MASATO YU กับการ Coaching (2)


    วันนี้คุยเรื่อง การ Coaching ลูก ต่ออีกนิดนะคะ .... การเรียนวิชาวาดรูป...ที่โรงเรียนบ้านศิลปะเด็กท่ายาง ... ทำให้ MASATO YU ชอบวาดรูปและชอบอ่านหนังสือมากขึ้น ... ผู้เขียนคิดว่า .... หนังสืออะไรก็ได้ที่ลูกชอบอ่าน .... จะนำมาซึ่ง .... “การรักการอ่าน”.... ทำให้มีสมาธิ...และมีความสุขกับการอ่าน นะคะ .... ทำให้ลูกอ่านหนังสือได้เร็วขึ้น .... อ่านแล้วจับใจความได้ดีขึ้น ..... นั้นหมายถึง.... “เกิดการเรียนรู้” ได้ดีขึ้นค่ะ .... การเรียนรู้นำไปสู่การพัฒนาทางความคิด ... พัฒนาศักยภาพของผู้ฝึกคิด ... การสร้างสรรค์ และที่สุดจะ...เกิดจินตนาการทางความคิด ที่ดีขึ้น นะคะ ... และต่อมาอีก 2 ปี (จากการได้รับรางวัลชมเชย เรื่องที่แล้ว ปี2535)  ในเดือนสิงหาคม ๒๕๓๗ ทางโรงเรียนฯ  ได้ส่งภาพวาดของ MASATO YU เข้าประกวดงานศิลปกรรมฯ” แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ครั้งที่ 5 ... ภายใต้หัวข้อ....“สร้างสรรค์สังคมไทย...ด้วยน้ำใจให้กัน”... จุดประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนของชาติได้แสดงออกถึงความสามารถและจิตนาการในรูปแบบการสร้างสรรค์งานศิลปะได้อย่างเต็มที่ ... MASATO YU ได้รับรางวัล.... “ยอดเยี่ยมระดับประถมศึกษา” (ป.1- ป.3) .... ที่เล่ามาเป็นประสบการณ์ที่ผู้เขียนคิดว่า .... คุณพ่อ-คุณแม่ ...สามารถเป็นโค้ชหรือCoachingลูก....ได้จริงๆ ค่ะ ... ซึ่งมีผู้รู้/กูรูได้เขียนไว้ว่าสิ่งที่โค้ชต้องทำและทำได้ดีในการเป็นCoaching มีดังนี้ค่ะ...

           

สิ่งที่โค้ชต้องทำ

       1. ทำให้ลูกมองเห็นตัวของเขาเองถึงศักยภาพที่ถูกใช้ไป....หรือติดอยู่กับหลุมพรางทางความคิดเรื่องอะไรอยู่ ....มีเรื่องอะไรที่เป็นอุปสรรคต่อกิจกรรม...การทำงานของเขา

       2. ทำให้ลูกยอมรับในสิ่งที่เขาเป็นอยู่ ... ด้วยตัวเขาเอง ไม่ใช่ข้อสรุปของเรา (คุณพ่อ-คุณแม่) เพราะความคิดเห็นของเรา(คุณพ่อ-คุณแม่) ... อาจไม่ใช่สิ่งที่ลูกจะยอมรับก็ได้ ... ดังนั้น ลูกเขาต้องเป็นผู้ยอมรับด้วยตัวเขาเอง

      3. คุณพ่อ-คุณแม่ต้องกระตุ้นให้ลูกอยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ... ในสิ่งที่เขาคิดว่าสิ่งใดมีประโยชน์กับตัวเขา ...และมองเห็นประโยชน์ในกรณีที่เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่... เพื่อจูงใจ (Motivation) ...ให้เขาตัดสินใจเลือก... การปฏิบัติกับตัวเองใหม่ (เขาต้องเป็นผู้เลือกค่ะ)

       4. กำหนดเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงร่วม(Goal of changing) กับลูกค่ะ ... เพื่อให้ลูกเกิดความเชื่อมั่นว่า...เขาทำได้...และได้รับกำลังใจ(Encouraging)จากเรา(คุณพ่อ-คุณแม่) และวางแผนดำเนินการร่วมกัน ... ไม่ควรเป็น Solution (ทางออก/วิธีแก้/วิธีการแก้) ของคุณพ่อ-คุณแม่ ... แต่ควรเป็น Solution ของลูก ... ที่เราร่วมกันคิด .... แต่คนตัดสินใจ (Decisions) ....และนำไปใช้ต้องเป็นตัวลูกค่ะ

       5. สร้างความไว้วางใจ (Trust) ซึ่งกันและกัน ... โดยทำให้ลูกเห็นว่า... เรา/พ่อและแม่...มีจุดประสงค์/เป้าหมายที่ดี ... ในการพัฒนาตัวของลูก... และลูกเลือกที่จะพัฒนา....ไม่ได้มีการบังคับใดๆ ... ภาวะผู้นำในตัวลูกต้องสูงขึ้นค่ะ ....เพื่อให้เขาเชื่อถือและมั่นใจในสิ่งที่คุณพ่อ-คุณแม่กำลังโค้ชชิ่ง (Coaching) ลูกนะคะ

      6. การรับฟังอย่างตั้งใจ (Listening attentively) .... เพื่อให้ลูกได้พูดในสิ่งที่เขาติดขัด .... หรือสิ่งที่เขากังวล ... การรับฟังจะกระตุ้นให้เขาพูดข้อเท็จจริงมากขึ้น ... และเขาจะยอมรับคุณพ่อ-คุณแม่ มากขึ้นค่ะ เพราะ.... คุณพ่อ-คุณแม่ สนใจในปัญหาของเขาอย่างแท้จริง .... เมื่อเราให้คำแนะนำหรือแนวคิดใดๆ .... ลูกก็จะอยากนำไปพิจารณา ... เพราะรู้สึกว่าเราสนใจเขานะคะ

          

        

         

              

             

            

          

         

         


   หวังว่าสิ่งที่ผู้เขียน ได้เล่ามาจะเป็น...ความรู้ ... รวมกับประสบการณ์ตรง... น่าจะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ



ขอบคุณค่ะ

๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๗

หมายเลขบันทึก: 570741เขียนเมื่อ 20 มิถุนายน 2014 13:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2014 13:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)

น้องเก่งมากเลยครับ

สมแล้วที่เป็นการเลี้ยงลูกแบบโคช

ขอบคุณมากๆครับ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมน้องทั้งสองคนจึงเก่งเ เพราะมีคุณแม่เป็นโค้ชนี่เอง 

อยากให้เด็กทุกคนได้รับการเลี้ยงดู บ่มเพาะเช่นนี้ 

ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันค่ะ

เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุกคนมากค่ะอาจารย์เปิ้น ขอบคุณที่แนะแนวทาง และแบ่งปันเคล็ดลับในการดูแลเลี้ยงดูบุตรหลาน ที่ได้ผลอันงดงามมาแล้ว ขอบคุณมากค่ะ

...ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคนเก่ง...คือพ่อแม่คนที่ใกล้ตัวที่สุดที่ถ่ายทอดทั้งพันธุกรรม และเอื้ออำนวยสิ่งแวดล้อมที่ดีๆ...แถมยังเป็น coaching ให้กับลูกๆนะคะ...เป็นตัวอย่างที่ขอชื่นชมมากๆค่ะ

“การรักการอ่าน”.... ทำให้มีสมาธิ...และมีความสุขกับการอ่าน นะคะ .... ทำให้ลูกอ่านหนังสือได้เร็วขึ้น .... อ่านแล้วจับใจความได้ดีขึ้น ..... นั้นหมายถึง.... “เกิดการเรียนรู้” ได้ดีขึ้นค่ะ .... การเรียนรู้นำไปสู่การพัฒนาทางความคิด ... พัฒนาศักยภาพของผู้ฝึกคิด ... การสร้างสรรค์ และที่สุดจะ...เกิดจินตนาการทางความคิด ที่ดีขึ้น "

ชอบมากค่ะ ขอบคุณนะคะคุณหมอ 

  ขอบคุณ ท่าน ขจิต ฝอยทอง ให้กำลังใจตลอดมา นะคะ

 ขอบคุณ ท่านอจ. ดร กัลยา GD นะคะ  ให้กำลังใจ ตลอดมา นะคะ

ขอบคุณท่าน tuknarakมากๆ ค่ะ ให้กำลังใจ ตลอดมา นะคะ

ขอบคุณ ท่าน  กุหลาบ มัทนา ท่านให้กำลังใจ ตลอดมา นะคะ

 ขอบคุณท่าน Pojana Yeamnaiyana Ed.D. ให้กำลัง

ใจตลอดมา นะคะ

  ขอบคุณ ท่าน อร วรรณดา ให้กำลังใจ นะคะ

เป็นบันทึกที่สร้างแรงบันดาลใจให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่นะครับ ขอบพระคุณมากครับพี่

วันนี้พาเด็กไ ไปร้านหนังสือแบบไม่บอกกล่าวเล่าความล่วงหน้า...
ไปวัด วกเข้าตลาด และเทียบท่าที่ร้านหนังสือ
ผลพวงคือได้จ่ายตังค์หนังสือให้พวกเขาร่วม 400 บาท...
มีความสุขมากครับ....

 ขอบคุณ  ท่านแผ่นดินมากๆ ค่ะ

เห็นพัฒนาการดีๆของลูกสาว เพราะได้รับการส่งเสริมทักษะอย่างมีความสุขเช่นนี้ค่ะ

ขออนุญาตนำเอาหลักการของท่านมาประยุกต์ใช้กับการเป็นโค้ชทีมวู้ดบอลครับ...

ขณะหนึ่งการอ่าน ก็เป็นการฟังเหมือนกันครับ...
สมาธิ สติ ปัญญา ครับ

เห็นได้ชัดว่าการรักการอ่านมีผลดี

พัฒนาการดีๆเกิดจากการโค้ชที่ดี

ขอบคุณครับ

เก่งมากครับ....หลายสิ่งหลายอย่างมีความสำคัญที่ทำให้น้องค้นพบตนเองเร็ว ที่สำคัญคือครอบครัวด้วยนะครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท