เรียนมา เพื่อปรึกษาหารีอ..เพื่อนชาว Gotoknow


27  สิงหาคม 2557

ได้มีโอกาสได้เป็นวิทยากรขยายผลให้กับแกนนำในชุม ตำบลเกาะเปียะอีกครั้ง...เกิดเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่

ชุมชนสนใจอย่างจริงจัง ทั้งเทศบาลย่านตาขาว ชุมชนต่าง ๆ รอบ ๆ โรงเรียนต่างอำเภอ ต่างจังหวัด

ให้ความสนใจกันอย่างล้นหลาม จึงเกิดปัญหา  อาจจะเกินความสามารถในการรองรับรับด้านงบประมาณ

เพราะขวดที่ได้มาไม่พอค่าของรางวัล ค่าเสื้อ  แต่ครูหยินได้ปลุกวิญญาณผู้คนให้ตื่นขึ้นมาแล้วจึงต้องหาทางออก

จึงอยากได้ทุนสักก้อน...เรียนถามว่า......น่าจะขอจากองค์กรใดได้บ้างเพื่องส่งเสริมให้ชุมชนลดปริมาณขยะ  ลดพลังงานอย่างยั่งยืน เพื่อให้โครงการดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง

ที่เตรียมการขั้นต้นของครูหยิน คือ 

1. ขอจากผู้มีจิตศรัทธา บริจาคผ่านครูหยินโดยตรงตามอัธภาพ

ในหมายเลขบัญชี ธนาคารกรุงไทย หมายเลข 916-0-25449-1 นามครูหนิทรา มาศวิวัฒน์

เป็นบัญชีแยกเฉพาะรายรายธนาคารความดีเท่านั้น ท่านใดบริจาคช่วยแจ้งครูหยินด้วยเพราะเงินทุกบาทต้องทำบัญชีหลักฐานชัดเจน

2.รับบริจาคของเหลือใช้อะไรก็ได้ที่คิดว่าไม่ใช้แล้ว ครูหยินจะนำมาเปิดประมูลของใช้มือสอง ชวนน้องลดขยะ นักเรียนแกนนำจะออกเร่ขายตามตลาดนัดท่านใดสนใจส่งของโดยตรงที่

    นางนิทรา  มาศวิวัฒน์

    โรงเรียนย่านตาขาวรัฐชนูปถัมภ์

อ.ย่านตาขาว  จ.ตรัง 92140

                                       แจกรางวัลแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ

ชุมชนให้ความสนใจอย่างไม่น่าเชื่อ มีการขออีกรอบเพราะ..อยากให้ขยายผลให้คนอื่น ๆ ด้วย

ในความเหน็ดเหนื่อยแต่เต็มไปด้วยความอิ่มเอม ..และมีความสุข ปลื้มปิติซ่อนอยู่

                                                                                    บันทึก 28  สิงหาคม 2557

    ขอขอบคุณที่อ่านนะคะ

หมายเลขบันทึก: 575270เขียนเมื่อ 28 สิงหาคม 2014 07:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 สิงหาคม 2014 07:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

.ขอบคุณที่แวะไปขอคำปรึกษา..พี่ใหญ่อยากแนะนำว่า โครงการเช่นนี้ ควรทำตามหลักพอเพียง อย่าเพิ่งขยายงานมาก และไม่ควรใช้เงินเป็นตัวตั้ง...อย่างเงินรางวัล หรือเสื้อแจก ไม่ควรเป็นตัวล่อให้เกิดการเข้าร่วมกิจกรรม ตามประสบการณ์ที่เห็นมา ควรมุ่งเน้นการปลุกจิตสำนึกในการจัดการขยะแบบสร้างรายได้มากกว่า เพื่อความยั่งยืน ..พี่ใหญ่จะหาตัวอย่างดีๆในโครงการของนักเรียนตามโครงการเธอคือแรงบันดาลใจมาฝากค่ะ

เห็นด้วยกับความเห็นของคุณพี่ใหญ่นงนาทครับ...ความจริงเรื่องการกำจัดขยะก็เป็นหน้าที่ของอบต.อยู่แล้ว  แถวบ้านผมเจ้าหน้าที่เก็บขยะประจำรถจะมีถุงเพื่อคัดแยกขยะที่สามารถเก็บขายได้หรือนำกลับไปรียูสได้ แขวนอยู่ข้างๆ รถด้วยครับ...และในขณะเดียวกันอบต.มีเงินกองทุนสปสช.ทีสามารถนำมาใช้ในการสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ฟื้นฟูสมรรถภาพอยู่ด้วย...น่าจะมีการทำเอ็มโอยูร่วมกันแล้วนำเงินในส่วนนี้มาใช้ในการดำเนินกิจกรรมคัดแยกขยะป้องกันโรคได้ตลอดทั้งปีนะครับ...หากแต่มีข้อแม้ว่าไม่ให้นำมาใช้ซื้อวัสดุครุภัณฑ์นำมาซื้อเสี้อแจกหรือเป็นของรางวัลน่าจะได้บ้าง...ผมไม่แน่ใจว่าที่อบต.บ่อเปียะ มีกองทุนนี้อยู่หรือเปล่า...องค์กรเอกชนหรือองค์กรประชาชน สามารถทำโครงการขอรับการสนับสนุนได้เช่นกันครับ

มีความเห็นชนิดเดียวกันกับท่านทั้งสอง..เจ้าค่ะ...

มีความเห็นที่อยากจะสอดแทรกเป็นความเห็น..ส่วนตัว..คือ.."ขยะ"..เกิด..จากผู้ใช้...ไม่ใช่จากผู้ผลิตฝ่ายเดียว..หากการ..เสนอ..ไม่มีการการตอบ...สนอง.....(ขยะไม่เกิด..แน่นอน)...

เห็นง่ายๆ..จากขวดพลาสติค..ที่ใส่น้ำขาย.....(สำคัญ..ประเด็น..คือ..รูปลักษณ์..ของเศษฐกิจ..)...เราต้องการอะไร..."น้ำสะอาด..ที่มีดื่มกินกันได้"..ไม่มีสารพิษ..เจือปน..ไม่ต้อง"ซื้อ"แต่ต้อง"หา"...(เราจะหา..หรือทำให้เกิด..เป็น..รูปธรรม..จะได้ไหม..)...สิ่งที่แลกเปลี่ยน..กันจนเลยเถิด..ทุกวันนี้..ที่เห็น..แต่รูปผลกำไร..จนกลายเป็น.."ขาดทุน"..กัน.."จน?..ใจ"..กันอยู่ทุกๆๆวันนี้...

"ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด"...เป็นความเห็นส่วนตัว..ที่อยากจะแชร์..ร่วมกับคุณครูหยิน..เจ้าค่ะ... มีดอกหญ้า..ที่เบ่งบานอยู่ในสวนสารธารณะ..มาฝากเป็นกำลังใจในการทำงาน..ที่ยากยิ่ง..ด้วยเจ้าค่ะ..(ยายธี)

.ใช่คะ ขอบคุณมากคะยายพี่ใหญ่  ยายธี และพี่หนาน

แท้จริงแล้วทุกคนที่ส่ง แค่เสื้อตัวแรกเป็นเสื้อแห่งความภาคภูมิใจ แค่จุดประกายให้เขาได้เริ่ม เพราะยากที่สุดตรงที่เริ่มอะคะ แต่พอเขาได้ทำจริง สุดท้ายก็กลายเป็นนิสัย...แล้วเราก็ดำเนินให้เขาจัดการอย่างเป็นระบบ...เพราะตอนนี้บางครอบครัวมีอาชีพเก็บขวดขาย ซึ่งมีรายได้ประมาณ 6000 -7000 บาท ต่อเดือน และอีกมากกว่า 100 ครัวได้เปลี่ยนพฤติกรรมเก็บ

และแยกขยะไปแล้ว ครูหยินเห็นว่าปัญหาเกิดตรงที่ ไม่มีแรงบันดาลใจมากพอให้เขาได้เริ่มเท่านั้นเอง

5 ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งก็ได้เปลี่ยนพฤติกรรมไปแล้ว...แต่ตอนนี้กำลังขยายผลไปสู่ชุมชนมากขึ้น   

บางทีครูหยินคิดไม่เป็น และคิดเกินตัวไปหน่อย...หลายครั้งเหมือนกันที่รู้สึกทำเกินหน้าที่ไปรึเปล่า

ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ

พี่ครูหยิน

ผมเห้นด้วยกับพี่ใหญ่

ต้องให้ขยะเป้นตัวดำเนินเรื่องเอง

เกิดการเลี้ยงตัวเองได้

รางวัลเป้นผลพลอยได้

อย่าให้เป็นตัวล่อ

พยายามปลูกจิตสำนึกจะดีกว่าอย่างยั่งยืนครับ

จากการที่สังเกตธนาคารขยะ ของครูหยิน เป็นการจุดประกายและปฎิบัติ ที่เริ่มจากโรงเรียน นักเรียนมาสู่ครอบครัว และตอนนี้ก็มาสู่ชุมชน อบต เทศบาลบางแห่งเรับป็นขาหุ้น 

ด้วยการทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ส่วนรางวัลเป็นสัญลักษณ์ที่ภาคภูมิใจ

แต่เมื่อไดก็ตาม กิจกรรมต่างๆที่ภาคการเมืองเมืองลงมา  "เป็นขาหุ้น"การให้รงวัล คุณค่าของรางวัล มักเบี่ยงเบน

สำหรับ งบประมาณ ในเรื่องการจัดการขยะ มีหลายช่องทาง จาก สสส. ในเรื่องชุมชนท้องถิ่น ที่ สจรส.ภาคใต้ ดำเนินการอยู่  เพียงแต่อาจไม่ถูกกับ จริตที่ที่ครูหยิน ทำเรื่องขยะ

ขอชื่นชมในความตั้งใจจริงของคุณ ครูหยิน ด้วยคนครับ

ผมเห็นด้วยกับพี่ใหญ่ในเรื่องการยึดหลักพอเพียงเพื่อให้เกิดจิตสำนึกโดยแท้จริง

อย่างไรก็ตามรางวัลที่ไม่มีมูลค่ามากเกินไปก็ช่วยเป็นขวัญกำลังใจได้หากสามารถสื่อสารกันได้ตรง

ผมยินดีบริจาคเสื้อยืดงานวิ่งของกรีนไลฟ์ฯเนื้อผ้าดีเพื่อสนับสนุนด้วยครับ 

กรุณาแจ้งจำนวนที่ต้องการด้วยครับ

และขอฝากมุมมองของนักธุรกิจรีไซเคิลขยะมาให้อ่านด้วยครับ

http://thaipublica.org/2014/08/wongpanich-waste-re...

-สวัสดีครับครูหยิน

-ตามมาให้กำลังใจคนทำความดี

-กิจกรรมที่จัดเกี่ยวกับการรณรงค์เรื่องปัญหาของขยะต้องได้รับความร่วมมือจากหลาย ๆ ฝ่าย

-การเริ่มต้นอาจจะยากแต่หากเห็นผลประโยขน์ที่ชุมชนได้รับแล้วผมว่าเดินต่อได้สบายเลยครับ

-สำหรับของรางวัลเป็นสิ่งล่อใจที่ใคร ๆก็ชอบ ผมใช้เป็นสือกลางในการอบรมบ่อย ๆ  ฮ่า ๆ 

-ขอบคุณครับ

ค่ะคุณโรจน์....ขอของคุณมาก และขอบคุณทุกคน พี่ใหญ่ ยายธี ลุงวอ และ ดร.ขจิต

20 กว่าปี่ที่ทุ่มเทมาเพื่อสิ่งแวดล้อมค่อย เรียนรู้ เหมือนกับการวิจัยไปพร้อมกัน อาจจะคิดต่างจากใคร ๆ เขา....สุดท้าย 5 ปี ที่ผ่านมาจึงค้นพบว่า การใช้รางวัลเป็นแรงจูงใจ...มันประสบความสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อ และที่สำคัญกว่าคือ ..การได้ลงไปนั่งในหัวใจของเขา....เมื่อเขารักเรา เราก็เร่งให้ความรู้...เมื่อเขารู้จริงเขาจะเปลียนชีวิตทั้งชีวิต..เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส....ไม่น่าเชื่อ...ว่าเปลี่ยนความคิดพฤติกรรมของคนได้จริง ๆ

รางวัลเป็นแค่แรงจูงใจในครั้งแรกให้เขาได้ลงมือทำเท่านั้นเอง เพราะหลายสิบปี ที่กระบวนการกำจัดล้มเหลว เพราะชุมชน เองไม่เปิดใจ หลายหน่วยงานล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า จนวันนี้หลายคนได้สัมผัส ให้ครูหยินไปพูดให้ฟัง จึงพูดเรื่องจริง ใส่จิตวิยา ผนวกกับ รางวัลที่ใช้เป็นแรงจูงใจ แค่ให้เขายอมรับ....คือการจุดประกายชีวิตให้เขาเท่านั้นเอง

เทศบาล และ อบต.ทำมานานกับการจัดการขยะ แต่เป็นปัญหาที่ล้มเหลวมาตลอดจึงลองให้ครูหยินไปพูดคุยดู...พบว่า...กระแสการตอบรับ..เกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ เขาฟัง เขารับรู้ และยอมทำตามด้วยความตั้งใจ...จึงอยากให้เสื้อเขาใส่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์...แห่งความดีงาม ให้เขาทำต่อไป

เขาเอาเสื้อเพียง 1 ตัวหลังจากนั้น เขาเริ่มทำจนเป็นนิสัยเกิดเป็นความเคยชิน เราก็เร่งเพิ่มความรู้การจัดการด้านอื่นเพิ่มมากขึ้น ครูหยินจึงยอมเสีย บางอย่างไป เพื่อให้สังคมได้สิ่งดี ๆ กลับคืนมา

หลายหน่วยงานได้มาดูงานเอาวิธีการเดียวกันไปใช้...กลับล้มเหลว ...

ครูหยินจึงลองใหม่ให้ความรู้ ใหัความจริงใจ ความตั้งใจ ความสำเร็จ เข้าไปแลกด้วยการเป็นวิทยากร...กลับได้ผลเกินเป้าหมาย....หลายคนทำเพราะศรัทธาครูหยิน.....ครูหยินจึงคิดว่าอย่างน้อยเขาก็ได้เริ่ม เพราะกิจกรรมต่าง ๆ สำเร็จยากเพราะไม่ได้เริ่ม นี่คือหัวใจหลัก...ครูหยินจึงใช้ความรัก และรางวัลเป็นแรงผลักดัน ให้เขาได้ทำ....ให้เขาได้เริ่ม.....

หลายครั้งเหมือนกันว่าทำงานใหญ่เกินตัว......แต่เมื่อเขายอมทำเพราะเรา......จึงต้องยอมเจ็บ ยอมเหนื่อย และยอมที่จะสูญเสียอะไรไปบ้าง แลกความความงดงามของสังคม เกินคุ้มจริง ๆ

ครูหยินจะไปเป็นพี่เลี้ยงให้เขาสักระยะ พอจัดระบบได้ดี ก็ถอยตัวออก เพราะอาชีพหลักคือครู

......................................................................................................................................

ส่วนเสื้อนั้นไม่มีจำกัด ไม่ต้องมากมายนักให้ตามศักยภาพ เท่าที่ให้ได้ ที่ผ่านมาผู้ใหญ่บางคน เขาชื่นชมอยากจะสนับสนุน มอบให้ 500 บาท หรือ1000 บาท ถ้ามากกว่านั้นก็ไม่เอาค่ะ เพราะกิจกรรมที่ทำต้องไม่เป็นภาระของคนอื่นด้วยจ้า..................

ขอขอบคุณจริง ๆ ทุก ๆ ความคิดเห็นยินดีที่จะรับฟัง ขอน้อมรับด้วยความยินดียิ่ง ที่เราได้มีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ต่างความคิด ต่างมุมมอง ช่วยกันเตือนสติ ช่วยกันให้ข้อคิด.....ชีวิตจะพัฒนา

Please see my comment in ขยะ http://www.gotoknow.org/posts/575330

I do suggest we put more pictures of "identifiable rubbish' on the Net to counter product adverisements. But please "focus on the rubbish" not the products or the companies selling  rubbish. Law suits are never fun!

ขอขอบคุณมากกับทุกความคิดเห็น เราเติมเต็มให้แก่กัน ตอนนี้ก็พยายามอยู่ทุกวิถีทาง สร้างคนสักคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ปัจจัยหลายอย่าง เราได้ขยะมาก็เป็นภาระ...เหมือนคนสติไม่ดี... ทำทำไมก็ไม่รู้ ....เปลืองตัว เปลืองหัวใจ เปลืองเงิน เปลือเวลา. แต่เมื่อผลออกมันคุ้มค่ามากกว่าคิด เพราะที่คิดไม่ได้ทำเพราะผลประโยชน์ ผลที่ได้รับทางสังคม

มันยิ่งใหญ่เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้สู้ เพราะไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่า ความดีที่งดงาม เราร่วมมือกันนะคะ

คิดถึงจังค่ะ 

จะโทรหา แต่กว่าจะขับถึงบ้านท่านข้าวเสร็จจากแหลมหิน ก็ 2 ทุ่มกว่าแล้วค่ะ

พานักเรียนไปเที่ยวสวนที่ทุ่งค่าย โทรไปหาแล้ว แต่ไม่รับสายคงไม่อยู่พื้นที่

ลุงวอมาวันไหนค่ะ..ถ้าเป็นวันเสาร์ครูหยินทำกิจกรรมกับนักเรียนเตรียมป้ายรณรงค์ การอนุรักษืคูคลองในวันเสาร์หน้าค่ะ...ครูเสริม ไปจัดกิจกรรมตอบปัญหาวิชาสังคม แยกกันทำงาน เลิก 5  โมงเย็นแล้วค่ะ วุ่นวายอยู่กับเด็กทั้งวัน ขอโทษค่ะโอกาสหน้านะค่ะ  คิดถึงอยู่คะอยากคุยด้วยจัง

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท