ทองผาภูมิ : "รู้จักตัวเอง" จุดเริ่มต้นของงานพัฒนาชุมชน


การจัดทำเวทีลักษณะนี้ ผมให้ความสำคัญในการ “รู้จักตัวเอง” หมายถึงการรู้จักชุมชนของพวกเขาเอง ในทุกมิติ ทั้งทรัพยากร ผู้รู้ และ องค์ความรู้ ภูมิปัญญา เมื่อเรียนรู้ตัวเองแล้ว เรามาคิดต่อว่า เราจะใช้ทุนที่มีต่อขับเคลื่อนการพัฒนาบ้านเราได้อย่างไร?

ผมรับโทรศัพท์จากผู้ประสานงานประเด็นการท่องเที่ยวของูลนิธิโครงการหลวงี่เชียงใหม่ จะชวนผมไปเป็นวิทยากรเพื่อเตรียมพร้อมชุมชน เพื่อเข้าสู่ชุมชนที่จัดการการท่องเที่ยว  ณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี  ผมนึกไม่ออกเลยว่าทองผาภูมิไกลแค่ไหน เพราะไม่เคยไปมาก่อน ทราบเพียงแต่ว่าบางมุมของทองผาภูมิมีเรื่องราว เรื่องเล่าที่น่าสนใจ ณ ดินแดนม่านภูเขา

ผมแบ่งรับแบ่งสู้เพราะภารกิจที่รัดตัว พร้อมกับไม่มีวันว่างเอาเสียเลย การเดินทางไปทองผาภูมิเพื่อไปทำเวทีเตรียมชุมชนนั้นต้องใช้เวลาถึงสองวัน หนึ่งคืน แต่ท้ายสุดก็ต้องตอบตกลง เพราะผู้ประสานงานยอมรับเงื่อนไขของผมที่เลื่อนเขามาแล้วมากกว่าหนึ่งครั้ง...ผมก็เกรงใจเขามาก

เย็นวันทำงานที่เมืองหลวง

ผมเดินทางจากย่านแจ้งวัฒนะมาทางลาดพร้าว เพื่อเข้าร่วมประชุมกับ มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ในช่วงเย็นที่รถติดเป็นเรื่องธรรมดาของเมืองหลวงช่วงเลิกงาน  เราประชุมกันเริ่มเวลา ห้าโมงเย็น !!!  (ประชุมงานที่ผมรับทำให้ มสช.ประเด็น Humanized Health care)

ผมกังวลใจพอสมควรที่นัดคณะมูลนิธิโครงการหลวงรอรับผมเพื่อเดินทางไปทองผาภูมิ

ในคืนนี้หลังจากที่ผมประชุมงานผมเสร็จ  ผมประชุมอย่างไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่นัก เสียงโทรศัพท์จากทีมงานบอกผมว่ามาถึงที่นครปฐมแล้ว (ผมนัดหมายให้รับผมที่หน้า รพ.นครปฐม) เพราะผมจะขับรถไปกับเพื่อนอาจารย์ท่านหนึ่งหลังจากประชุมเสร็จ

ผมไม่มีสมาธิเอาเสียเลยนอกจากทีมงานมาถึงเพื่อรอเรานานๆ และยังมีนักศึกษาปริญญาโทจากธรรมศาสตร์ท่านหนึ่งมารอที่จะร่วมเดินทางไปสังเกตการณ์ผมทำเวทีด้วย ...

กว่าจะเลิกประชุมที่ มสช.(มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ) ก็ปาเข้าไปเกือบสองทุ่ม เรารีบเดินทางมุ่งหน้าไปนครปฐมพร้อมโทรบอกปลายทางบอกว่า ประมาณหนึ่งชั่วโมงจะไปถึง...น่าจะถึงราวสามทุ่ม

ตกลงว่าคืนนี้เราเดินทางไปทองผาภูมิจากนครปฐมเวลาสามทุ่ม เราใช้เวลาเดินทางไปถึง อ.เมือง กาญจนบุรี เกือบเที่ยงคืน ผมสังเกตเห็นคนขับรถแล้วสงสารก็เลยคิดว่านอนที่โรงแรมสักแห่งใน อ.เมือง ก่อนดีกว่า เช้าๆ ค่อนเดินทางต่อ น่าจะปลอดภัยกว่า พร้อมกับผมมีอาการไข้หวัดที่กำลังหนักเอาการ ปวดศรีษะ จาม ไอ  คิดไม่ออกว่าพรุ่งนี้ผมจะยืนอยู่หน้าเวทีทำกิจกรรมได้อย่างไร?  อาจจะทำงานหนักมากไป พักผ่อนน้อย ผมเลยเริ่มมีอาการไม่สบาย ร่างกายฟ้องว่าน่าจะพักผ่อนบ้าง...

ผมรู้สึกเหนื่อยมาก พอหัวถึงหมอนที่โรงแรมกลางเมืองกาญจน์ ผมหลับแบบสลบเหมือดไปเลย ตื่นอีกทีก็เช้าแล้ว สดชื่นและมีพลังพอที่จะเดินทางต่อ...

ยามเช้าที่ทองผาภูมิ

--------------------------------------------------

จากเมืองกาญจน์ ถึงทองผาภูมิใช้เวลาราว ชั่วโมงเศษๆ

เราพักทานอาหารเช้าที่ ตลอดทองผาภูมิ อากาศยาวเช้าที่นี่สบายๆ ทิวเขารอบทิศ ไม่ต่างจากบ้านผมที่เหนือ สวยและมีเสน่ห์เมื่อหมอกสวยเคลียคลอยอดเขา...ทิวทัศน์ในเช้าอันแช่มชื่น พร้อมกาแฟร้อนๆทำให้ผมกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาในทันที

เราเดินทางไป แบบสบายๆเพราะ เราทำเวลาได้ดี

ยามเช้าแบบนี้ อากาศดี ผมขอให้รถมูลนิธิจอดเป็นระยะๆ เพื่อถ่ายรูปความสวยงามของธรรมชาติ สองข้างทาง สวรรค์บนดินที่ยังคงอุดมด้วยทรัพยากรป่าไม้ แม่น้ำ ระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก

เส้นทางสวยๆที่เราเดินทางผ่านไป

-------------------------------------------

มาถึงสถานที่จัดเวทีที่ทางมูลนิธิโครงการหลวงจะใช้จัดกิจกรรมในวันนี้ สวยมาก ต้นไม้และสวนสวยได้รับการดูแลเป็นอย่างดี น้องชี้บ้านพักสวยๆริมน้ำ พร้อมบอกผมว่า เมื่อคืนหากเราเดินทาทางถึงทองผาภูมิได้ เขาได้จองบ้านพักหลังนั้นให้ผม ...เสียดายจัง  คิดในใจว่าโอกาสหน้าคงมีโอกาสมาเยือนที่นี่อีกครั้ง

แกนนำชาวบ้านทยอยมาบ้างแล้ว เราจะเริ่มเวทีประมาณ เก้าโมงเช้า  ...พอถึงเวลาชาวบ้านก็ทยอยมาครบ โดยทั้งหมดเป็นแกนนำชุมชนประมาณ ๗ – ๘ ชุมชน เข้ามาเพื่อจะมาเตรียมความพร้อมการพัฒนาชุมชนขึ้นสู่ชุมชนที่สามารถจัดการท่องเที่ยวได้

ผมค่อนข้างหนักใจเพราะ

·  กลุ่มเป้าหมายหลากหลายบริบท (มี ๗ หมู่บ้าน)   และทั้งหมดเป็นผู้นำชุมชน

· โจทย์ที่มูลนิธิโครงการคิดมาให้ คือ การให้ความรู้ชุมชน ประเด็น การจัดการท่องเที่ยว นั้นยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ ผมพิจารณาจากคนเข้าร่วมแล้วแก้ไขกระบวนการตรงนั้นเลย

·  ข้อมูลพื้นฐานที่มูลนิธิโครงการหลวงให้ผมมานั้นน้อยมาก ...

สิ่งที่ผมสามารถทำได้ ตอนนี้คือ ปรับกระบวนการทั้งหมด คิดอย่างไรจะให้กลุ่มเป้าหมายได้เรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติ เรียนรู้ร่วมกัน และวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายไปพร้อมกัน หลังจากเราทำกิจกรรมทำความรู้จักกันแล้ว ผมใช้

·  กิจกรรมสิ่งของแทนนิยามการท่องเที่ยว (ไข่ ดอกไม้ และก้อนหิน) โดยแบ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมออกเป็นสามกลุ่ม และใช้สิ่งของสามสิ่งที่เตรียมมา กระจายให้กลุ่มละหนึ่งสิ่ง พร้อมกับให้ระดมความคิดโดยให้โจทย์ว่า “ท่านเปรียบการท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่ท่านมีอย่างไร?”  

กิจกรรมนี้ช่วยให้ผมทราบ ระดับของความรู้ด้านการท่องเที่ยวของชุมชนได้ ว่าพวกเขามีวิธีคิดอย่างไร และเราจะเติมกระบวนการใดต่อจากนี้

Tpp1

</span>

 

 

กิจกรรม หิน ดอกไม้ และ ไข่ สนุกสนานพอสมควร

ให้ทุกคนระดมความคิดเห็น พร้อมกับให้นำเสนอ ...ลีลาการนำเสนอของแต่ละท่านก็สร้างความสนุกสนาน บรรยากาศสบายๆอย่างที่ผมต้องการ..

ผมพอเห็นวิธีคิด และระดับความรู้ของกลุ่มบ้างแล้ว กระบวนการต่อไป คือ

การเติมความรู้ที่เตรียมมา นำเสนอเป็นการบรรยายโดย Power point เน้นการเรียนรู้การปฏิบัติผ่านภาพ อธิบายง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ

ภาคบ่าย เน้น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้

โดยผมมีข้อมูลว่าชาวบ้านที่นี่มีพื้นการจัดการชุมชนโดยใช้ การท่องเที่ยวมาแล้วระดับหนึ่ง โดยมี ปตท.เป็นพี่เลี้ยง ที่มีทั้งสำเร็จและล้มเหลว ผมมองว่า การได้มานั่งคุยกันจะได้ประโยชน์มาก ...เวทีการนั่งพูดคุยจึงเป็นการนั่งพูดคุยแบบธรรมชาติออกรส  รวมถึงช่วยกันคิดแผนว่า ในการขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนต่อไป เราน่าจะทำอะไรก่อน หลัง ทั้งนี้ต้องใช้ฐานของ “ทุน” ที่ชาวบ้านมีอยู่

การจัดทำเวทีลักษณะนี้ ผมให้ความสำคัญในการ “รู้จักตัวเอง” หมายถึงการรู้จักชุมชนของพวกเขาเอง ในทุกมิติ ทั้งทรัพยากร ผู้รู้ และ  องค์ความรู้ ภูมิปัญญา เมื่อเรียนรู้ตัวเองแล้ว

 

เรามาคิดต่อว่า เราจะใช้ทุนที่มีต่อขับเคลื่อนการพัฒนาบ้านเราได้อย่างไร?

จากประสบการณ์ของผม หากเราวิเคราะห์ชุมชนร่วมกับชุมชนออกมาได้ชัดแล้ว การคิดกิจกรรมพัฒนาไม่ยาก กิจกรรมนั้นจะสอดคล้องกับทุนที่มีอยู่

อย่างไรก็ตามเวทีนี้เป็นเวทีแรกที่ทองผาภูมิ ...ความคาดหวังของผม ก็เพียงให้ชุมชน ได้มาเรียนรู้ตัวเองร่วมกัน รวมถึง ผมให้ความรู้ด้านการท่องเที่ยว ประสบการณ์จากที่อื่นๆ เพื่อจุดประกายให้ผู้เข้าร่วมเวที

ผมสังเกตว่า ผมน่าจะจุดไฟติดแล้ว สังเกตจากความสนใจของผู้เข้าร่วม ...จากนี้ อาจต้องมีเวทีต่อเนื่องในการร่วมคิดร่วมทำ พัฒนาชุมชนให้เกิดเป็นรูปธรรมต่อไป...


ผมเสร็จภารกิจอย่างสมบูรณ์ที่ทองผาภูมิแล้ว เราทั้งหมดก็เดินทางกลับ กรุงเทพฯ ภารกิจผมเสร็จไปอีกหนึ่งภารกิจแล้ว  

แต่นี่ป็นเพียงจุดเริ่มต้น... ยังอีกยาวไกลที่ทองผาภูมิ

 

หมายเลขบันทึก: 209562เขียนเมื่อ 17 กันยายน 2008 22:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:34 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (45)

หวัดดีค่ะ พี่เอก ....พอลล่ารู้จักตัวเองเมื่อทำงาน Humanized Healthcare นี่แหละค่ะพี่... แต่ต้องมีพี่เอกมาช่วยอีกแรงนะคะ...อิอิ

สวัสดีครับ คุณsarah

ผมนำภาพมาลงเพื่อให้เห็นภาพกิจกรรม มาอ่านเพิ่มเติมได้นะครับ

ขอบคุณครับ

น้องสาว paula ที่ปรึกษา~natadee

ดีใจครับที่พอลล่ารู้จักตัวเอง...ผมเชื่อมั่นการรู้จักตัวเอง นำไปสู่การพัฒนาตนเอง อย่างทรงพลังครับ

โหมงานหนัก รักษาสุขภาพด้วยนะครับเอก

ขอให้มีความสุขในการทำงานนะคะ

จะมาติดตามอ่านเรื่องเล่าทุก ๆ เรื่องค่ะ

ได้แนวคิดดี ๆ

"หนทางที่ห่างไกล แต่อย่างไร ฉันจะไปให้ถึง"

อ่านจบจึงนิยาม ...

ขอบคุณครับสำหรับเรื่องราวอันยาวไกลครับ คุณเอก :)

ขอบคุณจารุวัจน์

ผมสบายดีขึ้นแล้วครับ ก็เพราะกำลังใจที่ดีจากพี่น้อง Gotoknow นี่หละครับ ต้องขอบคุณทุกท่านที่ห่วงใยมา ณ โอกาสนี้

ผมยังสู้ๆครับ

 

ครูคิมkrukim

เป็นแฟนประจำBlog ผมไปเสียแล้ว นี่เป็นกำลังใจที่ดีมากครับ ผมพยายามสรรหาเลือกเรื่องราวดีๆ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอย่างต่อเนื่องครับ

ทั้งหมด ถอดจากประสบกาารณ์การทำงานในแต่ละวันของชีวิตผม

เหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง นั่นเป็นเรื่องของอารมณ์ เราก็ควรเรียนรู้มุมด้านนี้กันด้วยไม่ใช่หรือ

ผมว่า บันทึกที่เขียนเรื่องราวชีวิตธรรมชาติของมนุษย์ รวมถึงแทรกกระบวนการเรียนรู้ไว้ เป็นรูปแบบที่ผมถนัดที่สุด และที่สำคัญหากมีคนชอบอ่าน ก็หมายถึงว่าพวกเขาได้เข้ามาเรียนรู้ชีวิตของผมบางส่วนเเล้ว

และเราเป็นกัลยาณมิตรกันนะครับ

รู้จักตนเอง เป็นจุดเริ่มต้ของการพัฒนาที่ยั่งยืนค่ะ

               แวะมาทักทาย.......

มีความสุขในการเดินทาง........ของชีวิต นะคะ

               ปลอดภัยในทุกๆที่...มีสิ่งดีๆเสมอๆนะคะ

    :)    เก็บดอกไม้นี้  ที่โรงเรียน มาฝาก  ไม่รู้ชื่ออะไรค่ะ  :)

กราบนมัสการ ท่านtukkatummo

กระผมขอน้อมรับพร จากท่านครับ

กราบ สามครั้ง

สาธุ

.../\...

อ.Wasawat Deemarn

เป็น พันธะสัญญากลายๆว่า อาจารย์อาจต้องติดตามเส้นทางอันยาวไกลของกระผมต่อครับ

หนทางยาวไกล ที่เราต้องไปให้ถึง

รู้จักตนเอง เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาที่ยั่งยืนค่ะ

               แวะมาทักทาย.......

มีความสุขในการเดินทาง........ของชีวิต นะคะ

               ปลอดภัยในทุกๆที่...มีสิ่งดีๆเสมอๆนะคะ

    :)    เก็บดอกไม้นี้  ที่โรงเรียน มาฝาก  ไม่รู้ชื่ออะไรค่ะ  :)

สวัสดีครับ พี่เเจ็ค J.moragot

เมื่อยาวเหนื่อย หรือท้อแท้ ผมได้ความรู้สึกดีๆจากพี่ชายผมเสมอ ต้องขอขอบคุณพี่มากในความรู้สึกดีๆที่ผมได้รับครับ

ทั้งหมดเป็นแรงใจให้ผมเดินทางต่อ อย่างมีพลังครับ

ขอให้พี่มีความสุขเช่นเดียวกันครับ ผมสู้ขาดใจครับ :)

ขอบคุณครับ คุณครู @..สายธาร..@

ขอบคุณดอกไม้สวยๆ ถ้อยคำดีๆ ในเช้าอันสดใสวันนี้นะครับ ผมเริ่มออกเดินทางจากบ้านเกิดเช้านี้ ที่เมสืองปาย  เตรียมออกเดินทางไปเชียงใหม่ อีกไม่นานก็ถึงเมืองหลวง

แม้เครื่องจะดีเลย์ออกไปอีก ๑ ชม. แต่ก็รู้สึกดีมากมาย ได้เวลาเพิ่มในการซึมซับล้านนาให้มากขึ้นอีก

ขอบคุณครับ

  • สวัสดีครับท่านจตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร
  • แวะมาเยี่ยมและให้กำลังใจครับ
  • "ไปสู่ อยู่ด้วย ช่วยคิด จิตประสาน" เป็นหัวใจของนักพัฒนา(อีกข้อ)ครับ
  • ขอให้โชคดีมีความสุขกับการทำงานตลอดไปครับ

หวัดดีค่ะ...

เป็นคุณ...นี่ก็ดีนะ

มีคนเป็นห่วง เย๊อะ เยอะ

ตาเริ่มร้อน ๆ แล้วหล่ะ

.............................

เข้ามาให้กำลังใจเพิ่มอีก 1 คนค่ะ

          ^___^

ภาพสวย

บรรยากาศดี

จ้าของบันทึกดูดี

คนเม้นหน้าตาดี

อิอิ

สวัสดีครับ อ.ทนัน ภิวงศ์งาม

ที่ผมจำขึ้นใจที่สุดคือ "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา"

ปรัชญาการพัฒนาชุมชน จากในหลวงของเราครับ

ขอบคุณครับที่มาเยี่ยม ผมเองคงต้องขอแลกเปลี่ยนความรู้กับอาจารย์ประเด็น "การศึกษากับชุมชน"  ในโอกาสดีๆต่อไปนะครับ

 

คุณครู windy  ครับ

 

ต้องขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ใน gotoknow ครับอบอุ่นเสมอไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะใด...

เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ผมโชคดีได้สัมผัสครับ

ผมคิดว่าประเด็นสำคัญที่สุดคือ "ใจที่เชื่อมใจ" การแสดงคงวามจริงใจที่ไม่เคลือบแฝงนั้น เราสัมผัสกันได้ คนที่คิดเหมือนกัน หรือมีเหตุอันใดอันหนึ่งที่ต้องพบเจอกัน ยังไงก็ต้องรู้จักกัน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

ขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านที่เอื้ออาทร เป็นห่วง ผมตลอดมาครับ

 

น้อง  ครูโย่ง หัวหน้า~ natadee

สรุปความโดยรวม ที่สุดของความหน้าตาดี อยู่ที่คนเขียนบันทึกครับ

น้อมรับครับน้อมรับ

:)

ภาพด้านบนเป็นภาพ กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมเวที เรียนรู้ สร้างสรรค์ชุมชน ในประเด็นการท่องเที่ยว ที่ทองผาภูมิ หลากคน หลากหน้าที่ หลากบริบท แต่ใจเป็นหนึ่ง คือ ร่วมกันคิดว่า เราจะทำชุมชนเราให้พัฒนา อยู่ดี มีสุขได้อย่างไร

ภาพที่เป็นธรรมชาติ ทำให้เราเห็นถึง ความหลากหลายของธรรมชาติ อารมณ์ และการแสดงออก

ผมอยากเสนอให้เห็นตรงนั้นครับ

 

ขอบคุณมากๆครับน้องครูโย่งครับ

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ

ใจเป็นหนึ่ง  แบ่งปันความรัก แบ่งปันความสุข

ให้โอกาสกับทุกคน ทำให้คนรอบข้างและสังคมเป็นสุข

  • งานหนัก.. ดูแลสุขภาพ..พักผ่อน..อาหาร..
  • และอย่าลืมให้กำลังใจตัวเอง....ความสุข

กินถั่วหรั่ง...บำรุงกำลัง

ครู krukim

ในการทำงาน เราพบปรัชญาที่แฝงอยู่ และเรียนรู้กับงานของเราได้เสมอครับ

ตามไปอ่านบันทึก ครูคิม แล้ว น่ารักมากครับ

ให้กำลังใจครูคิมครับ อาชีพครูยิ่งใหญ่ และ งดงามมากครับ

พี่ยาวครับเกษตรยะลา

ผมคงต้องพักผ่อน และจัดการกับเวลาที่ลงตัวมากกว่านี้ครับ ขอบคุณความห่วงใยที่พี่มีให้เสมอครับ

 

สวัสดีครับ..

แวะมาทักทายมิ่งมิตร

ผมเพิ่งกลับจากสิงคโปร์  ..เป็นไข้ยังไม่หาย ทั้งไข้หวัดและความอ่อนแอของร่างกาย

... มีพลังในการขับเคลื่อนชีวิตและการงาน.นะครับ

  • สวัสดีครับน้องจตุพร
  • "หากเราวิเคราะห์ชุมชนร่วมกับชุมชนออกมาได้ชัดแล้ว การคิดกิจกรรมพัฒนาไม่ยาก"
  • เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยนะครับ
  • เสียดายหากมีโอกาสอยากจะอาสาเป็นคนหิ้วกระเป๋า เพื่อขอไปร่วมเรียนรู้ด้วยคน
  • รักษาสุขภาพด้วยนะครับ
  • ขอบคุณมากครับ

กระบวนการเดิม กับบริบทใหม่ ๆ อีกแล้วพี่ชายเรา

แต่ถ้าจะดี ต้องสร้างแม่ไก่หลาย ๆ ตัวไว้ผลิตลูกไก่เองค่ะ จะได้ไม่เหนื่อยมากนัก

อย่างน้อยเราก็ทำดีที่สุดแล้วค่ะ

สู้ ๆ ค่ะ พี่ชาย

เออลืมบอกค่ะ ดอกไม้ดอกนั้นน่าจะเป็น บารมีเก้าชั้น ค่ะ (เอ๊ะน่าจะใช่นะเนี๊ยะ)

มาเป็นกำลังใจในวันหยุดค่ะ

ใช่แล้วค่ะ  ปรัชญาชีวิต ปรัชญาการทำงาน

เกิดจากการการค้นพบด้วยตัวเองไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

หลาย ๆ คนมีหน้าที่เหมือนกัน  แต่ต่างกันตรงความรับผิดชอบ

คุณพนัสครับแผ่นดิน

ช่วงนี้ ผมงานหนักเหลือเกินครับ สุขภาพก็เพิ่งฟื้นจากพิษไข้ คงเป็นสัญญาณเตือนว่าเราใช้สังขารเราเกินสมดุลไป จะดูสุขภาพมากกว่านี้ครับ

ดีใจครับที่มิ่งมิตร มาทักทายและให้กำลังใจ

งานที่ผมทำ เป็นคุณค่าของชีวิตผม ที่หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของผมและสังคมไปด้วยกัน

 

พี่ยุทธ สิงห์ป่าสัก
ครับ

แต่ละวันมีโอกาสได้เรียนรู้อย่างหลากหลายมาก เป็นโอกาสที่ดีครับ แต่ก็ใช้พลังมากเช่นกัน หากพี่ไปด้วยไม่ได้ ก็เรียนรู้จาก blog ผมนี่หละครับ

เมื่อวานมีเหตุ ที่ผมต้องน้ำตารื้น เมื่อไปศึกษาดูงานสถานที่แห่งหนึ่ง ผมพบเห็นความดีงามของจิตใจของผู้คนที่รักเพื่อนมนุษย์ ยอมทุ่มเทเพื่อความสุข ผมมีกำลังใจขึ้นมากเลยครับ- - -ผมมีความสุขมาก

ผมไปสารภาพความรู้สึกนี้ตรงๆกับ คนที่ผมศรัทธาด้วยครับ

ผมคิดว่าคุณค่าที่แท้จริง คือ การงานที่มีคุณค่ากับสังคมและตนเองไปด้วย

เดินต่อไปไม่หยุดยั้งครับ

น้องต่ายดอกไม้บานในใจเรา

กระบวนการเดิม กับ บริบท ใหม่ ใช่แล้วครับ แต่การเรียนรู้ที่ต่างบริบทนั้น เราก็ปรับเปลี่ยนบ้างในการจัดบรรยากาศในการเรียนรู้

คนไทยไม่ว่าที่ไหนก็น่ารัก

ผมไปทำเวทีที่ ทองผาภูมิ ผมก็คิดถึง บ้านวัดจันทร์ ที่แม่เเจ่ม มีอะไรคล้ายคลึงกันมากทีเดียว

โดยเฉพาะ ประเด็นปราชญ์ ที่เป็นแกนนำช่วยคิดระดับชุมชน

เรื่องราวที่ดีเหล่านี้ หากผมมีโอกาสได้เรียนรู้อีก จะนำมาแฃกเปลี่ยนในบันทึกต่อไปครับ

ขอบคุณน้องสาวมาก รักษาสุขภาพด้วยนะครับ

ครูkrukim

ปรัชญาในการดำเนินชีวิต เราหาได้จากเรื่องราวของชีวิต

ทั้งหมดทั้งมวล ผมก็เติบโตทางจิตวิญญาณด้วยการทำงานกับผู้คนที่หลากหลาย ต่างบริบท ในทั่วประเทศไทย

ผมยังหนุ่ม มีแรง ก็ตะลุยเรียนรู้ไป มีประโยชน์ต่อสังคมได้ เราก็มีคุณค่า

พัฒนาทั้งตน พัฒนาทั้งสังคม

ขอให้กำลังใจคุณครูเช่นกันนะครับ...

***ใช้ชีวิตที่มีรูปแบบเป็นของตัวเองได้

***ได้อ่านแล้ว...อิจฉาจัง

สวัสดีครับ คุณ  กิติยา เตชะวรรณวุฒิ

ยินดีต้อนรับสู่ gotoknow ครับผม...

เรื่องราวที่ผ่านมา ได้บันทึกไว้เพื่อแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน และทุกช่องไฟของตัวอักษรบรรจุความจริงใจ และมิตรภาพเอาไว้ด้วยนะครับ

ขอบคุณที่มาเยี่ยมบันทึกของผมครับ

 

ทองผาภูมิเงียบสงบน่าอยู่ค่ะ  ประชากรน้อยไปหน่อย เป็นที่ท่องเที่ยวที่ดีมากๆได้ค่ะ

สวัสดีครับพี่Sasinand

ที่น่าสนใจคือทรัพยากรมีเหลือเฟือ หากชุมชนเรียนรู้ที่จะบริหารจัดการโดยไม่เสียท่านายทุน ป่าสวยที่เราเห็นน่าจะคงอยู่ให้ลูกหลานได้เรียนรู้ในอนาคต

ทราบมาว่านายทุนเข้ามาบ้างแล้ว เขามีเงิน ที่สามารถซื้อทุกอย่างได้ และมีกลไกบางอย่างที่เอื้อให้เขาทำได้

ชาวบ้านก็ได้แต่นั่งมองตาปริบๆ

ประเด็นการท่องเที่ยวเรามุ่งหวังใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาชุมชน ให้ชุมชนเรียนรู้ตนเอง บริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดครับ

ขอบคุณพี่ศศินันท์มากครับ

  • ขอแสดงความยินดีคนมีความสุขที่ได้ทำอะไรให้สังคม
  • ขอชื่นชมผู้จัดการที่ทำเวทีนี้ประความสำเร็จ
  • หัวหน้าของการจัดเวทีคือ เทคนิควิธีการ หรือรูปแบบกิจกรรม
  • ที่จะกระตุ้นให้องค์ความรู้พร่าพรูออกมาอย่างเที่ยงตรง
  • มีโอกาสจะขอแอบไปชื่นชม
  • ขอบคุณ

แวะเข้ามาเยี่ยมด้วยความคิดถึง สนใจการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่หมอเอกนำเสนออยู่ อาจจะต้อง

รบกวนข้อมูลในการทำกิจกรรมของชมรมอีกครั้งหนึ่ง อ้อ หากร่วมสมทบจัดหาเสื้อผ้าเครื่องกันหนาว

เพื่อคนปาย จะได้ไหม

อ.วิบูลย์ ชมรมอาสาพัฒนา มทร.พระนคร

อาจารย์วิบูลย์ครับ

ผมยินดีมากๆครับที่อาจารย์มาเยี่ยม...

จริงผมอยู่ไม่ไกลจาก อาจารย์ครับ ในกรุงเทพฯ นี่หละครับ

และประเด็นการพัฒนาชุมชนเพื่อการท่องเที่ยว ไม่กี่วันผมจะเดินทางที่ดอยอินทนนท์ เพื่อไปร่วมจัดเวทีเป้นวิทยากรกระบวนการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่นั่น...คงได้เขียนมา แลกเปลี่ยนกันอีกครา

กิจกรรมจิตอาสา  ผมรบกวนอาจารย์ไป อ่านรายละเอียดที่นี่ครับผม

จิตอาสา gotoknow : มอบน้ำใจสู่ผู้ขาดแคลนบนดอยสูง ไปปายด้วยกันไหมครับ?

ขออาจารย์ช่วย ปชส. ที่ มทร.พระนคร ด้วยครับ

ปีนี้เรามีเป้าหมายที่ โรงเรียนบ้านแกงหอม อ.ปาย ครับ เป็นโรงเรียน ชาวไทยภูเขา เผ่าม้ง และ ปกาเกอญอ ครับ นร.ยากจนและขาดแคลน ในหลายเรื่องๆ

ยินดีมากครับหากอาจารย์จะร่วมด้วย ช่วยกับ trip จิตอาสา gotoknow ในครั้งนี้

ในโอกาสว่างๆ จะขออนุญาตเข้าไปเยี่ยมอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย ผมผ่านไปผ่านมาครับ

ผมทำโทรศัพท์หาย ...อยากได้เบอร์อาจารย์อีกครั้งครับ

 

 

ข้อคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับทองผาภูมิ...กาญจนบุรี...

หนึ่งปีที่ผ่านมา เราได้ไปท่องเที่ยวเมืองกาญจนบุรี และบ่อยครั้งที่ไปทองผาภูมิ-สังขละบุรี จนหลงเสนห์ของที่นี่ และอยากบอกเล่าเรื่องราวของทองผาภูมิ-สังขละบุรีเสียทุกครั้งไป ครั้งสุดท้ายไปพักที่บ้านไร่วิมานดิน ( http://www.vimandin.com ) เมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา ไปเจอที่เที่ยวเพิ่มเติมอีกมากมาย และ มีสัตว์ป่ามากมายอยู่ใกล้ที่พัก แล้วรู้สึกว่าต้องลงมือบอกเล่าให้ผู้คนที่อยู่บนโลกไซเบอร์แห่งนี้ได้รับรู้ หลายคนบอกว่าที่นี่เหมือนปายในอดีต หลายคนบอกว่าอากาศหนาวกว่าเชียงใหม่ ที่ผู้คนกล่าวไว้เราไปพิสูจน์มาแล้วเห็นว่าเป็นจริงเสียงยิ่งกว่าจริง 5 องศาจะเรียกว่าหนาวไหมหละ หนาวไหม!!! หนาวไหม!!!

ยิ่งมาทองผาภูมิยิ่งรู้สึกว่าใกล้ๆเพราะใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงจากกรุงเทพ คงไม่ต้องให้ผู้คนไปท่องเที่ยวไกลถึงเชียงใหม่ หรือแม่ฮ่องสอน

ยิ่งค้นหาข้อมูลเพิ่มบนอินเตอร์เน็ทและไปเที่ยวมา ยิ่งได้พบสิ่งแปลกๆมากมาย เช่น เมืองทองผาภูมิเหมือนปายในอดีต ผู้คนมีน้ำใจ ในเมืองมีแม่น้ำข้ามได้ที่แปลกมาก มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเมื่อขึ้นไปดูบนยอดเขาพระเจดีย์คีรีแห่งวัดท่านขนุน และมีศพไม่เน่าเปื่อยของหลวงปู่สายไว้ให้คนกราบไหว้บูชา ไกลข้ามเขื่อนออกไปก็ยังมีเจดีย์โบอ๋องที่ห้ามผู้หญิงเดินเข้าไปแปลกตาน่าชมมาก

ก่อนถึงทองผาภูมิตามรายทางก็มีวัดท่านมิตสุโอะอันแสนร่มรื่น มีที่นั่งช้างถ่อแพที่ลิ่นถินพุถ่อง มีน้ำตกผาตาด กับน้ำพุร้อนหินตาด แล้วก็น้ำตกผาสวรรค์

จากเมืองทองผาภูมิไปทางปิล๊อกในรัศมีเดียวกัน ก็มีวิวทิวเขื่อนเขาแหลม พร้อมรายทางที่มีทิวทัศน์สวยงาม ผ่านวัดเขาใหญ่ที่มีตาน้ำประหลาดผุดขึ้นมาเป็นแหล่งน้ำที่อาศัยของชาวบ้านหากชาวบ้านไม่สามัคคีตาน้ำนี้น้ำจะหายไป เลยไปอีกนิดก็มีสวนป่าสักออป. สวนป่ายางแห่งภาคตะวันตก พุปลิงที่มีสภาพแวดล้อมงดงามมีพันธ์ไม้แปลกตามากมายที่หาดูยากพร้อมสัตว์เพียบ ยิ่งไปพุปูราชินีจะเห็นปูน่ารักที่มีสีสันพันธ์เดียวและแห่งเดียวในโลกยิ่งน่าประทับใจ เข้าไปอีกนิดก็มีถ้ำ28อันเป็นที่อาศัยของค้างคาวกิตติที่เล่าว่าเล็กที่สุดในโลก มีหินงอกหินย้อยมากมายอยู่ภายใน ไปไม่ไกลก็มีต้นไม้ยักษ์อายุหลายร้อยปี มีฟอสซิลหอย 280 ล้านปี และบนยอดเขา 3 ลูกที่ไปอีกไม่ไกลยังมีบึงน้ำใหญ่ที่เป็นต้นกำเหนิดแห่งแม่น้ำของชาวทองผาภูมิชื่อบึงน้ำทิพย์

ที่สำคัญจากข้อมูลใหม่ไม่ไกลจากตรงนี้มีหมู่บ้านที่ผู้คนอู้ภาษาคำเมืองของเชียงใหม่ทั้งหมู่บ้านน่าแปลกไหมหละ ยังไม่พอยังมีหมู่บ้านชาวลาวอพยพอีก อันนี้พูดลาวทั้งหมู่บ้านเช่นกัน และห่างจากหมู่บ้านนี้ไม่ไกลมีช้างป่ามาบุกทำลายพืชไร่เห็นตัวเป็นๆได้ทั้งตอนเย็นและกลางคืน จนชาวบ้านทำที่นั่งห้างให้นักท่องเที่ยวดู

เลยเข้าไปอีกนิด จากทางเข้าบ้านไร่วิมานดิน ก็มีป่าหวายและป่าสักที่ภายในมีพันธ์ไม้ป่าดอกไม้ป่ามากมายให้ชื่นชม เดิมมาอีกนิดก็มีรูปปั้นเสด็จพ่อร. 5 ตั้งตระหง่านสูงใหญ่อยู่ที่นี่สร้างด้วยศรัทธาของผู้มาพักในวิมานดิน เดินจากนั้นก็มีสำนักสงฆ์ และป่าพุที่คล้ายๆพุปลิง มีบ้านชาวกระเหรี่ยง และเดินไปอีกไม่ไกล ใกล้วัดห้วยศรัทธาประชาธรรม มีถ้ำที่ยังไม่มีใครรู้จักอยู่ภายในมีหินแปลกตาอยู่ภายในใครสนใจไปบุกเบิกกันได้

เลยวิมานดินไป เข้าไปเดินป่าได้ไม่ไกล มีร่องรอยช้างป่า และสัตว์ป่ามากมายเป็นรอยใหม่ๆของเมื่อคืนเยาะแยะจริงๆ มีพุน้ำร้อน 2 พุ ต้มไข่สุกได้เป็นแห่งน้ำให้ช้างป่าและสัตว์อื่นๆอาศัย เราก็ไปดูมาแล้วเพราะไม่ไกลเดินเพียง 10 ทีก็เจอแล้ว

ถิ่นนี้มีลำห้วยปากคอก ที่มีผู้คนซึ่งมาพักทองผาภูมิมักจะมาล่องแก่งที่นี่ ทั้งแพ แคนู คยัคและห่วงยาง

เรื่องราวเหล่านี้ผู้ที่รู้ดีและพาเราไปบุกเบิกคือลุงยศ แห่งบ้านเก็บตะวัน ( http://keptawan.siam2web.com ) เพื่อนต่างวัยของบ้านไร่วิมานดิน ไกด์เก่า ไกด์เก๋าแห่งเมืองกาญจนบุรี และลุงคนนี้แหละที่บุกเบิกถนนข้าวสาร เทรคกิ้งเชียงใหม่ และการเดินป่าในกาญจนบุรี ในยุคแรกๆที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นคนต้นค้นต้นคิดแรกๆเชียว สอบถามข้อมูลจากลุงยศได้ที่เบอร์นี้ 081-9217-644 เชื่อว่าลุงยศวัย 70 กว่าปี คงยินดีตอบทุกคำถาม เพราะลุงยศมีความคิดที่อยากบอกกล่าวเรื่องราวของทองผาภูมิ เช่นเดียวกับเรา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท