เมื่อ 29 มกราคม 2552 คือวันที่ฉันหันหลังย้ายตัวเองกลับบ้านเกิดละทิ้งสิ่งที่ทำอยู่โดยไม่ได้ลังเลกับความมั่นคงทางการเงินของตัวเอง ขอเพียงอยู่แบบพอเพียง สิ่งที่จำเป็นต้องซื้อก็ซื้อ ไม่จำเป็นก็งด ปรับเปลี่ยนมาใช้ชีวิตที่เรียบง่าย เลิกใช้บัตรเครดิตไม่สร้างหนี้ให้กับตัวเอง
ไม่ใช่ว่าฉันนั้นผิดหวังหรือล้มเหลวในหน้าที่การงาน แต่หัวใจฉันนั้นต้องการที่จะไปมากกว่าสิ่งอื่นใด แม่ที่เริ่มแก่ชราที่เคยท่าว่าลูกคนใดคนหนึ่งที่จะกลับมาอยู่บ้านกับท่าน
บ้านที่เริ่มเก่าทรุดโทรมกับหญิงชราคนหนึ่ง เหมือนจะเฉา เหงา ไปพร้อมๆกัน แม้ลูกๆนั้นจะแวะเวียนไปเยี่ยมเสมอๆก็ตามที แต่ก็ไปเยี่ยมกันได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็กลับมาทำงานในหน้าที่ที่รับผิดชอบกัน ... บ้างครั้งฉันเห็นแม่น้ำตาคลอเมื่อพวกเราลูกๆจากกลับเข้าเมือง
ฉันรู้ว่าความต้องการของแม่คงมากกว่านั้น แต่แม่ก็ไม่ร้องขอ ขอให้ลูกกลับมาอยู่ด้วย แม่นั้นเข้มแข็ง แม่จะไม่ขอย้ายตัวเองไปอยู่บ้านลูกคนไหน ขออยู่ที่บ้านแห่งรักหลังนี้เท่านั้น คือ "บ้านของเตี่ย"...
วันเวลาผ่านไป 2 ปี ก็มีลูกชาวสวนอีกคนหนึ่ง(พี่ชายฉัน) ก็ได้ลาออกจากราชการมาอยู่บ้านเช่นกัน ขอขอบคุณแรงบันดาลใจที่ทำให้เราพี่น้องย้ายตัวเองกลับบ้าน ... คราวนี้แม่ไม่เหงาแล้ว มีแต่บ่นพึมพัม ว่า "เสียงดัง"... อ้าวเป็นงั้นไป
บ้านที่เริ่มทรุดโทรม เหงาๆ เฉาๆ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ต้นไม้ดอกไม้แห่งความรักก็งอกงามออกดอกบานสะพรั่งทั่วบ้านทั่วป่า คืนชีวิตชีวากลับมาอีกหน หวนให้คิดถึงเมื่อครั้งเยาว์วัยที่เราอยู่กันพร้อมหน้า ...
ดีใจอีกสิ่งที่การกลับบ้านของฉันก่อนหน้านี้ ช่วยปรับเปลี่ยนทัศนคติของเด็กหนุ่ม(หลานชาย)ที่เรียนจบใหม่จากเมืองหลวง ขอย้ายตัวกลับมาอยู่บ้านย่าแทนการหางานในเมืองใหญ่ที่ต่างต้องแย่งแข่งขัน
ในที่สุดก็สุขสันต์ ... คุณย่า(แม่ฉัน)ก็มีลูกสาว ลูกเขย ลูกชาย และหลานชาย2 คน กลับมาอยู่บ้านสวนกันเต็มบ้าน ไม่ต้องโดดเดี่ยว อีกแล้ว
ถึงคราที่ใครจะไปทำธุระส่วนตัวในเมืองหลายวันแม่ก็ไม่ต้องอยู่คนเดียวอีกแล้ว เราจะจัดแบ่งกันว่า ใครไปใครอยู่ และฉันก็ไม่ต้องกังวลใจเมื่อคราที่ต้องกลับบ้านในเมืองหลายๆวัน เพราะแม่ฉันมีคนคอยดูแล :)
ขอให้ ทุกๆครอบครัว มี ความสุข สุขสันต์ทั่วหน้ากัน
ทั้งในโอกาสวันแม่ปีนี้และวันต่อๆนะคะ
......
สวัสดีค่ะ
^__^
พี่หนูรีค่ะ อ่านแล้วอบอุ่นค่ะ ขอคำสำคัญว่า แม่ สักคำนะคะ
ขอบคุณค่ะอาจารย์จัน
แก้ไขใส่คำสำคัญ "แม่" แล้วค่ะ
อบอุ่นมากค่ะพี่หนูแจ๋ว ได้อยู่พร้อมหน้าครอบครัว กลวงสวนเขียวสดชื่น
อบอุ่นพอเพียง เพิ่มคุณภาพชีวิตอย่างมีคุณค่า บ้านสวน
"แม่" คือ คำสำัคัญที่สุด ;)...
ยิ่งใหญ่ครับ...
บันทึกนี้ ยิ่งใหญ่เกินบรรยาย...
...
ขอบคุณครับ
เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากค่ะ เพราะแม่นะคะ
ตัดสินใจถูกต้องแล้วค่ะหนูรี เพราะความสุขที่แท้จริงคือ การได้อยู่กับคนที่รักเรา และเรารักค่ะ
ดีใจอีกสิ่งที่การกลับบ้านของฉันก่อนหน้านี้ ช่วยปรับเปลี่ยนทัศนคติของเด็กหนุ่ม(หลานชาย)ที่เรียนจบใหม่จากเมืองหลวง ขอย้ายตัวกลับมาอยู่บ้านย่าแทนการหางานในเมืองใหญ่ที่ต่างต้องแย่งแข่งขัน .. ยินดีด้วยค่ะ และสุขสันต์วันแม่ล่างหน้าค่ะพี่หนูรี
กล้าหาญมากเลยนะคะที่ตัดสินใจเลือกใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับคนที่เรารัก ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าครอบครัวที่อบอุ่นพร้อมหน้าพร้อมตากันค่ะ ความสุขในชีวิตอยู่ที่เราคิดเลือกเส้นทางเดินเองจริง ๆ ค่ะ
ขอให้มีความสุขมาก ๆ กับครอบครัวที่แสนอบอุ่นค่ะ
กุศลใดไหนจะยิ่งใหญ่เท่า ที่ทำให้แม่สุขใจ...สวัสดีครับ
เป็นบุญของคุณแม่และคุณลูกคุณหลานกับความสุขดีๆนี้ค่ะ
ขอขอบคุณทุกๆท่านนะคะที่มาให้กำลังใจ ขอบคุณค่ะ:)
ทิมดาบ | |
kunrapee | |
ป. | |
Sila Phu-Chaya | |
Wasawat Deemarn | |
ดร. จันทวรรณ ปิยะวัฒน์ | |
ณัฐรดา | |
ทพญ.ธิรัมภา | |
นาง นงนาท สนธิสุวรรณ | |
วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei-- |
คุณหนูรีคะ รูปภาพบ้านเป็นเหมือนบ้านในฝันเลย อยากอยู่บ้านแบบนี้ มีสวนด้วย
คุณแม่คุณหนูรีโชคดีมาก อ่านบันทึกแล้วน้ำตารื้น ๆ
ความอบอุ่นในบ้าน ความสงบงามของบ้าน มิน่า คุณหนูรีจึงสร้างสรรค์ผลงาน ทั้งอาหารแลขนม(บันทึกด้วย)ได้น่ากินพิเศษ
ขอบคุณที่แบ่งปันบันทึกดี ๆ ค่ะ
ขอบคุณบันทึกดีๆ อบอุ่นใจ
พอเพียง พร้อมหน้า ของพี่หนูรีคะ
Happy Family ค่ะ ตัวอย่างของผู้ที่เลือกวิถีชีวิตที่พอเพียงเคียงข้างคนที่รักเราและรักเรา แบบนี้ไม่มีวันที่จะรู้สึกเสียใจและเสียดายค่ะ