สุดคะนึง..จากหัวใจ..กระทบไหล่ศิลปิน


ความเป็นศิลปินของคุณยายธี..มีจุดเด่นที่ดีที่ไม่พยายามยัดเยียด"ศิลปะ"ให้ใคร แต่จะให้สั่งสม ซาบซึ้งและตระหนักกันเอง แบบค่อยเป็นค่อยไป การเรียนรู้แบบนี้ จะก่อให้เกิด "ปัญญา"ที่ยั่งยืน มองดูก็จะเป็นศาสตร์ทางตะวันตก แต่แท้จริงแล้ว..ความอดทน ความเพียร..ความศรัทธาและเมตตา..ก็เป็นของเราชาวพุทธนี่แหละ

หลายต่อหลายคน ในโกทูโนว์ บอกรัก คิดถึง และศรัทธา คุณยายธี แต่จะมีสักกี่คน..ได้ปุจฉาวิสัชนากับคุณยาย..ที่พูดเช่นนี้ เพราะวันนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณยายกรุณาให้เกียรติและให้โอกาสโรงเรียนขนาดเล็ก..มาเยี่ยมเยือน พร้อมกับคุณป้าวิ..ดังนั้น..ผมจึงหาญกล้าที่จะพูดจะคุยได้อย่างเต็มปากว่า..โชคดีมากๆ..จงอย่าได้อิจฉาเลยครับ..ครูบ้านนอกอย่างผม..จะได้กระทบไหล่ศิลปินบ้าง..ก็ถือว่าเป็นบุญยิ่งนัก

 

ประมาณว่า เกือบๆ ๒ ปีที่ผมอ่านบันทึกแรกของคุณยายธี..ก็คิดเดี๋ยวนั้นทันทีว่า คุณยายคนนี้..เธอ"บ่น"อะไร หูตาเราก็ไม่ค่อยดี เขียนตัวหนังสือก็ตัวนิดเดียว อ่านสองรอบก็ยังไม่รู้ว่าคุณยายจะบอกอะไรเรา..แต่พอเข้าใจได้ว่า..คุณยายคนนี้..ท่าจะอารมณ์ดี

 

ต่อมาคุณยายติดตามบันทึกผมและลงความเห็น..โน่น นี่ นั่น ทำให้ผมเริ่มสงสัย คุณยายน่าจะไม่ธรรมดา..จึงต้องรับไว้เป็นญาติผู้ใหญ่..เป็นคนในครอบครัว..ที่จะต้องใส่ใจในรายละเอียด หมายถึงว่า..จะอดทนอ่านบันทึกของคุณยายต่อไปครั้งละ ๓ รอบ อย่างตั้งอกตั้งใจเชียวล่ะ

 

อ่านไปอ่านมาก็เริ่มชิน จากนั้นก็อินในสาระ คนโง่ๆเซ่อๆ อย่างผมก็เริ่มฉลาดขึ้น ไม่อยากใช้คำว่าดวงตาเห็นธรรมหรอกนะ แต่เข้าใจได้ว่า..คุณยายธี ลึกซึ้งมาก ในเรื่องอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา...โดยไม่ต้องนำพาใครต่อใครเข้าวัด แต่ใช้ธรรมชาติเป็นตัวเชื่อมให้เข้าใจและเข้าถึงได้..ไม่ยาก แต่ต้องปล่อยวางก่อนนะ และอย่าไปยึดติดอะไร แบบสุดโต่ง แหกปาก คอโป่ง จบไม่ลง ปลงไม่เป็น..อันนี้ก็ไม่ใช่สไตล์คุณยาย

 

ตอนแรก..ก็ดีไปอย่าง..ไม่รู้ว่าคุณยายเป็นใคร อยู่ที่ไหน..เรียนจบอะไร..มีปัญหากับใครหรือไม่..อ่านบันทึกกันไป แบบใสๆ ว่างๆ ไร้ตัวตน..จนค่อยๆเกิดศรัทธา ที่คุณยายสอนให้นิ่งและแน่วแน่ในความคิดความอ่าน ในความนิ่งที่ปะปนความเหงานิดๆ ผสมกลมกลืนความเรียบง่ายและแฝงปรัชญาแนวคิด ที่พยายามรักษาสมดุลชีวิต ที่มีจุดหมายปลายทางที่ความสุข สงบและร่มเย็น นั่นเอง

 

ความเป็นศิลปินของคุณยายธี..มีจุดเด่นที่ดีที่ไม่พยายามยัดเยียด"ศิลปะ"ให้ใคร แต่จะให้สั่งสม ซาบซึ้งและตระหนักกันเอง แบบค่อยเป็นค่อยไป การเรียนรู้แบบนี้ จะก่อให้เกิด "ปัญญา"ที่ยั่งยืน มองดูก็จะเป็นศาสตร์ทางตะวันตก แต่แท้จริงแล้ว..ความอดทน ความเพียร..ความศรัทธาและเมตตา..ก็เป็นของเราชาวพุทธนี่แหละ

 

ด้วยวิชาความรู้ และงาน ตลอดจนทักษะชีวิตของคุณยายธี ใช่เลยครับกับคำว่า"ศิลปิน" ตัวจริงเสียงจริง ณ วันนี้ เรียบง่ายแบบมีคุณค่า เป็นคุณยายที่ชราแบบกล้าแกร่งเป็นวัยรุ่น..คิดและพูดชัดเจนและมีมุมมองที่ทันสมัย..ถ้าเป็นเพลง..แน่นอนอาจไม่ใช่เพลงร๊อค เพลงป๊อบ และไม่ใช่แนวสุนทราภรณ์ หรือจะว่าไปแบบลูกทุ่งร่วมสมัยที่ผมชอบแบบพี่มะเดื่อ อันนี้ก็ไม่ใช่คุณยายธี อีกนั่นแหละ

 

คุณยายเป็นเพลงแบบ..คลาสสิค เปียโน บรรเลง แผ่วๆช้าๆ ฟังอย่างตั้งใจและเรียนรู้ไป แบบบีโธเฟน ..ครับ..ได้สาระ และประทืองปัญญา ถ้าได้สนทนากับคุณยาย

 

อย่างไรก็ตาม..ก่อนที่คุณยายจะกลับไปยังต่างประเทศ..ผมใคร่ขอแนะนำบทเพลงลูกทุ่งบ้านเรา เข้ากันดีกับท้องนาสิงห์บุรีบ้านคุณป้าวิ กับบทเพลง..มนต์รักลูกทุ่ง

...จัดไป..ให้คุณยายธี มีความสุข สุขภาพแข็งแรง แบ่งปันบันทึกดีๆให้พวกเราต่อไป..นะครับคุณยาย

 

                                                                                        ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

                                                                                             ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๖

 

                                                                           

 

 

หมายเลขบันทึก: 556765เขียนเมื่อ 18 ธันวาคม 2013 20:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 ธันวาคม 2013 20:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

ยินดีกับคุณยายธีด้วยคร้า :):)

ดีใจกับท่านผอ คณะครู และ นักเรียนโรงเรียนบ้านหนองผือทุกๆคน นะคะ มีข้าวแล้ว (ปลูกเองซะด้วย) มีเครื่ื่องสีข้าว มีผักปลอดสารพิษ มีไก่ มีไข่ มีปลา และโรงอาหารใหม่ โอ้โฮ ครบวงจร เป็นโรงเรียนต้นแบบเลยนะเนี่ย ! อีเรียมไม่เคยเห็นที่ใหนมาก่อนเลย ทำได้งัย เซอไพร้สสสส

เสียดายครับ อาจารย์ขจิต มอบดอกไม้ให้คุณยายธีไปแล้ว ตั้งใจว่าท่านผอ.จะเป็นคนมอบดอกไม้เหมือนที่อาจารย์ โพส ก็อยากจะไปแสดงความยินดีด้วยและจะถือโอกาสเยี่ยมหนองผือ...

เสียดายจริงๆ

ดีใจกับผอ.ด้วยค่ะพี่ได้กระทบไหล่ศิลปินตัวจริง

ขอแสดงความยินดีกับ คุณยายธีที่ได้รับรางวัล และแสดงความยินดีกับ ผอ.ชยันต์ ที่ได้รับเครื่องสีข้าวค่ะ

ผอ.วาส

คิดถึงทุกท่านค่ะ

เพียงแต่ว่า......เวลายังไม่มีค่ะ

มาขอบคุณผอ เรื่องช่วยจัดการดอกไม้

แล้วจะติดต่อนะครับ

ขอบคุณมากๆครับ

คุณค่าของการ "ให้" คุณยายธี..ท่านคงตระหนักดี กับเครื่องสีข้าวโบราณ..คุณค่าของการได้รับ..สร้างจุดเริ่มต้นด้วยการปรับสถานที่ภายในแหล่งเรียนรู้ ให้เป็นส่วนหนึ่งของโรงสีข้าว..นักเรียนจะได้ปฏิบัติจริง...ต้อนรับปีใหม่ ๒๕๕๗ ที่จะมาถึงนี้...ขอบคุณทุกกำลังใจ..แล้วผมจะกลับมาเล่าให้ฟังอีกครั้ง..นะครับ

ขอแสดงความยินดีด้วยอย่างยิ่งครับ...

ชื่นชมและคาราวะด้วยใจ ครับ

ขอแสดงความชื่นชม ยินดี แด่...ทั้งผู้ให้และผู้รับเครื่องสีข้าวโบราณนะคะ...

-ขอแสดงความยินดีกับยายธีด้วยนะครับ..

-บรรยากาศอบอุ่นมากๆ ครับ

...อิจฉา ท่าน ผอ. ชยันต์ ... มาก ถึง มากที่สุด ... ได้เจอยายธีและท่านอื่นๆ นะคะ ....

ณ วันนี้ ก็คงจะพอพูดได้ว่า..บันทึกของผม..มีผู้เข้ามาอ่านสูงสุด..ดอกไม้มากที่สุด..ความคิดเห็นมิใช่น้อย แต่นั่นไม่สำคัญเท่า..เคารพในความคิดเห็นของตนเองและคนอ่านเสมอ..คุณยายถามว่า..จะให้เด็กสีข้าวจริงๆหรือ..ผมตอบ(ในใจ)คุณยายไปว่า..ตั้งแต่เป็นผู้บริหารโรงเรียนเล็กๆเด็กไม่ถึง๗๐ คน ยังไม่เคยทำอะไรเป็นเล่นเลย ทำจริงและยั่งยืนตลอด..จึงขอเรียนคุณหมอเปิ้ลและใครต่อใครว่า..อย่าอิจฉาผมเลยครับ..ที่มีโอกาสพบปะพูดคุยนักคิดนักเขียนและศิลปินไทย ที่มีถิ่นพำนักอยู่ต่างแดน ที่เป็นประเทศที่มีมาตรฐานทางสังคมและอุดมปัญญา..กับคุณป้่าวิก็ดีมากๆ ท่านนุ่มนวลและลุ่มลึกในทุกคำสอน..ครับ ผมก็อิจฉาตัวเองเหมือนกันว่า..ปีนี้ทำไมมีสิ่งดีคนดีเข้ามาไม่ขาดสาย..เพราะฉะนั้นเร่งทำความดีกันเถิด...เห็นผลกันชาตินี้นี่แหละครับ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท