บันทึกอนุทินครั้งที่ 6
(การศึกษาดูงาน)
วิชา การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมแห่งการเรียนรู้
รหัสวิชา 102611
เรื่อง การสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา
สถานที่ โรงเรียนเทศบาล 4 (เพาะชำ)
วิทยากร นายศักดิ์เดช กองสูงเนิน (ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 4 เพาะชำ)
ผู้บันทึก นางสาวผกาวรรณ สุวรรณภูมานนท์ รหัสนักศึกษา 57D0103110
นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน (ภาคพิเศษ หมู่ 1 รุ่นที่ 13)
การเตรียมตัวล่วงหน้าในการศึกษาดูงานครั้งนี้
ดิฉันได้เตรียมตัวในการไปศึกษาดูงาน ณ โรงเรียนเทศบาล 4 (เพาะชำ) ในครั้งนี้ คือ ทบทวนเนื้อหาเกี่ยวกับ Knowledge Management Process (KM) เกี่ยวกับการนำขั้นตอนของ KM ไปประยุกต์ใช้ในสถานศึกษาอย่างไร โดยสรุปเนื้อหาเพื่อนำไปประกอบการศึกษาดูงานดังนี้ การจัดการความรู้ คือ การรวบรวมความรู้สู่การปฏิบัติ ซึ่งเป็นความรู้ที่เกิดจากการเรียนรู้ เจตคติ ประสบการณ์ทำงาน และพฤติกรรมการทำงานของแต่ละบุคคลซึ่งปฏิบัติงานเรื่องเดียวกันหรือคนละเรื่อง และประชุมหรือสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ จากนั้นก็นำความรู้ที่ได้มาสังเคราะห์ วิเคราะห์ หรือจัดระบบใหม่ เพื่อสร้างเป็นองค์ความรู้ใหม่ แล้วนำมาเผยแพร่ความรู้เพื่อให้เกิดการต่อยอดความรู้หรือสร้างประโยชน์จากความรู้ และนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและองค์กร
เมื่อครูเป็นผู้มีบทบาทสำคัญ และมีความจำเป็นจะต้องเป็นผู้จัดการความรู้ในระดับต่าง ๆ ครูจะต้องพัฒนาตนเองให้มีความสามารถ และทักษะการจัดการความรู้
สิ่งที่คาดหวังจากการศึกษาดูงาน
จากเนื้อหาที่ดิฉันได้ศึกษาก่อนการศึกษาดูงาน ดิฉันมีความคาดหวังว่า เนื้อหาที่ดิฉันได้ศึกษามานี้ น่าจะตรงกับข้อมูลที่ท่านวิทยากรจะบรรยาย และการศึกษาดูงานจะทำให้ดิฉันมีความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการความรู้หรือการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษามากขึ้น และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน
ความรู้ความเข้าใจที่ได้รับ
จากการฟังบรรยาย เรื่องการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา (Learning Organization : LO) โดยนายศักดิ์เดช กองสูงเนิน ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 4 (เพาะชำ) ได้รับความรู้และความเข้าใจดังนี้เริ่มต้นที่สาระที่น่าสนใจ ในการสร้างองค์แห่งการเรียนรู้ คือ
- องค์กรแห่งการเรียนรู้
- การจัดการความรู้
- การบริหารสถานศึกษาด้านการจัดการความรู้ (KM) เพาะชำโมเดล
- ตอบปัญหา
- กติกา
- แลกเปลี่ยนเรียนรู้
- ร่วมแสดงความคิดเห็น
- ถาม
จะเห็นได้ว่าโรงเรียนเทศบาล 4 (เพาะชำ) คณะผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาได้จัดทำองค์กรแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษาเพื่อพัฒนาและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในโรงเรียน โดยเริ่มต้นที่การวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ขึ้นเรียกว่า “เพาะชำโมเดล” มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากบุคลากรภายในโรงเรียน ร่วมกันตอบปัญหา แสดงความคิดเห็น มีการซักถาม สร้างกติกา หาวิธีแก้ไข และนำผลที่ได้ออกสู่สาธารณะ
ลักษณะขององค์กรแห่งการเรียนรู้ Learning Organization : LO
แนวคิดที่ทางโรงเรียนได้ยึดปฏิบัติคือ 1+1 = 3 หมายถึง การทำอะไรให้ได้ผลมากกว่าเดิม คุ้มค่า เปลี่ยนวิธีการให้ดีขึ้น ไม่ยึดติดกับการทำงานที่ล้าสมัย คำนึงถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในองค์กร ให้มีรูปแบบที่แปลกใหม่ ทุกคนจะต้องมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน เรียนรู้จากกันและกัน
การทำ Knowledge Management : KM โรงเรียนได้ยึดหลักตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือ “ต้องระเบิดจากข้างใน” ความรู้ต้องนำออกมาจากภายในนั้นหมายความว่า ต้องมุ่งพัฒนาเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับสถานศึกษาให้มีสภาพพร้อมที่จะรับการพัฒนาเสียก่อน แล้วจึงค่อยออกมาสู่สังคมภายนอก มิใช่การนำเอาความเจริญจากสังคมภายนอกเข้าไปหาสถานศึกษา
การทำ KM ต้องเห็นความแตกต่างระหว่างความรู้ 2 ประเภท ดังนี้
Explicit Knowledge vs Tacit Knowledge
1. Explicit Knowledge ความรู้ภายนอก ได้แก่
- วิชาการ หลักวิชา
- ทฤษฎี Theory
- ปริยัติ
- มาจากการสังเคราะห์วิจัย ใช้สมอง (Intellectual) เป็นกฎเกณฑ์ วิธีการ ขั้นตอนที่ผ่านการพิสูจน์
2. Tacit Knowledge ความรู้ภายใน ได้แก่
- ภูมิปัญญา เคล็ดวิชา
- ปฏิบัติ (Practice) ประสบการณ์
- มาจากวิจารณญาณ (Intelligent)
- เป็นเทคนิค เฉพาะตัว เป็นลูกเล่นของแต่ละคน
ในกระบวนการการจัดการความรู้ในแต่ละองค์กร ควรประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้
1. "คุณเอื้อ" คือผู้ที่ทำให้เกิดผลงาน KM มีหน้าที่คัดเลือกหาทีมงานจากหลายสังกัดมาเป็นแกนนำ สนับสนุนทรัพยากรแก่ทีมงานอย่างเต็มที่ ส่งเสริมให้เกิดเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ที่เกิดจากความสำเร็จหลากหลายรูปแบบ
2. "คุณอำนวย" ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการจัดการความรู้ ส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และอำนวยความสะดวกต่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้งในเชิงกิจกรรม เชิงระบบ และเชิงวัฒนธรรม
3. "คุณกิจ" ผู้ดำเนินกิจกรรมจัดการความรู้ อาจสรุปได้ว่าคุณกิจคือผู้จัดการความรู้ตัวจริง เป็นผู้มีความรู้ (Explicit Knowledge) และเป็นผู้ต้องมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ใช้ หา สร้าง แปลง ความรู้เพื่อการปฏิบัติให้บรรลุถึง “เป้าหมาย/หัวปลา” ที่ตั้งไว้
4. "คุณลิขิต" ทำหน้าที่จดบันทึก ขุมความรู้จากกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ บันทึกการประชุม และบันทึกอื่น ๆ
5. "คุณวิศาสตร์" คือ นัก IT ที่เข้ามาช่วยเป็นทีมงาน KM คำว่า "วิศาสตร์" มาจากคำว่า "IT wizard" หรือพ่อมดไอที จะเข้ามาช่วยคิดเรื่องการวางระบบ IT ที่เหมาะกับการดำเนินการ KM
6. "คุณประสาน" ในการทำ KM แบบเครือข่าย มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้ามองค์กร "คุณประสาน" จะทำหน้าที่ประสานงานให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันกันภายในเครือข่าย
การสร้างองค์ความรู้ของสถานศึกษาแห่งนี้ ใช้หลักการจัดการความรู้ของ สคส (สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม) ดังนี้
โมเดลปลาทู
ส่วน “หัวปลา” (Knowledge Vision- KV) หมายถึง ส่วนที่เป็นเป้าหมาย วิสัยทัศน์ หรือทิศทางของการจัดการความรู้ โดยก่อนที่จะทำจัดการความรู้ ต้องตอบให้ได้ว่า “เราจะทำ KM ไปเพื่ออะไร” โดย “หัวปลา” นี้จะต้องเป็นของ “คณกิจ” หรือ ผู้ดำเนินกิจกรรม KM ทั้งหมด โดยมี “คุณเอื้อ” และ “คุณอำนวย” คอยช่วยเหลือ
ส่วน “ตัวปลา” (Knowledge Sharing-KS) เป็นส่วนของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญ ซึ่ง “คุณอำนวย” จะมีบทบาทมากในการช่วยกระตุ้นให้ “คุณกิจ” มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความรู้ โดยเฉพาะความรู้ซ่อนเร้นที่มีอยู่ในตัว “คุณกิจ” พร้อมอำนวยให้เกิดบรรยากาศในการเรียนรู้แบบเป็นทีม ให้เกิดการหมุนเวียนความรู้ ยกระดับความรู้ และเกิดนวัตกรรม
ส่วน “หางปลา” (Knowledge Assets-KA) เป็นส่วนของ “คลังความรู้” หรือ “ขุมความรู้” ที่ได้จากการเก็บสะสม “เกร็ดความรู้” ที่ได้จากกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “ตัวปลา” ซึ่งเราอาจเก็บส่วนของ “หางปลา” นี้ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ICT ซึ่งเป็นการสกัดความรู้ที่ซ่อนเร้นให้เป็นความรู้ที่เด่นชัด นำไปเผยแพร่และแลกเปลี่ยนหมุนเวียนใช้ พร้อมยกระดับต่อไป
การจัดการความรู้ของโรงเรียนเทศบาล 4 (เพราะชำ) หรือที่เรียกว่า“เพาะชำโมเดล” คณะผู้บริหารและบุคลากรในโรงเรียนร่วมกันจัดทำโมเดลโดยใช้ตัวอักษรประกอบการทำโมเดลดังนี้
KV = Knowledge Vision วิสัยทัศน์
M = Mind
3 S = Share (แลกเปลี่ยนเรียนรู้) Show (นำเสนอ) Support (สนับสนุน)
KA = Knowledge Asset=คลังความรู้ (หางปลา)
- บันทึกเรื่องเล่า
- งานวิจัย
- Blog.Tor.4.net (go to know) มีการแสดงความคิดเห็น
L = Learn - การแลกเปลี่ยนเรียนรู้
- ฟังเรื่องเล่า (เชิงบวก) ชื่นชม
- การนำเสนอ
- Blog (go to know)
- บันทึกการแลกเปลี่ยนเรียนรู้หน้าเดียว
- งานวิจัย
- นิทรรศการ (แลกเปลี่ยน) + ต่างโรงเรียน
ความร่วมมือของบุคลากรในโรงเรียน ซึ่งจะทำให้การทำองค์กรแห่งการเรียนรู้สำเร็จนั้น ประกอบไปด้วย
- 4 กลุ่มงานบริหาร ได้แก่ บริหารงานทั่วไป บริหารงานบุคคล บริหารงานงบประมาณ และบริหารงานวิชาการ
- 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ 1. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 2. กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 3. กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ 4. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 5. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ 6. กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 7. กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี และ 8. กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
- 4 ช่วงชั้น คือ ช่วงชั้นที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 ช่วงชั้นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ช่วงชั้นที่ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 และช่วงชั้นที่ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6
เครื่องมือที่ใช้ในการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้มีดังนี้
1) เรื่องเล่าเร้าพลัง 2) กัดขุมความรู้ (หน้าที่ของคุณลิขิตคือผู้สรุปสาระสำคัญ) 3) ก่นความรู้ (สังเคราะห์) เช่น หาการเสริมแรงในการสอน เช่น ดาวขนม(เทคนิคนำมาเล่า) 4) ตารางอิสรภาพ (ไม่มีข้อจำกัดนำข้อที่ 2, 3 ทำเป็นตาราง) 5) บันไดแลกเปลี่ยนเรียนรู้ - ใครรู้ - ไม่รู้อะไร ปรึกษากัน 6) การแลกเปลี่ยน (บันทึกหน้าเดียว) 7) การทบทวนหลังปฏิบัติการ (AAR) รู้อะไร รู้แล้วทำอะไรต่อ
ผลเป็นอย่างไร นำไปใช้อย่างไร (ปรับปรุง)
ตัวอย่างการทำ KM (ต้องทำต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพ)
1. ตั้งทีมงาน
2. ให้ความรู้
3. กำหนด (KV) Knowledge Vision = ทำบ่อย ๆ หาเทคนิคเพื่อนำมาพัฒนา
4. ฝึกปฏิบัติ
5. ติดตาม
6. เผยแพร่
7. Blog (นำความรู้สู่สารสนเทศ)
8. งานวิจัย
9. รูปแบบการสอนที่ใช้ได้ผลในการแก้ปัญหา
ผลที่ได้รับจากความร่วมมือในการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ คือ
- บุคลากรทุกฝ่ายเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้
- การเรียนรู้เป็นทีม
- องค์กรแห่งการเรียนรู้
- คิดเป็นระบบ
ตัวอย่างการทำ KM ในสถานศึกษา
- ร่วมกันคิดหัวปลา
- กำหนดให้สมาชิกเตรียมเรื่องเล่า
- จัดกลุ่มให้เล่าเรื่อง
- ได้ขุมความรู้
- สังเคราะห์เป็นแก่นความรู้
- ประเมินตนเอง
- จับคู่แลกเปลี่ยนเรียนรู้
- นำไปปฏิบัติ
- จัดเวที AAR
การจัดการความรู้ลักษณะนี้ถือได้ว่าเป็นสังคมอุดมปัญญา
ความคิดเห็นประเด็นที่ได้รับฟังการบรรยาย
การสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา ต้องได้รับความร่วมมือจากบุคลากรในองค์กร เรียนรู้เป็นทีม ต้องมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และมีการเผยแพร่ผลงานที่ได้รับการยอมรับ เพื่อเป็นการต่อยอดความรู้ และเป็นประโยชน์ต่อองค์กรนั้น ๆ ทั้งนี้ต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหาร และมีการให้กำลังใจต่อผู้ร่วมงานทุกคนซึ่งจะทำให้เกิดความสำเร็จในองค์กร
การนำความรู้ไปใช้
จากการฟังบรรยายเรื่ององค์กรแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา ดิฉันจะนำปัญหาที่พบกับผู้เรียนในเรื่องการอ่านไปพัฒนาให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นโดยจัดการความรู้ในรูปแบบของโมเดลปลาทู ดังนี้
กำหนดหัวปลา (ทำอะไร) : การสอนอ่าน
ลำตัวปลา (อย่างไร ) : กำหนดวิธีการสอนเช่นใช้บัตรคำเป็นสื่อฝึกให้นักเรียนได้อ่านบ่อย ๆ จากคำง่ายไปยากอาจจะใช้วิธีการจับกลุ่มอ่านกับเพื่อนฝีกอ่านกับครูหรือผู้ปกครองเมื่ออ่านคำได้แล้วเริ่มหาหนังสือที่นักเรียนสนใจให้นักเรียนได้ฝึกอ่าน
หางปลา (สร้างเครือข่าย) : การเสริมแรงผู้เรียนคำพูดชมเชยคะแนนขนมแจ้งผู้ปกครองแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีการสอนผ่านระบบสารสนเทศ
จากนั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างคนในสถานศึกษาเกี่ยวกับปัญหา และวิธีแก้ไข แล้วเผยแพร่ข้อมูลลงสารสนเทศ หรือทำ After Action Review (AAR) ดังหัวข้อต่อไปนี้
1. รู้อะไร
2. รู้แล้วคิดอะไรต่อ คิดอย่างไร
3. การนำไปประยุกต์ใช้
4. ผลเป็นอย่างไร
5. พัฒนาให้ดีขึ้น
บรรยากาศของการศึกษาดูงาน
ท่านผู้อำนวยการโรงเรียน และเจ้าหน้าที่โรงเรียนเทศบาล 4 (เพาะชำ) ให้การต้อนรับคณะนักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน รุ่นที่ 13 เป็นอย่างดี ในการศึกษาดูงานครั้งนี้ ห้องประชุมสะอาด สื่อที่ใช้มีความทันสมัย อากาศถ่ายเทสะดวก แสงสว่างเพียงพอ โต๊ะ เก้าอี้ เหมาะสมในการรับฟังการบรรยาย
เรื่องที่ฟังการบรรยายในวันนี้ ถือได้ว่าเป็นหัวข้อที่มีประโยชน์อย่างมาก เพราะสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการเรียนการสอนได้จริง
ความรู้สึกที่มีต่อวิทยากร
นายศักดิ์เดช กองสูงเนิน (ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 4 เพาะชำ) เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา (Learning Organization : LO) เป็นอย่างดี สามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับนักศึกษาได้อย่างเข้าใจ เปิดโอกาสให้ผู้ฟังได้ซักถาม ให้ความเป็นกันเอง การศึกษาดูงานครั้งนี้ ถือว่าประสบผลสำเร็จในเรื่องของการนำเนื้อหาไปใช้ต่อยอดได้จริง
ความรู้สึกที่มีต่อเพื่อน
เพื่อนนักศึกษาทุกคนให้ความร่วมมือในการศึกษาดูงาน มีความกระตือรือร้น แต่งกายสุภาพให้เกียรติวิทยากรและสถานที่ มีความสนใจในการฟังการบรรยายครั้งนี้เป็นอย่างดี สังเกตได้จากการฟังแล้วจดบันทึก มีการถามคำถามกับวิทยากร และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
ไม่มีความเห็น