คิดเรื่องงาน (37) : สถานการณ์เฉพาะกิจ...พลังความคิดเฉพาะคน


“สถานการณ์เฉพาะกิจ...พลังความคิดเฉพาะคน” ก็ได้ยุติลงอย่างสมบูรณ์ ได้ทั้งความเฮฮาร่าเริง และได้ทั้งการขบคิดในเชิงปัญญา รวมถึงได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องตำนานการปลูกข้าวของคนผ่านผู้มีพระคุณอย่าง “ควายและสุนัข”

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒) 
ผมและทีมงานออกเดินทางไปจัดกิจกรรม
พฤหัสสกัดความรู้  ครั้งที่ ๒  นอกสถานที่  โดยมีวัตถุประสงค์หลักๆ ๓-๔  ประเด็น  อันได้แก่ การเสริมสร้างสัมพันธภาพของคนในองค์กร,  สรุปงาน, ระดมแนวคิดสร้างวัฒนธรรมองค์กร, ร่วมเขียนยุทธศาสตร์การพัฒนานิสิต, โดยเฉพาะในสองประเด็นหลังนั้น  ต้องยอมรับว่ายังไม่มีใครหยิบมาขบคิดและกระทำการอย่างเป็นรูปธรรมมาก่อน 

งานนี้ผมรับอาสาเป็นวิทยากรกระบวนการด้วยตนเองเกือบทั้งหมด  เพราะอยากให้หัวหน้างานและลูกทีมแต่ละงานได้ทำกิจกรรร่วมกันอย่างเต็มที่  โดยไม่จำเป็นต้องวิตกกับภาระที่ต้องสร้าง โจทย์ การเรียนรู้ด้วยตนเองให้เสียเวลา อีกทั้งผมเองก็แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่า  กิจกรรมในครั้งนี้  จะเป็นการนำเอา ความรู้  ตามหลักสูตรการพัฒนาสมรรถนะหลักผู้บริหารฯ มาถ่ายทอดให้กับทีมงานของผมเอง

 



กิจกรรมแรกที่ผมนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ในครั้งนี้-เป็นกิจกรรมที่กำหนดให้เจ้าหน้าที่แต่ละคนเขียนเรื่องราวในหัวข้อ
เรื่องที่ของฉันที่เธอไม่เคยรู้...แต่วันนี้ต้องรู้...เพื่อจะได้อยู่ร่วมกัน  โดยกำหนดให้แต่ละคนพิมพ์เรื่องราวดังกล่าวด้วยอักษรขนาด ๑๖ จำนวนไม่เกิน ๑๐  บรรทัด  ส่งมายังผมด้วย วิธีลับ

วิธีลับที่ว่านี้หมายถึง  ห้ามมิให้เขียนด้วยลายมือ  ห้ามมิให้ระบุชื่อตังเองลงในกระดาษ  เรื่องที่สื่อสารนั้นต้องเป็นเรื่องที่ไม่เคยเล่าให้เพื่อนในองค์กรได้ฟังมาก่อน  เสร็จแล้วก็นำมารวมไว้ที่ผม  เพื่อส่งต่อให้แต่ละคนได้เสี่ยงทายจับกระดาษดังกล่าวกันอีกครั้ง  โดยกำหนดให้แต่ละคนอ่านข้อความในกระดาษที่จับได้ให้เพื่อนๆ ฟัง  พร้อมๆ กับการชวนเชิญให้ทุกคนร่วมทายว่า
ใครเป็นเจ้าของกระดาษแผ่นดังกล่าว

ฟังดูเป็นเรื่องไร้สาระไม่ใช่น้อยเลยกระมังครับ
แต่ผมก็ยังเลือกที่จะใช้กิจกรรมนี้  เพื่อสร้างบรรยากาศของการ
เปิดเปลือย  ตัวตนโดยมีคนอื่นเป็นผู้ นำสาร 

กิจกรรมดังกล่าวนี้  จึงท้าทายความสามารถของการสุ่มทายเรื่องราวของเพื่อนๆ  อย่างเห็นได้ชัด  เพราะแท้ที่จริงแล้วก็เป็นเสมือนการสะท้อนภาพวิถีแห่งการอยู่ร่วมกันในทำนองว่า
เราต่างรู้และเข้าใจกัน...สักแค่ไหน

แต่เอาเข้าจริง  กิจกรรมนี้ก็เลื่อนไปเปิดตัวในภาคค่ำแทน  เพราะยังต้องรอให้สามาชิกบางท่านกลับจากราชการเสียก่อน  จะได้เข้าร่วมกิจกรรมแห่งการเปิดเปลือยอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา  (กิจกรรมนี้สนุก-มันฮากันมาก-แต่เดี๋ยวเล่าในบันทึกต่อๆ ไปก็แล้วกัน,นะครับ)


 


ภาคบ่าย-ผมเปิดตัวกิจกรรมการละลายพฤติกรรมแรกด้วยชื่อ
สถานการณ์เฉพาะกิจ...พลังความคิดเฉพาะคน โดยแบ่งทีมงานออกเป็นสายงานต่างๆ  กำหนดให้จับฉลากในถุงพลาสติกเล็กๆ  ซึ่งในฉลากนั้นจะมีชื่อของสัตว์และสิ่งต่างๆ จำนวนมาก  อาทิ  ภูเขา  กระท่อม  ผืนนา  ควาย  ต้นข้าว  สุนัข  เต่า  ต้นไม้  พระอาทิตย์  ไดโนเสาร์  โปงลาง  ฯลฯ...

กิจกรรมดังกล่าวนี้  เริ่มต้นจากให้แต่ละทีมเข้าแถวตอนลึก  ถอยห่างออกจากแผ่นกระดาษชาร์ดที่วางไว้เป็นเสมือนผ้าใบของการเขียนภาพ  พอให้สัญญาณ  คนแรกของแถว  ก็วิ่งมาจับฉลาก  ใครได้ชื่ออะไรก็วาดรูปไปตามนั้น  เสร็จแล้วก็วิ่งกลับมาแตะมือเพื่อนอีกรอบ  เพื่อให้เพื่อนได้วิ่งเข้าไปจับฉลากและวาดรูปต่อไป  และทำซ้ำเช่นนั้นไปจนฉลากหมด ...

ถึงแม้สถานที่จะไม่เอื้ออำนวยกับวิถีการวิ่งของแต่ละคนนัก  แต่ก็เป็นที่น่ายินดีว่า  เพราะแต่ละคนสามารถจัดการกับข้อจำกัดนั้นได้อย่างเสร็จสรรพ -

แต่ละคนกระตือรือร้นกับกิจกรรมอย่างมาก  มีเสียงหัวเราะและลุ้นเชียร์กันเป็นระยะๆ  บางคนถึงกับ
อึ้ง  เพราะไม่รู้จะวาดรูปออกมายังไงดี  จึงได้แต่หาตัวช่วย  ทั้งด้วยการชำเลืองดูกลุ่มข้างเคียง  หรือไม่ก็หันกลับมาส่งสายตาเว้าวอนให้เพื่อนๆ ได้เข้ามาช่วยเหลือ-แต่ไม่ว่าใครก็เข้ามาไม่ได้  (เพราะกติกาห้ามไว้อย่างเด่นชัด)

ดังนั้น  สถานการณ์เฉพาะหน้าเช่นนี้  จึงจำต้องขับพลังความรู้ความสามารถของตนเองออกมาจัดการให้ได้อย่างเร่งด่วนและเต็มขีดความสามารถของตนเองภายกรอบเวลาอันจำกัด
        ...ส่วนผลลัพธ์จะ
ดูดี  หรือ ดูได้  แค่ไหนนั้น-
           ตรงนั้น  ค่อยว่ากันอีกรอบ


ภายหลังกิจกรรมยุติลง...
แต่ละกลุ่มก็ออกมานำเสนอภาพต่างๆ ที่ได้ร่วมกัน
รังสรรค์ ขึ้น  โดยผ่านกระบวนการของการ "ตีความและลากความ" อย่างชาญฉลาด  เป็นต้นว่า  รูปภาพที่ปรากฏนั้นมีความหมายเชิงนัยยะถึงอะไรบ้าง  และรูปภาพดังกล่าวเกี่ยวข้องกับชีวิตและการงานของคนเราอย่างไร ...

เมื่อแต่ละกลุ่มนำเสนอเสร็จสิ้น ก็เปิดโอกาสให้คนอื่นๆ  ได้ร่วมวงวิจารณ์และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันอย่างออกรสออกชาติ  แต่ส่วนใหญ่ก็ออกไปในแนวขำๆ เสียทั้งหมด  แต่ละคนก็โชว์อ้างว่าภาพของตัวเองดูแจ่มชัด สวยสดและเหมือนจริงกว่าใครอื่น-ทำเอาเฮฮากันจนต่อมน้ำตาแตกไปอย่างถ้วนทั่ว

สำหรับผมนั้น-
ตอนท้ายออกมาสรุปบทเรียนให้กับน้องๆ ได้ร่วมรับรู้และร่วมแลกเปลี่ยนกันอีกยกใหญ่  ซึ่งหลักๆ  ผมอธิบายถึงนัยยะของรูปภาพเหล่านั้นอย่างสังเขป  ยกเว้นไดโนเสาร์และโปงลางเท่านั้นที่ไม่จำเป็นต้องบอกเล่าใดๆ  เพราะทั้งสองสิ่งล้วนเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ใครๆ ต่างก็รู้จักมักคุ้นกันดีอยู่แล้ว

และนอกจากนี้แล้ว
ผมก็ตั้งคำถามถึงรูปควายและสุนัขว่า มีใครรู้จักตำนานเรื่อง
ควายปลูกข้าวและหมาเก้าหาง  บ้างหรือไม่ 
ซึ่งทุกคนเงียบกริบ  ไม่มีใครสักคนเลยที่มีความรู้ในเรื่องดังกล่าวนี้ 
ดังนั้นผมจึงนำนิทานปรัมปราดังกล่าวมาเล่าให้น้องๆ ฟัง  (แล้วท่านล่ะครับ-เคยได้ฟังตำนาน หรือนิทานนี้บ้างหรือไม่)




อย่างไรก็ตาม...
ผมยังไม่เฉลยถึงแนวคิดของกิจกรรมเหล่านี้เสียทั้งหมด  เพราะต้องการทิ้งปมไว้  โดยการให้ทุกคนได้ทำกิจกรรมในกระบวนการที่สองเสียก่อน นั่นคือกระบวนการที่มีชื่อว่า 
ปั้นรูปสัตว์..สกัดความความรู้ ...

แต่ที่แน่ ๆ  กิจกรรม สถานการณ์เฉพาะกิจ...พลังความคิดเฉพาะคน  ก็ได้ยุติลงอย่างสมบูรณ์  ได้ทั้งความเฮฮาร่าเริง และได้ทั้งการขบคิดในเชิงปัญญา  รวมถึงได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องตำนานการปลูกข้าวของคนผ่านผู้มีพระคุณอย่าง ควายและสุนัข  ซึ่งเคยได้เล่าขานมายาวนานกว่าสามพันปี 

ส่วนแนวคิดที่ผูกโยงไว้กับการทำงาน  อันได้แก่

·         การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

·         การมีความรู้

·         การมีทักษะ

·         การมีประสบการณ์

·         การมีจินตนาการ

·         การบริหารจัดการ

ผมยังคงเก็บงำไว้  รอให้กิจกรรม ปั้นรูปสัตว์..สกัดความความรู้  ได้ยุติลงโน่นแหละถึงจะชวนพวกเขาได้ขบคิดและวิเคราะห์  รวมถึงแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอีกสักยก

แต่ก็ไม่แน่ 
บางทีเมื่อกิจกรรม หรือกระบวนการเรียนรู้ในชุดที่สองยุติลง 
บางทีผมอาจไม่จำเป็นต้องสรุปใดๆ อีกเลยก็เป็นได้ 
เพราะที่สุดแล้ว  น้องๆ ทีมงานทั้งหลายนั้น  ย่อมอาจค้นพบแนวคิดเหล่านั้นได้ด้วยตนเอง 
และแนวคิดที่ว่านั้น  ก็อาจเป็นได้ทั้งเหมือนและต่างจากที่ผมได้สรุปไว้ตามโจทย์การเรียนรู้ของตนเองก็เป็นได้-


     ใครจะไปรู้

หมายเลขบันทึก: 246121เขียนเมื่อ 3 มีนาคม 2009 21:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)
  • ได้สาระดี ค่ะ
  • เห็นเจี๊ยบ น้องแดนไทยด้วย
  • แต่แน่ๆ อาหาร "เป็นตาแซบมากเลย ขอบอก"
  • มีความสุขค่ะ

ออนซอนอีสานครับอ้าย (พาข้าว)

กิจกรรมน่าสนใจมาก...หากเลียนแบบคงไม่ว่ากันนะครับ..

  • สวัสดีครับ
  • จัดกิจกรรมได้ดี มีประโยชน์มาก
  • ขอบคุณ

เยี่ยมมากครับ ชื่นชม และ อยากไปสังเกตการณ์

กิจกรรม..พร้อมพรัก...ทำให้รักองค์กรค่ะ คุณแผ่นดิน

อืม..น่าสนใจกิจกรรม 2 กิจกรรม
ที่จะได้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน
1  ระดมแนวคิดสร้างวัฒนธรรมองค์กร
2  ร่วมเขียนยุทธศาสตร์การพัฒนานิสิต


อยากฟังการเล่าในสไตส์ของคุณค่ะ

ส่วนแนวคิดที่ผูกโยงไว้กับการทำงาน  อันได้แก่

·         การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

·         การมีความรู้

·         การมีทักษะ

·         การมีประสบการณ์

·         การมีจินตนาการ

·         การบริหารจัดการ

สวัสดีค่ะอาจารย์..วันนี้มีงานดึก

เลยได้เข้ามาสวัสดีตอนดึกเดียวคงจะเข้านอนแล้วอ่านบันทึกอาจารย์แล้ว..แอบขโมยไปใช้เลยนะคะ..อิอิ

ฝันดีค่ะ

เฮือนน้อยใครอ้าย งามอีหลี

อยากได้จักหลัง

คุ้นๆเรื่องหมาเก้าหาง จำไม่ได้ทั้งหมดค่ะ คุณยายเคยเล่าให้ฟัง ประมาณว่ามีหมาตัวหนึ่งที่มีเก้าหางแล้วเอาลูกคนมาเลี้ยง และมีประโยคที่หมาพุดกับลูก (คน)ว่า

"แม่ก็เป็นเพียงหมาเก้าหาง"

สุดยอดครับ อ.แผ่นดิน กับการทำหน้าที่ กระบวนกรขั้นเทพ

อยากมีโอกาสสักครั้งที่จะได้ไปสังเกตการณ์อะไรดีๆ แบบนี้มั่งครับ

ชอบมาก และสร้างสรรค์มากสำหรับกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะ

จดหมายเปิดใจนิรนาม เพื่อการอยู่ร่วมกัน

อยากรู้จังว่าแต่ละคนพร่ำพรรณาอะไรกันบ้าง

ขอบคุณครับสำหรับบรรยากาศดีๆ ที่นำมาให้ได้ร่วมสัมผัส และถวิลหา

 

 

 

สวัสดียามดึกค่ะ

  • นอนหลับหรือยังคะ
  • ใกล้สอบแล้ว...
  • ปลายฟ้างานยุ่งมากคะ 
  • รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
  • ห่วงใยค่ะ

 

 

 

ชอบๆๆค่ะ อาจารย์ ชอบกิจกรรมแบบนี้ พอลล่าไปด้วยได้ไหมคะ อิอิ

สวัสดีค่ะ  คุณแผ่นดิน

เข้ามาบอกว่าวันนี้...แป๋มได้เข้าไป...ไปไหน...
..ไปโหวต...รางวัลสุดคะนึง...ให้คุณแผ่นดินค่ะ
ปราชญ์ติดดิน....ที่สัมผัสได้.....และ..ขอให้ได้..ด้วยค่ะ.

สวัสดีครับ  พี่เกศ เกศนี

ผมเพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน, ..เช้าประชุม-บ่ายประชุมยาวยืดมาจนถึง 18.00 น. เลยทีเดียวครับ  จากนั้นก็ไปเลี้ยงส่งน้องนิสิตจีนที่มาฝึกงานในสำนัก  ถัดจากนั้นก็กลับไปนั่งทำงาน  จนกลับเข้าบ้านในตอนตี 1 เศษๆ นี่แหละครับ

กิจกรรมครั้งนี้, ... เราไปกันในแต่เฉพาะกลุ่มงานเป็นหลัก  ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เรียบง่าย มีความเป็นธรรมชาติและวิถีพอเพียง  เป็นการหลีกหลบมาจากคอนกรีตมาสู่อ้อมกอดของธรรมชาติอย่างแท้จริง  ซึ่งคิดว่าสภาพดักงล่าว  จะช่วยให้บรรยากาศของการ "ลปรร" ดูดีขึ้น  และช่วยให้แต่ละคนเกิดแรงบันดาลใจที่จะร่วมคิด-ร่วมทำในสิ่งดีๆ เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม

ส่วนความโชคดีของผมก็คือ ..
น้องดินและน้องแดน  ได้ติดตามไปด้วย  ช่วยอะไรได้หลายอย่าง และที่สำคัญคือเข้าไปเรียนรู้ร่วมกับพี่ๆ ได้เป็นอย่างดี

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ  ย่ามแดง

กิจกรรมนี้ผมได้ลอกแบบมาจากการอบรมหลักสูตรพัฒนาสมรรถนะหลัก  เพียงแต่ปรับแต่งองค์ประกอบของภาพเท่านั้น  โดยเน้นแนวคิดว่าภาพทั้งหมดนั้น  จะต้องมีความหมายเชิง "นัยยะ" เกี่ยวกับการเสริมสร้างความรู้และทัศนคติใหม่ๆ ให้กับเจ้าหน้าที่  รวมถึงการสำรวจตัวเองว่ามีความรู้ในเรื่องเหล่านี้กี่มากน้อย

กิจกรรมแรกนี้  สิ่งสำคัญคือการสื่อให้เห็นว่า  กิจกรรมที่จัดขึ้นโดยปราศจากการวางแผน  ก็ย่อมไร้ทิศทาง ไร้ตำแหน่ง  ไม่มีการจินตนาการสู่การจัดระบบ  เพราะไม่รู้เลยว่าจะจับได้อะไรบ้าง...

แต่ที่แน่ๆ ในภาวะเร่งด่วนแบบไม่ให้เตรียมตัวนี้  ผมได้ข้อสรุปแล้วในประเด็นที่เกี่ยวข้อง  เช่น  การใช้ความรู้  ความสามารถ ทักษะ  การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า   และการตีความอย่างมีเหตุมีผลครับ

..................

 

มาแสดงความยินดีผู้เข้ารอบ 3 คน สุกคะนึง

 

สวัสดีครับ ศรีกมล

ดังที่แจ้งนะครับว่ากิจกรรมนี้เป็นแนวคิดที่ผมประยุกต์มาจากกิจกรรมที่ไปอบรมตามหลักสูตรการพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารฯ...

ผมเพียงแต่นำเรื่องราวอื่นๆ มาเติมเต็มเข้าไป  และกำหนดให้สิ่งที่กำหนดนั้นมีเรื่องเล่าขยายความที่เกี่ยวพันกับชีวิต สังคมและการงาน  โดยการชี้วัดว่าเจ้าหน้าที่มีความรู้และมุมมองเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้นอย่างไรบ้าง

รวมถึงการเติมเต็มเรื่องความรู้อื่นๆ ที่เราคิดว่า  ทีมงานของเราไม่มีองค์ความรู้  และเป็นการสื่อสารองค์ความรู้ใหม่ๆ ไปยังพวกเขา  เพื่อเป็นต้นทุนในการทำงานและใช้ชีวิต  ส่วนจะนำไปประยุกต์ใช้ได้มาก หรือน้อยนั้น...  ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง - ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับ..น้องบีเวอร์


เกี่ยวกับกิจกรรมเหล่านี้ เสียดายยังเขียนถึงไม่ครบ
ยังมีอีกหลายประเด็นครับ..
ยังไงผมจะพยายามเขียนย้อนหลัง
เผื่อจะได้แลกเปลี่ยนกัน อีกรอบ นะครับ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณคุณ  kpam&p'pink
มากๆ นะครับ

ที่ชื่นชอบกลวิธีการเล่าของผม..
ถึงแม้ยาวไปหน่อย..ก็ไม่รำคาญ ใช่ไหมครับ

ยิ้มๆ...
จะพยายามเขียนที่เหลือให้เสร็จสมบูรณ์นะครับ

ขอบคุณมากๆ...

สวัสดีครับ.. 1

สุขกาย สบายใจ..ฝันดีในทุกๆ คืนนะครับ
และขอให้ตื่นมาพร้อมกับพลังอันยิ่งใหญ่...

โชคดีครับ
ผมเป็นกำลังใจให้-

น้อง ออต ครับ..

เอื้อยน้อยหลังนี้ อยู่ในท้องทุ่งท้องนา เลยเด้..อยู่แถวๆ บ้านต้อน ในเขตอำเภอเมือง-กาฬสินธุ์..

หลังนี้นอนได้เป็นสิบๆ คน..
บรรยากาศดีมากๆ..

เหมาะต่อการพบปะพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการ  ที่สำคัญ ประหยัดน่าดูเลยทีเดียวแหละ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท