ความสุขในการเรียนรู้ของลูกอยู่ที่ไหน


ลูกครับแม่กำลังนั่งรอลูกอยู่ที่ร้านเบเกอรี่ ตรงข้ามร้านละเลงแป้งที่ลูกกำลังเรียนทำขนมอยู่ แม่นั่งตรวจข้อสอบวิชาที่แม่สอนไปพลางๆ นักศึกษาของแม่ทำข้อสอบได้ไม่ค่อยดีตามที่แม่คาดไว้ โดยแม่ดูได้จากการเข้าเรียนการเอาใจใส่ต่อการเรียน การคิดสร้างสรรค์และถามตอบในห้องเรียนมาโดยตลอด

แม่อยากจะบอกลูกว่าเมื่อลูกโตขึ้น แม่อยากให้ลูกหาตนเองให้เจอว่าลูกอยากจะเรียนอะไรหรือทำอาชีพอะไรก่อนที่ลูกจะเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ไม่เช่นนั้นลูกคงมานั่งเรียนอย่างไม่มีจุดหมาย เข้าเรียนสาย ขาดเรียนบ่อย ไม่สนใจการเรียน และทำข้อสอบแบบคิดวิเคราะห์ไม่ได้เลย

วันนี้แม่พาลูกมาเรียนๆ เล่นๆ กับร้านทำเบเกอร์รี่ของเด็กๆ เพื่อเสริมสร้างจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ให้ลูก แล้วแม่ก็มานั่งดื่มกาแฟตรวจข้อสอบของแม่อยู่นี้เป็นร้านที่น่านั่งทีเดียว ตกแต่งดี ขนมก็อร่อย บังเอิญแม่ได้ยินเจ้าของร้านคุยกับเพื่อน ทำให้แม่ทราบว่า เขาตกแต่งร้านเอง ทำขนมเอง เพื่อสานฝันในบั้นปลายของชีวิต แต่เขาดูเหมือนจะจบพยาบาลหรือครู

แม่ยังได้ยินเพื่อนเจ้าของร้านพูดอีกว่า เขาให้ลูกไปเรียนโรงเรียนดังแห่งในกรุงเทพฯ ซึ่งเขาคาดหวังว่าลูกเขาคงเรียนได้ดีกว่าที่อยู่โรงเรียนดังในหาดใหญ่ ปรากฎว่าผิดความคาดหมาย เด็กเรียนกลางๆ ของโรงเรียนดังในหาดใหญ่ ไปอยู่โรงเรียนดังใน กทม. เป็นดาวเด่นด้านวิชาการ ที่โรงเรียนนี้ในหาดใหญ่เขาให้นักเรียน ป.3 เรียน ครน. หรม. และ ป.4 เรียน ฟิสิกส์ ซึ่งล้ำหน้าไปกว่าการเรียนในระดับมาตรฐาน

หนึ่งชั่วโมงในร้านเบเกอรี่นี้แม่เรียนรู้ว่า คนเราจะมีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่ตนเองรัก แม้จะเหนื่อยยากเพียงใดก็ตาม แต่คนเหล่านี้หลายๆ คนคงหาความสุขไม่ได้กับสิ่งที่ตนเรียนมา เพราะเขาอาจจะไม่ได้เลือกเรียนได้เองหรือไม่รู้ว่าตัวเองถนัดอะไร เรียนๆ ไป เรียนไปให้เก่ง เพื่อที่จะได้เข้ามหาวิทยาลัยให้ได้และได้เรียนคณะเด่นๆ ในสังคมไทย จนจบมหาวิทยาลัยสี่ปีจึงจะมาค้นหาตนเองเจอ เป็นกันมาอย่างนี้จากรุ่นสู่รุ่น

แม่กำลังคิดว่า แม่คงทำถูกต้องแล้วสำหรับลูก แม่กำลังพยายามช่วยให้ลูกค้นหาตนเองได้ และแม่อยากให้ลูกมีความสุข แต่ความสุขในวัยเด็กของลูก

  • ไม่ได้อยู่ที่โรงเรียนกวดวิชาติวเข้มไทย อังกฤษ คณิต
  • ไม่ได้อยู่ที่การเรียนที่ต้องเข้มข้นกว่าหลักสูตรมาตรฐาน
  • ไม่ได้อยู่ที่ต้องเรียนได้ดีเด่นกว่าเพื่อนคนอื่น
  • และไม่ได้อยู่ที่การเปรียบเทียบกับคนอื่น

ความสุขและความภูมิใจในการเรียนรู้ของลูกอยู่ที่

  • รอยยิ้มของลูกที่ปรากฎบนริมฝีปากที่เปื้อนคัพเค้กช็อคโกเล็ต
  • การได้ทำขนมร่วมกับเพื่อนๆ จากโรงเรียนอื่น
  • การได้ชั่งวัดตวงเนย แป้ง ไข่ นำ้ตาล หยิบจับของหลากรูปแบบ
  • ได้ตกแต่งหน้าเค้กเองตามจินตนาการ เลอะเทอะไปหมด
  • และได้บีบครีมหน้าเค้กกะประมาณน้ำหนักมือของตนเองตังหาก

... แล้ววันหนึ่งลูกคงสนุกกับการได้คิดค้นทดลองวิเคราะห์สูตรขนมเอง ...

หมายเลขบันทึก: 563128เขียนเมื่อ 3 มีนาคม 2014 11:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 เมษายน 2016 14:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

-สวัสดีครับอาจารย์

-ตามมาอ่านบันทึกนี้...น่ารักและน่าอ่านมาก ๆครับ

-ความฝัน..ยังมีอีกหลายอย่างที่อยากจะทำเช่นกัน..

-มีน้ำเย็น ๆ จากบ่อ...มาฝากอาจารย์ครับ..

* น้องต้นไม้ โชคดีจังเลยที่คุณแม่มีแนวคิดดีเช่นนี้ เพื่อความสุขของลูก...

* พี่ใหญ่ได้เลี้ยงหลานชาย ให้มีความสุขในการใช้ชีวิตอย่างที่เขาเลือก...เอาบันทึกนี้มาฝากค่ะ

ชีวิตที่เลือกได้อย่างมีความสุข

เป็นคุณแม่ตัวอย่างที่ดีมากๆค่ะ พี่แพรก็เป็นเช่นน้องกล่าว พอจบเทคนิคการแพทย์ก็ทำงานในโรงพยาบาลกรุงเทพทันที พอครบ 1 ปีขอเรียนต่อเพราะไม่ชอบแล้ว ทำได้แต่ไม่ชอบ บอกแม่ว่ารู้อย่างนี้เชื่อแม่ตั้งแต่แรกเริ่มที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็ดี ตอนนี้ไปเรียนต่อบริหารค่ะ วันนี้เปิดเทอมวันแรก แต่ก็ดีไปอยู่ไกลๆตอนโตไม่ห่วงมากได้เรียนรู้อีกหลายอย่างด้วยตัวเอง โดยเฉพาะอาหาร ถ้าไม่ไปอยู่ที่แคลิฟอร์เนียก็คงยังทำอาหารไม่เป็น

น้องต้นไม้ทำขนมแล้วคุณแม่ได้ชิมบ้างไหมค่ะ

อยู่ใกล้ๆกันก็ดีนะคะ จะได้ให้พี่ป่านช่วยสอนด้วย พี่ป่านชอบทำอาหารที่ทำด้วยแป้งมากไม่ว่าอาหารคาวหรือหวาน ตอนนี้เก็บเป็นอัลบั้มไว้ด้วยแล้วค่ะ พี่ป่านไม่ได้เรียนแต่คิดเองทำเอง แม่เป็นฝ่ายชิม แต่บางอย่างก็ไม่ให้แม่ชิมไม่ใช่อาหารสุขภาพแม่ นำมาฝากนะคะ

https://www.facebook.com/profile.php?id=1000076875...



ระหว่างทางของการค้นหาก็มีความสุขแล้วนะคะ ชื่นชมแนวคิดคุณแม่คุณพ่อค่ะ

...เรื่องของการพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยของเด็ก เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ...นักการศึกษา นักวิชาการต่างก็ร่ำเรียนกันมามากมาย... แต่การศึกษาของไทยยังต้องการเห็นเพียงคะแนนสูงสุดในแต่ละวิชานะคะ...เด็กๆในวัยเรียนจึงได้รับการปลูกฝังให้เรียนพิเศษอย่างหนักเพื่อแข่งขันกันสอบนะคะ

มีต้นไม้มาฝาก..เจ้าค่ะ...ยายธี

เป็นเรื่องน่ายินดีมากครับ

ทั้งสำหรับอาจารย์และลูกของอาจารย์ แบบนี้น่าจะมีความสุขในชีวิตการเรียนและชิวิตส่วนตนมากๆครับ

ลูก คือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของครอบครัวบางครั้งอาจจะเหนื่อยกับการดูแลเลี้ยงดูเขา แต่เราก็สุขใจ เราหายเหนื่อยได้โดยเขา มีกำลังได้ด้วยเขา มีความฝันได้ด้วยเขา.... มีคนเคยพูดไว้ว่า การเลี้ยงลูกเสมือนการปั้นแจกันหรือหม้อ มีการตระเตรียมดินส่วนผสมของดิน การบ่มพักดินให้มีคุณภาพ เพื่อที่จะได้นำดินนั้นออกมาปั้นเป็นรูปร่างที่เราคาดหวัง ประคับประคองไม่ให้เสียรูปทรง จนได้รูปทรงที่เราต้องการและคิดว่าสวยงามและดีที่สุด แล้วนำไปเผากับความร้อนเพื่อให้เกิดความแข็งแกร็งทนทานมากขึ้น จนได้แจกันหรือภาชนะที่เราต้องการ ยังไม่เสร็จนะครับ เราต้องเติมแต่งสีสรรค เพื่อให้มีความสวยงามโดดเด่นมากขึ้นเพื่อที่จะนำไปใช้ให้มีประโยชน์เหมาะสมกับ พิ้นที่ สถานที่และงานที่เหมาะสม กับแจกันนั้นๆ และทำประโยชน์ให้กับสังคมนั้นๆ ที่เราต้องอยู่ต่อไป แม้ว่าสักวันหนึ่งช่างปั้นแจกันหรือช่างปั้นหม้ออย่างเราจะละโลกนี้ไปแล้ว ตัวแทนสิ่งสวยงามของช่างปั้นแจกัน ก็ยังคงอยู่เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี ที่จะผลิตแจกันใบต่อๆไปอีกในอนาคต ให้สิ่งดีๆที่สุดแก่เขา และเขาจะให้สิ่งดีๆที่สุดกับสังคมช่วยให้ สังคมน่าอยู่ขึ้น คงไม่ว่านะครับ DRAMA ไปหน่อย

ดูแล้วน่าสนุก

เข้าใจว่าเด็กๆต้องชอบแน่ๆ

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ

เยี่ยมครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท