช่เครื่องวัดมารตฐาน.ความคิดเห็น.แน่...น..อ..น..เจ้าค่ะ..)...

_สวัสดีครับ..

_น้อยไป..มากไป...ไม่ดี...

_ต้องพอดีนะครับ.

_ขอบคุณครับ

ความจริงเรื่องนี้ใช้สามัญสำนึกก็น่าจะพอนะคะ ไม่ต้องใช้ตำหรับตำราอะไรเลย น่าเสียดายที่สมัยนี้เราเอาแต่ตำรากันไปหมด ไม่ทันคิดถึงเหตุผลและความเป็นจริงทั่วๆไป

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท