สร้างพระเพื่อแม่


“โยมไม่ต้องสร้างพระที่ไหน เพียงแค่โยมเป็นคนดีก็สร้างพระให้ท่านได้แล้ว”

http://youtu.be/ErTKVzuq1sE

 

เรื่องเล่าความประทับใจมากมายที่มีต่อคุณแม่ อ่านแล้วทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกตื้นตันจนไม่สามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคุณแม่ได้มากนัก  เพราะภาพความเป็นจริงที่มองเห็นคุณแม่เหมือนหยุดโลกทั้งใบไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว หากท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านก็จะอายุ ๘๐ ปี เช่นเดียวกับแม่แห่งแผ่นดิน

    

                สถานที่ปฏิบัติธรรม ที่ทำให้มองเห็นตัวเองไม่ใช่ตัวเอง


 

 

การจากไปของท่านเคยเป็นบาดแผลในใจของข้าพเจ้ามาโดยตลอดจนเมื่อรู้ เมื่อเห็นอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตนเอง จึงยอมรับความจริงนั้น

     

 

สิ่งที่จดจำได้อยู่เสมอคือ "คุณแม่" เหมือนพระโพธิสัตว์ ชอบช่วยเหลือญาติพี่น้อง และคนแปลกหน้า  คุณแม่เป็นผู้หญิงโบราณแนวอนุรักษ์นิยมและมีความคิดอ่านทันสมัย  เมื่อคุณแม่สาว ๆ ท่านหนีระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้ท่านเรียนไม่สูงนัก แต่ก็โชคดีที่สมัยก่อนหน่วยงานรัฐไม่ได้รับคนจบการศึกษาสูงอะไรมาก ท่านจึงรับราชการได้แม้ไม่ได้จบปริญญาตรี  ท่านอยู่ดูแลคุณตาคุณยายจนวาระสุดท้ายของชีวิต เพราะเป็นลูกสาวคนสุดท้อง กว่าท่านจะแต่งงานกับคุณพ่อก็อายุมากแล้ว

 

 

 

ความดีงามของท่านที่ข้าพเจ้ามักจะเห็นอยู่เสมอคือ ชอบทำบุญ ทำทาน ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์ แม่ชี หรือคนทั่วไปที่ไม่รู้จัก  สมัยเด็ก ๆ จำได้ว่าเราขับรถไปตามทาง  เห็นผู้ชายแต่งตัวมอซอ ท่าทางเหนื่อยอ่อน ท่านก็แวะรับขึ้นรถ อาสาไปส่งให้ถึงที่หมาย แม้ข้าพเจ้ายังเด็กอายุประมาณ ๑๐ ปี แต่ก็อดสงสัยว่าคุณแม่ไม่กลัวว่าเขาจะเป็นมิจฉาชีพหรือ ท่านก็บอกว่าดูบุคลิกแล้วไม่น่าใช่และท่านก็รู้สึกเมตตาเกินกว่าจะระแวงสงสัยใด ๆ

 

 

 บริเวณรอบ ๆ สถานปฏิบัติธรรม มีเพียงธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ

 

 

แม้แต่สัตว์เล็ก ๆ อย่างนกที่อยู่รอบบ้าน ท่านก็ชอบเอาอาหารไปโปรยให้ เด็กคนไหนเข้ามาเรียนในเมืองไม่มีที่พักอาศัย ก็ให้กินฟรีอยู่ฟรี แค่ช่วยทำงานบ้านเล็กน้อย ครอบครัวเราไม่ใช่คนรวยอะไร คุณพ่อเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน เงินเดือนไม่มาก อีกทั้งยังซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เคยแอบได้ยินตอนที่มีคนเอาเงินมาให้คุณพ่อเพื่อขอให้ช่วยเด็กนักเรียนเข้าโรงเรียน คุณพ่อยังไม่รับและไล่ตะเพิดไปด้วยซ้ำ  คุณแม่ก็เป็นข้าราชการธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่ฟุ่มเฟือย อยากได้อะไรสักอย่าง ก็จะสอนให้ข้าพเจ้าเก็บออมจนได้สิ่งนั้น ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ โดยไม่ใช้ความเพียรพยายาม คำพูดหนึ่งที่ท่านสอนและก้องในหูของข้าพเจ้าตลอดเวลาคือ "อย่าเอาจมูกคนอื่นหายใจนะลูก" หมายถึงเราต้องพึ่งพาตัวเองให้ได้ และไม่เบียดเบียนใคร  คุณแม่ภาคภูมิใจในตัวข้าพเจ้าและน้องชายเพราะพวกเราเชื่อฟังท่านเสมอ และรักการเรียน ไม่เคยทำอะไรให้ท่านเดือนร้อน เราสองคนมีโอกาสได้ทำงานในองค์กรที่มั่นคงทั้งคู่ เพียงแต่พวกเรายังไม่ได้ทำอะไรให้ท่านมากไปกว่านี้เลย....

 
 

คุณแม่เหนื่อยเพราะข้าพเจ้าและน้องชายมาโดยตลอด เมื่อคุณพ่อป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ก็ยังต้องเหนื่อยอีกหลายเท่า ความสุขของครอบครัวเราที่อยู่กันพร้อมหน้า ๔ คน เหมือนถึงเวลาที่ถูกเวรกรรมมาทวงคืน วันที่คุณแม่จากไปเป็นวันที่เหลือเชื่อ ไม่คาดฝันที่สุด ท่านเพิ่งขับรถไปส่งข้าพเจ้าให้ขึ้นรถบริษัทเพื่อไปทำงานในตอนเช้าตรู่วันหนึ่ง และข้าพเจ้าก็เพิ่งเดินทางมาถึงที่ทำงานได้ไม่กี่นาที ก็มีโทรศัพท์มือถือดังเข้ามาว่า "ไฟไหม้บ้าน...คุณแม่ท่านเสียแล้วนะคะ" เป็นเสียงของญาติที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน

 

 

เข่าของข้าพเจ้าแทบทรุดลงพื้น และมองเห็นหัวใจถูกฉีกขาดเป็นชิ้น ๆ  โลกทั้งใบหยุดอยู่เพียงวินาทีนั้น หากลมหายใจหยุดได้ก็คงหยุดแล้ว ข้าพเจ้าต้องไปสถาบันนิติเวชเพื่อรับศพท่าน และได้มองเห็นท่านนอนนิ่งสงบ ไม่เห็นร่องรอยบาดแผลไฟไหม้เท่าไรนัก ท่านคงสำลักควันและจากไปก่อน

 

 

งานศพผ่านไปอย่างเรียบง่าย มีเสียงหลายคนพูดออกมาด้วยความชื่นชมว่าไม่เห็นข้าพเจ้าร้องไห้ ไม่เห็นข้าพเจ้าอ่อนแอ  ไม่เห็นข้าพเจ้าซึมเศร้า อีกทั้งทำหน้าที่อย่างกระฉับกระเฉง ข้าพเจ้าเพิ่งรู้ตัวว่า "ลืมร้องไห้"  อาการเช่นนี้ไม่ได้เก่งมาจากไหน แต่เป็นเพราะใช้เหตุผลเข้าครอบงำ ยังมีคุณพ่อที่ป่วยรออยู่ เสร็จงานที่วัดก็ต้องรีบกลับไปดูคุณพ่อ คุณพ่อไม่ทราบว่าคุณแม่จากไปแล้ว ท่านไม่ทราบแม้วินาทีสุดท้ายที่ท่านตามคุณแม่จากไป...ความทรงจำท่านลางเลือน จำอะไรได้บ้างไม่ได้บ้าง ท่านเพียงบอกว่า "คุณแม่ขับรถสีเหลืองมารับ"

 

 

ข้าพเจ้าไม่ได้เขียนบันทึกถึงคุณแม่เพื่อจะเล่าความทุกข์ที่เกิดขึ้นและไม่อยากให้ท่านใดรู้สึกว่าเรื่องนี้เศร้า...ข้าพเจ้าเพียงอยากจะใช้ความทุกข์นี้นำไปสู่การเล่าเรื่องการเปลี่ยนแปลงวิถึชีวิตทั้งหมดของข้าพเจ้า

 

จากบันทึก "การเรียนรู้จากทุกข์" ตาม link ข้างล่าง ขอยกมาบางข้อความ

"ข้าพเจ้าเพิ่งเริ่มทำงานใหม่ ๆ ยังไม่ทันตอบแทนผู้มีพระคุณ จึงทุกข์ใจแสนสาหัสในเรื่องนี้มาก จำได้ว่าเดินไปที่วัด เข้าไปไหว้พระ และพบเจ้าอาวาสวัดแห่งนั้น  โดยไม่พูดพล่ามทำเพลง   ถามท่านว่าทำอย่างไรจะตอบแทนผู้มีพระคุณที่ล่วงลับไปแล้วได้ เคยได้ยินว่า "สร้างองค์พระ ไม่ทราบว่าจะเป็นการทำบุญมหากุศลที่จะอุทิศให้ท่านได้หรือเปล่า"

 

ข้าพเจ้างงกับคำตอบในตอนนั้นมาก ท่านตอบสั้น ๆ ว่าโยมไม่ต้องสร้างพระที่ไหน เพียงแค่โยมเป็นคนดีก็สร้างพระให้ท่านได้แล้ว”

 

 

                        ไม่เคยเข้าใจทุกข์ ไม่เคยเห็นทุกข์ ก็ได้เห็น
 
   ไม่เคยเข้าใจคำว่า "สติ" ก็ได้เข้าใจ มันไม่ใช่สติที่เข้าใจได้จากการคิดเอา
 

 

                      ร่างกายเราก็เหมือนศาลาหลังนี้ เป็นที่พักพิงชั่วคราว
 
 
 
                                 ไม่เห็นทุกข์ ก็ไม่เห็นธรรม
 

คุณแม่มีพระคุณอย่างมากทั้งที่ยังชีวิตอยู่และแม้ล่วงลับไปแล้ว

 

กายลูกมีธาตุของคุณพ่อคุณแม่อยู่ ยามคิดไม่ดีก็รู้ละอายใจ ไม่กล้าทำผิดคิดร้ายใคร มีพระคุณพ่อพระคุณแม่กำกับนำทางชีวิตมิให้หลงทาง ไม่ให้ประพฤติชั่วมัวเมาเอาเปรียบใคร

 

 การสร้างพระเพื่อคุณพ่อคุณแม่นั้น ต้องสร้างตลอดชีวิตของลูก

 

ลูกเคยโง่เขลาเบาปัญญา อธิษฐานจิตไปว่าชาติหน้ามีจริงจะขอตามไปรับใช้พระคุณท่าน คืนนั้น ท่านมาเข้าฝันและบอกว่า "อย่าอธิษฐานเช่นนั้น กรรมใครกรรมมัน"

 

                                  บุญรักษาและคุ้มครองทุกท่านค่ะ

 

หมายเลขบันทึก: 497188เขียนเมื่อ 4 สิงหาคม 2012 19:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 สิงหาคม 2012 13:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (36)
"อย่าอธิษฐานเช่นนั้น กรรมใครกรรมมัน"

บอกกับภรรยาว่าไม่อธิษฐานที่จะต้องมาเจอกันแล้ว

แต่รุ่นน้องบอกว่า ถึงแม้พี่จะไม่อธิฐานก็ต้องมาเจอกันอยู่ดี

แรงบุญส่งมาค่ะ


  • ขอให้มาเจอกันโดยไม่ต้องอธิษฐานดีกว่าค่ะ ท่าน Blank ขอให้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ จะเป็นบุญ เป็นกรรมก็สุดแล้วแต่
  • อย่างไรก็ตาม หากเราทราบเช่นนี้ วันนี้ที่ยังใช้ชีวิตร่วมกัน ก็ทำให้เหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเรา จะได้เป็นวันที่มีค่าค่ะท่าน

เรียนอาจารย์ ศิลา แม่..งแม่ของแผ่นดิน แม่ของทุกๆคน และแม่ผู้บังเกิดเกล้า ทุกครั้งที่มีผู้คนเล่าเรื่องแม่ บอกคุณลักษณะแม่

จะมีความสุขส่งผ่านความรู้สึกไปถึงแม่ โชคดีที่มีแม่

โชคดีที่มีแม่ ค่ะ ใช่เลยค่ะท่านวอญ่า Blank แต่ละท่านมีความประทับใจต่อคุณแม่เหมือนกัน มากน้อยไม่สำคัญวัดค่าไม่ได้ อยู่ที่ความรู้สึกใด ๆ ที่มีต่อท่านนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงภายในของเราอย่างไรบ้าง

เราจะใช้ความโชคดีที่มีแม่อย่างไร ... ขอบคุณคำนี้ของท่านค่ะ"โชคดีที่มีแม่"

แว่นธรรมทอง มีแม่ชอบปฏิบัติธรรม ทุก ๆ ปี จะเข้าไม่เคยขาด ปีที่แล้ว เข้าที่วัดหนองปิง จังหวัดนครราชสีมา ปีนี้ น้อง ๆ มารับไปอีก ปีนี้แม่ อายุ ๘๕ ย่าง ยังแข็งแรง เพราะ แม่เดินจงกรม สวดมนต์ ทุกวัน..." ไม่เห็นทุกข์ ก็ไม่เห็นธรรม"... สวัสดีครับ

"โยมไม่ต้องสร้างพระที่ไหน เพียงแค่โยมเป็นคนดีก็สร้างพระให้ท่านได้แล้ว"

สาธุค่ะ....

คุณศิลาค่ะ 

แม่พี่ตอนนี้ท่านก็อายุ 80 ปี 

ขอบคุณเรื่องราวที่แบ่งปันเล่าสู่กันฟังนะคะ 

ส่งกำลังใจให้ค่ะ

อาจารย์ คือ ความเป็นพ่อและแม่ที่หล่อหลอมมาเป็นตัวอาจารย์แบบตัวจริงเสียงจริง ไม่ผิดเพี้ยนเลยแม้นแต่นิดเดียว ;)...

(อ่ะ ลูกครูนี่เอง ผิดเป็นครูเสมอครับ)

ขอบคุณบันทึกดีดี  อ.ศิลา มีบารมีถึงได้เจอคำสอนที่ให้เห็นความเป็นอนัตตา ขอชื่นชมในความเข้มแข็งของ อ. ศิลา ที่น้ำตาไม่อาจมาบั่นทอนการได้เห็นความเป็นไปของธรรมและชีวิต

ไม่เห็นทุกข์ ก็ไม่เห็นธรรม

คุณ Sila เก่งมากนะคะที่สามารถเข้มแข็งได้ ในยามที่จิตใจบอบช้ำที่สุด.. เข้มแข็งเพื่อคนรอบข้าง.. เป็นสิ่งประเสริฐที่สุดค่ะ

 

  • อาจารย์เขียนได้อย่างละเอียดอ่อนน่าติดตามค่ะ
  • คุณแม่แข็งแรงกว่า เป็นผู้ดูแลคุณพ่อซึ่งเป็นอัมพาต แต่ความไม่แน่นอนกลับพลิกผันให้ผู้ดูแลจากไปก่อนผู้ถูกดูแล
  • ในงานศพนั้น..ไม่ร้องไห้ ใช่ว่าไม่ติดค้าง..แต่ในที่สุดอาจารย์ก็สามารถสะสางแล้วเติบโตทางจิตวิญญาณได้ ชื่นชมอย่างยิ่งค่ะ

ไม่เคยอ่านบันทึกของใครในยามวิกาลมากนัก วันนี้ ถือเป็นโชคดีที่ได้อ่าน บันทึกของใครสักคนที่เขียนถึงแม่ได้ใจธรรมนัก

มาร่วมรำลึกแด่การจากไปของแม่คุณsilaด้วยคนนะครับ

ท่านคงปลื้มใจนัก ที่ลูกของท่านเป็นที่พึ่งให้กับใคร ๆ ได้ ในหลายๆ โอกาส เพียงแค่นี้...ก็เป็นบุญกุศล เหลือเกินแล้ว ที่ได้เกิดมา

ขอบคุณมากนะครับ

  • คุณแม่ท่านทำหน้าที่สมบูรณ์ที่สุดแล้วเท่าที่ช่วงชีวิตอำนวยให้..

  • ลูกสาวผู้เข้มแข็งด้วยสติแห่งความเข้าใจในสัจจธรรม ได้นำตนสู่ความรู้แจ้งอย่างน่าชื่นชมมากค่ะ..

  • พุทธพจน์กล่าวถึงการเกิดว่า..เกิดแต่กรรมและกิเลส..ละวางสองอย่างนี้ได้..ย่อมไม่มีการเกิดอีก..

  • คุณแม่คุณแว่นทองธรรม Blank เดินทางธรรมเป็นมลคลชีวิตแก่ตนเองและเป็นแบบอย่างที่ดีของลูก ๆ มากค่ะ
  • สาธุค่ะ

คุณศิลาค่ะ...เป็นข้อเตือนตน บนถนนสายธรรม..ที่เยี่ยมมากค่ะ ขอบคุณที่มีโอกาสได้ศึกษาไปพร้อมกับบันทึกที่มีคุณค่าเช่นนี้ :-))

  • คุณปริม Blank เป็นลูกที่ดีของคุณแม่ทั้งสองท่านอยู่แล้ว ความดีนั้นเป็นความภาคภูมิใจและความสุขแก่คุณแม่แล้วค่ะ
  • ดีใจที่ได้ยินเรื่องเล่าดี ๆ ของคุณปริมนะคะ มีโอกาสที่ดีได้เป็นลูกน่ารัก ๆ แบะแสนดีให้กับคุณแม่ถึงสองคน
  • เรามีบางส่วนที่เหมือนกันอยู่นะคะ พี่หนูรี Blank อย่างน้อยก็อายุุของคุณแม่ค่ะ
  • แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะทำตามแต่ไม่กล้าหาญพอคือการใช้ชีวิตตามแบบที่ต้องการ ทุกวันนี้ยังต้องทำหน้าที่การงานที่ไม่ใช่ความฝันในชีวิตอยู่ค่ะ แต่ก็ทำด้วยใจไม่ให้ขาดตกบกพร่อง มีหน้าที่ก็ทำค่ะ
  • อย่างน้อย เวลาบางส่วนก็สามารถมาทำอะไรให้กับสังคมบ้าง แม้ไม่เต็มที่ก็ยังมีโอกาส
  • ทำด้วยใจไม่มีเหตุผลจริง ๆ ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาให้กำลังใจเสมอมา
  • รอของทานอร่อย ๆ อยู่นะคะ และรักษาตัวด้วยนะคะพี่
  • ขอบคุณอาจารย์นพลักษณ์ ๑๐ Blank มากค่ะ ที่สะท้อนความเป็นคุณพ่อคุณแม่ในตัวออกมา ทำให้สังเกตว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น แม้ไม่มากเท่าแต่ก็เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตค่ะ
  • ถือว่าอาจารย์เปิดช่องแล้วนะคะ  "ผิดเป็นครู" ขออนุญาตทำผิดครูบ่อย ๆ นะคะ

เห็นธรรมสะท้อนออกมาให้รับรู้ได้

ซาบซึ้งทะลุใจ

...ปฏิบัติเองต่อไป

ขอบคุณมากค่ะ

อ่านด้วยความรู้สึกดีๆ ค่ะ

และมั่นใจว่าคุณศิลาได้สร้างพระตอบแทนพระคุณของคุณแม่แล้ว

:)

  • สวัสดีค่ะ คุณ พ.แจ่มจำรัสBlank  ความเห็นช่างน่าประทับใจยิ่งนักค่ะ
  • น้ำตามีหรือไม่ ไม่สำคัญเท่ากับเรายอมรับทุกข์ที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ค่ะ
  • ทุกข์ไม่ใช่สิ่งที่น่ารังเกียจหรือหลีกเลี่ยง แต่มีไว้เพื่อรู้และดู นั่นคือสิ่งที่ได้จากการพลิกผันครั้งนี้
  • มื้อสุดท้ายของคุณแม่ยังจดจำได้เช่นกันค่ะ ภาพทุกอย่างเหมือนมันหยุดไว้อยู่ตรงนั้นนะคะ มันขาดตอน มันไม่ต่อเนื่อง แต่จริง ๆ มันอยู่ที่ใจเราที่ไม่ปล่อยมันไปค่ะ
  • ขอบคุณมากมายที่แวะมาเป็นกำลังใจเสมอมาค่ะ อีกทั้งถ้อยคำดี ๆ ที่ให้แง่คิดพิจารณาด้วยค่ะ
  • ขอบคุณคุณ kunrapee Blank ที่มองว่าเป็นเรื่องความเข้มแข็ง หลังจากผ่านเหตุการณ์วันนั้นแล้ว โดยส่วนตัว มองว่าเป็น "ของปลอม" ค่ะ ไม่ว่าภายนอกจะเป็นอย่างไร หากใจไม่ยอมรับ "ทุกข์" ที่เกิดขึ้น ก็ถือว่าไม่เห็นทุกข์ที่แท้จริงค่ะ
  • มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับแต่ละท่านที่มีแม่และจะต้องประสบกับความสูญเสีย พลัดพราก ขอให้สิ่งนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องประสบเหมือนกัน มีสติตั้งมั่น ใช้วันเวลาในแต่ละวินาทีกับคุณแม่ผู้เป็นที่รักให้คุ้มค่าที่สุดค่ะ
  • ดีใจที่กรุณาแวะมาเยี่ยมเยียนและเป็นกำลังใจค่ะ รู้สึกถึงความอบอุ่นที่มอบให้ค่ะ
  • อาจารย์หมอ ป. Blank กล่าวได้ถูกต้องแล้วค่ะ ไม่ร้องไห้ ใช่ว่าไม่ติดค้าง
  • หน๊้ใด ๆ ที่ค้างก็ได้ชำระหมดสิ้นแล้ว
  • ทุกข์ เพราะจาก เพราะพลัดพราก เป็นทุกข์สากลที่ทุกคนต้องเจอ อยู่ที่เราได้เรียนรู้ทุกข์นั้นอย่างไร
  • ความระลึกถึง ห่วงหาอาทรอย่างเดียวคงไม่ใช่สิ่งที่ผู้จากไปต้องการ ยิ่งไปกว่านั้นท่านต้องการสอนธรรมให้กับผู้ที่อยู่ต่อค่ะ
  • ขอบคุณมากค่ะที่กรุณามาต่อเติมความหมายในสิ่งที่ไม่ได้พูดออกมาในที่นี้
  • คุณแสงแห่งความดี Blank เป็นคุณพ่อผู้ประเสริฐ สัมผัสถึงความรักและสายใยแห่งครอบครัวได้เป็นอย่างดี ดีใจแทนลูก ๆ ด้วยนะคะที่มีคุณพ่อที่ดีพร้อมขนาดนี้
  • สิ่งที่เกิดขึ้น เรามักเรียนรู้และเก็บมาทำการบ้านในชีวิตจริงไม่เหมือนกัน จึงหวังว่าสิ่งที่แบ่งปันครั้งนี้จะเป็นประโยชน์แก่กัลยาณมิตรทุกท่านไม่มากก็น้อยค่ะ
  • เพราะทุกคนโชคดีที่มีแม่เหมือนกัน ขอบคุณมากค่ะที่มาเป็นกำลังใจในยามดึก อ่านแล้วตั้งแต่เมื่อคืน แต่เพิ่งตอบเย็นนี้ค่ะ
  • การตอบความเห็นบางเรื่อง อยู่ที่สภาวะอารมณ์จริง ๆ นะคะ
  • คุณแม่พี่ใหญ่ Blank เป็นตัวอย่างคุณแม่ที่สอนลูกในทุก ๆ ด้าน เป็นแบบอย่างที่หาได้ยากมากค่ะ ความดีงามที่เห็นจากพี่ใหญ่ ประกอบกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับคุณแม่ทำให้ไม่แปลกใจเลยกับคำโบราณที่ว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
  • พี่ใหญ่แวะมาอ่านบันทึกกัลยาณมิตรพร้อมข้อคิดและกำลังใจเสมอ
  • สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม การละวางกิเลส เป็นงานที่ต้องทำตลอดชีวิต ไม่คิดท้อค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ

“โยมไม่ต้องสร้างพระที่ไหน เพียงแค่โยมเป็นคนดีก็สร้างพระให้ท่านได้แล้ว”...

สร้างพระเพื่อแม่...

สาธุค่ะอาจารย์  

กลับมาอ่านอีกรอบค่ะ

ขอชื่นชมในความเข้มแข็งของน้องศิลาค่ะ

การเจริญและมีสติเป็นสิ่งที่ต้องเพียรปฏิบัติตลอดเวลานะคะ

 

ภาพประกอบที่ไหนคะ ดูสงบร่มรื่น เกิดความเย็นใจเมื่อได้เห็นค่ะ

ขอบคุณอาจารย์ kwancha ได้กำลังใจจากอาจารย์เสมอค่ะ รู้สึกซาบซึ้งมากค่ะ กว่าจะเขียนบันทึกนี้ได้ ต้องหาช่วงอารมณ์ที่ว่าง เงีบบ สงบค่ะ การเขียนอะไรที่กลั่นจากใจเขียนได้ดีตอนที่ไม่คิดเยอะ หรือไม่คิดอะไรเลยนะคะ จึงไม่ง่ายเลยค่ะ

  • เห็นคุณหมออ้อ Blank มาเยี่ยมพร้อมกำลังใจ ก็สุขใจหลายแล้วค่ะ
  • ตอนแรกนึกว่าจะเยี่ยมคุณหมอที่หนองคาย ถิ่นเก่า แต่พอทราบว่าเปลี่ยนมาเป็นจันทบุรี ก็ดีเช่นกันค่ะ สรุปว่าดีทุกที่เลยนะคะ
  • เขียนบันทึกนี้แล้วพอทราบว่าเราจะได้พบกันก็เตรียมเรื่องเล่ามากมายไปแลกเปลี่ยนค่ะ เราไม่ต้องนอนกันเลยก็ได้นะคะ
  • จะพยายามทำในสิ่งที่ตั้งใจให้ได้ตลอดไปค่ะคุณหยั่งรากฝากใบ Blank 
  • แม่คือดวงใจของเราทุกคนค่ะ แล้วเราจะไม่ถนอมดวงใจดวงนี้ได้อย่างไร ขอบคุณมากมายค่ะ
  • ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์แบบไหน สิ่งหนึ่งที่ถือว่ายังโชคดีคือได้พบพานคนดีและคำสั่งสอนที่ดีค่ะคุณTawandin Blank ขอบคุณนะคะที่แวะมาเยี่ยม และความสนใจในกิจกรรมแลกเปลี่ยนที่จะนำพาให้เราได้พบกันค่ะ
  • ภาพประกอบที่สถานปฏิบัติธรรม เขาชะเมาชาเลต์ จันทบุรี ค่ะ พี่หมอภูสุภาBlank
  • เป็นบรรยากาศที่ประทับใจมากค่ะ สงบ ร่มเย็น เห็๋นแต่ตัวเองกับธรรมชาติค่ะ
  • ดีใจที่พี่แวะมาเยี่ยมค่ะ

แม่นั้นแค่ลูกเป็นคนดี

มีศิลธรรมก็เหมืนมี.....แม่พระที่เป็นแบบอย่าง

เรามีสุข  แม่เราก็สุขค่ะ

เพราะท่านคือพระในบ้านที่มาก่อนใคร

"คุณแม่มีพระคุณอย่างมากทั้งที่ยังชีวิตอยู่และแม้ล่วงลับไปแล้ว" แม่สร้าง แม่ให้ ขอบคุณอาจารย์ที่แบ่งปันเรื่องราวค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท