กำลังแห่งบัณฑิต (1-12)


บัณฑิตย่อมมี “ปัญญา” เป็นกำลัง...

 

  

 

     หากมีความเชื่อโดยไร้ ปัญญา” หรือ “เครื่องวินิจฉัย ความเชื่อที่ไม่สมบูรณ์นี้ย่อมมีโอกาสนำพาไปสู่ทิศทางที่เลวร้ายหรือก่อให้ “เห็นผิดจากความจริง” เมื่อนั้นย่อมเป็นการยากที่จะดึงตัวเองให้กลับมาสู่ทิศทางที่ปลอดภัยได้

                                                  พระมหาวีระพันธ์ ชุติปัญโญ.

 

  

 

      อ่านแล้วนำมาใคร่ครวญต่อ ... เชื่ออย่างไร้ปัญญานำทาง ยิ่งผนวกเข้ากับ... ความเชื่อและอคติเดิม” แล้ว ก็ยิ่งไม่น่าเชื่อว่า มนุษยธรรมดาคนหนึ่งจะสามารถ “เห็นผิดจากความเป็นจริง” ได้ถึงขนาดนั้น

 

      ท้ายที่สุดของการใคร่ครวญ...คนไม่มีรากคิดถึงพุทธพจน์ที่แปลเป็นภาษาไทยว่า.... 

 

“บัณฑิตย่อมไม่แสดงอาการขึ้น ๆ ลง ๆ”  

 บัณฑิตหรือ “ผู้รู้” ย่อมไม่มีอาการขึ้น ๆ ลง ๆ ตามโลกธรรมที่เวียนผันเข้ามาอยู่เป็นเนืองนิตย์  

 ....นั่นคือ บัณฑิตย่อมมี ปัญญา เป็นกำลัง

  ให้พวกเรามี ปัญญา” และ ความ “สุขสงบ” และส่งผ่านความสุขสงบให้กับทุกคนในชาติกันนะคะ

                                                            (^___^)

 

 

หมายเลขบันทึก: 255438เขียนเมื่อ 14 เมษายน 2009 09:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (35)

ปัญญาเป็นกำลังได้ดีเสมอ..

ปัญญาสามารถเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่างได้ด้วยความสงบ

เราควรตั้งจิตเพื่อให้เกิดปัญญานะคะ

ขอให้ทุกคนใช้ปัญญา

พิจารณาใคร่ครวญ...

ขอให้หลายๆคนถอยตั้งหลัก...

ขอให้สงบสุขเถิด...สาธุ

ขาดศิล ไม่มีสมาธิ ก็ไร้ปัญญา

กัมมุนาวัตตีโลโก ...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม..สาธุ

ขอบพระคุณทุกท่านะคะ

ต้องไปธุระนอกบ้าน จะกลับมาคุยทีหลังค่ะ

(^___^)

สวัสดี ครับ คุณ คนไม่มีราก สวัสดี บัณฑิต และสวัสดี ฟ้าหลังฝน

เมื่อ คืน ผมเห็น พลุ ที่ ชลบุรี (ขณะไปเยี่ยม บ้านคุณ sila)

เป็นพลุ จริง ๆ (ยิงขึ่นฟ้า ....กลางเมือง ชลบุรี)

ผมเห็น พลังแห่งสติ...มากมาย ที่บ้านคุณ sila

และแวะมา ที่นี่ บ้านคุณคนไม่มีราก ก็เห็นปัญญา อีก

ทำให้ รู้ว่า พลังแห่งสติ และพลังแห่งปัญญา นี่ ไปด้วยกัน ได้อย่างสวยงาม หมดจด.....

ผม ผ่านชีวิต มาได้ถึงวันนี้.....เห็นโลก พอสมควร

แต่ ไม่มี อะไร มาเปรียบเทียบ เพราะคุณ ให้ มาแล้ว ครับ

สงบสุข

ขอบคุณ สำหรับวันนี้.....และเผื่อถึงวันข้างหน้าที่ผมมีลมหายใจอยู่ด้วยครับ

ธรรมสวัสดีโยมคนไม่มีราก

ความยึดมั่นถือมั่นของมนุษย์

ที่เรียกว่า อุปาทาน นี่ ไม่ง่ายเลยจริงๆ

ที่จะถอดถอนได้หมดเพียงแค่สิ้นภพจบชาติหนึ่ง

ไม่ว่าจะเป็น กามุปาทาน ความยึดมั่นในกาม

สีลัพตุปาทาน ความยึดมั่นในศีลพรตอย่างผิดๆ

ทิฏฐุปาทาน ความยึดมั่นในความเห็น

อัตตวาทุปาทาน ความยึดมั่นในวาทะว่าเป็นอัตตตาตัวตน

ต้องใช้ สติ ธัมมวิจัย ให้รอบถ้วน จึงจะได้ปัญญาแท้จริง

(สัมมาทิฏฐิ)..วันนี้เรามาทบทวนใจของเราว่า..ผ่านพ้น

ความเห็นผิดเพราะความยึดมั่นถือมั่น ในสิ่งที่เกิด ที่มี ที่เป็นอยู่

ทั้งอดีต ปัจจุบัน ได้มากน้อยแค่ไหน..เพื่อการเติบโตของจิตวิญญาณ

สู่ความเป็นบัณฑิตที่ก้าวล่วงอาการ ขึ้นๆลงๆในจิต อย่างแท้จริง

อนุโมทนาสาธุ  ขอร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อสะสมคุณธรรม

ของความเป็นบัณฑิต..ธรรมรักษา

  • มาเยี่ยมและให้กำลงใจ
  • ขอให้ผู้รู้มีปัญญา
  • และรู้จักความสงบสุขที่แท้จริง

สวัสดีค่ะ

  • มาหาข้อคิดไปเตือนสติค่ะ
  • ขอขอบคุณค่ะ

เจริญพร โยมคนไม่มีราก

คำว่า บัณฑิต ผู้รู้นั้นหมายถึง ผู้ที่หมดกิเลสคือพระอรหันต์เพราะท่าน

ไม่ติดอยู่ในโลกธรรมแล้ว ไม่มีอาการอคติใดๆทั้งสิ้น

เจริญพร

สวัสดีค่ะคุณ add

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ....เราควรตั้งจิตเพื่อให้เกิดปัญญา....

คนที่มีความรู้ ได้ร่ำเรียนสูง ๆ ก็ไม่ได้หมายถึงการที่จะต้องมี "ปัญญา" เพราะถูกอคติและความเชื่อเดิมที่ไม่ผ่านการไตร่ตรอง...ครอบคลุมใจ

คนเมื่อไม่หมั่นไตร่ตรอง ไม่ใช้ปัญญา ก็ย่อมจะไม่เกิดปัญญาที่แท้จริงค่ะ

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะพี่แดง

ดีใจจังค่ะที่ตอนนี้เรื่องราวสงบลงแล้ว ....

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะคุณสีตะวัน

ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นหลักการเบื้องต้นของผู้ต้องการมีสุขสงบในชีวิตค่ะ

กัมมุนาวัตตีโลโก ...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม...

เห็นจริงด้วยดังที่ว่า เรามาระวัง "กรรม" ให้ดี เพื่อจะได้รับ วิบากที่ดีกันนะคะ

(^___^)

  • มาชื่นชมปัญญาของคุณคนไม่มีรากค่ะ
  • “บัณฑิตย่อมไม่แสดงอาการขึ้น ๆ ลง ๆ”
  • หากเราถอนกลับมาดูที่ตนเองว่ามีอาการขึ้น ๆ ลง ๆ หรือไม่ จะพบความสุขสงบภายในค่ะ 
  • ดีใจที่คุณคนไม่มีรากกลับสู่จออีกครั้ง  รอที่จะทักทายอยู่ค่ะ สงสัยต้องสำรวจตัวเองแล้วว่าคิดถึงมากไปหรือไม่หนอ อิอิอิ ไม่ดี ไม่ดี ไม่ควรมีอาการขึ้น ๆ ลง ๆ จริงไหมคะ

สวัสดีค่ะคุณ แสงแห่งความดี

ไม่ได้คุยกันเสียหลายวันเลยค่ะ....

ไปชลบุรีบ้านคุณศิลา...คงสนุกนะคะ

คนไม่มีรากคอยติดตามข่าวมาตลอด 2-3 วันที่ผ่านมาค่ะ มีเพื่อนโทรมาถามถึงสีเสื้อ ... ก็ได้แต่ตอบว่า สีเสื้อคงไม่เกี่ยวกับความรู้สึกในตอนนี้ .... เพราะนี่คือ เรื่องของพี่น้องร่วมชาติของเราที่ต้องทำร้าย ทะเลาะเบาะแว้งกันเอง...จาก ความไม่รู้จักพอ ... ของคนเพียงคนเดียว ...

พลังแห่งสติและปัญญา....สำคัญมากค่ะ ไม่เช่นนั้น ความเห็นที่ต่างกัน จะทำให้เกิด "อคติ" ต่ออีกฝ่าย ... คราวนี้เราก็จะไม่มีวันเห็น "ความจริงตามเป็นจริง" อีกต่อไป....

แล้วอะไรจะน่าเศร้าใจไปกว่านี้...

ขอให้พวกเรา...สงบสุข กันนะคะ

(^___^)

นมัสการท่าน เตวิชโช ค่ะ

เรื่องราวที่ผ่านไป ทำให้คลายใจ ค่ะ

ไม่ว่าเสื้อสีใด... ก็คือ คนไทย เช่นกัน... 

เหตุการณ์ที่เกิดใน 3-4 วันนี้ทำให้เห็นอาการ ขึ้น ๆ ลง ๆ ปลงไม่ตก ยกไม่ขึ้น ... ของคนรอบตัว รวมทั้ง จิตของตนด้วยค่ะ

ทิฏฐุปาทาน ความยึดมั่นในความเห็น.... เป็นสิ่งที่ทำให้ คนที่เคยมีปัญญากลายเป็นคนไม่มีเหตุผลและใช้ถ้อยคำ กริยา อาการที่หยาบคาย...

น้อมรับธรรมะจากท่านที่ว่า....ต้องใช้ สติ ธัมมวิจัย ให้รอบถ้วน จึงจะได้ปัญญาแท้จริง (สัมมาทิฏฐิ)..วันนี้เรามาทบทวนใจของเราว่า..ผ่านพ้น

สาธุค่ะ

สวัสดีค่ะพี่สาวคนดีมนัญญา ~ natachoei ( หน้าตาเฉย)

มาพร้อมภาพที่งดงามมาก ๆ และข้อความที่สะกิดใจค่ะ

  • ขอให้ผู้รู้มีปัญญา
  • และรู้จักความสงบสุขที่แท้จริง
  • ขออนุญาตนำไปใช้บ้างนะคะ...^_^...

    พระมหาวีระพันธ์ ชุตปัญโญ.

    วันนี้พี่นั่งอ่านหนังสือของท่านเล่มหนึ่งค่ะ อ่านเกือบจบเล่มจึงยังไม่ได้ซื้อ (หมดงบ)เล็งไว้ซื้อครั้งหน้าค่ะ

    ดีใจเช่นกันที่ บ้านเมืองสงบแล้ว ;P

    สวัสดีค่ะพี่คิม

    เมื่อสมัยเป็นเด็ก ๆ นั้น คนไม่มีรากจะขลุกอยู่กับ อากง (ปู่) ท่านเป็นคนเก่ง ใจดี ที่สุดในความคิดของคนไม่มีรากค่ะ

     ท่านเป็นผู้ให้กฎทองคำ 3 ข้อ ซื่อสัตย์ กตัญญู อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นมรดกตกทอด ที่คอยหล่อเลี้ยงลูกหลานทุกคน...จนปัจจุบัน

    ท่านมักบอกคนไม่มีรากซึ่งยังเป็นเด็กน้อยว่า...ต้องเป็นคนดี และต้องดีอย่างสม่ำเสมอ อย่าเลือกดีกับบางคน อย่าดีเป็นพัก ๆ ... ต้องมีความมั่นคง เสมอต้นเสมอปลาย อย่าต้นร้ายปลายดี...

    จึงจำไว้สอนใจจนบัดนี้ค่ะ

    (^___^)

    สวัสดีค่ะอาจารย์

    เชื่ออย่างไม่ไตร่ตรอง เชื่ออย่างมีอคติน่ากลัวเสมอ

    สำหรับสี่เมื่อได้ฟัง ได้อ่านอะไรมา ขอคิด ขอโต้แย้งในใจก่อน ให้ความคิดสองอย่างตีกันให้จบ

    แล้วสี่ก็จะฟังเสียงของผลค่ะ

    จึงมีเพื่อนบางคนชอบบอกว่าหากมองอะไรว่าดีเกินไป แล้วอยากมองแง่ลบบ้าง ให้มาคุยกับสี่ค่ะ แล้วจะชะงักค่ะ

    แต่สี่ว่าสี่แค่อยู่ในโลกของความเป็นจริงเท่านั้นเอง ^__^

    นมัสการท่านพระปลัดค่ะ

    น้อมรับธรรมะใส่ใจ.....

    คำว่า บัณฑิต ผู้รู้นั้นหมายถึง ผู้ที่หมดกิเลสคือพระอรหันต์เพราะท่าน

    ไม่ติดอยู่ในโลกธรรมแล้ว ไม่มีอาการอคติใดๆทั้งสิ้น

    สาธุค่ะ

    สวัสดีค่ะคุณศิลา

    คนไม่มีรากยกพุทธพจน์มาค่ะ ... ไม่ใช่ "ปัญญา" ของตัวเอง...^___^...

    “บัณฑิตย่อมไม่แสดงอาการขึ้น ๆ ลง ๆ”

    ประกอบกับถูกสอนมาตั้งแต่เป็นเด็ก ๆ ว่า ต้องทำตนเป็นคนสม่ำเสมอ เสมอต้นเสมอปลาย ไม่เลือกเขาเลือกใคร ....

    ตอนนั้นไม่ค่อยเข้าใจนัก คิดเพียงว่าผู้ใหญ่นี้ ช่างคิดมากคิดมายเหลือเกิน...

    ตอนนี้มาเห็น...อาการของหลาย ๆ คนที่คาดไม่ถึง และ อาการของตัวเอง ... เห็นแล้ว ได้สติ ได้คิด จึงตระหนักว่า...จริงที่สุดค่ะ

    ขอบคุณค่ะ

    (^___^)

    เจริญพร โยมคนไม่มีราก

    ขุนเขาไม่สะเทือนเพราะแรงลม ฉันใด

    บัณฑิตก็ไม่หวั่นไหว เพราะนินทาหรือสรรเสริญ ฉันนั้น

    เจริญพร

    ..น้อง ๑๒ จ๋า..พี่อ้วนจะไม่ขึ้นๆลงๆค่ะ..

    ขอบคุณสำหรับฟ้าใสในวันนี้ค่ะ

    คิดถึงค่ะ..

    http://gotoknow.org/blog/pasathaiauon/255301 

    ด้วยหนึ่งแรงอธิษฐานในฐานะคนไทยค่ะ

    พี่ ภูสุภา คะ

    นิสัยคล้ายน้องเลยค่ะ ยืนอ่านในร้านจนเกือบจบ ก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ

    แต่น้องไม่เคย กำหนดงบ ในการซื้อหนังสือเลยค่ะ...ต้องพิจารณาตัวเองใหม่แล้ว

    (^___^)

    สวัสดีค่ะคุณ สี่ซี่

    อ่านแล้วยิ้มเลย....^_^...

    ไม่อยากตีขลุมว่าคล้าย ๆ กันค่ะ... เรื่องมองต่างมุม อีกมุม หลายมุมนี่  พี่ก็เป็นค่ะ

    เชื่อตาม ๆ ที่คนเชื่อกันหมด...โลกนี้คงจืดชืดและไม่พัฒนา การเปลี่ยนแปลง พัฒนาเกิดจาก การมองต่างมุมค่ะ...

    ไม่นิยมอย่างยิ่งกับคำที่ว่า..."พวกมากลากไป"....ค่ะ  เพราะการมองต่างมุมไม่ได้หมายถึงการไม่เห็นด้วย

    แต่...เป็นการชักชวนให้มองในมุมอื่น ที่แตกต่างด้วยใจที่เปิดกว้างค่ะ พี่ก็ถูกเพื่อน ๆ ว่า เป็นพวก "นอกคอก" เสมอค่ะ...

    (^___^)

    นมัสการท่าน พระปลัด ค่ะ

    ชอบและน้อมรับธรรมะที่ท่านนำมาให้ค่ะ

    ขุนเขาไม่สะเทือนเพราะแรงลม ฉันใด

    บัณฑิตก็ไม่หวั่นไหว เพราะนินทาหรือสรรเสริญ ฉันนั้น

    สาธุ

    สวัสดีค่ะพี่อ้วน

    น้องคิดว่าพี่อ้วนเป็นพี่คนหนึ่งที่ไม่เคยแสดงอาการ ขึ้น ๆ ลง ๆ ค่ะ

    เป็นพี่ที่น่ารักและเสมอต้นเสมอปลาย ไม่เคยเปลี่ยนเลย...

    รักษาสุขภาพนะคะ

    (^___^)

    สวัสดีค่ะ

    * ครูพรรณายังไม่ขอยกมือค่ะ

    * กลัวขึ้นตึกแล้วกลับบ้านไม่ได้ ฮิฮิ

    * มาชวนไปดูหนังสี่จอที่บางลี่ค่ะ....ตัวอย่างบางตอนในหนัง

    Sdc19784

    * สุขกายสุขใจนะคะ

    มารับความรู้ และมองดูตัวเองไม่ให้มันขึ้นๆลงๆ

    บันทึกนี้มีค่ายิ่งค่ะ พรุ่งนี้จะไปกาญจนบุรี

    หลายวันคงคิดถึงความดีงามในg2k

    แต่ต้องปรับไม่ให้ขึ้นๆลงๆ

    ยอมรับสภาพที่เป็นจริง

    น้อมใจคิด

    ขอบคุณค่ะ

    ต้องไปจัดกระเป๋าเดินทางก่อนค่ะ

    สวัสดีค่ะอ. นาง พรรณา ผิวเผือก (ไม่มีชื่อกลาง)

    ตามไปดูหนังสี่จอที่บางลี่ ตั้งแต่ยังไม่ได้รับเชิญค่ะ

    ขอบคุณค่ะ ตื่นตาตื่นใจมาก ๆ ค่ะ

    (^___^)

    สวัสดีค่ะพี่ krutoi

    ตามไปเยี่ยมที่กาญจนบุรีแล้วค่ะ

    น่าสนใจมาก ๆ ค่ะ

    ขอบคุณค่ะ

    (^___^)

    สวัสดีค่ะ

    เป็นบทความที่สั้น น่าอ่านดีค่ะ

    ขอบคุณนะคะ

    “บัณฑิตย่อมไม่แสดงอาการขึ้น ๆ ลง ๆ”

    สวัสดีค่ะคุณอาจารี

    ขอบคุณค่ะ ดูจาก IP คงเป็นชาวจุฬา ฯ แน่เลยค่ะ

    (^___^)

    มาอ่านอีก

    จริงด้วยค่ะ บางคน เป็นผู้ใหญ่ระดับอาจารย์แล้ว ....บางคน...

    ยังขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่แน่ไม่นอน

    อ้อมล่ะเบื่อเชียว

    ต้องลิงค์บทความพี่โหลไปให้อ่านดีกว่า

    ชอบค่ะ

    น้องอ้อมคะ

    ขอโทษด้วยค่ะ กว่าจะมาดูและตอบ...

    อ่านคอมเม้นท์แล้วขำ ๆ ... หากท่านมาอ่านและรู้ว่หมายถึงท่านล่ะก็...จะเป็นอย่างไรหนอ....

    จริงด้วยค่ะ บางคน เป็นผู้ใหญ่ระดับอาจารย์แล้ว ....บางคน...ยังขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่แน่ไม่นอน

    อาจารย์ท่านก็เป็นปุถุชนอย่างเรา ๆ นี่ล่ะค่ะ เพียงแต่ถูกคาดหวัง...มากกว่าคนอื่น เท่านั้นเอง...

    ขอบคุณน้องอ้อมค่ะ

    (^___^)

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท