Happy ba ความสุขที่ออกแบบได้

เมื่อวานได้ไปพบกับผู้ใหญ่ที่เคารพท่านหนึ่ง คุยกันหลายเรื่อง ไปๆมาๆ มาลงที่เรื่อง happy ba ผู้ใหญ่ท่านนี้สนใจมากขนาดจะสมัคร gtk เพื่อ มาตามติด happy ba ท่านให้ชลัญอธิบายความหมายให้พอสังเขป อ๊ะ..งานเข้าล่ะซิคราวนี้ .....

จริงๆชลัญก็ไม่เข้าใจนัยยะของ happy ba ชัดเจนมาก ไอ้ที่เข้าใจก็ไม่แน่ใจว่า ถูกตามที่ครูว่าหรือเปล่า แต่เอาเป็นว่าชลัญสรุปให้ท่านฟังจากแนวคิดในมุมมอง สุขอย่างชลัญก็แล้วกัน

จากการไปเสวนากันที่บุรีเทวีพอได้ไอเดียเลาๆว่า ความสุขของคนเรานั้น เกิดขึ้นได้จากการมองผ่านความรู้สึก และการปรุงแต่งของจิตที่ เกิดขึ้นใน 2 มิติ คือมิติภายใน และมิติภายนอก

มิติภายในนั้นเกิดจากกระบวนการคิดที่สัมผัสความรู้สึกที่เป็นกุศลที่เบ่งบานในใจของเราเอง ทำให้ความรู้สึกนึกคิด หรือการกระทำออกไปจากจิตที่บริสุทธิ์ เป็นกุศล เกิดความอิ่มเอิบภายในใจ เกิดความสุข

มิติภายนอกนั้น เกิดจากการสังเกต สิ่งรอบตัวเราด้วยความ ช้าๆ ละเมียด ผ่านการรับรู้ทางการมองเห็น ได้ยิน ได้สัมผัส ได้กลิ่น ได้รส ทำให้จิตปรุงแต่ง ให้เห็นซึ่งความงามของสิ่งเหล่านั้น ส่งผลให้เราเกิดความสุข อิ่มเอิบใจ นั่นเอง

ซึ่งในความสุขทั้งสองมิตินั้น จะเป็นของคนแต่ละคน ไม่มีแพทเทิร์น เป็นความสุขที่ทุกคนออกแบบเอง

ปล. อธิบายท่านผิดถูกอย่างไร อ.นุช อ.ศิลา และสมาชิก happy ba ช่วยเพิ่มเติมด้วยค่ะ

ท่านผู้ใหญ่ท่านนี้ ถามชลัญกลับว่า อย่างเราเป็นพยาบาลเห็นแต่คนเจ็บนี่ เราจะสัมผัสสุขได้อย่างไร ชลัญตอบท่านว่า ได้ซิ ชลัญเห็นทุกวัน เช่น เห็นความรัก ความห่วงใย ที่แม่แสดงต่อลูก ที่ป่วยที่ ลูกแสดงต่อ พ่อแม่ที่ป่วย ที่แพทย์พยาบาลกำลังให้บริการคนไข้ ด้วยความใส่ใจ เห็นน้องเวรเปล เฝ้าดูแลผู้ป่วยที่ไม่มีญาติ น้องผู้ช่วยพยาบาลให้การช่วยเหลือเวลาเราร้องขอ นี่ไงความสุขที่ชลัญสัมผัสได้ทุกวัน มีอีกมากยกตัวอย่างไม่หมด ......ท่านบอกท่านทึ่งในมุมมองของชลัญมาก ท่านว่าชลัญเปลี่ยนหลังจากไม่ได้ทำงานด้วยกันมา สิบกว่าปี จึงให้ชลัญเล่าว่า อะไรที่เปลี่ยนแนวคิดและมุมมองในการใช้ชีวิตของเราให้ positive ได้ทุกวัน ชลัญบอกท่านชมมากไปไม่ขนาดนั้นหรอก จึงสรุปกระบวนการคิดให้ท่านฟังคร่าวๆนั่นเอง

จริงๆความทุกข์ของทุกคนนั้นชลัญว่า สาเหตุที่มามันไม่แต่ต่างกันหรอก เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์มันก็มาจาก กิเลสในใจคนมีอยู่ 3 ตระกูลใหญ่ คือตระกูลโลภะ โทสะ โมหะ กิเลสแต่ละตระกูลก็มีหลายระดับ ตั้งแต่ที่หยาบมากๆ เห็นได้ชัดเจนเหมือนขยะมูลฝอย และเล็กลงเหมือนฝุ่นผง จนถึงที่ละเอียดมากๆ เหมือนธุลี บางคนเจอแล้วก็ยังไม่รู้ว่าเป็นกิเลส มองไม่ออก และ อีกอย่างมันเกิดจากจิตที่ปรุงแต่งต่อยอดของเราเองด้วย

ปัญหามันจึงเกิดจากการปรุงแต่งนั่นแหล่ะ ยิ่งใส่มุมมองแนวคิดเข้าไปมากเท่าไหร่ ผสมกับคนที่คอยให้คำแนะนำ แต่คำแนะนำนั้นดันไปชี้นำปรุงแต่งความคิดให้เตลิดเปิดเปิงมากขึ้น ทุกข์ก็ยิ่งเกิดขึ้นเป็นทวีคูณ

แต่หากเมื่อใดเราสามารถ ตัดความคิดปรุงแต่งออกไปได้ ปัญหาหรือทุกข์มันก็อยู่เท่านั้น แต่ก็มีคนถามว่า เอ้า !....ไม่คิดแล้วจะแก้ปัญหาได้รึ ชลัญตอบว่า ไม่ใช่ไม่คิดแต่ไม่ปรุงแต่งต่างหาก ปัญหาหรือความทุกข์ที่เข้ามาหาเราก็ให้คิดกลับไปหาปัญหาและทุกข์นั้น แหล่ะ แล้วเราจะรู้และเห็นทางออก ของทุกข์และปัญหานั้น เอง เหมือนเราขับรถเข้าไปในหมู่บ้านที่ไม่เคยเข้า แล้วงง ว่า จะออกทางไหน คำตอบก็คือออกทางที่เข้าไป นั่นแหล่ะ ปัญหามันเพียงแค่ว่า เราจำทางที่เข้าไปนั้นได้หรือเปล่านั่นเอง สิ่งสำคัญที่จะทำให้เราจำได้นั่นคือสติ หากสติยังอยู่กับเราตลอด รับรอง ไม่หลงทางแน่ หากไม่มีสติ ก็วนที่เดิมสิบรอบ ยังไม่รู้เลยว่า ตัวเองผ่านที่เดิม สิบรอบแล้วนั่นเอง

ท่านถามชลัญว่า แล้วชลัญไม่มีกิเลส เหล่านั้นรึ ชลัญตอบว่ามี แต่ชลัญมักจะรับรู้ความรู้สึก ของตัวเอง แล้ว พยายามตัด Processes ต่อยอดความคิด ไม่ให้กิเลสเหล่านั้นมันลุกลามบานปลายต่างหาก ถึงมีก็น้อย ไม่พอส่งผลกระทบมากมาย น่ะ

ท่านยิ้ม บอกวันนี้ได้คุยกับชลัญแล้วมีความสุข แสดงว่านี่ก็ happy ba อยากจะคุยต่อ แต่หมวยน้อยดันง่วงนอนซะก่อน

แต่ที่แน่ๆ gtk ได้สมาชิกเพิ่มแน่นอน เพราะ happy ba

เขียนใน GotoKnow โดย ชลัญธร
ใน กำลังใจ

คำสำคัญ (Tags): #happy ba#ความสุขที่ออกแบบได้#ชลัญธร ตรียมณีรัตน์

หมายเลขบันทึก: 510759เขียนเมื่อ 2 ธันวาคม 2012 23:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ธันวาคม 2012 17:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่าน