-มาติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งที่ผมได้เจอมาเมื่อวันที่ไป"เก็บผักสาบ..กับ..น้ำ(ใจ)ใส...เย็น ๆ ตามที่ได้บันทึกไว้เมื่อสองวันก่อน....หลายท่านคงจะได้ไปเยี่ยมชมและทำความรู้จักกับ"ผักสาบ"กันไปแล้ว...มาวันนี้..ขอนำเอาเรื่องราวที่ผมเห็นแล้วต้องทำให้รำลึกถึงความหลังในเมื่อครั้งยังเป็น "ละอ่อน"มาบันทึกเพื่อแบ่งปันให้กับมิตรรัก G2K ได้ร่วมติดตามกันครับ...สำหรับผมแล้ว....มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมได้ย้อนอดีตได้อย่างดีเลยล่ะครับ....และสิ่งที่ทำให้ผมได้ย้อนกลับไปในวัยละอ่อน ก็คือ"ลูกมะกล่ำตาหนู"ครับ...
1.หลังจากที่ไปเก็บ"ผักสาบ"แล้ว...ขากลับสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นกับ"ลูกสีแดงๆ "อยู่ตรงพุ่มไม้...และทันทีที่ผมเห็น...ผมก็รีบเดินเข้าไปพร้อม ๆกับบอกว่านี่มัน"เม็ดมะกล่ำ"นี่หน่า...นานมาก ๆ นานสุด ๆและผมแทบจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ผมได้สัมผัสกับ"เม็ดมะกล่ำ"นั้นเป็นช่วงไหนของชีวิต..แต่เท่าที่จำความได้ตอนนั้นผมน่าจะอายุประมาณไม่เกินสิบขวบ น่ะครับ...พอได้เจอเข้ากับ"เม็ดมะกล่ำ"อีกครั้ง...ภาพต่าง ๆในอดีตก็วนกลับเข้ามาในหัวผมอีกครั้ง...พลอยทำให้ผม"แอบยิ้ม"และรีบชวน"เจ้าวิว"กับ"พี่สมเวส"ไปเก็บ"ลูกมะกล่ำ"ครับ..
2.เราทั้งสามคนได้ช่วยกันเก็บ"ลูกมะกล่ำ"สำหรับลูกสีแดง ๆ ดูน่ารักนี้ บ้านผม(เถิน,ลำปาง,เหนือ)เรียกว่า"ลูกบะก่ำ"ครับ...สมัยก่อนผมจะเก็บมาเล่น อมๆ เป่า ๆ หรือไม่ก็นำมาทำเป็นตาของตุ๊กตาดินปั้น...ดูแล้วสวยงามดี...พอสอบถาม"พี่สมเวส"ว่าชาวพรานกระต่ายเรียกว่าลูกอะไร?ได้รับคำตอบว่าทางนี้เขาเรียกว่า"ลูกตากล่ำหรือตะกล่ำแดง"ครับ...งานนี้ได้เจอกับ"ลูกบะก่ำ"แล้ว...จึงไม่พลาดที่จะเก็บภาพพร้อม ๆกับนำเอาเรื่องราวมาฝากกันครับ..
3.ตามผมไปรำลึกถึงความหลังครั้งเมื่อครั้ง"วัยละอ่อน"ไปกันแล้ว...ต่อไปขอมาสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ"ลูกบะก่ำ"กันซักหน่อยครับ....ผลการสืบค้นข้อมูลทำให้ผมถึงกับต้อง"ผวา"กันเลยทีเดียว..เมื่อข้อมูลเขาบอกเอาไว้ว่า"มะกล่ำตาหนู"หรือ"บะก่ำ"ที่ผมรู้จักและนำมาอม ๆ เป่าๆเมื่อวัยเด็กมันเป็นพืชที่"มีพิษร้าย"หากเผลอเคี้ยวและกลืนเข้าไปทำให้เกิดอาการปวดท้อง และอาเจียน หรือบางรายอาจจะถึงกับเสียชีวิตได้เลยล่ะครับ...อ่านข้อมูลแล้วทำให้ผมรู้่ถึงพิษร้ายที่ซ่อนอยู่ใน"ลูกบะก่ำ"..ถือว่าโชคดีที่ผมเพียงแค่"อม ๆ เป่าๆ"ไม่ถึงกับ"เคี้ยวและกลืนลงไป"ไม่อย่างนั้นคงจะไม่ได้มานั่งเขียนบันทึกแน่นอนครับ...พิษร้ายแรงจริง ๆ เอาเป็นว่าสามารถติดตามข้อมูลของ"ลูกมะกล่ำตาหนู"ต่อได้ที่นี่ครับ สวยแต่มีพิษ....มะกล่ำตาหนู..เม็ดเดียว..ตาย!!!!
4.รู้จักกับ"บะก่ำ"และเล่นมาตั้งแต่เด็ก...เพิ่งทราบถึง"พิษร้ายแรงที่ซ่อนอยู่ในความสวยงาม"ก็วันนี้....รอดมาได้ก็นับว่ายังโชคดี....วันนี้เมื่อเจอกับ"ลูกบะก่ำ"อีกครั้ง...จึงขอเก็บเรื่องราวและรูปภาพมาฝากกัน อย่างน้อย ๆ หากวันใดที่มีคนผ่านมาอ่านบันทึกนี้....จะได้ทราบถึงที่มาและ"พิษร้าย"ที่"ซ่อนอยู่ในความสวยงาม"นามว่า"มะกล่ำตาหนู"คร้าบ!!!!!
เอาล่ะครับ...สำหรับวันนี้...ผู้อ่านท่านใดที่มีความหลังเกี่ยวกับ"มะกล่ำตาหนู"ก็สามารถนำมาแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ....และต้องขอขอบคุณข้อมูลเรื่อง"มะกล่ำตาหนู"จาก www.krubannok.com มา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ...
สวัสดีครับ
เพชรน้ำหนึ่ง
05/03/2557
ปล.ท่านใดสนใจอยากจะได้เม็ด"มะกล่ำตาหนู"เพื่อนำไปเพาะพันธุ์หรือเพื่อการศึกษาก็สามารถแจ้งความประสงค์ได้นะครับ..วันก่อนผมเก็บ"เม็ดมะกล่ำตาหนู"กลับมาด้วย..มีไม่มากนัก...คงต้องรีบแจ้งผ่านบันทึกนี้ครับ...
มาเรียนรู้พืชน่าสนใจไม่เคยเห็น ขอบคุณมากค่ะ
ได้รู้จักกับพืชที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
"มะกล่ำตาหนู"
ขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆค่ะ
สีสวยงาม น่าร้อยเป็นสร้อยข้อมือ ทำตุ้มหู ฯ ปกติเก็บไปทำอะไรให้เกิดประโยชน์บ้าง ขอบคุณมากค่ะ
เด็กเคยเห็นผู้ใหญ่นำมาร้อยเป็นสร้อยข้อมือ และทำลูกตาของรูปปั้นสัตว์ แต่ไม่เคยเห็นต้นและไม่เคยทราบว่ามีพิษค่ะ
สมัยพี่เป็นเด็ก ๆ เคยเก็บมาเล่นค่ะ...ขอบคุณบันทึกที่ทำให้นึกถึงในวัยเด็กค่ะ
ไม่ซนเท่าไหร่นะคะ
ชอบเอามาทำกับข้าวค่ะ สีสวยดี ไม่ต้องตกใจ ไม่ได้กินจริง ๆ ทำ "เล่นขายของ" ค่ะ หรือภาษาอีสานว่า "เล่นขอเฮือนน้อย"
โรย ๆ ผสมกับใบสาบเสือหั่นฝอยเป็นผัดหมี่ เป็นต้น
กิจกรรมผจญภัยตลอดเลยค่ะ ^ ^
เป็นของเล่นเด็กสมัยก่อนแต่พ่อแม่ไม่บอกว่ามันเป็นพิษแค่สองร้อยมิลิลกรัมล้มม้าได้ตัวนึงเลยจ้ะ..ที่น่าสนใจเคยไพบที่สุมาตราอินโดนีเซีย..เขานำมาบดเป็นใช้เป็นกาวติดเงินเครื่องประดับเงินนั้นถูกดึงจนเป็นเส้นเหมือนไหมนำมาขดเป็นรูปลวดลายต่างๆน่าทึ่งทันทีที่เห็น..(พยายามแพร่พันธุ์..ให้เกิดขึ้นในป่ายายธี...แต่ยังไม่สำเหร็จเลย..เจ้าค่ะ
ทำไมรู้ว่ามีความหลังกับเมล็ดมะกล่ำตาหนูครับ
555
ผมเก็บเอามาใส่ตาตัววัว ควายที่ปั้นเล่น
เหมือนตาสัตว์จริงๆๆครับ
ขอบคุณมากครับ
ครูหยินเด็กบ้านนอกอยู่กับป่า..จึงเอามาปั้นเป็นตาของสัตว์มากมาย
ตอนนี้เริ่มหายากแล้ว....
เคยเล่นเหมือนกันตอนเด็กครับนำมาร้อยเป็นลูกปัด จำไม่ได้ว่าที่อีสานเรียกเม็ดอะไร...
นี่เป็นอีกบันทึกที่ขอนำไปอ้างอิง รวมทั้งความเห็นของสมาชิก "น้องมะเดื่อ, ทพญ.ธิรัมภา, คุณ "ยายธี", ดร.ขจิต, ครูหยิน, คุณ พ.แจ่มจำรัสค่ะ"
ช่วงนี้ "น้องวิว " กลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงไปแล้วนะคะ
-สวัสดีครับป้าใหญ่..
-ยินดีที่ได้นำเอาพืชผักและดอกไม้ป่ามาฝากครับ
-ถือเป็นเรื่องราวที่ทำให้ผมได้รำลึกถึงความหลัง..
-แอบยิ้ม....ทุกคราเมื่อเจอเรื่องราว...แบบนี้...
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจนะครับ
-สวัสดีครับศูนย์ ศจย.
-พืชชนิดนี้ไม่ค่อยจะมีให้เห็นแล้วล่ะครับ..
-คงต้องเก็บภาพและข้อมูลเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้..
-ขอบคุณที่มาให้กำลังใจนะครับ
-สวัสดีครับอาจารย์ GD
-ผมก็เพิ่งทราบเกี่ยวกับพิษร้ายของ"ตะกล่ำตาหนู"ครับ...
-เล่นกันจนเพลินสมัยยังเด็ก..ทั้งอม.ทั้งเป่า..ไม่รู้ว่าเผลอหลุดเข้าปากไปบ้างหรือเปล่าหนอ?
-สีสวย...ดี..
-ขอบคุณครับ
-สวัสดีครับอาจารย์บุษยมาศ
-ความหลังในวัยเด็กน่าสนุกนะครับอาจารย์
-ยินดีที่ทำให้..อมยิ้ม.นะครับ
-ขอบคุณครับ
-สวัสดีครับครูมะเดื่อ
-ตาตุ๊กจาดินปั้น...ดูสวยและแปลกตา..สมัยเป็นเด็กผมก็ชอบครับ ฮ่า ๆ
-สรุปว่าทางใต้ก็มี"ตะกล่ำตาหนู"อิ ๆ
-ขอบคุณครับ
-สวัสดีครับพี่หมอ ทพญ.ธิรัมภา
-ซนบ้าง...ตามประสาเด็กน่ะครับพี่หมอ ฮ่า ๆ
-เมนูที่พี่หมอเล่นยามเด็ก...น่ากินนะครับ
-ผัดหมี่...ลูกตะกล่ำตาหนู..
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและร่วมรำลึกถึงความหลังด้วยกันนะคร้าบ!!!
-สวัสดีครับอาจาร์ OTann
-ผจญภัยในบ้านเรา...ที่นี่ประเทศไทย..มีอะไรดีๆ มากมายครับ..
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจนะครับอาจารย์
-สวัสดีครับยายธี
-นำลูกตะกล่ำมาบดเป็นใช้เป็นกาวติดเงินเครื่องประดับเงินนั้นถูกดึงจนเป็นเส้นเหมือนไหมนำมาขดเป็นรูปลวดลายต่างๆน่าทึ่ง...จริงๆ นะครับ
-ชักอยากจะเห็น..
-หากมีโอกาสคงได้นำเม็ดลูกตะกล่ำไปฝากไว้ที่ไร่ยายนะครับ
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและบอกถึงความร้ายกาจของพิษลูกตะกล่ำตาหนูครับ..
-สวัสดีครับอาจารย์ขจิต
-คาดเดาไม่ผิดจริง ๆ ฮ่าๆ
-อาจารย์ต้องมีความหลังกับ"ตะกล่ำตาหนู"
-สรุปว่าเป็นความหลังที่น่าจดจำใช่ไหมครับ?
-ยินดีที่ได้แบ่งปันเรื่องนี้ครับอาจารย์
-ขอบคุณครับ
-สวัสดีครับครูหยิน..
-ใช่แล้วครับ..ตอนนี้หายากมาก ๆ กว่าผมจะได้เจอกับ"ตะกล่ำตาหนู"อีกครั้งก็เล่นเอาซะหลายปีเลยล่ะครับ
-นับว่ายังโชคดีที่เจอ..
-เล่นเหมือนๆ กันนะครับ...ทำเป็นลูกตาสัตว์ดินปั้น.
-ขอบคุณครับ
-สวัสดีครับท่าน พ.แจ่มจำรัส
-คงต้องขอความรู้จากมิตรรักแดนอีสานด้วยนะครับว่า"ตะกล่ำตาหนู"เรียกว่าอะไร..
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและร่วมรำลึกถึงความหลังครับ
-สวัสดีครับอาจารย์แม่ไอดิน..
-ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งและยินดีที่อาจารย์แม่จะนำเอาไปอ้างอิงในบันทึกครับ
-จะพยายามหาพืชแปลก ๆและหายากมาบันทึกบ่อยๆครับ
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจนะครับ
-สวัสดีครับพี่หมอเปิ้น
-ออกพื้นที่คราใด...หากเจอของแปลก ๆมักจะไม่พลาดที่จะเก็บมาแบ่งปันผ่านบันทึกครับพี่หมอ..
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจนะครับ
...รู้ว่ามีพิษ แต่สีสดสวยนะคะ...ตอนเด็กๆเอามาร้อยทำสายสร้อยบ้าง กำไลบ้าง ...บางทีก็เอาไปเล่นอีตักแทนเมล็ดน้อยหน่าค่ะ...
มะกลำ่ตาหนูมีพิษตวยกาเจ้า มันเป๋นเครือเถากา ตี้เกยฮู้มามีมะกล่ำต้นยอดเป๋นสมุนไพร เอาใบมาคั้นเป๋นนำ้คลอโรฟิลล์ใช้ดื่มได้ เกยไปปะตอนเข้าค่ายสุขภาพตี้เมืองแพร่ ละตอนนี้กำลังปลูกตี้บ้านอยู่ 2 ต้น ได้กล้าจากกรมป่าไม้เปิ้นเพาะไว้ วันหลังจะถ่ายฮูปมาฮื้อผ่อเน้อเจ้า
-สวัสดีครับ ดร.พจนา
-นำมาร้อยสร้อยคอ...สวยดีนะครับ
-แต่มีพิษ..ร้าย..
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจนะครับ
-สวัสดีครับ Krudala
-ผมกะเพิ่งฮู้ว่ามันมีพิษครับ...สมัยเป็นละอ่อนเล่นลูกบะก่ำตาหนูตลอดครับ...
-ฮู้ว่ามีพิษแล้วกะกึ๊ดกลัวเหมือนกัน ฮ่า ๆ
-ดีแล้วครับที่มีต้นบะกล่ำตาหนู..
-ใบสด ๆเป็นสมุนไพรตวยกาครับ?..
-น่าสนใจดี...
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจนะครับ..