พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 มาตรา 56 ระบุว่า ผู้ใดได้รับการบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งครู ให้ผู้นั้นเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มในตำแหน่งครูผู้ช่วย เป็นเวลาสองปี ก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครู ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎ ก.ค.ศ.
และตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ.กำหนด ได้กำหนดให้ครูผู้ช่วยรับการพัฒนาและประเมินอย่างเข้มจากกรรมการ 3 คน คือ ผู้บริหารสถานศึกษา กรรมการสถานศึกษา และครูพี่เลี้ยง โดย 3 เดือนจะมีการประเมิน 1 ครั้ง ซึ่งเท่ากับ 8 ครั้งใน 2 ปี ถ้าผ่านการประเมินก็ได้รับการบรรจุแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตำแหน่งครู
การเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มดังกล่าว เป็นการพัฒนาและประเมินตามสมรรถนะความเป็นครูซึ่งถือเป็นการเตรียมพร้อมและได้เห็นเส้นทางวิชาชีพครูที่ชัดเจนที่จะก้าวไปสู่วิทยฐานะครูชำนาญการในอนาคต โดยพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ให้ความสำคัญอย่างมากกับกระบวนการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ซึ่งหมายถึงการพัฒนาคนให้มาเป็นครูด้วยจิตสำนึกความเป็นครูที่แท้จริง เพื่อจะอยู่ในระบบนี้จนถึงเกษียณอายุราชการ ดังนั้นในมาตรา 56จึงกำหนดเพิ่มเติมอีกว่า
“...ถ้าในระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม แล้วแต่กรณี ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 พิจารณาเห็นว่าข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดมีความประพฤติไม่ดี หรือไม่มีความรู้ หรือไม่มีความเหมาะสม หรือมีผลการประเมินทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มอยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กำหนด โดยไม่ควรให้รับราชการต่อไปก็ให้สั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการได้ ไม่ว่าจะครบกำหนดเวลาทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มหรือไม่ก็ตาม...”
แต่จากการประเมินติดตามการดำเนินการตามหลักเกณฑ์ประเมินการเตรียมความพร้อมฯที่ ก.ค.ศ.ประกาศใช้ในปัจจุบันจากทั่วประเทศ พบปัญหาหลายประการ ที่แสดงให้เห็นถึง ความไม่พร้อมของโรงเรียนที่มีเป็นจำนวนมาก ตลอดจนความไม่พร้อมของ กรรมการสถานศึกษา และครูพี่เลี้ยง รวมทั้งความไม่จริงจังกับการดูแลเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้มของหน่วยงานต้นสังกัด
ดังนั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม จากระบบปกติที่ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าว ผมจึงขอเสนอให้มีการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อเพิ่มจิตสำนึกความเป็นครูให้แก่ครูผู้ช่วยในระหว่างการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม โดยมี วัตถุประสงค์ 2 ประการคือ
1. เพื่อให้ครูผู้ช่วยได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การสอนซึ่งกันและกันระหว่างการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม
2. เพื่อเพิ่มจิตสำนึกความเป็นครูให้แก่ครูผู้ช่วยในระหว่างการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม
เป้าหมายเชิงปริมาณ
ครูผู้ช่วยที่อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ทุกคน
เป้าหมายเชิงคุณภาพ
ครูผู้ช่วยมีความกระตือรือร้น มีจิตสำนึกของความเป็นครู และมีความภาคภูมิใจในวิชาชีพครูมากขึ้น
กิจกรรม
ประชุมสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครูผู้ช่วยที่อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม 1 วัน (ควรเป็นวันหยุดราชการ)
ไม่มีความเห็น