สรุปว่า...หาที่คันพบนะคะ
สวัสดีค่ะท่านวอญ่า เนื้อเพลงน่าคิดตาม .. อารมณ์ของคนแต่ง ช่างเปรียบเทียบ แถมยังมีคำที่แปลคล้ายทางเหนือ " ตกท้องช้าง" ทางบ้านนู๋เรียกว่า " เต้ยคางจ้าง"= นั่งผ้าถุงห้อยคล้ายกับคางของช้างคือปากช้างที่แหลมห้อยลงมาค่ะ มองเห็นภาพไหม อิอิ
- สรุปแล้ว....บัง...ต้อง...แปลภาษา...ให้...น้องหมอ...ให้ตรง...ข้อเท็จจริง...ด้วยนะคะ
- ขอบคุณเรื่องเล่า ดีๆๆ เช่นนี้ค่ะ
๕ ๕ ๕ พี่บัง ...
เคย กะปิ
ปิ๊ เคย
หลานตัวดี พูดสระ อิว ไม่ได้ เลยออกเสียง
ลูกหิ ข้าว
เรียกชื่ออา เป็น อาปิ๊
ได้ฮากัน
ตอนนี้อยู่ทับปุด คิดถึงพี่บังเลย
เพื่อนชาวปัดตะลุง ถามเพื่อน คนอื่นว่า เคยดำ นาไหม ฮา สรุปว่าคุณยายคันตรงไหน 555
รู้จักแต่เคยที่แปลว่ากะปิค่ะ สงสารคุณหมอในเนื้อเพลงนั้นจัง
สวัสดีครับคุณ หมอ พาษา พาสื่อ มีอีกเรื่องหนึ่งคื"ปดฟาด"จะได้นำมาบันทึกเรียนรู้กันต่อไป
สวัสดีครับครูรินดา คางช้างกับท้องช้างความห้อยย้อย คือกัน มีความหมายเดียวกัน ที่นั่งไม่ระวัง(เป็นกริยามารยาทของคนโบราณที่รักนวลสงวนตัว)
หุหุภาษาใต้นี่นะ เมื่อก่อนก็งงค่ะขนาดเป็นคนใต้เองก็ยังสับสนเลยเพราะแต่ละจังหวัดก็พูดไม่เหมือนกัน
แหะๆเกือบไม่ได้มาเสวนากับบังแล้วถ้าช้าไปอีกนิด ตอนที่ระเบิดขับมอเตอร์ไซต์ไปกับลูกชายไปซื้อของในเซเว่นที่รวมมิตร ดีที่ไม่ตรงเวลาที่เขาจะระเบิดไม่งั้นม่องเท่งซี้เบ้งไปแล้ว ยังใจหายวาบอยู่เลยนะคะนี่ ที่รวมมิตรนี่รอดมาสองครั้งแล้ว บ้านน้าชายสองคนก็อยู่ใกล้ๆแถวนั้นแต่เป็นถนนตัดเข้าไปจากรวมมิตรเลยแค่หูอื้อ ปีก่อนแถวบ้านคุณยายน่ะเกิดเหตุระเบิดไม่ห่างมากจนน้าสาวอีกคนต้องพายายย้ายไปอยู่ที่หาดใหญ่
สวัสดีครับคุณหมอเปิ้ล.... ผมมักได้รับเกียรติให้แปลภาษาใต้บ่อยมาก เพราะภาษาถิ่นดั้งเดิม เด็กใต้เองก็ไม่ไม่เคยได้ยิน ยิ่งคุยกับผู้สูงวัย ยิ่งต้องมีทักษะในการสื่อสารมากขึ้น
เรียกแปลกแต่จริง
การใช้ภาษาของคนไทยโบราณ
หรือคนแก่สมัยเก่าก็แบบนี้
งง....ตั้งนานกว่าจะรู้ 555
ครับ คุณหมอเปิ้ล แปลจากใต้เป็นกลาง ลางทีต้องใส่ภาษาอังกฤษเพิ่มให้หมอ ด้วย
สวัสดีครับคุณมะเดื่อ... ขอบคุณที่นำ"ต่ำเตีัย เลี้ยต้อย
คอลายพร้อย ลูกเท่าแม่ขัน"มาฝาก ส่วนว่าเพลงนั้น
ก็มีเพื่อนที่ทำงานดปิดให้ฟังแล้ว ลำพังเนื้อเพลง คงไม่เท่าไหร
คนสาธารณสุขชินกับสิ่งนี้
และลีลาการเต้นเกินจะรับไหว
สวัสดีปู ตอเช้าเดินทางไปรับครูเมธาวดี ที่ ภูเก็ต ปูยังอยู่ที่พังงาเหลยม้าย จะได้แวะไปเยี่ยม
สวัสดีท่านอาจารย์ขจิต...... นอกจากคำว่าเคยดำไม่ อีกคำที่คนปัดตะลุง ชอบใช้อำ ที่คนจังหวัดอื่นๆ ไม่อาจเข้าถึงทางภาษา คือ โหมนักเลง.. เช่น"อย่าไปยุ่งกับน้องสาวนี้ต๊ะ เขาโหมนักเลงมาก่อน" มีนัยะว่าโหมเคยใหญ่ครับ... ฉะนั้นพบหญิงสาวโหมนักเลงมาก่อน ต้องห่างๆ
สวัสดีครับคุณดาวลูกไก่ ภาษาใต้ ภาษาถิ่น มีความสวยงาม ทุกที่ทุกแห่ง ผมติดใจในสำเนียง ภาษาของชาวเจ๊ะเห อ.ตากใบ นราธิวาส ฟังลื่นไหลเหมือนฟังดนตรี ส่วนพัทลุง สำเนียงดุ ห้วน สั้น ยิ่งเป็นคำผวน คนที่ผวนเป็นจะสนุก พระก็ยังใช้คำผวน เจ้าอาวาสวัดป่าลิไลย์ พระมหาดร.ทวี เล่าว่า เพื่อนที่เคยบวชด้วยกันมา แล้วสึกไปแต่งงาน ไม่สนุกกับการใช้ชีวิตคู่ จึงมาปรึกษาท่าน ท่านเองก็ไม่เคยใช้ชีวิตคู่ แต่ก็แนะเพื่อนไปว่า... เบ้าลวดๆ...... (บวชหล่าวๆ)
สวัสดีครับครูกาย นี้หากอยู่ไกล้ จะไปเลี้ยงข้าวเที่ยง ปลอบขวัญสักมื้อ ฟังแล้วหวาดเสียวแทน แต่ก็ต้องอยู่ท่านกลางความไม่ปลอดภัย เห็นใจจริงๆ เมื่อไหร่เหตุจะคลี่คลาย วัฒนธรรมสองศาสนา กลับมาเหมือนเดิม เวลามีประเพณีทางศาสนา ทั้งต้มทั้งแกงคั่วสมรม ขนมผลไม้เรามีให้ตลอดมา ลูกหลานก็ปรีดาชอบไปมาหาสู่เวลามีประเพณีและเทศกาลทางศาสนา
สวัสดีครูบอนนี่ ภาษา ถิ่นแต่แห่งแต่ละที่ มีความแตก เช่นเรื่องคำว่าตาย.... เรื่องคำว่ากิน..... แหลงกันได้หลายสิบคำ
คิดถึง BOO นานแล้วที่คดถึงสาวอันดามัน