สวนของคนขี้เกียจ


พี่บอกอีกว่า "ปลอดสารพิษ" ไม่ได้ดูแลเลย เพราะ งานเยอะขึ้น และทำงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นทำให้ไม่มีเวลาดูแลไร่ลิ้นจี่เลย เรียกว่า เป็นสวนของ "คนขี้เกียจ" ก็ได้พี่บอกแบบนั้น

วันเสาร์ช่วงเช้า ขับรถจากอำเภอปางมะผ้า มาพร้อมกับเพื่อน แวะถ่ายรูปตามรายทางมาเรื่อยๆ ถนนสาย ปางมะผ้า - ปาย สวยงามมาก กับสายหมอกที่เคลียคลอกับต้นสนตามรายทาง พวกเราจึงสนุกสนานกับการบันทึกความทรงจำผ่านกล้องดิจิตอลกันเต็มที่

จุดหมายคือเมืองปาย และจะไปบ้านสันติชล พี่พิสมัย (พยาบาลหัวหน้าห้องคลอด และนักวิจัยเพื่อท้องถิ่น) ชวนไปกินอาหารจีนยูนนานที่บ้าน และถือโอกาสพาเพื่อนไปเที่ยวด้วย

พี่พิสมัยโทรศัพท์มาตอนสายให้ชวนน้องหมอ KMsabai มาด้วย เลยไปหาสบายคลีนิกและให้ปิดคลีนิกชั่วคราว เพื่อเราจะได้คุยกัน ทานข้าวด้วยกันหลังจากที่ไม่เจอกันตั้งหลายสัปดาห์

ถึงบ้านพี่พิสมัยเราเดินเล่นบริเวณสวนลิ้นจี่กว้างใหญ่ บ้านของพี่ แบบทรงชาเลย์ โดดเด่นด้วยต้นสนเก่าแก่ มีปล่องควันทะลุกลางบ้านใหญ่ทำให้บ้านดูน่าอยู่มาก หลังจากที่จิบกาแฟสด ชิมชาอู่หลงก้านอ่อนที่พี่ชมนักชมหนาว่าหอมกรุ่นเสร็จ เราพากันเดินออกทางหลังบ้าน เจอสวนลิ้นจี่ที่สะพรั่งไปด้วยผลลิ้นจี่ สีแดงสด พี่พิสมัยบอกว่าแก่เต็มที่ รสหวานกรอบ เป็นพันธุ์ "ฮงฮวย" ด้วยกิ่งเรี่ยรายระดับบั้นเอว พวกเราจึงสามารถเก็บกินได้อย่างสะดวกสะบายกระเพาะ

พี่บอกอีกว่า "ปลอดสารพิษ" ไม่ได้ดูแลเลย เพราะ งานเยอะขึ้น และทำงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นทำให้ไม่มีเวลาดูแลไร่ลิ้นจี่เลย เรียกว่า เป็นสวนของ "คนขี้เกียจ" ก็ได้พี่บอกแบบนั้น

นี่คงเป็น "ข้ออ้าง" ที่น่ารักๆจากพี่สาวของเรา จริงๆพี่ต้องการให้ผลไม้ในไร่ปลอดจากสารพิษทั้งหมด ส่วนใหญ่จะใช้รับรองแขกและเอาไปแจกเพื่อนๆ แต่ดูว่า ไร่ขนาดนี้แจกทั้งอำเภอปายคงกินไม่หมด บางส่วนก็น่าจะเอาไปแปรรูปเพื่อทำผลิตภัณฑ์ อาทิ ลิ้นจี่อบแห้ง ไวน์ลิ้นจี่ ที่สำคัญก็คือ เป็นผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์

นอกจากจะเอร็ดอร่อยจากผลไม้ลิ้นจี่แล้วยังมี ชมพู่ ละมุดและอีกหลายประเภทผลไม้ในสวนของพี่

ยังอิ่มเต็มๆอีกทีกับเมนูอาหารจีนยูนนาน หมั่นโถ ขาหมู อีกเต็มโต๊ะเลย(อิ่มมาก)

ขอบคุณพี่พิสมัย กับ สวนของคนขี้เกียจ มากครับ กับความสนุกสนาน และความอิ่มหนำแบบไร้สารพิษในวันนี้

หมายเลขบันทึก: 31477เขียนเมื่อ 28 พฤษภาคม 2006 08:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)
   ดีจังครับ  อ่านแล้วเพลิน .. ผ่อนคลาย .. ได้บรรยากาศ  เสียอย่างเดียว .. อ่านแล้ว หิว ครับ.

อาจารย์ Handy

             อาหารจีนยูนนานมีอาหารเพื่อสุขภาพอีกหลายรายการครับ ด้วยเฉพาะ อาหารที่ทำจากถั่วเหลือง  ส่วนขาหมู ผมก็ Limit ให้นานๆครั้ง

             อาจารย์ว่างเว้นจากการสอน มาเที่ยวได้ครับ เที่ยวสนุกและอิ่มอร่อย ครับ

เส้นทางจากปางมะผ้ามาปายสวยมากๆ แถมบรรยากาศที่บ้านสันติชลก็สวย    อากาศดี   อาหารอร่อย ผู้คนมีอัธยาศัยไมตรีดีตามแบบฉบับของคนเหนือ    ถ้ามีโอกาสก็อยากไปช่วงเทสกาลของชาวจีนยูนนานอีกสักครั้ง

ที่สำคัญปายยังมีมนขลังให้ต้องกลับไปเยือนเหมือนเดิม

ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นจริงๆ

jarung.h

อันที่จริง มีคำในบันทึกที่สะดุดใจผมมาก คือคำว่า "ขี้เกียจ" ครับ

 "คนขี้เกียจ" เป็นคำที่ผมทึกทักว่าถูกนิยามโดยกลุ่มผู้ที่ได้รับอิทธิพลจากการศึกษาแบบตะวันตก ที่เน้นการทำงานในเชิงเศรษฐกิจแบบเงินตราแบบแข่งเป็นแข่งตายกับเวลา รีดเอาหยาดเหงื่อแรงงานของตนและคนอื่นโดยงมงายว่า "คุ้มค่า" 

ในยุคสมัยหนึ่งของไทย ถึงกับแสดงความรังเกียจ "ความขี้เกียจ" นัยว่าเป็นบ่อเกิดของความยากจน ความโง่ และความเจ็บไข้ได้ป่วย เคยได้ยินไหมครับ "ไม่มีความยากจน ในหมู่คนขยัน (ทำงานและบริโภคนิยม)"

 "คนขี้เกียจ" จึงเป็นคนที่สังคมอุตสาหกรรมไม่ต้องการ

ชาวนา ชาวไร่ ต้องทำงานทุกชั่วโมงให้คุ้มค่า อย่ามานั่งจับกลุ่มคุยกันหลังมื้อเย็น อย่าไปเสียเวลากับงานบุญที่ไม่ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ มิฉะนั้น จะกลายเป็น "คนขี้เกียจ" และจะยากจนต่อไป นักธุรกิจ นักอุตสาหกรรม และนักเศรษฐศาสตร์มักจะบอกอย่างนี้

... แต่ปัจจุบันนี้ คนขยันแบบนันสต๊อปนี่แหละครับที่สร้างปัญหา เพราะไม่มีเวลาหยุดพักเพื่อวิเคราะห์ประเมินสิ่งที่ตัวเองทำ มีชีวิตเป็นทาสของความขยัน ท้ายสุดก็เจ็บไข้ กายใจเครียดไปหมด งานการก็อลหม่านไปด้วย

ดูๆไป ชาวไร่ชาวนาที่ถูกประณามจากนักธุรกิจและนักพัฒนา (บางคน)ว่า "ขี้เกียจ" นั้น ชีวิตเขามีความสุขกว่าคนขยันเป็นไหนๆ

ผมว่า เราอาจต้องเอาความขี้เกียจของชาวบ้านมาเป็นครูแล้วกระมัง

พี่ยอดดอย

ต้องถามตัวเอง

"มีความสุขหรือเปล่า กับสิ่งที่ทำอยู่"?

สุขแบบไม่เอาเปรียบคนอื่น ไม่เดือดร้อนสังคม

สุขแบบคนรอบข้างสุขไปด้วย

 - - - - - - - - - -

 "เมื่อเป็นปลาใหญ่ในมหาสมุทรไม่ได้ ก็จงเป็นปลาเล็กในลำธารอันแสนสุขเถิด"

ที่โรงพยาบาลมหาสารคาม   เปิดพื้นที่ให้ชาวบ้านหอบหิ้วพืชผักผลไม้ปลอดสารพิษมาวางขายกันราวกับตลาดสด...  ดูแล้วน่ารักไปอีกแบบ  ได้บรรยากาศไปอีกมุม

ว่าง ๆ คนไข้ก็หิ้วถือน้ำเกลือมาเดินชมตลาดที่ว่านี้ราวกับกำลังเดินอยู่ในสวน...

ผมว่าตลกดีครับ  แทนที่โรงพยาบาลจะสงบเงียบ  แต่กลับคึกครื้นไปอีกแบบ...

ผมบันทึกภาพไว้หลายภาพ  แต่ตอนนี้หาไม่เจอ  เลยอดเอามาภาพมาฝาก....

ได้อ่านแล้วพลอยอิ่มไปด้วยครับ โดยเฉพาะอิ่มอกอิ่มใจ ทั้งบรรยากาศ อาหารธรรมชาติ ความสนุกสนาน และความเอื้ออาทรของพี่น้องชาวแม่ฮ่องสอน ที่ร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนา ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ

สวัสดีครับคุณจตุพร

แวะมาทักทายครับ

สงสัยผมต้องหาเวลาออกเดินทางบ้างซะแล้ว

จะได้มีประสบการณ์ดีๆ ได้เจอธรรมชาติ

และ ได้แนวคิดแบบ "สวนของคนขี้เกียจ" บ้างครับ

ขอบคุณครับ 

สวัสดีครับคุณพนัสP แผ่นดิน

บันทึกนี้ผมเขียนมานานแล้ว ตั้งแต่ปีที่โน้น

บรรยากาศใน รพ.ที่เขียนถึง ผมคิดถึง ที่ รพ.ศรีสังวาล์ ที่แม่ฮ่องสอนที่นี่เป็นตลาดนัดสินค้าปลอดสารพิษที่เรียกว่า "เกษตรอินทรีย์"ครับ

บรรยากาศคล้ายกัน มีคนไข้ถือถุงน้ำเกลือมาจ่ายตลาดด้วย  เป็นสุขภาวะที่ถือได้ว่า น่ารัก น่าชังครับ

ตอนนี้ที่ตลาดปายก็มีแผงสินค้าเกษตรอินทรีย์มากแล้ว เป็นเรื่องที่ดีมากๆสำหรับวิถีเกษตรที่นี่

ขอบคุณครับ

มีความสุขในวันทำงานครับผม

สวัสดีครับคุณครูครับP

ขอบคุณที่มาเยี่ยม มาอ่านครับผม

เป็นบันทึกที่เขียนเอาไว้นานพอสมควรแล้ว เก็บมาอ่านก็นึกถึงบรรยากาศที่ล่วงผ่านไปได้ดี

มีโอกาสมีเวลา มาเที่ยวได้นะครับผม

P

 TheInk
ทักทายวันอากาศหนาวเย็น

วันนี้ประมาณ ๙ องศาครับผม

หากมีเวลามาเที่ยว เรียนรู้ธรรมชาติครับ เราจะได้เรียนรูว่าโลกนี้มีที่ดีๆอีกหลายแห่งที่เรายังไปไม่ถึง หรือ ไม่เคยสัมผัส

มาเที่ยวต้องการข้อมูล ติดต่อได้ครับผม

มีคลิปป่าวคลิxxxxมีป่าว

พรวนบันทึกด้วยคลิป xxx ด้วยคน ... 555 มาไงหว่า :)

อ.Wasawat Deemarn

ขอบคุณครับ แต่ comment ขอคลิป XXX อาจต้องทบทวนครับ :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท