ยามร้อนนี้นำดื่มสารพัดอย่างคงขายดี ระวังน้ำตาลในน้ำดื่มแต่ละอย่างมากๆไว้ด้วย น้ำตาล มีรสหวาน ทำให้น้ำดื่มอร่อยชื่นใจมากขึ้น แต่สมุนไพรบางชนิดไม่มีรสหวาน หรือมีรสเปรี้ยว รสขมมากหากเราทำเอง ก็ต้องใส่น้ำตาล การทำเองทำให้กำนดความหวานได้ แต่ผู้ขายคงใส่มากกว่าปกติ การซื้อมาดื่มจึงควรระวังไว้บ้างดีกว่าไม่ระวังเลย
บัวบก สมุนไพรที่หาได้ไม่ยากปลูกเองได้ เมื่อนึกถึงบัวบกเรามักจะนึกเสมอว่า แก้ช้ำใน หรือล้อเล่นให้ได้ยิ้มบ้างเวลาพบคน อกหักซึมเศร้า บอกให้กินน้ำใบบัวบก ซึ่งก็น่าจะได้ผลจริงๆถ้าหาได้เวลาที่พบคนอกหัก เพราะบัวบก มีสรรพคุณ บำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง ฯลฯ อย่างน้อยดื่มแล้วทำให้สดชื่นได้จริงๆ สรรพคุณประโยชน์มีดังนี้
บัวบก จำปาเครือ, กะบังนอก(ลำปาง),มัฌฑูกะบรรณี ( สัณสกฤต), เตียกำเช่า ,ฮมคัก (จีน),
ผักหนอก (เหนือ) , Asiatic Pennywort ,Tiger Herbat Hydrocotyle
ทั้งต้น รสหอมเย็น บำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง แก้ช้ำใน แก้อ่อนเพลีย ขับปัสสาวะ รักษาบาดแผล
แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้โรคปวดศีรษะข้างเดียว แก้โรคเรื้อน แก้กามโรค แก้ตับอักเสบ
เมล็ด รสขมเย็น แก้บิด แก้ไข้ แก้ปวดศีรษะ
( ขอบคุณ สรรพคุณบัวบกจากหนังสือเภสัชกรรรมไทย ฯโดย วุฒิ วุฒิธรรรมเวช)
น้ำใบบัวบก
วิธีทำ
การล้างผักให้สะอาด http://www.gotoknow.org/posts/320284
ใช้บัวบก ทั้งต้นล้างให้สะอาดโดยแช่น้ำใส่เกลือ หรือด่างทับทิบ หรือผงฟู ฯ
เช่นเดียวกับการล้างผักอื่นๆ บัวบกควรล้างแช่หลายๆน้ำเพราะส่วนใหญ่บัวบกเป็นพืชที่อยู่บนดินที่ชื้นแฉะ เมื่อล้างสะอาดดีสลัดดน้ำแล้ว ใส่โถปั่น ใส่น้ำต้มสุกที่ไม่ร้อน หรือน้ำดื่มสะอาดพอประมาณกับการปั่นแต่ละครั้ง ปั่นให้ละเอียดจะเพิ่มความหวานพอประมาณด้วยน้ำเชื่อมหรือน้ำตาลใบหญ้าหวาน ฯแล้วแต่ชอบหรือจะใส่ความหวานตอนจะดื่มก็ได้ แล้วเทกรองบนผ้าขาวบางหรือตะแกรง ถ้าไม่มีเครื่องปั่นใช้ตำด้วยครกแล้วผสมน้ำที่ใช้ดื่มคนให้เข้ากันแล้วกรอง
กากบัวบกที่เหลือจากกรองน้ำออกแล้ว
น้ำบัวบกที่ใช้ทั้งต้นสีจะเขียวไม่สวย
เพราะมีสวนราก ลำต้นที่ไม่ใช่สีเขียวด้วย แต่ถ้าจะทำใช้แต่ใบก็ได้
ใส่แก้วดื่มได้ทันที่
ถ้าทำมากใส่ขวดแช่เย็น หากต้องการใส่น้ำแข็งก็เพิ่มความหวานมากขึ้น
ถ้าดื่มโดยไม่เติมความหวานได้ก็จะดีมาก
บัวบก บางคนทำโดยวิธีต้มให้สุกการต้มทั้งต้นก็จะเหมือนเช่นเดียวกับการต้มสมุนไพรอื่น แต่โดยมากแล้วบัวบกจะดื่มกันแบบใช้สดไม่ต้ม หากเรานำน้ำที่ปั่นไปต้มให้สุกจะเป็นดังภาพคืือสีเขียวจะจับเป็นก้อนเช่นเดียวกับการนำน้ำใบเตยที่ปั่นมาต้ม ซึ่งไม่น่าดื่ม และไม่หอมเท่าการทำสด
บัวบกนั้นเรานำมาล้างให้สะอาดตากแดดหรืออบให้แห้งก็ได้ นำมาตำบดเป็นผงชงดื่มหรือใส่แคปซูลก็ได้ เก็บไว้ได้นาน สะดวกพกพาไปไหนได้ เป็นสมุนไพรที่ไม่ใช้ดอกไม้หอม แต่สรรพคุณเหมือนดอกไม้หอมบางชนิดที่บำรุงหัวใจ หาต้นมาปลุกเป็นสวนครัวในบ้านเช่นเดียวกับการปลูกสะระแหน่ ฯได้เด็ดสดๆมาทำน้ำดื่มยามอากาศร้อนๆใกล้สงกรานต์นี้
ด้วยความปรารถนาดี กานดา แสนมณี
ดูแล้วน่ากินมาก แต่บางครั้งมีกลิ่นเหม็นเขียว
ทำอย่างไรจะลดกลิ่นได้ครับ
สวัสดีค่ะน้องอาจารย์ขจิต
กลิ่นที่เรียกว่า เหม็นเขียว คือปัญหาที่ทำให้หลายๆคนไม่ยอมดื่มน้ำใบบัวบก แต่หลายคนก็ชอบกลิ่นว่าหอมดี สำหรับพี่ดาไม่มีปัญหาดื่มได้ สิ่งที่กลัวคือ การล้างไม่สะอาดของผู้ทำหรือแม้แต่ทำเอง การทำให้กลิ่นที่น้องเรียกว่า เหม็นเขียว น้อยลง พี่ดาขอแนะนำ คงต้องเพิ่มในน้ำเชื่อม โดยทำน้ำเชื่อมใส่ใบเตย หรือไม่ต้องการใส่ความหวานก็ต้องต้มน้ำใบเตย แล้วนำน้ำใบเตยไปใส่แทนน้ำเปล่าตอนปั่น ที่ขายทั่วไปบางผู้ทำจะใส่น้ำตาลหรือน้ำเชื่อมมาก น้ำตาลความหวานมากจะช่วยลดกลิ่นของบัวบกได้ หยุดสงกราต์นี้ชวนคุณแม่ทำหรือทำให้คุณแม่ดื่มนะคะ
-สวัสดีครับ...
-น้ำใบบัวบกสดชื่นยามร้อน ๆ ครับ...
-คนที่อกหักชอบบอกว่า"กินน้ำใบบัวบก" แก้ช้ำใน 55
-สรรพคุณมากมาย ผมชอบนำมาจิ้มน้ำพริกครับ
-ขอบคุณครับ....
พี่กานดาครับ รู้ว่ามันดีแต่ผมไม่ค่อยชอบกลิ่นมันนะครับพี่ แต่เป็นของดีจริงๆจะพยายามกินให้ได้ครับ ขอบคุณครับที่เอามาแบ่งปันครับพี่
น่าทาน อร่อยหอมชื่นใจ การเหม็นเขียวใส่ตะไคร้ หรือ ใบเคยแก้ได้ป่าวน้อพี่ดา ยังไม่เคยลอง อยากแนะนำเมนู บัวบก(ผักหนอก) นำไปแกง แบบแกงผักเจียงดาใส่ปลาแห้งก็อร่อยมากๆนะคะ
สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่ดา
ขอบคุณความรู้ดีดีที่มีให้น้อง Coppy ทุกวันนะคะ คริคริ
มาขอขมาสิ่งใดล่วงเกินพี่ดาไป วันนี้ขอ"สระเกล้าดำหัวปี๋ใหม่เมือง" ด้วยความเคารพค่ะ
สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะพี่กานดา
สวัสดีปีใหม่ไทยครับ ขอบคุณในสาระดี ๆ ครับ
สวัสดีครับ คุณ
กานดาน้ำมันมะพร้าว |
วันนี้ตอนเช้า ๆ ดื่มน้ำกระชาย ครับ