+ บางที่ก็ซับซ้อนกว่าที่เราเห็นนะค่ะ...
+ เด็กบางคน...เลือกจะพูดกับเพื่อนค่ะ...
+ แต่กับผู้ใหญ่..เขาก็ไม่พูด...
แบบนี้พี่คิมรับได้นะคะ เพราะเขารับรู้นี่คะว่าเขามีกาละเทศะ
+ เพราะนึกย้อนกลับไป...ตอนตัวเองเรียนหนังสือมัธยม...
+ อิ อิ..ก็พูดกันเกือบทั้งห้องนะค่ะ...
+ แต่พอโต..มีงานมีการทำ..ก็ไม่มีนะค่ะที่พูดแบบนั้น...
+ นึกไกลไปถึงคำพังเพยที่ว่า " สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล"..
พี่คิมเคยค่ะพูดตามเพื่อน กลัวเข้าเพื่อนไม่ได้ เพื่อนบอกว่า พูดดีน่ะดัดจริต แต่พ่อแม่บอกว่าถ้าเคยตัวก็จะพูดอยู่อีก พูดไม่ดีใคร ๆ ก็พูดได้ ต่อมาเพื่อน ๆ กลับมาพูดสุภาพตามพี่คิมทุกคนเลยค่ะ
+ มานั่ง ๆ นึกว่าปัจจุบันจะใช้ได้ไหม...เพราะมีหลายคนที่พูดเพราะ..แต่ใจและพฤติกรรมไม่เพราะตามวาจา...
+ อ๋อยมองว่านั่นเป็นวัยของเขาค่ะ..มีหลายคนที่ตอนวัยรุ่นไม่ได้แสดงออก...แต่มาแสดงออกตอนเป็นผู้ใหญ่...ซึ่งมีแต่พังกับพังค่ะ...
อันนี้เป็นจิตสสำนึกค่ะ...พี่คิมเคยเห็นลูกผู้ดี มีนามสกุล (ราคาแพง ๆ) พูดคำหยาบคาย ในที่สุดเขาก็ต้องถูกตำหนิจากสังคม
+ แต่เด็กที่เกเร หรือใช้วัยได้เหมาะสม..ถ้าหลุดพ้นวัยรุ่นมาได้...จะพบกับความเติมเต็มค่ะ...
+ อันนี้สรุปมาจากประสบการณ์ที่พบมานะค่ะ...
จริงค่ะ..มโนสำนึกเขาเกิดค่ะ ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยได้รับการอบรมสั่งสอน การฝึกฝนมา
+ ยังไงอ๋อยยืนยันค่ะว่า...เรื่องของวัยรุ่นซับซ้อนตามเมืองที่เขาอยู่ค่ะ...ถ้าเมืองที่อยู่ซับซ้อนมาก...พฤติกรรมเด็กก็ซับซ้อนเช่นกันค่ะ...
+ แต่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เป็นมาจากสันดาน..แต่เป็นไปตามวัยมากกว่าค่ะ...
+ พอผ่านช่วงนี้ไป...ทุกอย่างจะกลับมาสู่ปกติค่ะ....
พรุ่งนี้พี่คิมมีเรื่องเล่าค่ะน้องอ๋อย
ขอขอบคุณนะคะที่จุดประกายให้พี่คิม ทุก ๆ ท่านร่วมกันจุดประกายให้พี่คิมเล่าเรื่องนี้ค่ะ
ฝันดีนะคะ น้องแอมแปร์ ฝันถึงป้าคิมบ้างนะคะ
รักและคิดถึงเสมอค่ะ