หลังจากส่งรถเข้าอู่เพื่อตรวจเช็คตามปกติเช้าวันนี้ ปรากฎว่ามีอะไหล่รถยนต์บางชิ้นที่ต้องเปลี่ยนและวันเสาร์ก็เป็นวันทำงานครึ่งวันของบรรดาช่างซ่อมรถทั้งหลาย เราจึงต้องทิ้งรถไว้ที่อู่และจะกลับมารับรถในวันจันทร์
อู่ซ่อมรถดังกล่าวตั้งอยู่แถบกลางเมืองในเขตอุตสาหกรรมขนาดย่อมที่เรียกว่า ซินหมิง (Sin Ming Industrial Park) เราจึงชวนกันเดินสำรวจบริเวณใกล้เคียงก่อนนั่งรถเมล์กลับบ้านซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมือง ภายในเวลาไม่ถึงห้านาทีเราก็เดินมาถึงสวนสาธารณะในใจกลางเมืองที่เรียกว่าสวนสระน้ำบิชาน (Bishan Pond Garden)
สวนสาธารณะแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างเขตชุมชนที่เรียกว่าบิชาน (Bishan) และอังโมเกียว (Ang Mo Kio) ซึ่งเป็นชุมชนที่ก่อตั้งในอันดับแรกๆ ของการสร้างเมืองสิงคโปร์เมื่อสี่สิบกว่าปีมาแล้ว ชุมชนนี้จึงมีบ้านเรือนอยู่ค่อนข้างหนาแน่น ในแถบนี้จึงมีผู้คนสูงอายุอาศัยอยู่มาก สวนสาธารณะแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1988 และได้รับการปรับปรุงเพิ่งเสร็จไปเมื่อไม่นานมานี้ ที่นี่จึงเปรียบเสมือนปอดขนาดใหญ่ของผู้คนในละแวกนี้
แม้แดดจะค่อนข้างแรงเพราะท้องฟ้ามีเมฆเพียงบางๆ ปกคลุมแต่ก็ไม่รู้สึกร้อน ลมเย็นๆ พัดโชยอยู่อย่างสม่ำเสมอ เราเดินไปตามทางเดินริมลำธารเล็กๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำคาลาง (Kalang River) ซึ่งทอดตัวผ่านสวนสาธารณะแห่งนี้อย่างอ้อยอิ่ง แต่ทว่าในยามฝนตกหนักและน้ำหลาก ลำธารเล็กๆ นี้ ได้ถูกวางแผนให้เป็นท่อระบายน้ำฝนออกสู่แม่น้ำคาลางและลงสู่ทะเลได้เป็นอย่างดี....นี่แหละแม่น้ำที่ทั้งอ่อนโยนและห้าวหาญในตัว
สวนนี้ยังมีสระบัวอยู่กลางสวน เพราะสระบัวนี้เองที่ทำให้สวนแห่งนี้มีชื่อว่า สวนสระน้ำ ว่ากันว่าอีกฟากหนึ่งของสวนจัดเป็นแหล่งสันทนาการและร้านอาหาร แต่เรายังไม่ได้ไปเดินในแถบนั้น
...
...
ผู้คนต่างมาเดินเล่น มาออกกำลังกาย บ้างก็พาสุนัขมาเดินเล่น มาปั่นจักรยาน เล่นสเก็ตบอร์ด คนแก่หลายกลุ่มมานั่งคุยกันอย่างออกรส ถึงแม้จะมีหลากหลายกิจกรรมแต่ก็ไม่ได้ทำให้สวนขนาด 62 เฮ็กเตอร์นี้ดูพลุกพล่าน
ในวันฟ้าใสอย่างวันนี้ การได้นั่งใต้ต้นไม้ ริมลำธาร ดูสายน้ำที่ไหลช้าๆ ผ่านโขดหิน ชมความเป็นไปรอบตัว ฟังเสียงลมกระทบใบไม้ดังหวิวๆ ช่างผ่อนคลายเหลือเกิน นกพื้นบ้านและนกอพยพหลายๆ ชนิดต่างมาอาศัยลำธารนี้เป็นอีกหนึ่งแหล่งอาหารที่สำคัญ กิ้งก่าหลายๆ ชนิดเกาะอยู่ตามต้นไม้ มองไปทางไหนฉันเห็นแต่สิ่งมีชีวิตที่เกื้อกูลกันอยู่
ภาพรอยยิ้มของคนแก่หลายๆ คนที่นั่งคุยกัน ชี้ชวนกันดูปลาที่แหวกว่ายในลำธารในสวน เด็กๆ หลายคนกำลังตื่นเต้นกับการเดินบนโขดหินริมน้ำ ฉันชักเริ่มไม่แน่ใจว่าคนอมทุกข์ทั้งหลายที่ช่วยสร้างสถิติว่าสิงคโปร์เป็นเมืองที่ผู้คนไม่มีความสุขที่สุดนั้นไปอยู่ไหนกันหมด เท่าที่มองไปรอบๆ ท่ามกลางบรรยากาศดีดีเช่นนี้ ความสุขเหมือนจะลอยมาตามสายลม...
บางความสุข ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องหา เพียงแค่พาใจเราไปสัมผัสก็พอ และการเปิดใจให้ได้รับความสุขเหล่านี้คงเป็นทักษะชีวิตที่ต้องฝึกฝนอยู่เสมอ
อยากให้บ้านเรามีสวนที่เป็นสวนสาธารณะเล็กใหญ่เต็มเมืองอย่างที่นี่บ้างจัง...
นำภาพสวนสาธารณะ Bishan Park และสรรพสัตว์เท่าที่เก็บภาพได้มาฝาก
วันนี้ไปรับลมด้วยกันนะคะ....
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
Spring Waltz - Yiruma
ต้นไม้ให้.. ความร่มรื่น.. แก่ทุกชีวิต
นกตัวนิด.. ให้เสียงเพลง.. กล่อมโลกหล้า
คิดถึงเพลงนี้ครับอาจารย์ ขอบคุณครับ
อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณปริม
งดงาม เช่นเดิมค่ะ
ขอบคุณนะคะที่นำมาฝากแบ่งปัน :))
อ่าน ดู ฟัง แล้วรื่นรมย์ครับ
ขอบคุณที่แบ่งปันความสุขแห่งธรรมชาติที่งดงามค่ะ
สวยงามมากค่ะ เพลงเพราะๆ มีความสุขในวันหยุด วันพระ ค่ะ
เห็นการจัดวางผังเมืองของสิงคโปร์
แล้วก็หวนคิดถึงบ้านเราว่า
ทำไมถึงจัดไม่ได้แบบนี้บ้าง
โดยเฉพาะเชียงใหม่
ที่เริ่มเละเทะแล้วตอนนี้
เมืองขยายจนสุดดอย
จากการหนีและอพยพของผู้คนจากทางใต้ (เชียงใหม่)
สงสารเมืองครับ ;)...
แต่ละครั้ง มีความประทับใจไม่ซ้ำกันเลย
สวยงามน่าชมน่ารักไปหมด ขอบคุณมากนะคะ
บรรยากาศเป็นธรรมชาติ สวยงามมากค่ะ สัตว์ก็น่ารัก
ภาพนี้ให้ความรู้สึกขัดแย้งแต่ก็ลงตัวนะ
เย็นเย็นลมหนาวปลายมกรา
ลมพัดพายอดไม้สั่นอยู่ไหวไหว
กอดอกชมไม้ชมนกสบายใจ
สดใสยามเช้าชุ่มชื่นจริง
ขอบคุณบทเพลงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรักต่อผืนโลกค่ะ
สุขสงบในวันทำงานค่ะท่านอาจารย์นุ
สวัสดียามเช้าค่ะคุณหนูรี
ห่างหายไปหลายวันเพราะเดินทางไปนั่นไปนี่ แต่พอมีโอกาสก็เลยนำภาพความสงบงามที่ชอบมาแบ่งปันค่ะ
คุณหนูรีสบายดีนะคะ :)
ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะคุณพ่อน้องซอมพอ
บรรยากาศความสงบงามเรียบง่ายที่ยังมีอยู่ใจกลางเมือง ท่ามกลางเมืองที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนห้าล้านกว่าคนที่นี่
ทุกที่ยังพอมีช่องว่างแห่งความสงบนะคะ
ขอบคุณค่ะ
มาตรวัดความสุขอยู่ที่ใจสัมผัส
สวัสดียามเช้าวันจันทร์ค่ะคุณพี่ใหญ่
ธรรมชาติที่มีน้อยนิดที่ยังพอมีี พอเห็น ก็เลยนำมาแบ่งปันค่ะ นับวันสิ่งเหล่านี้จะยิ่งหายากขึ้นทุกทีค่ะ
ขอบคุณคุณพี่ใหญ่ที่มาอ่านและชื่นชมความงามของธรรมชาติค่ะ
...สวัสดีค่ะอ.ปริม;))) ขอบคุณบันทึกที่งดงามนำใจสงบเย็นค่ะ...
สวัสดีเจ้าพี่ครูตูม
ที่นี่บ้านเฮาฮ้องว่า ดักหูเย็นใจ๋เจ้า อยากให้บ้านเรามีสวนสาธารณะแบบนี้ทุกหมู่บ้านทุกตำบลเจ้า ท่าจะม่วน ;))
ฝันดีเจ้า
ท่านอาจารย์วัสคะ
บ้านเรามีที่ดินส่วนตัวกันเยอะค่ะ ที่ดินส่วนรวมของรัฐไม่ค่อยมี จะจัดวางผังเมืองกันทีก็คงมี stake- holder ให้บริหารกันเยอะหน่อยค่ะ
ซึ่งคงต้องใช้เวลาและเงินมากหน่อย วิสัยทัศน์ของผู้นำคงต้องกว้างไกลจริงๆ ค่ะ จึงจะทำได้
คงได้แต่หวังให้ทุกบ้านปัดกวาดบ้านเรือนตัวเอง เผื่อเมืองทั้งเมืองจะดูดีขึ้นนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะคุณครูอ้อย
สิงคโปร์วันนี้อาจมีผู้คนมากขึ้นแต่ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปมากมายค่ะ ครูอ้อยต้องจำได้แน่นอนค่ะ
อย่างน้อยที่นี่ก็ยังมีความทรงจำดีดีให้ครูอ้อยได้ระลึกถึงนะคะ
ถ้าคุณครูมาเที่ยวอีก ปริมจะชวนคุณครูไปเดินเล่นค่ะ ;))
ราตรีสวัสดิ์นะคะ
สวัสดีค่ะพี่ดา
เพราะผู้คนอยู่ตึกที่แออัด รัฐจึงต้องมีสวนสาธารณะให้ผู้คนได้ยืดเส้นยือสาย หายใจให้โล่งค่ะ อีกยี่สิบปีไปข้างหน้าเขาบอกว่าจะมีสวนสาธารณะทุก 400 ตารางเมตรค่ะ ไม่รู้จะเป็นยังไงเหมือนกันค่ะ
ขอบคุณค่ะพี่ดา
สวัสดีค่ะคุณบุษยมาศ
จากสวนสาธารณะที่คนสร้างขึ้นมา กลับกลายเป็นสวนที่ดูดีเป็นธรรมชาติมากค่ะ ดีจที่เห็นสัตว์เล็กสัตว์น้อยค่อนข้างเยอะค่ะที่นี่ ชอบมากเช่นกันค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะคุณมะเดื่อ
แทบทุกสวนสาธารณะจะถูกแวดล้อมด้วยตึกรามบ้านเรือนเสมอค่ะ รัฐมีนโยบายจะให้เมืองอยู่ในสวนค่ะ จะให้มีสีเขียวให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้
มันจึงกลายเป็นความขัดแย้งที่นานๆ เข้าก็จะกลายเป็นความเคยชินและดูลงตัวในที่สุดค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะคุณพิชัย
อารมณ์แจ่มใสจริงๆ ค่ะ ลมเย็นๆ แดดออก เสียงนกร้อง ท่ามกลางสีเขียวขจีค่ะ
ฝันดีนะคะคืนนี้
สวัสดีค่ะคุณแสงแห่งความดี
ความสุขก็เหมือนออกซิเจน มีอยู่ทุกที่ถ้าเราเห็นถึงความสำคัญนะคะ
ขอบคุณที่มาทักทายค่ะ
สวัสดีค่ะคุณน้อย
ขอบคุณที่มาให้กำลังใจนะคะ ปริมไม่ได้ไปเยียมเยียนคุณน้อยเสียนานเลย สบายดีนะคะ
มีความสุขในวันดีดีอีกวันค่ะ
ขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านที่แวะเวียนมาอ่านและให้กำลังใจบันทึกนี้นะคะ
สุข สงบ เย็นในวันดีดีนี้นะคะ
;))