Happy Ba...ถอดบันทึก 4 บล็อกเกอร์ (7)


   ใกล้จะหมดกำหนดส่งการบ้านการถอดบทเรียน Happy Ba แล้ว ผู้เขียนจะเหลือ บล็อกเกอรฺ อีกเพียง 6 ท่าน ก็จะส่งการบ้านทั้งหมดได้แล้ว วันนี้เป็นบันทึกรองสุดท้าย ไปเยี่ยมบันทึก ของอีก 4 บล็อกเกอร์กันเลยนะคะ

25. บันทึกจากคุณกานดาน้ำมันมะพร้าว ชื่อ     

ความสุขกับครอบครัวอบอุ่น อาหารยอด สิ่งแวดล้อมเยี่ยม บ้านแม่ตาด อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม  http://www.gotoknow.org/posts/510121

บันทึกชื่อยาว เรื่องราวการเดินทาง เพื่อการเตรียมกทหารมื้อเย็น ที่บ้านกัลยาณมิตร คุณ อักขณิช ที่บ้านแม่ตาด คุณการดาใช้เวลาเก็บเกี่ยวความรู้สึกสุขมาเขียนบันทึกนี้ ทำให้ผู้เขียนประทับใจ และเลือกที่จะถอดบทเรียนไว้เป็นที่ระลึกค่ะ

  วันนั้นเมนูเด็ดถูกใจที่แขกผู้มาเยือนเลือกเองคือ น้ำพริกกระปิ อาหารชนิดนี้ ต้องประกอบไปด้วยผักจิ้มนาๆชนิด จึงจะสมบูรณ์แบบ แล้วคุณกานดา ก็ได้ออกไปเสาะหาผักจิ้มน้ำพริก อย่างเพลิดเพลินเจริญใจ เริ่มตั้งแต่สิ่งที่ปลูกเองเป็นผักสวนครัว ตั้งแต่พริกขี้หนู มะเขือ เห็ดฟาง เท่านั้นยังไม่พอ ยังได้มีการพาออกไปเที่ยวชมทิวทัศน์ ทั่วท้องทุ่ง ชมไป เก็บผักปลอดสารพิษ ที่ขึ้นตามริมน้ำ ลำธาร นอกจากนี้ยังมีดอกไม้ริมทาง กองฟางหลังเก็บเกี่ยว ทำให้เกิดบรรยากาศที่ผ่อนคลายอย่างยิ่ง ได้ใช้จักรยานปั่นออกกำลังกายไปในตัว " หมู่บ้านแม่ตาด ไม่ว่าจะผ่านบ้านไหนจะมีดอกไม้พืชต่างๆปลูกหน้าบ้านริมรั้วทุกหลัง ชื่นชอบมากมีสีสันถึงแม้ต้นจะเล็กแต่ก็มีดอกให้ชื่นชมหลายสีหลายชนิด"

  เย็นวันนั้น เมื่อลองนับดูพบว่ามีผักจิ้มน้ำพริกในมื้อนี้ เกินสิบชนิดขึ้นไป หากซื้อหาก็คงต้องจ่ายเงินไปมิใช่น้อย ยังมีโปรตีนให้เด็กๆคือปลานิลทอด แค่นึกถึงอาหารมื้อนี้ ผู้เขียนก็แอบบลอบกลืนน้ำลายไปด้วยความอยากกินมากๆ

  คุณกานดายังได้บันทึกถึงความสามารถของเจ้าของบ้าน คือคุณอักขณิช นั้นเป็นนักเขียนที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ มีหนังสือที่เขียนขึ้นมา หลายสิบเรื่อง ใช้นามปากกา เช่น   วรมุณี ภิกขุ  ตะวันสีฟ้า ฯ และเขาได้มอบหนังสือให้เป็นที่ระลึกแก่คุณกานดา 1 เล่มด้วย

 
 ก่อนกลับบ้าน คุณยายได้นำของฝากกลับบ้านด้วย ก็เป็นพืชผักปลูกเองเช่นเคย มีฟักทองและบวบหอม  มิตรภาพน่าชื่นใจจังเลยค่ะ

 คุณกานดาสรุปท้ายเรื่องไว้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งตรงกับปัจจุบันที่รณรงค์ ให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการกินกันดังนี้ค่ะ

"

การที่ได้ออกไปเก็บพืชผักธรรมชาติไม่ว่าจะเดินไปหรือถีบรถจักรยาน เป็นการออกกำลังกายได้อย่างหนึ่ง มีการเคลื่อนไหวร่างกายได้มากกว่าปกติที่อยู่ที่บ้าน เช่นเดียวกับการทีเราทำอาหารกินเองบ้างในบางมื้อเราก็ต้องไปตลาดได้เดิน เลือกซื้อสิ่งต่างๆที่มาประกอบอาหารได้ หรือปลูกพืชกินได้เท่าที่ปลูกได้ ไว้เก็บเองทำเอง  การเดินไปเดินมาในครัวอาหารแต่ละอย่างแต่ละจานก่อนเสร็จก็ทำให้ร่างกายเรา ได้ประโยชน์แล้ว ถึงแม้จะไม่กว้างขวางอย่างที่พี่ดาไป เต็มอิ่ม 3 ชั่วโมง ก็ตามเพียงแต่เปลี่ยนปรับทำอาหารด้วยตัวเองอย่างครอบครัวของน้องเพลินบ้าง เลือกอาหาร ที่ปลอดภัยต่อร่างกาย หลีกเลี่ยง สิ่งแวดล้อมที่มีสารพิษ ก็จะทำให้สุขภาพดีได้เช่นกัน

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารเป็นสิ่งที่ทำได้ด้วยตนเอง

และเริ่มทำได้ทันที่หากเราตั้งใจที่จะทำเพื่อสุขภาพที่ดีในวันข้างหน้าเมื่อยามเราแก่ชราลง"

 เป็นบันทึกที่มีประโยชน์ ทั้งการได้อ่านความสุนทรีย์ และการที่จะเป็นต้นแบบให้เห็นถึงวิถีชีวิต ที่เาสามารถนำมาปรับปรุง ให้มีคุณภาพชีวิตได้ อย่างให้เกิดสุขภาพดีเลยค่ะ ขอบคุณคุณกานดาน้ำมันมะพร้าว เจ้าของบันทึกค่ะ

......................................................................

26. เป็นบันทึกที่อ่านแล้วน้ำลายไหลแน่เลย ที่ http://www.gotoknow.org/posts/533132

เสน่ห์แม่บ้าน....ลูกหลานเต็มเริน(เรือน) ของคุณ วอญ่า ผู้เฒ่า

 ในเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ที่บ้านคุณวอญ่า ได้มีลูกหลานเดินทางมาเยี่ยม มาพักกันหลายคืน จึงทำให้มีคนหลายรุ่นมาเจอกัน และที่สำคัญ เป็นความชื่นใจของเจ้าของบ้านยิ่งนัก ที่เห็นความเป็นพี่เป็นน้องอันอบอุ่น ความผูกพันธ์ที่แน่นแฟ้น ที่สำคัญไม่มีเหล้ายาในวงอาหารสักมื้อเลย

 คุณวอญ่า จึงเผยความจริง ที่ทำไม ญาติจึงชอบมาที่บ้่าน ทุกปีกันอย่างนี้ จึงพบว่าแท้จริงแล้ว มีบุคคลสำคัญคนหนึ่ง ที่เป็นขวัญใจในงานรวมญาติของทุกปี คือ แม่บ้านของคุรวอญ่านั่นเอง  ความมีเสน่ห์น้ำมือนางนั้น เป็นที่ทราบกันดี ไม่ว่าใครอยากรับประทานอะไร เธอจะทำให้หมด และรับประกันความอร่อยทุกอย่าง

  คุณวอญ่า ได้เล่าถึงอาหารว่างพิเศษประจำปีนี้คือ กระปิน้ำปลาหวาน ที่ปรุงหม้อใหญ่มากๆ ใครอยากเห็นสีสัน และขนาดหม้อ ต้องตามไปอ่านรายละเอียดเอาเองนะคะ แต่ที่ผู้เขียนชอบมากคือ บ้่นคุณวอญ่า มีผลไม้ ที่ใช้จิ้มกับกระปิน้ำปลาหวานหลากหลายชนิดมาก และทุกอย่างเพียงเดินเข้าไปในสวน ก็จะได้ผลไม้เหล่านี้ ติดมือออกมาทันที ยกตัวอย่าง มะม่วงดิบ มะปรางเปรี้ยว และสิ่งที่ผู้เขียนยังไม่เคยกินมาก่อนเลยก็คือ ละมุดอ่อน

  ขอนำรายละเอียดการกินละมุดอ่อนจิ้มกระปิน้ำปลาหวานมาบันทึกเก็บไว้นะคะ
"คาดว่าหลายคนคงยังไม่เคยทานลูกละมุดอ่อนกับ กะปิน้ำปลา  ควรระวังยางของละมุดมีพิษ ถูกผิวหนังจะพุพอง (ยางพอม)หั่นเสร็จแช่น้ำเกลือ ก่อนเอามรับประทาน จากนั้นฝานละมุดอ่อนเป็นชิ้นบางๆ"  แล้วจิ้มกระปิน้ำปลาหวาน อาหารเชื่อความสัมพันธ์ ที่กินแล้วจะรักพี่รักน้องตลอดไป

  ผู้เขียนเห็นแล้ว ความสุขในวงศาคณาญาติ ที่สืบต่อกันมายาวนานนั้น ต้องมีสิ่งที่เชื่อมสายใจกัน ที่นี่ ที่บ้านคุณวอญ่า มีพร้อมสรรพค่ะ จึงบอกไว้ว่า ความสุขคือของกล้วยๆ  ที่สรุปปิดท้ายไว้

 ปล. ละมุดอ่อนพอหาได้ แต่กระปิน้ำปลาหวานฝีมือเอก ทำอย่างไรจะได้กินหนอ

.............................................................................


27.
บันทึกถึงพี่ชาย ของคุณ ประกาย natachoei  ที่นี่ http://www.gotoknow.org/posts/502340

เป้นบันทึกเรื่องราวที่แสนดี ระหว่างคนสองคนคือคุณประกาย และพี่ชายที่นับถือคนหนึ่ง  ที่น่าอบอุ่นมากมาย

"ได้รู้จักกับพี่ชายคนหนึ่ง ทำงานในตำแหน่งระดับผู้บริหารขององค์กรแห่งหนึ่ง ที่สร้างชื่อเสียงและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในชุมชุม และเป็นองค์กรที่เกื้อหนุน ดูแลชุมชน ให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่อยู่รอบ ๆ สถานที่ทำงาน  และผู้บริหารท่านนี้คำนึงถึงเรื่องอนุรักษ์พลังงาน สิ่งแวดล้อม องค์กรสุขภาวะ happy 8  ความสุขในการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชา จนได้รับรางวัล  ผู้บริหารและสถานประกอบการดีเด่นในระดับประเทศด้านการอนุรักษ์พลังงานและ สิ่งแวดล้อม  ติดต่อกันมาหลายปี  "

  ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น พี่ชายคนนี้ ได้ถ่ายทอดประสบการณฺ์ และหลักในการเป็นผู้บริหารที่ดี จนเป็นที่รักของผู้ใต้บังคับบัญชารักและนับถือ ได้รับความร่วมมือจนองค์กรได้รับรางวัลดีเด่นระดับประเทศเป็นประจำ หลักที่น่าสนใจ พอจะเก้บมาเป็นฉบับย่อ ตามนี้นะคะ

 สำหรับการดูแลลูกน้องนั้น ต้องเรียนรู้อัธยาศัยของพวกเขาเป็นอย่างดีทุกคน จึงจะทำให้จ่ายงานได้ถูกคน  แต่การดูแลเอาใจใส่ลูกน้องนี้ หลักสำคัญต้องมีขอบเขตและระยะห่างพอประมาณ  หัวหน้าต้องมีความรับผิดชอบต่องานทั้งหมด การมอบหมายงานต้องมีการรับทราบที่เป็นลายลักษณ์อักษร เมื่อลูกน้องเกิดการผิดพลาด ต้องไม่ตำหนิดุด่าต่อหน้าใครๆ ต้องยกย่องชมเชยเมื่อลูกน้องทำงานด้วยความตั้งใจ ประสบความสำเร็จ เรียกว่าใช้คุณธรรมชั้นสูง คือให้อภัย เมตตา กรุณา และอุเบกขา ที่สำคัญอย่าลืมว่า "เมื่อเรามีความรู้สึกว่าไม่อยากให้หัวหน้าปฏิบัติกับเราอย่างไร น้องไก่ในฐานะหัวหน้าก็ไม่ควรที่จะปฏิบัติกับลูกน้องเช่นกัน  นี่คือสัจจธรรมง่ายๆ ที่หัวหน้าพึงปฏิบัติ "

  สำหรับการปฏิบัติตัวเมื่อเป็นหัวหน้าคนนั้น พี่ชายยังสอนน้องอีกด้วยว่า  "อย่าพูดในขณะที่โกรธ ให้มีสติ ความโกรธ  ความโมโห จะทำให้การ กระทำของเราที่แสดงออกมาจะไม่เกิดผลดี  ตัวเราจะหมดคุณค่า ความน่าเชื่อถือ ต้องรู้จักนิ่ง สงบ เก็บความโกรธ ความไม่พอใจไว้ข้างใน " และ "อย่าคิดไปเอง  ให้ถามให้เข้าใจ อย่าเก็บคำพูดของคนอื่นมาคิด  ถ้าน้องทำได้ก็จะทำให้น้องมีความสุข ไม่เครียด ไม่รู้สึกท้อ น้องจะมีพลังที่จะต่อสู้ต่อไป"

  ในส่วนของการดูแลตนเองที่ต้องขอให้มีมากขึ้นนั้น คือ " น้องตื่นขึ้นมาให้ยิ้ม กับคนในบ้านให้ได้ทุกวันถ้าน้องทำได้จะทำให้ชีวิตสมดุล  น้องจะมีความสุขทั้งในการทำงานและชีวิตครอบครัว      "

  อ่านไปยิ้มไป เหมือนมีได้ฟังพี่ชายสอนเราไปด้วย เพราะเนื้อหาในบันทึกนี้ ช่าวงเต็มเปี่ยมไปด้วยความห่วงใย เอาใจใส่ สอนทั้งศาสตร์และสิน ในการปกครองคน เหมือนมองเห็นทางเดินสู่ความสำเร็จ ที่ชัดเจน ไม่มีม่านหมอกปิดบังเลยค่ะ

 ขอให้คุณไก้ ประกาย มีความสุขกับการปฏิบัติงาน ปฏิบัติตน และช่วยเหลือสังคม ตามที่มีความตั้งใจทุกประการนะคะ

...................................................................................

28 .    http://www.gotoknow.org/posts/374103    บันทึกของคุณบุษยมาศ  เรื่อง 

น้ำใจ ร่วมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศไทย

   คุณบุษยมาศ เขียนถึงความมีน้ำใจ ที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยมาแสนนาน การยิ้มแย้ม การให้ความช่วยเหลือ การอ่อนน้อม อ่อนหวาน และมีสัมมาคารวะ ต่างประเทศชื่นชมมาตลอด แต่ปัจจุบัน ความมีน้ำใจกำลังเลือนหายไปจากประเทศไทยเราค่ะ  อาจจะเป็นอิทธิพลจากประเทศอื่น ที่คนสมัยใหม่ซึมซับมาก็เป็นได้ จึงอยากส่งเสริมให้วัฒนธรรมการมีน้ำใจต่อกัน ได้เกิดขึ้นในชาติอย่างเป็นเอกลัษณ์อีกครั้ง เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากค่ะ เพราะไม่ว่าจะชนชนาติใด ศาสนาใด ล้วนสอนให้เป็นคนดีมีน้ำใจทั้งสิ้น เพราะจะเป็นประโยชน์ในการเกื้อกูลกันของสังคมนั้นๆ

 
น้ำใจ ตรงข้ามกับการเห็นแก่ตัว ที่คิดแต่จะเอาประส่วนตน อิจฉาริษยาอยากเห็นแต่ความไม่ดีของคนอื่น นอกจากนี้คุณบุษยมาศ ยังได้รวบรวมหลักการฝึกปฏิบัติ ให้เป็นคนมีน้ำใจ เพื่อให้เหมาะเป็นคู่มือสำหรับทุกๆคนด้วยค่ะ

การฝึกฝนตนเองให้เป็นคนมีน้ำใจ...ทำได้ดังนี้...

  จงเอาใจเขามาใส่ใจเรา  คิดถึงหัวอกคนอื่นและแสดงต่อผู้อื่นเหมือนที่เราต้องการให้คนอื่นแสดงต่อเรา

    จงเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ

    จงแสดงน้ำใจกับคนรอบข้าง

  จงเสียสละกำลังทรัพย์  สติปัญญา กำลังกายและเวลาให้แก่ผู้เดือดร้อนที่ต้องการพึ่งพาอาศัยเรา โดยที่ไม่หวังผลตอบแทน

    จงมีนิสัยเอื้อเฟื้อ  ช่วยเหลือเกื้อกูลต่อเพื่อนบ้าน

    จงให้ความรักแก่คนอื่น ๆ และให้ความร่วมมือเมื่อเขาขอร้อง หรือรู้ว่าเขากำลังลำบากและต้องการความช่วยเหลือ

  ใครที่ฝึกตนเองเป็นผู้มีน้ำใจงามแล้ว ย่อมส่งผลถึงจิตใจที่เปี่ยมสุข มีเมตตา มีใบหน้าอิ่มเอิบน่าคบหา และย่อมประสบแต่ความสุขชั่วนิรันดร์

  แหม อ่านแล้ว ต้องสำรวจตัวเองเลยค่ะ ว่ายังขาดข้อไหน ปรับปรุงแก้ไขตัวเองอย่างไรเพิ่มเติม ก็อย่างเป็นตัวแทนของประเทศไทย ในการเป็นคนคนไทยต้องมีน้ำใจค่ะ

ขอบคุรบันทึกอันทรงค่าบันทึกนี้นะคะ คุณบุษยมาศ

.......................................................................


หมายเลขบันทึก: 540912เขียนเมื่อ 29 มิถุนายน 2013 21:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 มิถุนายน 2013 21:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

เป็นบันทึกคุณภาพทุกท่านเลยนะคะ

ขอบคุณบันทึกดีๆ ที่ให้ทั้งความบันเทิงและข้อคิดนะคะ

ขอบคุณคุณหมอรุ่งด้วยค่ะ ที่กรุณามาถอดบันทึกให้อ่านอีกครั้งค่ะ

ยังติดตามอ่านอย่างต่อเนื่องค่ะ สุดยอดของการรวบรวมเหตุการณ์ เล่าเรื่อง ที่มีความสุขทุกเรื่องของสมาชิก นะคะ ชอบทุกท่านที่ได้เลือกมาให้คุณพี่นำมาบันทึกค่ะ

ถอดได้เหมือนอ่านจากเจ้าตัวเลยครับ.. 

 แต่ละบันทึกที่ถอดบทความได้อย่างประทับใจ

ที่คุณหมอช่างอ่าน ละเอียด สังเกต  ฯ อ่านแล้วยิ้มไปด้วย

ได้อย่างเยี่ยมเลยค่ะ  ทำให้มีความสุขอีกครั้ง ขอบคุณมากนะคะ

สวัสดีค่ะคุณBright Lilly

  มาพร้อมกับสิ่งสวยๆงามทำให้ชื่นใจเสมอ

เสียดายไม่ได้ถอดบันทึกของกันและกัน

คิดถึงนะคะ

สวัสดีค่ะคุณลูกหมูเต้นระบำ

มาตามอ่านด้วยความสุขนะคะ

ต้องขอบคุณเป็นอย่างมาก

ช่วงนี้งานเยอะไปหน่อยเลยตอบช้าค่ะ

สวัสดีค่ะคุณกานดาน้ำมันมะพร้าว

ต้นฉบับเขียนไว้ดีมากๆค่ะ

ดิฉันอ่านบันทึกละหลายเที่ยวมาก

จนเข้าใจเนื่องราวและสิ่งสำคัญของบันทึกนั้น

บางครั้งก็เก็บมาไม่หมดต้องขออภัยทุกท่านด้วยนะคะ

ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและดอกไม้ทุกดอกที่เป็นกำลังใจมาค่ะ

สวัสดีค่ะคุณkrutoom

ตอบข้ามไปหน่อยนะคะ

เขียนจากมือถือจอแคบ

การที่เขียนบันทึกแล้วมีผู้ติดตาม

ต้องขอบอกว่าปลื้มใจมากค่ะ


ขอบคุณค่ะ

ปัจจุบัน "น้ำใจ" ของคนไทย (บางคน) หาได้ยากจริง ๆ ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณบุษยามาศ

ใช่แล้วค่ะ

ขอสนับสนุนบันทึกท่สร้างความจรรโลงจากน้ำใจของทุกท่านค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท