ผมกับตำแหน่งทางวิชาการ


ผมแอบสังเกตพบว่า ความเห็นแก่ตัว เป็นปฏิภาคตรงกับตำแหน่งทางวิชาการสูงๆ ของคนบางคน

    อ่านบันทึกเรื่อง ห่วงคุณภาพนักเรียนที่จบ ม.6  ของ ท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ แล้ว เห็นด้วยจึงเขียนความเห็นต่อไว้ท้ายบันทึก เขียนไปแค้นไปทำท่าจะไม่จบ และจะออกนอกเรื่องไปเรื่อยๆ จึงย้ายมาวางตรงนี้ และรำพึงเพิ่มเติมต่ออีกเล็กน้อยดังนี้ .......
   
         การมุ่งเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการโดยยึดเงินตอบแทนเป็นตัวตั้ง มีผลเสียมากมาย ทำลายโอกาสแห่งการเรียนรู้ของทั้งนักเรียน นิสิต นักศึกษา ทั้งยังบั่นทอนประสิทธิภาพในการทำหน้าที่  นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมและเพื่อนๆหลายคน  หันหลังให้กับสิ่งนี้  ชนิดที่ปลุกเสกยังไงก็ไม่ขึ้นเสียที่
      เมื่อไหร่หนอจะมีกระบวนการ ตามดูคนทำงาน ด้วยการมองหลายๆมิติให้รอบด้าน เมื่อเห็นชัดว่า ใช่ ก็ลากเขาออกมาจากงานสักระยะหนึ่ง เป็นช่วงสั้นๆ ให้เขาได้คิด พูด เขียน สิ่งสร้างสรรค์ที่เขาทำมา  สัมภาษณ์ยาวอย่างไรก็ได้ ข้ามวันข้ามคืนก็ได้  คนพวกนี้ไม่กลัวอยู่แล้ว เมื่อ ทนดูไม่ไหว ก็มอบตำแหน่งทางวิชาการให้เขาไปเสีย และปล่อยให้เขากลับไป ทำหน้าที่ด้วยชีวิตและวิญญาณ ของเขาต่อไป ... เป็นลู่พิเศษ  ลู่ที่สอง ที่แตกต่างจากวิธีปกติที่บางคน หรือ อาจหลายคนเคยได้ใช้วิธี ฉ้อฉลเข้าสู่ตำแหน่งอย่างไร้ศักดิ์ศรี มาแล้ว ก็ได้
     ผมแอบสังเกตพบว่า ความเห็นแก่ตัว เป็นปฏิภาคตรงกับตำแหน่งทางวิชาการสูงๆ  ของคนบางคน สายวิทย์จะน้อยหน่อย ทางศึกษาศาสตร์ และสังคมศาสตร์พบได้ง่ายกว่า ... รายละเอียดว่าเขาทำอย่างไรกันบ้าง มีครับแต่ไม่พูดดีกว่า ... เพราะแค่นี้หลายคนก็ตำหนิผมในใจแล้วว่า "องุ่นเปรี้ยว.." แต่ก็ภูมิใจครับแม้ว่ามี "นาย" นำหน้าชื่อ แต่มีคำกล่าวของผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือบางท่านกล่าวถึงตัวเราที่ฟังแล้ว มีกำลังใจและมองหน้าใครๆได้โดยไม่ต้องคอยหลบตา

" ของคุณมันเกิน รศ.แล้ว " .... รศ.ดร.อินทร์  ศรีคุณ อดีตอธิการบดี

" ถ้าสังคมมีคนอย่างคุณพินิจเยอะๆก็จะดีนะ " ... ดร.นิเชต  สุนทรพิทักษ์ อดีตเลขาธิการสภาสถาบันราชภัฏ

   และคำกล่าวที่ว่าผมเป็น
" เพชรดีที่จันทรเกษม " ..... คุณสมหมาย   ปาริจฉัตร  บรรณาธิการอาวุโส จากคอลัมน์ "เปิดโลกศึกษา" ในมติชนรายวัน

    เป็น "นาย" แต่ก็พอจะ ยกมือไหว้ตัวเอง ได้บ่อยๆครับ.

หมายเลขบันทึก: 44297เขียนเมื่อ 11 สิงหาคม 2006 12:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม 2012 22:03 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (25)
อ่านจนจบแล้ว ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อดีค่ะ....
  • ได้แต่เพิ่มพูนความ "นับถือ" ที่มีต่อคุณ Handy มากขึ้นไปอีก....ประทับใจกับประโยคที่ว่า "ปล่อยให้เขากลับไป ทำหน้าที่ด้วยชีวิตและวิญญาณ ของเขาต่อไป" มากๆค่ะ
  • ห่วงนิดเดียวค่ะ ที่ว่า "เขียนไปแค้นไปทำท่าจะไม่จบ..." ท่านจะ..ล้าง..เมื่อไรบอกพี่เม่ยด้วยนะคะ  จะไปช่วย...(ถนัดค่ะเรื่องการทำความสะอาดเนี่ย.....)
 พี่เม่ย ครับ ขอบคุณมากที่แวะมาเยี่ยม แถมฝากอะไรเล็กๆ แต่มีค่าไม่เล็กแก่ คนทำงาน อย่างพวกเรา
   แหมนึกว่าจะพก ดาบเจ้าพระยาพิชัย มาช่วยล้าง .. กลายเป็น ไม้กวาด  ไม้ถูพื้นไปเสียนี่ แต่ก็คงไม่เสียเที่ยวครับ  เพราะผมไม่ชอบความรกรุงรัง  แต่ ชอบทำ จึงทำให้รอบตัวทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ดูไม่จืด เลยล่ะครับ

     อาจารย์ครับ ผมก็ไม่ต่างจากที่อาจารย์เป็น และเห็นด้วยครับกับที่อาจารย์นำเสนอ เคยเขียนไว้หลาย ๆ ท่อน หลาย ๆ ตอนแล้วเหมือนกันครับ เช่น การประเมินบุคคลเพื่อแต่งตั้ง: จริยธรรมที่ต้องเข้มงวด ครับ

   คุณน้อง ชายขอบ ครับ ตามไปอ่านและทิ้ง Note ไว้แล้ว ว่าถอดใจผมไปเขียนชัดๆ 
   พอขาด ศรัทธา อะไรๆก็เข็นไปได้ยากจริงๆนะ  ผมเลยเป็นนักอนุรักษ์ไปโดยไม่ตั้งใจครับ .. อนุรักษ์ C-7 ไว้คู่ชีวิตจวบจนวันนี้ ... พอบอก น้องๆ เพื่อนๆ เป็นอันได้ขำกลิ้งทุกทีไป 
      เพื่อนซี้ที่สุดของผมก็เป็นโรคเดียวกัน เขาเคยเล่าว่ามีเพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่งมาบอกว่า
" เก่ง ดี และทำงานมากอย่าง คุณ (มรึง) น่าจะก้าวหน้า และไปได้ไกลกว่านี้ "
      เพื่อนผมตอบอย่างไรรู้มั้ยครับ ... " ไปของคุณ(มรึง) คนเดียวเถอะ "

     ทั้งยิ้ม ทั้งขำจะหัวเราะดัง ๆ เลยครับ ชอบใจ แล้วทำไมทั้งอาจารย์พี่และผมต้องมาบรรจบกันที่นี่ ตั้งแต่เราไม่รู้เรื่องนี้ของกันและกัน อย่างน่าอัศจรรย์ มีคนเยอะแยะที่เข้ามาทักและผ่านกันไป แต่อาจารย์พี่กับผมยังคงอยู่ไม่ผ่านกันไปเลย (...ดวงเดียวกัน มั้ง)

สงสัยอยู่เหมือนกันค่ะว่า ทำไมเราต้องมีระบบการเขียนขอตำแหน่งกัน ไม่ว่าจะระดับไหน ทำไมเราไม่มีวิธีอื่นที่มันดีและจริงกว่านี้กันแล้วหรือ กำลังจะทำตนเป็น"กบฎ"เล็กๆกับระบบแบบนี้เหมือนกันค่ะ ดูซิว่าจะได้เป็นผู้อนุรักษ์แบบคุณ Handy หรือเปล่า แต่ต่างกันนิดหน่อยคือเป็น "ดร." ที่อนุรักษ์ตำแหน่งนักเทคนิคการแพทย์ 6 ไปตลอด เพราะคิดไว้ว่าถ้าต้องเขียนขอตำแหน่งอะไรจะไม่ทำค่ะ ทำงานอื่นที่สร้างสรรค์จะมีความสุขกว่าเยอะ

   คุณ โอ๋-อโณ ครับ ... ผมเคยหวังว่าน่าจะมีระบบทางเลือกแบบที่เหมาะสม แต่ก็คิดว่าอาจไม่ได้เห็นในชาตินี้  เพราะมันมีความจริงอยู่ว่า พวกเขามากันแบบไหน ก็ต้องเคารพบูชากลไกแบบนั้นดุจชีวิต .. ไม่งั้นไม่ขลัง ... ไม่เป็นไสยศาสตร์ครับ ... ต้องลี้ลับหน่อยๆ
ผมได้อ่านบทความที่อาจารย์ได้เขียนแล้ว มีความเห็นด้วยกับอาจารย์อย่างยิ่งในเรื่องของตำแหน่งทางวิชาการ เพราะอาจารย์บางท่านไม่สนใจในเรื่องการศึกษาของนักศึกษาเลย มัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการขอตำแหน่งทางวิชาการจนลืมเรื่องที่สำคัญที่สุดของหน้าที่ตนไป
  • แวะมาทักทาย
  • ถ้าประเมินตามความสามารถหรือประเมินตามสภาพจริงจะดีมาก เบื่อที่ประเมินโดยเอกสารอย่างเดียว มีการรับจ้างทำผลงานทางวิชาการ
  • ผมมีความคิดเห็นว่าพี่มีศักยภาพในการทำงาน มีจิตวิญญาณในการเป็นครูและอุทิศการทำงานสูงกว่า รศ บางคนครับ
  • ขอบคุณครัผม

ขอบคุณ นายพินิจ  พันธุ์ชื่น ที่ทำหน้าที่ด้วยชีวิตและวิญญาณ ให้แก่อีกหลายชีวิตที่กำลังทำหน้าที่ของตัวเองให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล  เพื่อก่อประโยชน์แก่ผู้อื่นมากกว่าเห็นประโยชน์แค่ตนเอง 
    ขอยกมือไหว้ "นายพินิจ พันธุ์ชื่น" ด้วยคนคะ
                       เหมือนจันทร์ (เทคโนฯนนท์)

     ขอบคุณ คุณน้อง ขจิต ฝอยทอง คุณ somchaikpd และคุณ muanchan ที่แวะเวียนมาให้กำลังใจครับ
     ผมว่าจริงๆแล้วพวกเรามัน คอเดียวกัน ครับ  เพียงแต่เดินอยู่คนละที่ มีโอกาสเมื่อไหร่ก็จะร่วมกันทำประโยชน์ได้ทันที  โดยไม่ต้องจูนคลื่นนาน

ดิฉันก็เห็นด้วยกับเรื่องของการขอตำแหน่งทางวิชาการที่ท่านได้วิพากษ์ไว้ว่า

ความเห็นแก่ตัว เป็นปฏิภาคตรงกับตำแหน่งทางวิชาการสูงๆ  

เคยได้ยินคนพูดอยู่เสมอว่า  ตำแหน่งสูง  เงินเดือนมาก  เงินประจำตำแหน่งก็ได้  ทำงานเยอะๆซิถึงจะสมกัน

แต่คงจะมีบ้างนะคะ  ที่สู้เพื่อชีวิต  กว่าจะได้มานี่ก็หืดขึ้นคอ  อดตาหลับขับตานอน  อ่านหนังสือจนแว่นตาหนาตึบ  กระเป๋าแบนแฟนทิ้งเพราะลงทุนลงแรงลงเวลา  อะไรอีกจิปาถะ  ที่ดิฉันทำไป

เมื่อได้มาดิฉันก็ไม่ได้มีความเห็นแก่ตัวเลย

ดิฉันยังคงทำประโยชน์ต่อไป  อาจจะไม่ใช่เพื่อตัวเองในทางตรง  แต่ดิฉันได้รับคือความภาคภูมิใจในทางอ้อม

ไม่ใช่องุ่นเปรี้ยวหรอกค่ะ  ดิฉันยังมองคนอื่นที่มีความรู้แล้วประสบกับความสำเร็จแล้วดิฉันก็ดำเนินรอยตาม  เพราะมีจุดมุ่งหวังไว้ในชีวิตว่าจะทำประโยชน์ให้แผ่นดิน

ก็มองต่างมุมนะคะ  แต่ดิฉันก็หลงเข้าไปอยู่ในแวดวงของการเขียนขอตำแหน่งทางวิชาการ  เพราะสังคมลากไป

แต่ในจิตใจกมลสันดาน  ดิฉันอยู่ในเส้นทางเหมือนคุณ  ศึกษากันก่อนนะคะ  ไม่ว่ากัน

  คุณ สิริพร กุ่ยกระโทก ครับ
  ด้วยความเคารพ .. ผมศรัทธาทุกคนที่มีจิตวิญญาณแห่งความเป็นมนุษย์ ทำหน้าที่อันบริสุทธิ์ และเห็นแก่ตัวน้อยครับ .. ตำแหน่ง หรือ ยศ-ศักดิ์ ที่ สมมุติเรียกกัน ไม่ใช่เครื่องจำแนกคน .. มีตำแหน่งทางวิชาการแล้วทำหน้าที่อย่างสมศักดิ์ศรี มีอยู่ไม่น้อย และผมยกมือไหว้อยู่ในใจทุกคนครับ .. เรื่องนี้ผมยืนยันกับใครต่อใครเสมอว่า "ผมเป็นตัวอย่างทีไม่ดี .. อย่าทำตาม"

ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ  คุณ Handy 

บางครั้งบางสิ่งมันสะดุดใจเรา   บางครั้งก็รู้สึกเฉยๆ  แต่บางครั้งมันเจ็บปวดมาก

สู้อยู่เฉยๆจะดีกว่า  ที่จะดิ้นรนแล้วปวดร้าว

ดิฉันจูงมือเพื่อนๆ  ไปด้วยกันกับดิฉัน  ใครพอไปไหวก็ไปได้เองอย่างสวยงาม  ใครไปไม่ไหวก้ต้องฉุดกระชากไป  .....นี่คือความสุขของดิฉัน

อุดมการณ์เหนือสิ่งอื่นใด  ดิฉันนับถือคุณ Handy

สวัสดียามเช้าคะ...อาจารย์...Handy

กะปุ๋มมาหลายรอบมากสำหรับบันทึกนี้...แต่ไม่ได้ทิ้งรอยไว้....

ความภูมิใจในที่ทำงานอย่างหนึ่ง คือ "เป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยครองมาสิบกว่าปีแล้วคะ...แต่ไม่ด้อยปัญญาในการทำงานคะ...เวลาเขากำหนด competency...มีหลายประเด็นที่ตนไม่สามารถทำได้ เพราะ ซี5 คะ....ฮา!...."

ด้วยความศรัทธา

กะปุ๋ม

  •  คุณ สิริพร ครับ ไม่มีอะไรครับ  เข้าใจทุกอย่างดี  ทำไปเถอะครับ  อย่าท้อ  ยึดเจตนาที่ดีและความบริสุทธิ์ใจเป็นที่ตั้ง ทำไปแล้วไม่ต้องแบกให้หนัก เกิดความพอใจบ้าง ไม่พอใจบ้างก็ตามเรื่องตามราว แต่อย่าปล่อยให้ถึง เจ็บปวด  เพราะนั่นแสดงว่าเราพลาดไปแล้ว พลาดที่ เอาตัวตนไปแบกรับอะไรมากเกินไป
  • คุณน้อง Ka-Poom ครับ ... ผมก็คล้ายกัน ระดับบัณฑิตศึกษามีอะไรน่าทำเยอะ  ประสบการณ์ในสนามที่พบผ่านและเรียนรู้มาไม่น้อยน่าจะได้ไป Share กับผู้เรียนในระดับนั้น เพื่อประโยชน์และการขยาย ต่อยอดสิ่งที่พวกเขามี แต่ผมก็ได้เข้าไปมีส่วนแค่เศษเสี้ยว เพราะความเป็น "นาย" และ C-7 ที่ผมอนุรักษ์ไว้คู่ชีวิตนั่นเอง
  • อาจารย์Handy คะ  เรื่องที่อาจารย์เขียนนี้  ได้แทงทะลุเข้าไปในใจดิฉัน
  • สำหรับดิฉันไม่มีทางเลือกอื่นค่ะ   นอกจากก้มหน้าก้มตาเดิน  (อันที่จริงคือดิฉันกำลังคลานกระดืบๆ)  เข้าลู่ค่านิยม  แล้วก็มึนงงกับเส้นทางข้างหน้าว่าจะไปทางไหนดี  แต่ไม่สามารถถอยหลังกลับได้
  • เพื่อนชอบล้อว่าจงไปแต่งงานเสีย  แต่ดิฉันคิดว่านั่นยังไม่ใช่ Best Practice   และอาจกลายเป็นBad Decision  ได้  คือประมาณว่าจนแล้วหยิ่งพองาม..... อิอิ 
  • บางที.... ดิฉันก็ขำตัวเองอะค่ะ  คือตัวเองยังไม่ใคร่มีอนาคต แต่เพียรพยายามอย่างมุ่งมั่นที่จะไปสร้างอนาคตให้ผู้อื่น 
  • เรื่อง การรู้เท่าทันการสื่อสาร ที่ดิฉันกำลังสนุกสนานกับการฝึกเด็กๆอยู่นี้   ไม่มีวิชารองรับ ในหลักสูตรนิเทศศาสตร์ราชภัฏ  (คณะ วจก.)  เพื่อนๆก็ไม่ใคร่สนุกด้วย  เพราะต่างก็มีภาระ(ตามค่านิยม)ที่ว่า
  • ดิฉันก็เลยขอย้ายไปอยู่คณะครุฯ  กะว่าจะไปทุ่มทุนทุ่มใจสร้างแถวโน้นค่ะ  มาเปลี่ยนเส้นทางเอาตอนแก่  แต่ก็ตั้งใจมุ่งมั่นไปแล้ว   ไม่ทราบจะได้ย้ายเมื่อไรเหมือนกันค่ะ  ตอนนี้ก็เลยเป็นครูสองสัญชาติไปพลางๆก่อน  :) 
  • และอยากเรียนว่าแค่ได้อ่านบันทึกของอาจารย์  ก็รู้สึกเลยว่าอาจารย์ "จริง" นะคะ  ดิฉันรู้สึกอยู่เสมอเวลาที่ได้สัมผัสกับที่ "ไม่จริง"   คือรู้สึกใจฝ่อ  และเป็นห่วงเด็กขึ้นมาจับใจ  เพราะเขาเป็นผู้ถูกกระทำทางจิตวิญญาณ
  • เรื่องยี่ห้อและการติดตรารับรองลำดับชั้นผลิตภัณฑ์ :) ดิฉันไม่ใคร่กังวลเท่าไหร่  เพราะเด็กเขารู้ และ/หรือ สักวันเด็กเขาจะรู้  ดิฉันเห็นมาอย่างนั้นตลอดชีวิตนะคะ 
  • ขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะ  :)

ขอบคุณ อ. ดอกไม้ทะเล ครับ
   บันทึกนี้อายุใกล้ครบปี   ยังเข้ามาอ่านได้  แสดงว่าคงติดตามเข้ามาโดยไม่ได้บังเอิญเป็นแน่  ดีใจครับหากสิ่งที่นำเสนอจากใจ  ทำให้โดนใจ  ซึ่งนั่นก็แสดงว่าเรามีใจตรงกันอยู่บ้าง หรืออาจจะมากๆก็ได้
   ผมตามอ่านบันทึกของอาจารย์ด้วยความชื่นชม  เหมือนที่คุณ โอ๋ เธอชมเอาไว้ครับ  สะท้อนเรื่องราว ที่เป็นจริง  ด้วยอารมณ์ขัน และครื้นเครง  แถมแอบหยิกได้งามๆ เจ็บๆ คันๆ ได้บ่อยๆ  หาตัวจับยากครับ.

ผมนั่งอ่านหลายครั้ง ก็รู้สึกไม่ดี เมื่อตัวผมเองเคยไปเป็นอาจารย์ฝึกหัดเมื่อสมัยเป็นนักศึกษาป.ตรี คิดแล้วก็เศร้าใจเป็นอย่างมาก ครูไทยสมัยเก่าหรือสมัยนี้ แย่ขนาดหน้าด้าน

ทำอะไรไม่เป็น อาศัยลำแข่งนักศึกษาฝึกงาน จนได้ดิบได้ดี เหตุผลแค่ว่า ครูเกิดในสมัยก่อนที่ไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้ ไอ้เราก็เลยได้แต่งตำรา วิชาคณิตศาสตร์..... ให้จนจบกระบวนการ ตั้งแต่หน้าแรกยันหน้าสุดท้าย คิดแล้วเศร้าใจ ตำแหน่งทางวิชาการ อาจารย์ 3 ที่ใคร ๆ คิดว่าดี ที่ไหนได้ แค่เด็กป.ตรี ทำให้ยังผ่านไปรับตำแหน่งแบบครั้งเดียวผ่านเลย แย่มาก ด้วยจิตวิญญาณความเป็นครู อยากสอนให้เด็กเรียนต่อ ตั้งใจเรียน

นำความรู้ที่ได้ ไปประยุกต์กับชีวิตจริง แต่ครูที่ได้ชื่อว่า แม้พิมพ์เอกสารคอมฯยังไม่เป็น แล้วนี้หรือคือ คำว่าตำแหน่งทางวิชาการที่อาจารย์หลาย ๆ ท่านได้มาบนความลำบากยากเย็นของนักศึกษาฝึกงาน เสาร์อาทิตย์ก็ต้องยอมทำ เพราะอยากฝึกหัดให้จบ แทนที่จะได้เพิ่มประสบการณ์ ด้านการสอน กับได้ทำตำรา แต่งให้จนสำเร็จ ต้องนั่งเเปลจาก ตำราต่างประเทศ ต้องหาโจทย์ต้องหาการบ้านท้ายบท สุดท้ายได้มาแค่ A ตัวเดียว ถึงจะได้รับคำชมมากมายที่เก่ง แต่ก็รู้สึกเศร้าใจ ที่อาจารย์ที่สอนเก่ง ๆ ดี กับไม่ได้อะไรเลย แต่อาจารย์ที่อายุมากบางคน แต่ไม่ได้เพิ่มพูนความรู้ ยังได้รับการยกย่อง ช่างน่าอนาจใจ แต่ใช่ว่าจะเป็นเช่นนั้นซะหมด อาจารย์ในมหาลัยหลายท่าน เก่ง ๆ จบต่างประเทศทั้งนั้น กว่าจะเรียน กว่าจะสอน กว่าจะเก่ง สมควรแล้วที่ได้รับตำแหน่งทางวิชาการ อันนี้ขอชื่นชม และเราทำเราก็ภูมิใจในตนเอง หาใช่คนอื่น ตนเองทำต้นเองรู้ เมื่อได้มา แต่ไม่ได้ทำ ก็ไม่ภาคภูมิใจ หรือที่เรียกว่า หน้าด้านเอา ใช่หรือไม่ ใครทำก็ภูมิใจที่ได้เพิ่มพูนความรู้ มิใช่ว่าคนที่ได้จะเป็นคนที่ไม่มีจิตวิญญาณ จิตวิญญาณบางครั้งก็มาพร้อมกับการตอนแทนที่มีคุณค่า .....

สวัสดีครับ เด็กเกียรตินิยม

  • ติดตามที่เล่ามาด้วยความสนใจครับ
  • การเบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบกันมีได้เสมอ เมื่อมนุษย์ยังหนาด้วยกิเลส  ไม่มีข้อยกเว้นว่าจะอยู่ในสถานภาพใด .. เรียนมามากแค่ไหน .. เรามีหน้าที่เป็นผู้ดูที่ดี  เป็นละครที่เขาเล่นให้เราดู  อยู่ในโรงละครใหญ่คือโลกใบนี้
  • ดูละครแล้วย้อนดูตัว .. ระมัดระวัง  ไม่ประมาทในการ คิด พูด ทำ .. เลือกแต่สิ่งที่เป็นความ "ถูกต้อง" โดยใช้บทเรียนจากตัวละครทั้งหลาย ทั้งตัวดี ตัวร้าย .. เพื่อจะได้ไม่ต้องทุกข์ใจกับปรากฏการณ์ต่างๆมากเกินไป
  • ขอบคุณครับ

อาจารย์ช่างเป็นที่ยอมรับ และมีคุณค่าต่อทุกคน ขอแสดงความยินดีในชีวิตที่ดีงาม

ด้วยความจริงใจ

ได้ยินเสียงพูดของอาจารย์แล้วมีความสุขมาก(จากโทรศัพท์)อยากเจออาจารย์จังอาจารย์เก่งนับถือมากค่ะ อาจารย์แนะนำได้ดีมากแต่หนูเกรงใจอาจารย์มากค่ะ หนูอยากพัฒนาการเรียนรู้เด็กโดยวิธีฉลาดรู้ เด็กไทยจะได้ฉลาดมากๆจะยึดเทคนิคRICASE ของอาจารย์เป็นแม่แบบนะคะ

ขอให้อาจารย์มีความเจริญก้าวหน้ามากยิ่งๆขึ้นไปนะคะ

จะรอตำราจากอาจารย์นะคะขอบคุณหลายๆค่ะ

ขอบคุณ ครู Pang ครับ

  • ด้วยความยินดีครับ  เชียร์เต็มที่  ทำไปเถอะครับเพื่อการเรียนรู้ที่ดีของเด็กๆ 
  • ยังไม่ได้เปิดเมล์ดูเลย เดี๋ยวจะรีบไปดูแส่งเอกสารให้ครับ

 

อาจารย์ค่ะ ความเห็นแก่ตัว เกิดขึ้นกับทุกคนแต่ถ้าคนเรารู้จักช่วยเหลือกัน ให้อภัยและมีน้ำใจต่อกันก็คงดีเหมือนกันนะค่ะ

สวัสดีครับอาจารย์ พินิจ ไม่เจออาจารย์นานมากเลยตั้งแต่เจอที่รถไฟฟ้าใต้ดิน ที่หัวลำโพงนะครับอาจารย์

ผมว่าตอนนี้ สิ่งสำคัญของการศึกษา ที่ต้องให้ความสำคัญ

คือ สอนยังไง ให้ คนเรารู้จักพอประมาณ ไม่เบียดเบียนคนอื่น

แต่ ว่า ท่าจะเป็นไปได้ยากมากเลยทีเดียวกับ สภาพสังคมในปัจจุบันนี้

อาจารย์ยังสบายดีนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท