สืบเนื่องจากมีการกล่าวหาว่าโลกไซเบอร์ (Cyber) ไม่เว้นแม้แต่ใน GotoKnow ว่าเป็นโลกมายา ด้วยถ้อยคำที่ว่า “โลกมายา: เรี่องบางเรื่องไม่ควรเปิดเผยเลย และอาจไม่เป็นผลดี” จริง ๆ แล้ว ผมไม่ได้ติดใจว่าใครตั้งคำถามนี้ หรือคิดหวังสิ่งใดในการตั้งคำถาม เขาอาจจะหวังดีต่อกันก็เป็นได้ แต่ที่อยู่ในความสนใจของผมคือ หรือว่าโลกนี้ไม่ใช่มายา มากกว่า
โลกนี้ในมุมมองของผมก็คือโรงละคร โรงใหญ่ เพียงแต่ใครจะใช้ชีวิตจริงแสดงทั้งชีวิต หรือใครจะใช้ชีวิตจริงแสดงเพียงบางส่วน ทุกคนล้วนเป็นนักแสดงมืออาชีพกันทั้งสิ้น ผมไม่รู้จะพูดอย่างไรดีกับความรู้สึกนี้ แต่เชื่อด้วยฐานคิดด้านบวกนี่แหละครับ เชื่อด้วยว่าเป็น “สิทธิ” ที่จะเปิดเผยแค่ไหน อย่างไรก็ได้ เพราะยังไงเขาก็ย่อมได้รับผลจากการเปิดเผยเท่าที่ได้เปิดออกมา แต่ที่ไม่ประทับใจก็ตรงที่ความพยายามในการชี้จูงคนอื่นให้เห็นไปกับตน ในสิ่งที่ควรเป็นอิสระแห่งตนเสียมากกว่า
ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดเองได้ แต่ก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับผลพวงจากการตัดสินใจไปตามความคิดแห่งตนด้วยเช่นกัน ฉะนั้นไยจึงได้พยายามที่จะให้เชื่อตามตนด้วยในทุกเรื่อง โลกมายาส่วนนี้ขอไม่ต้องมีผู้กำกับไม่ได้หรือ ขอเพียงเป็นเพื่อนร่วมแสดงที่อิสระต่อกันก็น่าจะพอ...นิ
จะมาก่อนคุณ "ขจิต" หรือเปล่าเนี่ย...ช่วงนี้ต้องวิ่งแข่งกันหน่อย...คุณ "ขจิต" มากับจรวด Vij มากับใจ (จ๊าก...)
ฐานคิดของคน คือ คนเราคิดและกระทำไม่เหมือนกันค่ะ นี่คือความแตกต่างระหว่างบุคคล เคยได้เรียนและมีแบบอย่างให้ดูในชีวิตประจำวัน จึงเข้าใจคนและความหมายของความแตกต่างของคน
จริง ๆ แล้วละครโรงนี้...ต้องการอิสระทางด้านความคิด...แต่จะทำอย่างไรได้ "คน ก็คือ คน" มักมองคนละมุม...จึงมีความคิดที่หักเหไปคนละด้านคนละมุม ตามแต่มุมมองของแต่ละคนที่มอง...อิสระ คือ สิ่งที่ทุกคนต้องการเสมอ...จึงได้บอกเสมอว่า "การตวัดปลายปากกาแต่ละครั้ง...คุณรู้บ้างใหมว่าคุณได้หรือสูญเสียอะไรไปบ้าง" ฉะนั้นก่อนจะทำอะไรขอให้คิดก่อนทำเสมอ...
อะไรคือจริง
อะไรคือมายา
ตามมาทักทายคุณ "บัวใต้น้ำ"...คะ
ขอบคุณนะคะ...สำหรับการแวะมาอวยพรวันคล้ายวันเกิด...
ที่ผ่านมาไม่เคยสงสัยเรื่องมายาเลยค่ะ อ่านของใครก็ไม่ค่อยไปนึกว่าตัวตนเขาเป็นอย่างไร(หมายถึงชีวิตจริงๆ) นอกจากเจ้าตัวเขียนเรื่องของตัวเอง ก็จะชื่นชมค่อนข้างมาก เพราะที่ผ่านมา คนเขียนมักจะเขียนเชิงวิเคราะห์และตกผลึกกับสิ่งนั้นๆ ไม่ว่าจะหงุดหงิด รัก เศร้า โกรธอย่างไร ก็มองสิ่งนั้นๆที่เขาเขียนในเชิงเพื่อพัฒนาตัวเองหรือหน่วยงานหรืออะไรๆ ก็แล้วแต่ ซึ่งชื่นชมกับวิธีคิดน่ะค่ะ
ส่วนหนึ่งเพราะตัวเองนั้นตัวจริงนอกหรือในบล็อกก็เดียวกัน เพียงแต่เวลาเขียนอะไรในบล็อกของ gotoknow รู้ว่าตัวเองเคร่งขรึมกว่าไปเขียนเล่นที่ในเว็บอื่น สาเหตุหลักก็คือรู้ว่าที่นี่ คนต้องการการเรียนรู้มากกว่า และค่อนข้างเคร่งขรึมกันมากกว่า (โทษสังคมgotoknow ว่าเคร่งเครียดกันจัง) แต่ก็ไม่เป็นไร ....เพราะฉะนั้นถ้าใครจะห้ามใครในการเขียนอะไร..เลยรู้สึกแปลกใจฉับพลัน ...เพราะเป็นการกีดกันในรูปแบบหนึ่ง
การกีดกันจะเจริญเร็วกับสังคมแห่งชนชั้น และสังคมที่แก่งแย่งชิงดีและอำนาจ ซึ่งคิดว่า ไม่น่าจะเติบโตเร็วใน gotoknow (ที่เคร่งขรึม) นี้
คุณชายขอบเขียนบันทึกนี้ทำให้ดิฉันได้กลับมาคิดในสิ่งที่ไม่เคยคิดมาก่อน...ขอบคุณค่ะ
ถ้า GotoKnow เป็นโลกมายา นักแสดงบางคนอาจจะต้องการตรวจสอบ rating อยู่ว่าผู้ชมจะอิน ในบทบาทการแสดงนั้นๆ หรือไม่ นั่นหมายถึงการพยายามชี้จูงให้ผู้อ่านเห็นไปกับบทบาท ความคิดแห่งตน
ถ้า GotoKnow เป็นโลกมายา จริงๆ มันก็เป็นไปได้ที่จะมีทั้งนักแสดงที่หลงรักการแสดง และนักแสดงที่หลงมายา การที่ผู้ชมอิน ถือเป็นความภูมิใจของนักแสดง
สำหรับตัวเอง แค่รู้สึกว่าเขียนอะไรแล้วดูจะเป็นประโยชน์บ้างก็ปลื้มจะแย่แล้วค่ะ ขอเป็นตัวประกอบก็พอใจแล้ว เพราะยังไง หนังเรื่องนึง ถ้ามีแต่พระเอกกะนางเอกสองคน คงจะน่าเบื่อมาก ต้องมีตัวประกอบมาสร้างสีสันด้วย จริงมั้ยคะ