เสียงวิพากษ์วิจารณ์ เป็นสัญญาณการพัฒนา โปรดอย่าปฏิเสธ


การรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ เพื่อนำมาปรับปรุงตัวเอง

 

         จากประสบการณ์ในการทำงาน   ผมพบว่ามีผู้บริหารโรงเรียนถูกร้องเรียนเข้ามามากครับ  ล่าสุดนี่ก็  5  รายครับ  และ ผมต้องรับผิดชอบต่อคำร้องเรียนถึง 2 ราย

         เรื่องที่ร้องเรียน  ก็ไม่ใช่ความผิดใหญ่โตอะไร  สาวให้ลึกไปถึงสาเหตุที่แท้จริง  ส่วนใหญ่ก็มักจะมาจากสาเหตุของความไม่พอใจในเรื่องบุคคลเสียมากกว่า

        นั่นคือ  ผู้บริหารมักจะบริหารแบบเลือกที่รักมักที่ชัง  มีอคติ   หรือ  ไม่เห็นความสำคัญของคนบางคน

        ที่ผ่านมา การแก้ปัญหาส่วนใหญ่  ผู้บริหารมักจะไม่ค่อยยอมรับความจริงครับ   นอกจากไม่ยอมรับความจริงแล้ว  ยังสร้างกลไกปกป้องตัวเอง ด้วยการปฏิเสธ และ ปล่อยข่าวทำลายคู่กรณี

        ปัญหาก็เลยลุกลามใหญ่โต  และ  แก้ไขได้ลำบาก

        ท่าทีต่อคำวิพากษ์วิจารณ์   ถ้ามองด้วยใจที่เป็นกลางแล้ว  จะเห็นได้ว่า   เป็นสัญญาณที่ดีที่ส่งเข้ามาให้รู้ว่า  ได้เวลาปรับปรุงพัฒนาตัวเอง

        ดังนั้น  เมื่อมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ หรือ ข้อร้องเรียน  ก่อนอื่นจะต้องมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ หรือ ข้อร้องเรียน   คือ

·                ต้องรับฟัง

·                ไม่ป้องกันตัวเอง

·                มองย้อนหาความเป็นจริงในความบกพร่องของตัวเอง

·                แก้ไขปรับปรุงตัวเองตามความเป็นจริง

·                เลือกเส้นทางที่จะพัฒนา  ไม่ใช่หนีปัญหา

       คนทำผิด แล้วยอมรับผิด และ พร้อมที่จะแก้ไขปรับปรุงตัวเอง   ไม่ถือว่าเป็นเรื่องเสียศักดิ์ศรี  หรือ เสียฟอร์มแต่ประการใดครับ   และ  ไม่ถือว่าเป็นผู้แพ้

        ตรงกันข้าม   กลับถือว่าเป็นผู้ชนะครับ  และ เป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่   เนื่องจากชนะในสิ่งที่เอาชนะได้ยาก  นั่นคือ

         ชนะใจตัวเอง

หมายเลขบันทึก: 290767เขียนเมื่อ 25 สิงหาคม 2009 04:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

สวัสดีค่ะท่าน ผอ.

ครูอ้อยไม่เคยปฏิเสธล่ะค่ะ  เพราะ เราเป็นคนสาธารณะ  มาเขียนที่นี่  เป็นคนสาธารณะโดยปริยายค่ะ

ฟัง ยอมรับ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง สิ่งที่ไม่ถูกต้อง สิ่งที่ต้องทำถ้าคิดนำคนอื่น

Pครูอ้อยตื่นเช้านะครับ

           ครับ คนสาธารณะ  ต้องรับฟังด้วยใจที่ว่างๆ ครับ

                              ขอบคุณครับ

Pคุณวอญ่าครับ

  ครับ  ผู้นำ  ต้องฟัง และ นำมาปรับปรุงตัวเองครับ

                    ขอบคุณมากครับ

แต่มันยากนะคะกับการ

· มองย้อนหาความเป็นจริงในความบกพร่องของตัวเอง

มองอย่างไรก็ไม่เห็นสักที

Pครู ป 1 ครับ

   เป็นเรื่องที่ยากอย่างที่ว่ามาแหละครับ  กับการมองย้อนหาความจริงในความบกพร่องของตัวเอง

   ผมเอง ยังมองไม่ค่อยเห็นความบกพร่องของตัวเองเลยครับ ...555

   ดังนั้น  ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่  คือ ชนะใจตัวเอง  เพราะยากมากครับ

                       ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ

  • การปล่อยข่าวของฝ่ายตรงข้าม..ไม่น่ารักเลยนะคะ
  • แต่..คนฟังเขามีวิจารณญาณค่ะ
  • ไม่อยากให้วงการครูเกิดแบบนี้
  • ขอเป็นกำลังใจให้ท่านรองฯ ค่ะ

ผมเคยถูกผู้บริหารcomment ในที่ประชุมด้วยคำพูดที่ไม่น่าจะพูด ก็เลยนำมาคิดว่า ผู้บริหารได้ข้อมูลจากไหนมา ถึงพูดเช่นนั้น อาจจะเป็นส่วนจริงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะผู้บริหารส่วนใหญ่แล้วจะไม่พูดในทาง 2 แง่ 2 ง่ามให้เข้าใจผิด ๆ ได้ มีแต่การให้กำลังใจ ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาหลายคนที่ได้ยิน มองย้อนกลับไปถึงผู้บริหารคนนั้นด้วย แต่ไม่เป็นไร ทำให้เรามีกำลังใจในการปรับปรุงแก้ไขส่วนที่บกพร่องต่อไป

สวัสดีค่ะท่านรองฯ

การรับฟังคำวิพากย์วิจารณ์ทำได้ยากค่ะ แค่นิสิตเขียนประเมินมาแล้วติติงการสอนบางจุดแรกๆก็รับได้ยาก แต่พอผ่านไปก็คิดว่าที่นิสิตบอกก็มีประโยชน์ต่อการปรับปรุงการสอนมาก หากนิสิตไม่บอกเราก็ไม่รู้ เหมือนส่องกระจกเลยค่ะ

คนเราจะรับฟังแต่ส่วนที่ดีกันเมื่อเป็นสิ่งที่ตนไม่ชอบใจจะไม่เอาทันที

สังคมปัจจุบันเลยก้าวขึ้นสู่บันใดขั้นแรกคือ..สัมมาทิฏฐิ..ในมรรค๘ ไม่ได้

เพราะการรับฟังคนอื่น(ปรโตโฆสะ)คือส่วนหนึ่งของสัมมาทิฏฐิ..

ธรรมยามเช้าขอรับท่านรอง

Pพี่คิมครับ

     ใช้วิธีการปล่อยข่าวฝ่ายตรงข้าม เพื่อกลบข่าวตัวเองครับ

                   ขอบคุณครับ

Pคุณแก้วพิจิตรครับ

   ผู้บริหารเอาเราไปว่าในที่ประชุม ผมเองก็เคยถูกต่อว่าในที่ประชุมครับ  มีคนนำข้อมูลไปฟ้อง

    ผมใช้วิธีให้อภัยครับ  และ ก็นำมาปรับปรุงตัวเอง

                        ขอบคุณครับ

   

Pอาจารย์อ้อมครับ

    การยอมรับคำวิพาก์ของคนอื่นเป็นเรื่องยากครับ ผมเองก็ทำใจยอมรับไม่ค่อยได้เหมือนกัน

   แต่เมื่อแข็งใจยอมรับ  ก็เป็นเรื่องดีนะครับ จะได้ปรับปรุงตัวเอง

                ขอบคุณครับ

Pท่านธรรมฐิตครับ

    เป็นประโยชน์มากครับ สำหรับข้อคิดที่ว่า

สังคมปัจจุบันเลยก้าวขึ้นสู่บันใดขั้นแรกคือ..สัมมาทิฏฐิ..ในมรรค๘ ไม่ได้

เพราะการรับฟังคนอื่น(ปรโตโฆสะ)คือส่วนหนึ่งของสัมมาทิฏฐิ..

     ผมจะนำมาใช้กับตัวเองบ้างครับ

                    ขอบคุณครับ

  

สวัสดีค่ะ

  • เห็นด้วยกับพี่คิมค่ะ 
  • แถมบางคนยังฉวยโอกาสแทงข้างหลัง
  • ประมาณว่าลงมือก่อนจัดการก่อน 
  • อำนาจอยู่ในมือฉันแล้วนี่...สงสารผู้ถูกกระทำค่ะ

Pครูแป๋มครับ

 ฉวยแทงข้างหลัง ลงมือก่อน จัดการก่อน

              นี่แหละครับ จริงแท้แน่นอนเสียเหลือเกิน

                              ขอบคุณมากครับ

เห็นด้วยกับท่านอาจารย์ที่ว่า "ส่วนใหญ่ก็มักจะมาจากสาเหตุของความไม่พอใจในเรื่องบุคคลเสียมากกว่า" ขอบคุณท่านอาจารย์ที่ให้ข้อคิดครับ

Pคุณณัฐวรรธน์ครับ

     จากประสบการณ์ครับ ส่วนใหญ่จะมาจากเรื่องความไม่พอใจส่วนตัวมากกว่า

             ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท