ชีีวิตครู(อัตราจ้าง)อาชีวะ


นางสาวนัฐธิดา เปลี่ยนปราณ รหัส 515100011

 

 

 

 

 

                       ชีวิตครู(อัตราจ้าง)อาชีวะ

                                           ชีวิตของความเป็นครู(อัตราจ้าง)ชนชั้นสองแห่งใบเสมา

               ที่อยู่อย่างไม่มีเกียรติยศ  ศักดิ์ศรีความมั่นคง  ความก้าวหน้าในอาชีพ 
               ทั้งๆที่ ครู(อัตราจ้าง) รักในอาชีพครู รักนักเรียน
 อยากมีส่วนร่วมกับการพัฒนาการศึกษาของชาติ    
               ครู(อัตราจ้าง) มีหน้าที่หลักและสำคัญยิ่งคือการจัดกระบวนการเรียนการสอนตามชั่วโมงสอนไม่น้อยกว่า
25-32ชั่วโมงต่อสัปดาห์    ตรวจงานนักเรียน  เตรียมการสอน  จัดหาสื่อการสอนสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ  งานวิจัยในชั้นเรียน พัฒนาแผนการสอน  ดูแลความประพฤตินักเรียน  เป็นครูเวร   ทำงานพิเศษอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานด้านหลักสูตร วัดผลประเมินผล   งานฝ่ายปกครองฝ่ายแผนงานสถานศึกษา  งานศูนย์ข้อมูล งานโสตทัศนศึกษา งานสหกรณ์งานแนะแนว/นิเทศ   งานช่างพัฒนา(ทั้งในและนอกสถานที่)ฯลฯ
              นอกจากนั้นยังมีหน้าที่กรรมการฝ่ายปฏิบัติงานตามคำสั่งที่เกิดจากนโยบายของภาครัฐ   กิจกรรมภายในสถานศึกษา  กิจกรรมร่วมชุมชน  โครงการรณรงค์มากมาย   การประเมินคุณภาพศึกษา 
             ทุกอย่างที่กล่าวมา ครู(อัตราจ้าง)คือกำลังสำคัญยิ่งที่นำพากิจกรรมต่างๆไปสู่เป้าหมาย 
ความมั่งคง   ความก้าวหน้าในอาชีพ  เกียรติศักดิ์ศรีของครูไทย ไม่มีในครู(อัตราจ้าง) 

             
ชีวิตการทำงานของครู(อัตราจ้าง)  เริ่มปฏิบัติงาน07.30 น. เลิกปฏิบัติงาน 17.00 น.คือเวลาปกติวันไหนมีกิจกรรมพิเศษเนื่องด้วยนโยบายภาครัฐ  ต้องอยู่ประชุม   จัดเตรียมงาน  เอกสารกันวุ่นวาย  จนถึงค่ำ กลับบ้านไปต้องนำงานที่รับผิดชอบไปสานต่อให้เสร็จตามคำสั่ง ซึ่งครู(อัตราจ้าง) ช่วยกันปฏิบัติงานอย่างดี หวังให้สถานศึกษาเป็นสถานศึกษาที่มีความพร้อมตามนโยบายของรัฐ  
             
อัตราการเข้าออกของครู(อัตราจ้าง)สูง  เนื่องจากความไม่มั่นคง ไม่มีความก้าวหน้าในอาชีพ  สวัสดิการไม่มี(บางท่านทำงานเป็นครูอัตราจ้างมา  ปี แม้แต่ประกันสังคมก็ไม่มีให้)   อัตราเงินเดือนตามวุฒิปริญญาตรี  7,630 บาท ไม่มีเพิ่ม  ถึงครู(อัตราจ้าง)จะทำงานดีมีผลงาน  มีความคิดเชิงพัฒนา   มีความเป็นครู ประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดี แค่ไหน อัตราเงินเดือนเท่าเดิม  ไม่มีซี   ไม่มีขั้นหลายท่านทำงาน   6 ปี  ด้วยความตั้งใจ  มานะอดทน เพื่อเยาวชน เพื่อสถานศึกษา เพื่อสังคมประเทศชาติ   ผลสุดท้ายไม่มีอะไรตอบแทนครู(อัตราจ้าง) ให้เงินเดือนไปเดือนๆ ส่วนใหญ่สถานศึกษาจ้างครู(อัตราจ้าง)  10 เดือน   อีก  2เดือนช่วงปิดเทอม ไม่มีเงินเดือนให้    บางสถานศึกษาแก้ไขโดยให้ครู(อัตราจ้าง)ออกสอนระยะสั้นตามสถานที่ต่างๆ  เพื่อจะได้มีเงินเข้าสถานศึกษาและมีเงินเดือนให้ครู(อัตราจ้าง)ในช่วงปิดเทอม    

                มุมหนึ่งมองว่าอาชีพครู(อัตราจ้าง)นี้คือ  ทางผ่าน ที่พักริมทางทางเลือกสุดท้ายในการประกอบอาชีพ 
                             บางท่านเรียกว่า
ครูปลอม”  
                             บางท่านเข้ามาเป็นครู(อัตราจ้าง)ได้ไม่ถึงเทอมมีอันต้องลาออกไปเพราะได้งานใหม่ที่สบายกว่าบ้าง สอบบรรจุราชการสายงานอื่นติดบ้าง 
                             
บางท่านสอนมาหลายปีสวัสดิการไม่มี ดูแล้วไม่ก้าวหน้า   จำต้องลาออก ทั้งที่ครู(อัตราจ้าง)เหล่านั้นเขารักเด็ก   
รักการสอน รักที่จะพัฒนาการศึกษาของชาติ  
                             ไม่ว่าครู(อัตราจ้าง)จะเก่งจะมีประสบการณ์สอนมากี่ปี  อัตราเงินเดือนก็เท่าเดิม   หน้าใหม่หมุนเวียนเข้ามา มาเป็นครู(อัตราจ้าง)ใครมีความอดทน   ทนได้ก็อยู่ไป ทนไม่ไหวหรือได้งานอื่นก็ลาออก   
                             ผลกระทบตกอยู่ที่นักเรียน
(ที่ภาครัฐพูดอยู่เสมอมุ่งให้เด็กเยาวชนมีความรู้ความสามารถ มีการศึกษาจบออกมาไม่เป็นภาระของสังคม) นักเรียนต้องเรียนกับครูใหม่มีประสบการณ์มาแล้วบ้าง  พึ่งจบมาใหม่บ้าง กว่าจะเข้าที่เข้าทางใช้เวลานานพอควร  พอครูใหม่เริ่มทำงานเข้าที่   มีประสบการณ์  ไม่นานมีอันต้องลาออกไปหมุนเวียนกันไปไม่รู้จักจบสิ้น  นักเรียนที่เรียนหนังสือบ่อยครั้งสับสน ครูสอนไม่เหมือนกัน  แนวทางจัดการเรียนการสอนต่างกัน  กว่าจะเข้าที่จวนปิดภาคเรียนแล้ว นักเรียนจะได้อะไร............................
เกิดสูญกาศทางการศึกษา 
             ความจริงครู(อัตราจ้าง)ทั้งหลายเหล่านั้นไม่ต้องการละทิ้งนักเรียนโดยการลาออกจากอาชีพ ไม่ต้องการดิ้นรนหางานใหม่  ไม่ต้องการอ่านข่าวรับสมัครงาน ข่าวเปิดสอบบรรจุสายงานอื่น  ไม่ต้องการที่จะเริ่มกับอาชีพใหม่

             เพียงเพราะครู(อัตราจ้าง)ต้องการความมั่งคง.........ความก้าวหน้า


                           ...............................................................   
  

หมายเลขบันทึก: 204055เขียนเมื่อ 28 สิงหาคม 2008 16:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 กันยายน 2012 20:45 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (36)

ตอนนี้ที่โรงเรียนที่ผมสอนอยู่นั้นมีผู้บริหารหญิงคนใหม่เข้ามาบริหารโรงเรียน แล้วผู้บริหารท่านนี้มีนโยบายที่จะไม่จ้างครูที่เป็นครูพิเศษ ท่านลองคิดนะครับว่าผู้บริหแบบนี้เป็นอย่างไร ในเมื่อทางโรงเรียนขาดอัตรากำลังแต่ไม่มีการจ้างต่อ ท่านทราบหรือเปล่าครับท่านผู้บริหารท่านว่าอย่างไร ท่านว่าถ้ากลุ่มสาระฯใดที่ขาดครูก็ให้ครูในกลุ่มสาระฯอื่นขึ้นมาสอนควบคู่กับไป เช่นถ้าครูสังคมศึกษาฯขาด ก็จะให้ครูวิทยาศาสตร์ไปสอนสังคมศึกษาน ท่านว่าเป็นนโยบายที่ถูกแล้วหรือ และถ้าถามว่าก็โรงเรียนไม่มีเงินจ้างครูพิเศษสอน ผมขอตอบเลยว่าคงเป็นไปไม่ได้เลย เพราะหรือครับ เพราะโรงเรียนนี้ได้ระดมเงินการศึกษาจากนักเรียนไปแล้วครับ แล้วในจำนวนนี้ทางโรงเรียนได้แจ้งผู้ปกครองนักเรียนว่า ทางโรงเรียนต้องจ้างครูพิเศษ และถ้าทางโรงเรียนไม่มีเงินจ้างจริงแล้วทำไมถึงไม่มีการสนับสนุนให้ครูพิเศษหรือครูอัตราจ้างเหล่านี้เป็นพนังงานราชการเพราะนี้เป็นงบทางราชการที่จะจ่ายให้กับครูเหล่านี้

ผมขอถามว่า ครูอัตราจ้างไม่ตั้งใจทำงานหรือ ผมขอตอบอีกเช่นกันว่าคงเป็นไปไม่ได้เลยเพราะอะไรหรรือครับ เพราะครูอัตราจ้างจะต้องถูกประเมินทุกปีว่าจะจ้างต่อไปหรือไม่ ดังนั้นใครให้ทำอะไร พวกเราจะต้องทำ ถึงแม้จะหนักเพียงใด เราก็ต้องทำ ไม่ต้องพูดถึงเงินเดือน 7,940 บาท กับงาน ถ้าถามว่าเงินน้อยอย่างนี้ งานหนักอย่างนั้นทำไหมถึงอยากเป็นครู ท่านครับครูคือใครเล่าครับ พวกเราก็ไม่อย่างเป็นเพียงครูอัตราจ้างครับ เมื่อไรผู้บริหารท่านทั้งหลายไม่ว่าผู้บริหารโรงเรียน ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา จะให้โอกาสพวกครูอัตราจ้างสอบบรรจุครับ

ทำไหมผมถึงผูดแบบนี้ ท่านครับท่านเชื่อหรือไม่ครับ ที่เขตพื้นที่การศึกษาที่โรงเรียนผมสังกัดอยู่นั้นเขาไม่ให้ครูอัตราจ้างนอกงบฯ สอบบรรจุ เขาเอาแต่พนังงานราชการสอบบรรจุครับ ครูอัตราจ้างบางคนทำงานมามากหลายปีก็ตามครับ

ท่านที่อ่านข้อความนี้ ท่านมีความเห็นเป็นอย่างไรบ้างครับ ท่านอาจมีความเห็นต่างจากผมก็ได้นะครับ เพราะอาจที่โรงเรียนของท่าน อาจไม่มีเหตุการณ์

ขอบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ช่วยให้ลูกเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ดังที่ลูกและเพื่อนๆครูจ้างทุกคนตั้งใจทำงานมาตลอด 8 ปี ....

หนูก็เป็นนักศึกษาคนหนึ่งที่อยากจะบอกกับครูว่า ไม่ว่าคุณครูจะเป็นข้าราชการครู หรือ ครูอัตราจ้าง ครูก็ยังเป็นครู ที่ให้ทั้งความรู้ ระเบียบวินัย และเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับนักเรียนอย่างหนู หนูเคยคิดอยากจะเป็นครู อยากถ่ายทอดความรู้ที่มีให้เด็กๆรุ่นต่อๆ ไป แต่ในปัจจุบันนี้มันก็พูดยากนะคะ ที่จะต้องเลือกความภูมิใจและรักในอาชีพ กับ การมีชีวิตที่มั่นคง แต่หนูอยากจะบอกคุณครูทุกคน ให้ทราบว่า นักเรียน มองว่าครูเป็นอาชีพที่มีเกียรติ เก่ง เป็นเหมือนคนที่สามารถตอบเราได้ทุกเรื่องไม่ว่าเรื่องอะไร เราจะมองว่าครูรู้ทุกเรื่อง เด็กๆ หลายคนถึงอยากเป็น ครู ยังไงล่ะคะ หนูขอเป็นกำลังใจเล็กๆ ให้กับคุณครูทุกคนนะคะ สู้ๆ นะคะ

ดิฉันก็เป็นครูอ้ตราจ้างคนหนึ่ง ที่มีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับนโยบายต่างๆของผู้บริหาร ท่านบอกว่าท่ารักลูกน้อง แต่ทำไมท่านไม่อยากให้ลูกน้องมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานก็ไม่ทราบ ทุกท่านทราบหรือไม่ที่วิทยาลัยที่ดิฉันทำงานอยู่มีครูทั้งหมดประมาณ80 คน เป็นพนักงานราชการและข้าราชการไม่เกิน15 คน (ดิฉันไม่ทราบเหมือนกันว่าที่อื่นมีอัตราส่วนครูจ้างสอน กับข้าราชการแบบไหน)ครูผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันบ่อยมาก ตอนนี้เปิดเทอมมาเดือนกว่านักเรียนยังไม่มีครูใหม่มาสอนเลย สงสารนักเรียนค่ะ มาโรงเรียนหวังจะมาเอาความรู้เต็มที่ แต่ไม่มีครูสอน ดิฉันอยากทราบว่ามีโรงเรียนไหนเจอเหตุการณ์ใกล้เคียงกันบ้าง อยากทราบจริงๆค่ะ

ผมทำงานเป็น Engineer ที่ระยอง ถึงจะไม่ได้เป็นครู แต่ผมมองว่าการบริหารยังไม่ดี

ซึ่งเปรียบเทียบกับ ญี่ปุ่น ครูจะเป็นอาชีพอันดับ 1 เลยนะครับ ประเทศเขาถึงพัฒนาไปไกล ทั้งการเมือง การศึกษา เศรฐกิจ สังคม ปัจจุบันนี้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านเทคโนโลยี มาทำงานให้กับคนต่างชาติ หรือไมก็ถูกซื้อตัวไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งเขามองความมั่นคงของชีวิต และผมมองว่าปัจจุบันยังมีครูพันธ์เก่าและยังเรียงลำดับความสำคัญของการศึกษาในลำดับท้ายๆๆ

เกลียดผู้อำนวยการ วิทยาลัยการอาชีพละงูคนปัจจุบัน จังหวัดสตูลครับ ไอ้ผอปากหวานตูดเปรี้ยว เลียโคตรๆ ไปตายซะ

การที่ถือว่าได้เป็น "ครู " นั้นผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่มีเกียรติมาก แต่ความเป็นจริงแล้ว เมื่อมีคำว่า ครู "อัตตราจ้าง" กับกลายเป็นเรื่องที่ตรงข้ามกัน ทั้งๆ ที่ ความหมายของมันก็คือ คนที่สอน คน ให้เป็น คน เป็นคนที่สอนให้เกิดความรู้ ความสามารถ แต่แท้จริงแล้ว ชีวิตของครูอัตตราจ้าง เป็นชีวิตที่ไม่มั่นคง ไม่ก้าวหน้า ถ้าพูดถึงความเป็นจริงในความรู้นั้น การที่ได้ถือว่าเป็นคนสอน ก็คือครู และคนที่เป็นคนเรียนก็คือ นักเรียนนักศึกษา แต่ด้วยคำๆว่า "อัตตราจ้าง" ทำให้ความหมายของครูเปลี่ยนไป ถ้าเราเป็นนักเรียน เป็นนักศึกษา คนที่สอนเราก็คือ "ครู" ของเราอย่างแท้จริง ไม่จำเป็นต้องมีคำว่า ครูประจำ ครูพิเศษ ครูอัตตราจ้าง สำหรับนักเรียนแล้ว มันก็คือคำๆ เดียวกัน คือ "ครู" ผมให้กำลังใจกับครูทุกคนที่เป็นครูอัตตราจ้างที่อยู่ในประเทศไทย ทุกคน จงภูมิใจเถอะว่าเราได้เป็นครู ไม่จำเป็นต้องมีคำว่าอัตตราจ้างเข้ามา เรามีความสุขกับการทำงานเป็นครู มันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับจิตใจของเรา ได้เป็นผู้สอนให้คนนั้นได้เป็นคน ความดี เกียรติ ศักดิ์ศรี และความรักที่ให้กับนักเรียน อยู่ในจิตใจของครูอัตตราจ้างทุกคน

ขอบคุณครับ จาก ครู ถัง

อดีตครูจ้างอาชีวะ

ผมเคยเป็นครูจ้างมาในระบบอาชีวะมาทั้งหมดสองวิทยาลัย และผมต้องออกมาทั้งสองวิลัยทั้งที่ผมไม่มีความผิดอะไร

วิลัยแรกบอกว่าคาบสอนไม่พอต้องเอาครูจ้างออก ก็ครูอัตราจ้างจะเอาอะไรแน่นอน เพราะผมถูกลั้นแกล้ง ผมจะบอกท่านทุกคนที่อ่านบทความผมน่ะครับเวรกรรมมันมีจริงตัวเองไม่เจอก็เจอกับลูกหลานตัวเองคับครูประจำอย่าพยายามแกล้งครูอัตราจ้างให้มากเวรกรรมจะตามทันวิทยาลัยที่สองผมก็ต้องออกมาเพราะหมดสัญญาแล้วก็ต้องสอบใหม่ถ้าผมออกโดยไม่มีคนมาแทนผมจะไม่ว่าอะไรคะแนนสอบที่คุณสอบจะรู้ได้ไหมที่ผมออกมาเพราะมีคนของเขามาแทน แล้วจะเอาอะไรกับความสามารถของครูจ้า่งที่ยังไม่เคยทำงานกับคนที่เคยทำงานมาก่อนจริงไหม ผมก็ต้องออกมา ผมบอกไว้เลยครับความสามารถของครูประจำกับครูจ้าง ครูจ้างมีความกระตือรือร้นมากกว่า

ผมเต็มที่กับระบบนี้มาแล้วผมจะไม่ทำงานในอาชีวะถ้าผมสอบไม่ได้้ผมก็จะไม่ทำ ความเป็นครูผมเต็มเปรียมแต่ผมมาเสียความรู้สึกกับ

ระบบชนชั้น ผมนึกว่าระบบทาสมันหายไปแล้วไปดุได้เลยคับกับครูอัตราจ้างของระบบอาชีวะมันยังมีเหลืออยู่ สำหรับคนที่ทำดีครูประจำที่ดีผมก็ขอให้ท่านมีความเจริญแต่สำหรับครูที่เอาเปรียบเขาของให้เวรกรรมสนองครับ สิ่งที่ผมเขียนนี้ออกมาจากใจผมที่ทำงานในระบบอาชีวะมาหลายปี

ก็ครูจ้างเหมือนกัน

ขอชมว่าเป็นบทความที่เขียนได้จับครูอัตราจ้างเหลือเกิน อ่านไปน้ำตาก็ไหลไป แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้ครูอัตราจ้างทุกคน ให้สู้ต่อไป ถึงแม้จะมีท้อแท้ใจ เหนื่อยล้า ถูกกลั้นแกล้งบ้าง มีความสุขบ้าง แต่ก็คือหน้าที่ของเรา รัฐสร้างครูจ้างมาเพื่อแก้ปัญหาการเงินของรัฐ เขาก็คงไม่คิดจะเอาเราชาวครูจ้างมาเป็นปัญหาเพิ่มเติมอีกแน่ แต่ก็มีการเปิดโอกาสให้สอบภายในจากผู้มีอายุงานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ทั้งในส่วนของพนักงานราชการ และครูผู้ช่วย ก็สู้ต่อไปนะครับ โหมงานหนักก้อย่าลืมพัฒนาตัวเองเพื่อก้าวเข้าสู่อาชีพข้าราชการบ้างนะครับ ผมเองคงไม่ได้อ่านบทความนี้ ถ้าไม่เกิดอารมณ์เหงาท้อแท้กับงาน ก้รู้เช่นกันกับครูจ้างข้างต้นละครับสู้ๆต่อไปครับ

ผมเองก็เป็นครูอัตราจ้างมา 6 ปี แล้ว และได้อ่านข้อความของทุกท่านที่แสดงออกมาอ่านแล้วก็เหมือนกับผม เหมือนกันทั่วประเทศครับ เมื่อก่อนผมทำงานบริษัทมา 8 ปี ก็ได้เรียนรู้และซึมซับกับระบบการทำงานขององค์กรภาคเอกชนมาพอสมควร ปัจจุบันก็มาเป็นครูสอนที่วิทยาลัยอาชีวะแห่งหนึง แรกๆก็ไม่คุ้นเคยแต่หลังๆ จิตวิญญาณของความเป็นครูมีมากขึ้นเป็นลำดับ ผมรู้สึกว่า เด็กที่ผมสอนอยู่เขาเป็นเด็กที่ต้องการความรู้จากเรา เราก็ต้องสอนให้เขา แม้บางครั้งเราจะอยู่ในอารมณ์ใดก็ตาม เรามีหน้าหลักคือบริการความรู้ให้กับพวกเขา บุญกุศลจากความตั้งใจจริงของเรา สักวันหนึ่งจะส่งผลเองครับ คนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ทุกอย่างเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาครับ

สุดท้ายผมจะบอกถึงสาเหตุของระบบการเรียนการสอนที่อาชีวะเราไปไม่ถึงไหนบ้างตามประสบการณ์ของผมนะครับ(ที่ประชุมครูทุกครั้งก็ไม่เคยมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็นเลย เพราะรู้ตนเองอยู่ในสถานะใด ก็ต้องเจียมตัวครับ)

1. คำอธิบายรายวิชาของกรมบางรายวิชาเก่าเกินไป บางวิชาก็ไม่ตรงตามความต้องการของสภาพเศรษฐกิจในท้องถิ่น

2. เรียนฟี 15 ปี แน่ใจหรือว่าเด็กจะเอาไปอ่าน ประหยัดเงินทางนี้ก็เอาไปจ่ายอย่างอื่น(พ่อแม่รู้หรือปล่าวก็ไม่ทราบ)

3. ยุควัตถุนิยมทุกอย่างหลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว เด็กไทยใช้งานในทางที่ผิด เพราะไม่มีคนคอยแนะนำ

4. เด็กเองไม่เอาใจใส่ในการเรียน

5. ผู้ปกครองเข้าข้างลูกตัวเองแบบไม่ฟังเหตุผล ผู้ปกครองขอร้องให้ช่วยดูแลเด็ก คืออยู่ที่วิทยาลัยยังดีกว่าสร้างปัญหาเมื่ออยู่ที่บ้าน

6. เด็กสมัยนี้มีความเกรงใจครูน้อยมาก ถ้าไม่ใช่ครูในแผนกหรือครูที่สอนก็ไม่ไหว้หรือทักทาย

7. ความมั่นคงของผู้เป็นครูสอนไม่มี เรามีสิทธิ์โดนกดและให้ออกได้ แล้วอย่างนี้ครูส่วนใหญ่จะเอากำลังใจที่ไหนไปสอน ผลก็ตกอยู่กับเด็กเต็มๆ และเมื่อเด็กจบไป พื้นฐานเขาก็อ่อน สอบที่ไหนก็ไม่ติด หางานทำไม่ได้ สุดท้ายคือตกงาน รัฐบาลเองก็ต้องมาแก้ไขตรงปลายเหตุคืออาจจะต้องใช้งบประมาณเข้ามารองรับในส่วนนี้โดยใช่เหตุ จากนั้นก็ทำวิจัย ทำไปทำมาหนึ่งในหัวข้อเหล่านั้นก็คือครูผู้สอน เขาก็มุ่งมาที่เรา และสร้างกรอบให้เราต้องปรับปรุง พัฒนาเพิ่มขึ้น เพิ่มอะไรอะไรหลายๆอย่างโดยไม่จำเป็นต้องฟังเสียงของเรา ผมคิดว่าเขาก็คงรู้ว่า เขาเป็นสั่งเราให้ทำโน่นทำนี่ แต่ความมั่นคงที่ให้เรามานั้นแทบจะไม่มีอะไรเลย แต่เขาก็ทำเฉย สิ่งที่เขาทำอยู่มันสวนทางกับความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง

ผมเองทำงานก็หวังความก้าวหน้าในหน้าที่การงานแต่ตอนนี้ผมไม่หวังแล้วครับ ผมจะตั้งใจทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด สอนเด็กให้เก่ง รู้จักความรับผิดชอบ การใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต

8. มหาวิทยาลัยของรัฐไม่เปิดรับระดับปวส.เรียนแบบ 2 ปีจบ แต่จะมีระบบโอนรายวิชาแทน ดังนั้นเด็กที่จบ ปวส. 2 ปี ก็ไม่แน่ใจว่า ถ้าเข้าเรียนแล้วจะต้องเรียนอีกกี่ปี(บางที่ต้องเรียน 3 ปีจึงจบป.ตรี ก็กลายเป็นว่าเรียน ป.ตรี 5ปี)อย่างนี้ใครจะกล้าเสื่ยง

ผมตั้งใจเรียนมาทางสายครุศาสตร์  โดยหวังว่าจะได้เป็นครูสายอาชีวะ  เนื่องจากจบมากจากสายอาชีวะ

ตอนเรียนอยู่  อาจารย์ที่มหาลัยบอกว่า  จะมีทุนครูพันธ์ใหม่  หาเกรดเฉลี่ยถึง 3.00 ตอนปี 3 เทอม 2  จำได้ว่าเป็นวันไหว้ครูด้วย

ก็พยายามทำจนสำเร็จ  แต่แล้ว  เมื่อถึงตอนรับสมัครทุน  ก็เปลี่ยนเกณฑ์เป็น ปี 3 เทอม 1

ผมรู้สึกเลยว่า  เหมือนโดนหลอกมาเป็นปีๆ  ต่อมาให้หลังอีก 1 ปี คือปีนี้  ซึ่งผมกำลังฝึกสอนอยู่  รุ่นน้องก็มีทุนบรรจุนี้มาอีก  แต่กลับ  เป็นเกณฑ์ที่ว่า  3.00 ปี 3 เทอม 2

อึ่งมาก  ไม่รู้ว่าทำไมถึงทำกันอย่างนี้  และตอนนี้  ก็มีมาอีกว่า  ให้รอเรียน ป.โทปีหน้า

เพราะว่าเกรดจบถึง 3.00  จะสมัครทุนบรรจุ

และจะได้บรรจุเมื่อจบ ป.โท 3.50  ตอนนี้ผมไม่แน่ใจแล้วว่า  ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิมอีกหรือปล่าว   

 

แต่ถึงอย่างไร  ผมก็ยังหวังอยู่  ว่าอยากเป็นข้าราชการครูครับ

กิ่งทอง ไตรรัตนศักดิ์

อาชีพครูเป็นอาชีพที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีไม่ว่าคุณจะเป็นครูสังกัดกรมใดก็ถือว่าเป็นครูทั้งสิ้นดิฉันก็เคยเป็นครูจ้างสพฐ.ที่ตอนนั้นมีงบจ้าง 2 เดือนรู้สึกดีใจที่ได้งานครูครั้งแรกแต่ต้องเสียใจเพราะได้สอนแค่สองเดือนรู้สึกภูมิใจกับการได้ถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็กๆแม้ว่าจะเจอเด็กที่ดื้อโครตสุดๆแม้แต่พระก็ไม่ยอมที่จะขัดเกลานิสัยให้ ครูท่านอื่นเอาแต่ร้องไห้ต่อหน้าพระเพราะเด็กดื้อเกินแต่ความเป็นครูก็สู้สุดฤทธิ์ไม่เคยโกรธเด็กเลยพยายามขัดเกลานิสัยเค้าไม่ใช่ได้ขึ้นชื่อว่าครูแต่เป็นด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครูจากนั้นได้สอนโรงเรียนที่จ้างด้วยงบของโรงเรียนครั้งแรกได้เงินเดือน4700บาท เทอมต่อมาได้4500 บาท เทอมต่อมาได้4000บาทจนทางโรงเรียนบอกว่าจะไม่มีงบจ้างแล้วก็เลยมาสมัครครูอาชีวะ ย้อนกลับไปถามรู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ก็บอกกับตนเองว่าไม่เป็นไรได้ประสบการณ์ด้านการสอนถามว่าพอใหมกับการครองชีพไม่พอหรอกค่ะแต่ทำไงได้เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ก็ไม่เคยท้อมาอยู่อาชีวะตอนนี้ได้ 4 ปีกว่าแล้วยังไม่เคยสอบข้าราชการของอาชีวะเลยเนื่องมาจากตอนนั้นอายุงานไม่ถึง3ปี อีกไม่กี่เดือนจะครบ ด้วยชอบอาชีพครูก็เลยไม่อะไรกับการเป็นข้าราชการเป็นครูจ้างก็ได้ขอไม่ตกงาน  แต่พอเห็นการทำงานของข้าราชการทำให้ได้คิดว่าข้าราชการบางท่านอยู่อย่างสบาย  แต่ผู้ที่ทำงานหนักกลับกลายเป็นพนักงานราชการกับครูจ้างมาเห็นตรงนี้แล้วสะท้อนใจบอกไม่ถูกสงสารคนที่เป็นครูจ้างและเห็นใจมากๆ  สอบขึ้นบัญชีไว้ไม่มีทีท่าว่าจะเรียกหลายคนบอกว่าก็พยายามสอบให้ได้ลำดับต้นๆ จะเป็นไปได้ใหมอายุก็มากขึ้นทุกวัน  อยากให้ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องรับทราบปัญหาเพียงน้อยนิดนี้เป็นปัญหาระดับชาติคนที่ขึ้นบัญชีไว้สมควรได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามลำดับจนหมดบัญชีไหนๆก็ให้สอบแล้วการสอบก็ต้องใช้ระยะเวลาและเปลืองงบประมาณแต่ละครั้งมาก เพียงอยากเล่าเผื่อว่าจะมีใครมาอ่านเจอแล้วเห็นใจ ขอให้ครูจ้างทุกท่านบรรจุได้โดยเร็ววันบุญกุศลที่เคยสั่งสอนศิษย์ไม่ว่าจะเจอศิษย์รูปแบบใดก็ตามขอให้สั่งสอนด้วยความรักและเมตตาบุญกุศลนี้จะหนุนนำท่านไม่ช้าก็เร็ววันนั้นมาถึงก็ขอให้ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุดอย่าให้คนรุ่นหลังพูดได้ว่าข้าราชการไม่ทำงานขอเอาใจช่วยครูจ้างทุกท่านรวมทั้งตนเองด้วยค่ะ

ค่าของคน อยู่ที่คนของใคร เข้าใจค่ะเพราะเคยเป็นครูอัตราจ้างมาก่อน เวลาทำงานงกๆๆ เขาไม่เห็นคุณค่า แต่เวลาได้ผลงานเขารีบ วิ่งเข้ามาแอบอ้าง ยิ่งเจ็บไปกว่านั้น อัตราจ้างคนไหนมี คนคอยหนุนหลัง วันๆไม่ทำงานอะไรก็ไ้ด้ ทำแต่หน้าที่สอน ว่าเอกสารก็ไม่ทำ ไม่เคยโดนด่า บางคนทั้งสอนทั้งทำงานเอกสาร ก็ด่าแล้วด่าอีก เซ็ง..เลยลาออก

ดิฉันเคยทำงานบริษัทมาประมาณปีกว่า ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่ พอได้ลองเปลี่ยนมาเป็นครูแล้วก็คิดว่ามันใช่ ชอบสอนเด็กอาชีวและชอบเรียนรู้สิ่งใหม่เพื่อไปสอนเด็ก คิดเสมอว่าต้องดูข่าวเศรษฐกิจทุกวันเพื่อจะได้ไปสอนนักเรียนให้ทันสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของตลาด ดิฉันเป็นครูสอนวิชาบัญชีมา 2 ปีในโรงเรียนเอกชนที่ลพบุรี ผู้บริหารดี นักเรียนดี ระบบดีเลิศ แต่พอแต่งงานต้องย้ายโรงเรียนมาอยู่อีกจังหวัดหนึ่งรับไม่ได้กับระบบการทำงานหรือการบริหารงานของโรงเรียนใหม่จึงอยากเปลี่ยนโรงเรียนอีก มีเพื่อนจะฝากให้เป็นครูอัตราจ้างที่อาชีวแห่งหนึ่งพอได้อ่านบทความข้างต้นแล้วกลัวจังที่จะต้องเจอเหมือนกับทุกคน เริ่มคิดที่อยากจะกลับโรงเรียนเดิมที่ให้โอกาสตั้งแต่แรก ทั้งที่เป็นโรงเรียนเอกชน

ดิฉันเองก็เคยเป็นครูจ้างของอาชีว (การอาชีพแห่งหนึ่ง) ดิฉันทุมเทกับการทำงานอย่างสุดความสามารถและรักงานที่ทำสุดชีวิต แต่สุดท้ายก็ต้องจบการทำงานในสถานที่แห่งนั้นลง เพราะนอกจากฉันจะเป็นครูจ้างแล้วฉันก็เป็นครูที่จ้างมาสอนข้างนอกเพื่อดึงเด็กเข้ามาเรียนในวิทยาลัยให้มากตอนนี้มีเด็กมาเรียนมากแล้วฉันก็หมดประโยชน์ ทำงานกิจกรรมยามที่มีกิจกรรมทั้งวันทั้งคืนแต่จะมีใครรู้ครูจ้างทุกคนทำงานกันอย่างหนักแต่ถูกประนามเหยียบหยามจากผู้บริหารเป็นครูจ้างก็ต่ำต้อยพอแล้วเขาก็กลับเหยียบให้จมลงดิน และยกย่องข้าราชการมาเหยีบครูจ้าง โดยไม่คิดถึงค่าความเป้นคน ไม่มีใครรู้เลยว่าอาชีพครไม่ใช่ใครก็ทำได้แต่มันต้องมาจากความารักและมีจิตเมตตาต่อน่กเรียนมีความเสียสละให้กับศิษย์ได้เสมอถึงจะเรียกว่าครู ขอยกย่องครูจ้างทุกคนนะคะ วิรักอาชีพครูมากเท่ากับชีวิตของวิเลย

ครูจ้างที่ำงานมา 10 ปี

ต้องการความมั่นคงในชีวิตของครู่ที่ทำงานมานาน เงินเือน15000 ก็ไม่ได้เหมือนเขา ต้องการเป็นครูที่มั่นคงมานานแล้วครับอยากให้รัฐบาลช่วยครู้จ้างอาชีวบ้างดูแลพวกเราหน่อยครับ

เป็นครูจ้างแสนจะลำบาก เงินเดือนก็น้อย จบ ป.ตรี แต่ได้เงินเหมือน ปวส. เข้ได้ 15000 แต่เราไม่ได้ยังเหมือน ปวส.

ทำงานก็มาก สอนก็มาก กว่าครูประจำ ไหนบอกว่า จบ ป.ตรีได้ 15000 ไม่เห็นได้ ปรับแต่ข้าราชการ คนที่เป็นลูกจ้างไม่ใช่ข้าราชการ ก็อดตาย ข้าวของก็ขึ้นไปรอบแล้ว ค่าอะไรๆ ก็ไม่ได้ แต่เวลาหักเงินเดือน ทำกิจกรรม ต่างๆ ก็ต้องจ่ายเท่ากันหมด แต่บางอย่าง ก็ได้แค่ครูประจำ ของเป็นครูจ้างก็กับไม่ได้ งง ที่สุด สิทธิ์ไม่เท่ากัน

แปลกน่ะอาชีพที่มีเกียรติ คนใหญ่คนโตเขาคิดกันยังไง ปรับเงินเดือน 15000 บาทแต่ไม่ทั่วถึงครูอัตราจ้าง เหตุเพราะ รัฐมีแต่นโยบาย แต่ไม่มีเงินให้โรงเรียน เอาเข้าไปข้าราชการได้เป็นข้าราชการอยู่แล้ว ได้ปรับเงินเดือนอีก มีแต่ได้กับได้ แล้วครูอัตราจ้างล่ะ จะกินอะไร อะไรก้ไม่ได้ ครูอัตราจ้างไม่ได้กินข้าวหรอ หรือนึกว่าครูอัตราจ้างกินแต่น้ำเลยไม่เห็นหัวแล้วทำไมเวลาใช้งานจิกจังเลย ทุเรสว่ะ

รักการเป็นครูทีหัวใจ ตลอดเวลาที่เข้ามาไม่ได้สอน งานนั้น งานนี้ ตารางสอนเปลี่ยนไปมา แม้แต่เวลาจะยิ้มให้ครอบครัวยังไม่มี ไม่เคยคิดเลยว่าเป็นครูจะต้องเป็นอย่างนี้.0.0.... เวรกรรม เห็นด้วยกับเพื่อนๆครูทุกคร

ไม่อยากเป็นครู จ้าง ก็ สอบบรรจุให้ได้ จิ บ่นอยู่ทำไม

ครูจ้าง เทคนิค(อิสานตอนใต้)

ดิฉันก็เป็นครูจ้างสายอาชีวะคนนึงที่มุ่งมั่นกับการสอนนักศึกษา ดิฉันทำงานที่นี่มาเกือบสองปีแล้ว ดิฉันอยู่ในแผนกที่เรียกตัวเองว่าช่างที่ทำงานขายแรง และสาขาที่ขายผลงานการสร้างสรรค์ ดิฉันมีความน้อยเนื้อต่ำใจเกี่ยวกับการเอารัดเอาเปรียบภาระเงินการสอนนอกเวลา ครูประจำมี 9 ครูจ้างมี 3 ทุก ๆ ครั้งที่มีการเซ็นรับเงิน ดิฉันและเพื่อน ๆ รับทราบจำนวนเงินเต็มที่สมควรจะได้รับ แต่ ... ครูประจำกล่าวว่า มันเป็นธรรมเนียมที่ครูจ้างจะได้แค่ส่วนนึงเท่านั้น ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่เต็มที่ดิฉันได้ทราบจำนวนตัวเลข ถ้าไม่พอใจหรือไม่มีคาบสอนเทอมหน้าคุณก็ไม่ได้อยู่สอนต่อ และไม่มีสิทธิ์เบิกค่าสอนนอกเวลา นี่คือคำพูดของข้าราชการที่เอาเปรียบครูจ้าง ... แปลกใจมั้ยค่ะ แผนกที่ดิฉันอยู่มีนักศึกษา เกือบ 300 คน แบ่งเป็น สาขาเด็กขายแรงประมาณ 160 และสาขาขายความคิดสร้างสรรค์ 150 กว่าคน ครูประจำสาขาขายแรง มี 9 ท่านและได้ยินข่าวมาช่วยราชการอีก 1 รวมเป็น 10 คน ครูจ้างสาขาเด็กสร้างสรรค์มีแค่ 3 คน แต่เด็กเป็นร้อย อย่างนี้เหรอค่ะ มันเรียกว่ายุติธรรม ครูประจำเอาคาบวิชาสาขาเด็กสร้างสรรค์ไปทำการเบิกสอนให้ตัวเองมีคาบเกิน 30 ขึ้นไปถึงจะเบิกได้ แต่ครูจ้างต้องรับภาระไม่มีคาบสอนทั้ง ๆ เป็นรายวิชาประจำสาขาเด็กสร้างสรรค์แต่เบิกสอนไม่ได้ ทำเป็นตุ๊กตาเบิกภาระการสอนครูประจำได้มากกว่า แต่รายวิชาที่เอาไปเบิกกับโยนมาให้ครูจ้าง 3 คนสอน โดยอ้างว่าเป็นรายวิชาของสาขาเด็กสร้างสรรค์ และไม่ได้มีน้ำใจใด ๆ ในการสอนตอบแทน อ่านกันมาแล้วน่าน้อยใจมั้ยค่ะ ...

ครูจ้าง เทคนิค(อิสานตอนใต้)

ความน้อยใจ (ต่อ)

วิลัยที่ดิฉันอยู่มีการต่อสัญญาจ้างแบบเทอมต่อเทอม ชีวิตของการเป็นครูของดิฉันไม่มีความสุขในการทำงานเพราะต้องคอยพะวงในการวางตัวการสอน ภาระของการร่วมงานกับทางวิทยาลัย ครูประจำไม่เคยมองเห็น เพราะแต่ละท่านเข้ามาแผนกแค่ ไม่ถึง 10 นาที มานั่งคุยกันในแผนก คุยโม้เรื่องอื่น ๆ พอได้พบปะหน้ากัน แล้วก็แยกย้ายกันกลับ ไม่สอน !!!!! ไม่อยู่แผนก และไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่ง 18 สัปดาห์ที่ทำการสอน ไม่มีครูท่านไหนที่อยู่สอนจนเต็มคาบหรือมาสั่งงานแล้วก็ไป ไปทำงานนอกที่ตนเองรับจ้าง ไม่มีการรับผิดชอบนักเรียน นักศึกษา ปล่อยไปตามกรรม พอถึงสัปดาห์ที่ตัดเกรด ก็เรียกเด็กเข้ามาพบเพื่อจะได้ลงเกรดตามรายหน้าที่อยู่พบถ้าใครไม่อยู่ ก็เป็น 0 แบบนี้เหรอคะ ที่วิธีการสอนของครูประจำ สิ่งที่เรียกว่าข้าราชการ ถึงดิฉันจะสอนเด็กดีแค่ไหน ทำงานให้แผนก ให้วิลัยมากแค่ไหน ก็ไม่เคยมีครูประจำมามองว่าครูจ้างทำงาน เพราะครูประจำจ้องมองจับผิดที่จะเอาครูจ้างออก เหตุเพราะไม่พอใจ ไม่ทำงานให้ตนเอง ถึงทำงานให้ก็เอาเปรียบค่าแรง หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า ทำงานให้ฟรี ถ้าไม่ทำ ก็ไม่พอใจจะบีบให้ออก และครูประจำก็มีเด็กที่พร้อมจะเข้ามาสอนอยู่ตลอดเวลา เพราะรับเงินใต้โต๊ะกัน ค่าว่าจ้างที่คุณจะมาสอนต้องจ่ายให้ครูประจำ 1 - 2 หมื่นบาท ...... ถ้าไม่พอใจก็จะเอาครูจ้างออก .... นี่หรือค่ะ นิสัย .. ของข้าราชการไทย

อยากเป็นครูอาชีวะ

หนูอ่านข้อความของอาจารย์ทุกท่านแล้วรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของอาจารย์ทุกท่าน แต่หนูก็ยังอยากเป็นครูอาชีวะอยู่ค่ะ เมื่อก่อนอาชีพนี้ไม่เคยอยู่ในความคิดเพราะคิดว่าชั้นเรียนอยู่ในโรงเรียนในมหาลัยมาค่อนชีวิตแล้วจะต้องมาเป็นครูทำไมคงน่าเบื่อ แต่พอรู้ว่าพ่อเป็นมะเร็งระยะที่3รู้สึกว่าจะต้องทำอะไรให้พ่อภูมิใจเร็วที่สุดและสิ่งนั้นจะต้องทำให้ได้ หนูรู้สึกว่าครูเป็นอาชีพที่มีเกียรติถึงไม่ได้บรรจุก็ยังขึ้นชื่อว่าครู ตอนนี้หนูเรียนบัญชีปีสุดท้ายแล้วค่ะ เรียนมาสายอาชีวะ หนูอยากขอคำแนะนำว่าหนูจะต้องทำอย่างไรถึงจะเข้าไปเป็นครูอาชีวะได้จะต้องเรียน ป.บัณฑิตก่อน หรือว่าจะต้องเข้าไปเป็นครูได้ก่อนถึงจะสามารถเรียนป.บัณฑิตได้ แล้วกว่าจะเข้าไปสอนได้ต้องสอบคัดเลือกไหมค่ะ รบกวนช่วยแนะนำหน่อยนะค่ะหนูอยากเป็นครูจริงๆ

ครูเถื่อนคนหนึ่ง

อาชีวศึกษาต้องพัฒนา เป็นสิ่งที่ใครหลายคนต้องการให้เกิดขึ้น แต่มีเรื่องเล่าหนึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นในสังคมอาชีวศึกษา มีครูจ้างคนหนึ่งไม่มีใบประกอบวิชาครู ไม่มีวุฒครูแต่คนคนนี้อยากเป็นครูเพื่อพัฒนาประเทศไทยเขาเริ่มเดินทางเข้าสู่วิทยาลัยการอาชีพแห่งหนึ่งแห่งหนึงในประเทศไทย ด้วยความทุ่มเทแรงกายและความรู้เพื่อพัฒนาเด็กน้อยอาชีวศึกษาให้เป็นที่ยอมรับ เขาและเด็กๆ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสามโครงงานวิทยาศาสตร์ ปี2555 เป็นที่หน้าภูมิใจ ที่ครูเถื่อนๆ คนหนึ่งสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ แต่อย่างไรก็ดี เงินและความมั่นคงในชีวิตกลับเท่าเดิม จะมีใครบ้างที่มองเห็นว่าคนคนนี้เป็นยอดครูจ้างที่ทุ่มเท และจะมีกี่คนที่คิดว่าครูไม่ขึ้นอยู่กับวุฒิการศึกษาและใบประกอบวิชาชีพครู และจะมีวันไหนที่ครูจ้างคนนี้ได้รับราชกาลครู. เพราะเขาไม่มีส่งที่อาชีพครูต้องการให้มี แต่เขาสามารถรับขึ้นยืนเคียงข้างข้าราชกาลครูได้ ปัจจุบันครูคนนี้ยังคงเป็นครูจ้างที่รับเงิน 8340 บาท ไรซึ่งสวัดดิการ โอกาสรับราชกาล แม้แต่พนักงานราชกาลยังเป็นไม่ได้เพราะไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู แต่เขายังคงทุ่มเทพัฒนาผู้เรียนอาชีวศึกษาให้เป็นที่ยอมรับในสังคม และท่านๆทั้งหลายคิดเช่นไร?

อันครูจ้างเป็นต้องทนอย่าหลบหนี ร่วมสร้างสีแต่งเติมกันการศึกษา ใช้ความรู้คู่ความดีสร้างปัญญา เพื่อพัฒนาผู้ศึกษาเด็กไทยเอย แต่อาจมีหลากหลายกลุ่มที่หมดหวัง ขอให้มั่นใจจิตคิดเฉลย ปัญญาชนแก้ปัญหาอย่างลงเอย เพราะตนเองเรียกว่าเป็นตนสอนคน อาจมีบ้างที่อยากได้อย่างใครเขา ที่เขาใส่ชุดกากีอวดศักศรี มีทั้งยศบอกระดับลักทวี แต่มันมีแค่ความว้างครูจ้างเอย ปล.รัฐบาลจ๋าช่วยครูจ้างไทยด้วยจร้า

สวัสดีคับ "ครู" จ้างชำนาญการทุกท่าน ผมเป็นครูจ้างมาได้7ปีแล้วครับ ทำงานมากกว่าเดิม ท้ังงานสอน หน้าที่พิเศษอีก 5 อย่าง วันหยุดก็ต้องมาทำงานหนักครับแต่เงินเดือนก็เท่าเดิม ไม่มีขึ้นมีแต่จะลง รัฐประกาศให้เงินเดือน 15000 สำหรับปริญญาตรีแต่ก็แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับครูอัตรจ้างที่ได้รับเงินเดือน 8340 ค่าจ้างแรงงานปรับเป็นวันละ 300บาทของก็แพงขึ้น เหนือยครับ ขอระบายหน่อยครับ

ขอด่าไอ  ครู  ที่ออกความเห็นว่า  ไม่อยากเป็นครู จ้าง ก็ สอบบรรจุให้ได้ จิ บ่นอยู่ทำไม

เก็บคำพูด......ๆ  แบบนี้ไปพูดกะ.......คุณเถอะ  อย่าเสนอหน้ามาเดี๋ยวจะโดน......

พี่เป็นลูกจ้างชั่วคราวของวิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่ง ทำงานตั้งแต่ปี 2527 เงินเดือน 1,525 บาท อยู่นานเพราะสามีเป็นครู ยอมได้ทำงานทุกอย่างด้วยความซื่อสัตย์สุจริต แต่สิ่งที่ยอมไม่ได้คือศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และการถูกรังแก

สวัสดีค่ะคุณครูทุกท่าน  จริง ๆ แล้วความเป็นครูมีอยู่ในครูทุกคน  เราคนนึงที่เป็นครูอาชีวะ  แต่เป็นโรงเรียนอาชีวะเอกชนจึงถูกแบ่งเกรดออกมาว่าเป็นแค่ครูเอกชน ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเราก็ตั้งใจสอนเหมือนกับครูโรงเรียนรัฐบาลทั่วไปที่อยากให้เด็กได้ความรู้ แต่เรามาถูกแบ่งจากบรรดาครูโรงเรียนรัฐบาลว่าเราเป็นแค่ครูโรงเรียนเอกชน  เราอยากจะบอกให้หลายคนเข้าใจนะว่า บางครั้งความเป็นครูอัตราจ้างในโรงเรียนรัฐบาลความเสี่่ยงถูกไล่ออกมากกว่าการเป็นครูเอกชนเสียอีก สิทธิสวัสดิการครูเอกชนบางอย่างมันมากกว่าครูอัตราจ้าง(โรงเรียนรัฐบาล)ด้วยซ้ำไป  ก่อนที่จะดูถูกว่าเป็นแค่ครูเอกชน  ลองไปหาข้อมูลก่อนดีมั้ยว่าครูเอกชนเค้าได้รับสิทธิสวัสดิการอะไรบ้าง  ส่วนครูอัตราจ้าง(โรงเรียนรัฐบาล) บางคนทำงานมาเป็น 10 ปี แม้แต่ประกันสังคมยังไม่มีเลย  ก็อยากจะบอกให้ท่านที่ได้อ่านข้อความนี้ทำความเข้าใจบ้างนะเกี่ยวกับสิทธิของครูเอกชน  อย่าหยิ่งทะนงว่าคุณเป็นครูรัฐบาลแล้วจะมาดูถูกคนอื่นว่าเป็นแค่ครูเอกชน  ขอบคุณค่ะ  จากครูอาชีวะเอกชน

รักและศรัทธาในวิชาชีพครู.. คำว่าครู มีค่ามากมาย ไม่ต้องรำพึงรำพันว่าเป็นครูจ้างหรือครูไม่มีคนจ้าง.. ครูที่สอนเด็กเร่ร่อนไม่มีเงินอะไรสักอย่าง แต่เขาภูมิใจว่าเป็นครู มีลูกศิษย์มากมาย... มีความสุขที่ใจ การขึ้นกระทู้แบบนี้คนอ่าน เขาก็รู้ว่า "ตัวกู ของกู" อย่าเข้าข้างความคิดตัวเอง อย่าเอาตนเองเป็นตัวอ้างอิง พึงสังวรณ์ว่าคนที่เขาเป็นข้าราชการครู กว่าจะได้เป็น ต้องเรียน ต้องอ่านหนังสือสอบแข่งขัน กว่าจะได้ มันยาก และข้าราชการทำงานยี่สิบปี เงินเดือนสองหมื่นนิด ๆ ประเทศไทยกำลังถอยหลัง พยาบาล(ลูกจ้าง) อยากเป็นข้าราชการ ก็พากันไปเดินขบวน ครูก็อยากทำบ้าง คนทำงาน ป.ตรี สิบปีเงินเดือนหมื่นห้า วันนี้คนบรรจุใหม่ก็อยากได้ หมื่นห้า ทุกคนก็มองแต่ความคิดตนเอง เข้าข้างตนเองทั้งนั้น ไม่คิดให้รอบด้าน รัฐมีนโยบายให้จ้างคนมาเป็นครู ต้องจัดสรรเงินให้ พอปีไหนเงินหมดก็ต้องเลิกจ้าง ก็โวยวายกันอีกว่าตกงาน เดือดร้อน ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ลูกยังเล็ก...ฯลฯ อยากบอกครูทุกท่านว่า ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด คุ้มกับเงินเดือนที่เราอยากสมัครเข้ามาขอเขาทำงาน ดีกว่าตกงาน อย่าลืมว่าถ้านายจ้างเขาไม่จ้าง เราก็ตกงาน ไม่ใช่เอางานหนักมาอ้างเพื่อประโยชน์ ถ้ามีงานที่ดีกว่าก็โปรดไปเลือกทางเดินชีวิตใหม่ ...อยากให้กำลังใจครูทุกคน ไม่เลือกว่าจ้างหรือไม่จ้าง คิดช้า ๆ แล้วค่อยปรับชีวิตให้มีความสุข "ผลสำรวจ ครูไทยเป็นหนี้มากที่สุด" เพราะอยู่บ้านพักติดกันยอมกันไม่ได้ บ้านนั้นมีรถญี่ปุ่น บ้านเราต้องรถยุโรป บ้านนั้นมีทีวี 20 นิ้ว บ้านเราต้อง 40 นิ้ว กู้ทุกชนิดที่เขามีมาเสนอ บัตรผ่อนทุกอย่างทำกันเต็มกระเป๋า เล่นการพนันทุกอย่างอ้างว่าเป็นความหวัง ทั้งที่เงินเดือนไม่พอจะใช้จ่ายให้ถึงสิ้นเดือน ทำกันไปเองทั้งนั้น อยู่อย่างพอเพียงตามคำพ่อหลวง รับรองไม่อดตาย ไม่อายใคร...ขอให้ครูทุกคนมีความสุข ศึกษาจรรยาบรรครูให้มาก ๆ เพราะครู คือบุคคลที่สังคมจับตามอง.....!

ครูจ้างชายแดนใต้


อดทนครับเพื่อนครูจ้าง สอนไปสะสมความรู้ความเชี่ยวชาญอย่าย่อท้อครับ หมั่นหาความรู้เพิ่มเติม โอกาสการสอบครูผู้ช่วยมาเมื่อไหร่อย่าให้พลาดไปได้ครับ  ผมจ้างสอนอยู่ 5 ปี เงินเดือน 7,940 บาท พยายามอดทนทุกอย่างที่เพื่อนๆครูเล่าสู่กันฟังนั่นแหละครับ ปีที่แล้ว 2555 ได้โอกาสสอบบรรจุ ผมอัดตำราเต็มที่ครับ ได้ลำดับต้นๆรอเรียกอยู่ครับ อยากเป็นกำลังใจให้พวกเราครูจ้างสู้ต่อไป เรามาทางนี้แล้วถ้ารักในวิชาชีพนี้ต้องพยายามให้สำเร็จครับ 3 ปีไม่นานครับ

หน่วยงานอาชีวะศึกษากำลังเป็นระบบหลักของการพัฒนาประเทศให้เข้าสู่อาเซี้ยนอย่างเต็มตัว นี้คือความจริงที่ทุกคนอาจจะทราบ 

แต่ในความสำเร็จนั้นมิได้หมายความว่าจะสวยหรูเสมอไป หากมิได้ทราบข้อเท็จจริงต่อไปนี้เมือได้ที่มีชนชั้นระดับสองยอมมีการเอาเปรียบ คือ ครูก็คือข้าราชการประเภทหนึ่งมีทั้งเกียรติ หน้าตาทางสังคมแต่หากเป็นครูประเภทที่  สองย่อมหมายถึงว่า ครูพิเศษสอน. นั้นคือชื่อตำแหน่งที่ตั้งไว้สวยหรูหากแต่ไม่มีอะไรเลยที่สามารถรับประกันหน้าที่การงานโดนเอาเปรียบทุกวิถีทาง. ไม่มีข้อต่อรองไดทั้งสิ้นจะเลิกจ้างก็เลิกจะใช้ทำอะไรก็ต้องทำ ผู้บริหารก็คงจะคิดว่ามันเป็นลูกจ้างต้องใช้งานให้คุ้มค่าจ้างในวันและเวลาที่ได้รับเงิน้ดือนแต่รู้หรือปาว. พวกเราก็เป็นคนเหมือนกัน กินข่าวเป็นอาหารไม่ได้กินขี้เป็นอาหาร เลิกจ้างกรูเอาเงินไหนเดกข้าววะ

  • ขอเป็นกำลังใจให้คุณครูครับผม
  • ถ้ายังรักที่จะทำและทำในอาชีพนี้แล้วมีความสุข ขอจงเดินต่อไปครับ
  • บางความคิดเขาบอกมาว่า "ถ้าไม่ได้ทำในงานที่รัก ก็จงรักในงานที่ทำ" คุณครูได้ทำในงานที่รัก โชคดีแล้วครับ
  • ระมัดระวังการใช้จ่ายให้ดีนะครับ..กับอาชีพครู
  • ขอให้สอบบรรจุได้โดยเร็วนะครับ สู้สุดตัวครับ

ผมจบ วิศวมา ตอนนี้ ทำงาน เป็นวิศวกร บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งใน นวนคร แต่สิ่งที่ผมได้วิชามานั้นก็มาจากครู ไม่ว่าจะ ครูที่บรรจุ และ ไม่ได้บรรจุ ที่ผ่านมาในสายตาผมบางท่านก็ไม่ได้ทุมเทกับการสอน และบางท่านก็ทุ่มเท มาก และอยากให้กำลังใจครูทุกคน ผมก็อยากกลับไปตอบแทน พระคุณ วิทยาลัย ที่ผมได้ศึกษาล่ำเรียนมา หากได้มี โอกาศ ผมขอต่อสู้ กับ ครูทุกคน ครับ 

ผมว่าคนที่บอกว่า ไปสอบบรรจุ บรรจุของ อาชีวศึกษารึป่าว รุ่นผมจบมาไม่มีใบประกอบวิชาชีพ แล้วให้ทำอย่างไร เงินเดือนน้อยนิด แต่ต้องไปเรียนเพิ่ม 1 ปี เพื่อ ใบประกอบวิชาชีพ สองเทอม 35000 บาท ปี 2557 คุณเอาอะไรมาคิด เสียเงินเรียน 2 ครั้ง เงิน 35000 บาท ได้มาง่าย ๆสำหรับบ้างคน แต่สำหรับผมมันยากยิ่งนัก เงิน 8450 ไม่มีค่าครองชีพให้ +คาบนอกอีกนิดหน่อย ลูกก็มี รถก็ผ่อน ส่งเงินให้แม่ใช้ ผมไม่ใช้ลูกคนรวยครับ

สงสัยในการบริหารงาน

มีการประเมินให้เงิน15000คะ...แต่

สถานศึกษาละ1ตำแหน่ง ครูจ้างต้องส่งแฟ้มประเมินทุกคนไม่ยากส่งต้องส่งตามวันเวลา แต่มีส่งช้า...มืดละหมดเวลาแต่ยังส่งเพราะคำว่าต้องส่ง....เอาไปตรวจคนอื่นส่งช้า...ตรวจให้แต่เรา...ไม่ตรวจบอกส่งช้ามาแอบส่ง...คือไงเรียกว่า???

เลือกปฏิบัติ....นี้ไงเหตุผลง่ายๆๆ ที่ผู้บริหารปล่อยเลยตามเลย เพียงเพราะเป็นครูจ้างใช่ไหม

ใช้งานเรามากมาย เคยคิดไหมว่าทำตอนไหนอยากได้สั่งครูจ้างเอามาแต่เวลาใช้งาน เงินเดือนน้อยจากไม่มีหนี้อยู่มา6ปีหนี้มากขึ้นทุกวัน....จะหมดใจละนะอยากสอนให้เด็กๆๆแต่ก็หมดใจกับ

การบริหารงานของ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา อีกนานไหมจะมีการเปลี่ยนแปลงเด็กจะโง่หมดละ ครูเอาแต่ทำงานนอก งานเอกสารเอาแต่กระดาษ????


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท