ตรวจไม่พบสารพิษ...
ตรวจไม่พบสารพิษ...
ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่เกษตร...
* มีหน้าที่ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชให้ได้ผลผลิตต่อไร่มากที่สุด...(ไม่งั้นจะมีเจ้าหน้าที่เกษตรไว้ทำไม)
** จึงต้องแนะนำให้เกษตรกรป้องกันศัตรูพืชโดยทุกวิธีการ ทั้งทางชีวภาพและการใช้สารเคมี (ถ้าไม่อยากให้ใช้ก็ควรห้ามนำเข้าซิ..)
และในฐานะเจ้าหน้าที่เกษตร(ที่เป็นผู้บริโภคด้วย) จึงต้องระวังสารพิษตกค้างในผักผลไม้ให้มีน้อยที่สุด
+ +หลายครั้งที่เจ้าของแปลงถั่วปลูกถั่วไว้กินแยกจากแปลงที่ปลูกขาย เพราะปลูกขายเองแล้วไม่กล้ากิน เนื่องจากฉีดสารเคมีตอนเย็นแล้วเก็บตอนเช้า (ถ้าไม่ทำแบบนี้พ่อค้าก็ไม่ซื้อ...)
++ หลายครั้งที่พืชผักผลไม้ที่ส่งออก ถูกต่างประเทศส่งกลับ เพราะพบสารพิษในระดับอันตราย (ก็นำกลับมาขายให้คนไทยกินกัน เช่น พริกที่ตีกลับมาก็นำมาทำซอสพริก)
++ หลายครั้งที่ผลการสุ่มตรวจสารเคมีตกค้างในผักผลไม้พบสารพิษตกค้างเกือบ ๆ 100 % (พริกสดพบ 100 %)
แต่...ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลาย ๆ ปีทีมีข่าวออกมาว่า...
.......ตรวจไม่พบสารพิษ.......
++++เป็นผลการตรวจของกรมวิชาการเกษตร++++
++++ว่า.....ตรวจไม่พบสารพิษในสารกำจัดศัตรูพืชที่เกษตรกรซื้อมาใช้++++
เพราะฉะนั้น..ฉีดไปเท่าไหร่ก็ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อพืชและสัตว์ แม้กระทั้งคน...
----จึงเป็นการดีที่ผลผลิตที่ได้จะปลอดภัย..(ถ้าหากจะมีผลผลิตเกิดขึ้น)
อนิจจา...ภาษากฎหมายเรียกสารกำจัดศัตรูพืชแบบนี้ว่า.... “เป็นวัตถุอันตรายปลอม”
เฮ้อ...ตรวจพบสารพิษก็น่ากลัว...ตรวจไม่พบก็แย่..เล่นเอาไร่ส้มที่เชียงรายล่มกว่า 200 ไร่..(ที่หนองคายก็เจอบ้าง)
เฮ้อ..ปุ๋ยก็ปลอม...สารเคมีก็ปลอม...แพงก็แพง น้ำก็ท่วมอีก..
++++เฮ้อ....อีกที...++++
++**ฝากเตือนมายังพี่น้องเกษตรกร ให้จดจำยี่ห้อ ตราสัญลักษณ์สินค้า ตรวจสอบดูที่บรรจุภัณฑ์ว่ามีข้อความชัดเจนหรือไม่ เมื่อนำมาใช้ควรเหลือไว้สัก 2-3 กิโลกรัม หรือลิตร เพื่อการตรวจสอบในภายหลังได้..
**++ยิ่งไปกว่านั้น...กรุณาใช้สารเคมีตามอัตราส่วนด้วยความระมัดระวัง พร้อมทั้งเว้นระยะเวลาก่อนเก็บผลผลิตให้ปลอดภัยด้วย...เทอญ...สาธุ...