การทำนาไม่ไถโดยวิธีการตัดหญ้า และขังน้ำสำหรับนาน้ำฝน


งานนี้ ต้องใช้ความรู้มากๆเลย ถ้าความรู้ไม่พอก็ต้องขอใช้ความรู้ของคนอื่นมาช่วย และอาจต้องใช้ทุนช่วยบ้างไปพลางก่อน จนกว่าความรู้จะพอใช้

 

 

มีเพื่อนๆ ส่งจดหมายมาถามบ่อย ว่าทำได้กับนาทุกแห่งหรือไม่ โดยเฉพาะนาน้ำฝน

 

ผมตอบไปว่า

 

การขังน้ำถ้าจัดจังหวะดีๆ ทำได้ในนาทุกแห่งทั่วประเทศไทยครับ

เพราะเมื่อเตรียมไว้แล้ว ฝนตกเมื่อไหร่ก็ขังเมื่อนั้น เตรียมการทุกอย่างไว้รอฝน

ฝนมาเมื่อไหร่ ได้การทันที ตั้งแต่เมษายน เป็นต้นไป ฝนตกสองครั้ง เมล็ดหญ้าก็น่าจะงอกหมดไปเยอะเลยละครับ และคำว่าน้ำฝนนั้น มักรวมความถึงน้ำที่ไหลมาจากที่อื่นด้วย ที่เป็นระบบปกติของที่นาทั่วไป แต่ก็มีบางแห่งที่ต้องใช้น้ำที่ตกบนแปลงอย่างเดียว แบบนี้ก็จะได้น้ำน้อยกว่า

 

ปัญหาการเก็บน้ำฝนไม่พอนี้ มักมาจาก การไม่เตรียมการล่วงหน้า

รอให้ฝนตกแล้วจึงคิดไปนา แบบที่นักปลูกข้าวขายนิยมทำกัน

 

แต่วิธีการขังน้ำกำจัดหญ้าไม่ใช่ประเด็นใหญ่ของวิธีการกำจัดหญ้า ยังมีอีกหลายๆวิธี แล้วแต่จะคิด ลองๆทำไปก็จะรู้เอง ไม่ใช่เล่นคำนะครับ ไม่ลองไม่รู้จริงๆ

ความรู้ที่ผมบันทึกไว้นี้ ได้มาจากการลองทั้งนั้น ไม่มีอะไรที่ผมคิดไว้ล่วงหน้าได้เลย

 

แต่ สาระสำคัญของการทำนาไม่ไถ ก็คือการปราบหญ้าให้หมดก่อน

ทั้งเมล็ดก็ปล่อยให้งอกให้หมด หรือมากที่สุด ไม่ไถให้เมล็ดที่ฝังซ่อนตัวในดินงอกออกมาอีก และพยายามไม่ให้หญ้าติดเมล็ดใหม่

และในส่วนของเหง้าก็มีการกำจัดได้หลายวิธี ที่มีเทคนิควิธีการมากมายตามสะดวกของแต่ละคน

 

ผมใช้น้ำแช่ขัง ผสานกับการตัดหญ้า และถอนตามบ้างเล็กน้อย ก็เพราะผมสะดวกอย่างนั้น ใครสะดวกอย่างอื่นก็ต้องว่าตามที่ตนสะดวกครับ

 

การจัดการดินที่โหดที่สุดที่เราอาจจะต้องทำ สำหรับการทำลายดินแบบชั่วคราว ก็คือการไถ ทำน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แค่เป็นการนำร่องให้ทำงานหาความรู้มีความสะดวกขึ้นในระยะแรกๆ แล้วค่อยลองปรับวิธีอื่นเข้าไปเสริม

 

ถ้าครั้งเดียว งานยังหนักไป ไม่ไหวก็ยอมไถอีกสักปี และลองใหม่ แบบนี้ก็อาจจะช่วยได้ จนกว่าหญ้าจะหมด

 

บอกไว้เลยครับว่างานนี้ ต้องใช้ความรู้มากๆเลย ถ้าความรู้ไม่พอก็ต้องขอใช้ความรู้ของคนอื่นมาช่วย และอาจต้องใช้ทุนช่วยบ้างไปพลางก่อน จนกว่าความรู้จะพอใช้

 

ดังนั้น คนที่คิดจะทำแบบนี้ต้องสนุกกับการหาความรู้ ลองทำแก้ปัญหาไปเรื่อยๆ จะได้ความรู้ใหม่ทุกวัน และจะหาทางออกให้กับตัวเองได้ในเวลาไม่นาน

 

ถ้าไม่สนุกกับการเรียนรู้ เลิกเลยครับ ทำเหมือนเดิม ใช้วิธีทำลายดิน ทำลายสิ่งแวดล้อมกันต่อไป จนกว่าไม่มีอะไรให้ทำลายดีกว่าครับ

 

คำสำคัญ (Tags): #km ธรรมชาติ#ไม่ไถ
หมายเลขบันทึก: 505173เขียนเมื่อ 11 ตุลาคม 2012 00:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 ธันวาคม 2012 21:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

"...ถ้าไม่สนุกกับการเรียนรู้ เลิกเลยครับ ทำเหมือนเดิม ใช้วิธีทำลายดิน ทำลายสิ่งแวดล้อมกันต่อไป จนกว่าไม่มีอะไรให้ทำลายดีกว่าครับ..."

Almost everyhere I went in Isan last month, I saw new (under 5 years old) "rubber" plantations.

I had seen older rubber plantations, oil palm plantations and tourists resort plantations in the South. We are growing "money trees" and when we finish there will not be much food and habitat for anyone - wildlife and us.

Our biodiversity is being destroyed in the name of ... ("export"?)

น่าจะในนามของเงิน

ทั้งๆที่เงินเป็นแค่เครื่องมือการทำลายโลกอย่างได้ผล ไม่น่าเชื่อ

แต่ก็เป็นไปแล้ว มนุษย์โง่งม กับสิ่งสมมติของโลก

และยิ่งโง่หนักเข้าไปอีกกับสิ่งที่ตัวเองสมมติขึ้นมาอีกชั้นหนึ่งด้วยซ้ำ

Beleive it or NOT hahahahahahahaha

อาจารย์ครับ ช่วยแนะนำวิธีในการปรับปรุงบำรุงดิน สำหรับไร่หรือสวนที่เป็นดินทรายจัดและผ่านการใช้เคมีมาแบบสบักสะบอมสุดๆให้ด้วยครับ เอาแบบแนวทางที่ประหยัดทั้งแรงงานบวกทุนได้มากที่สุดก็ยิ่งดีด้วยน่ะครับ

ก็มีทางเดียว ปลูกต้นไม้อะไรก็ได้ืัที่ขึ้นได้ แล้วค่อยๆแทรกพืชที่เราต้องการมากกว่าในภายหลัง

ตามมาอ่านทีหลังมากแต่เรื่องนี้ถูกใจขออนุญาตต่อความหน่อยว่าที่อาจารย์บอกมานี้มันน่าสนุกจริง ๆ ผมเองจะเอาแน่แบบนี้และน่าจะเอาอยู่ตามอัตภาพ ผมคิดว่าตอนนี้อาจารย์แสวงเป็นบุคคลหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจใครหลายคนในหลายด้านเพื่อความเจริญและสงบสุขอย่างยั่งยืนของสังคมมนุษย์

เพียร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท