สุขภาพดี ไม่ดีอยู่ที่ตัวเรา

เมื่อไม่รู้ไม่กลัว แต่เมื่อรู้แล้วทำให้ยิ่งกลัว

   ต้นปี 2550 โรงเรียนใกล้สอบ เริ่มมีอาการจุกที่ท้อง อ่อนแรง บางเวลาตัวสั่นหนาวจับขั้วหัวใจ ในขณะนั้นก็ยังดื่มเหล้า ไม่วิตกกังวล ไม่กลัว ยังดื่มอยู่ จนมาถึงในช่วงโรงเรียนสอบปลายภาค และปลายปี รู้สึกเดินขึ้นตึกแล้วเหนื่อยล้า ขาหมดแรง ก็ยังไม่รู้สึกกลัวอะไร จนการทำคะแนนผ่านพ้นไป เริ่มมีอาการข้อเท้าบวม มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้ ในบางครั้งตัวสั่นเหมือนหนาวจับใจ ที่สำคัญมีจุดแดงๆขึ้นตามแน ขา และลำตัว ก็ไปโรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อตรวจเลือดมีความกังวลว่าจะเป็นไข้เลือดออก ผลตรวจก็ไม่ใช่ จนมีอาการกินไม่ได้ ตอนกลางคืนนอนไม่หลับเพราะปวดแขนด้านซ้ายไปจนถึงกรามและหู ก็เลยรีบดิ่งไปที่คลินิกให้หมอตรวจก็พบว่า เป็นโรงลิ้นหัวใจรั่ว คุรหมอแนะนำให้ไปโรงพยาบาลที่เราทำประกันสังคมเอาไว้ ทำไมเราไม่กลัวตอนที่เรายังไมรู้เพราะเราเชื่อว่าตนเองแข็งแรง เล่นกีฬาเป็นประจำ เป็นนักกีฬาตัวแทนสถาบันที่เรียนและที่ทำงาน เล่นฟุตบอลวิ่งไม่มีเหนื่อย วันครูเรายังเล่นฟุตบอลอยู่เลย พอได้รับการตรวจที่โรงพยาบาล ก็พบว่าไม่ได้เป็นแค่ลิ้นหัวใจรั่ว เอ็กซเรย์แล้วพบว่าหัวใจโต โรงพยาบาลที่ทำประกันสังคมส่งตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลเฉพาะทาง พบอีกว่าอาการที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นอาการของ"หัวใจติดเชื้อ" ต้องนอนให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดทุก 4 ชั่วโมง เป็นเวลา 4 สัปดาห์ เป็นอะไรที่ทรมารมาก รู้แล้วว่าเป็นอะไรวิตกกังวลมาก กลัวไปต่างๆนานา คิดถึงลูก สองคนจะอยู่อย่างไร ความกลัวว่าลูกจะอยู่ไม่ได้เพราะยังอายุน้อยทำให้ตัวเรามีกำลังใจที่จะสู้จากลูกจากภรรยา หมอแนะนำให้ผ่าตัด ถ้าไม่ผ่าตัด อาการเหนื่อยที่เราเริ่มรู้สึกว่ามันเหนื่อยทั้งที่อาการเริ่มแรกก็ไม่เป็นมากขนาดนี้ หัวใจที่โตก็เต้นเร็ว ความดันสูง ความกลัวเริ่มหายไปเราเริ่มสู้ ยอมให้ผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ เพื่อยืดชีวิตให้ยืนยาวมีเวลาดูแลลูกให้เขาเจริญเติบโตเป็นคนดีในอนาคต วันที่ 9เดือนตุลาคม 2550 ได้ทำการผ่าตัดเป็นที่เรีบบร้อย อาการหลังผ่าตัด มีอาการหลงลืม วูบวาบเป็นบางครั้ง ปวดหัว หูอื้อ แต่ในปัจจุบันอาการเหล่านี้เริ่มทุเลามากแล้ว นักเรียนที่เป็นศิษย์เก่าก็โทร. สอบถามอาการกันอย่าเป็นห่วงตอนนี้ใกล้ครบ 1 ปีของการผ่าตัดในช่วงที่ออกมาพักฟื้น มีคนมาให้กำลังใจมากมายเหมือนกับตอนก่อนผ่าตัด และตอนที่ให้ยาฆ่าเชื้อ กราบขอบพระคุณท่านผู้บริหารโรงเรียนท่านผู้อำนวยการชัยชาญ ปัญญาพวก ที่ท่านเป็นห่วง สอบถามอาการอยู่ตลอดเวลา แม้จะมาทำฝฃงานแล้วแต่ก็ยังไปตรวจเป็นระยะ มีปัญหาเรื่องความดัน การเป็นโรคหัวใจสิ่งสำคัญคือ อาหาร เราไม่รู้เราไม่กลัว เราไม่เป็นเราไม่กลัว อาหารที่น่ากลัวสำหรับโรคหัวใจคือ อาหารที่เป็นไขมันสัตว์ทุกชนิด แล้วตามด้วยอาหารที่มีรสเค็มจะมีอาการทั้งโรคหัวใจ ความดันและโรคไต เมื่อเราเริ่มรู้เรากลัวเราก็ต้องดูแลคัวเอง เอาทางสายกลางเป็นตัวกำหนดไม่ให้มากไป คือไม่เค็มไป มันไป ยิ่งเมื่อรู้ว่าเป็นอะไรเราก็จะมองผู้อื่นได้ดีขึ้น รู้เลยว่าคนเราถ้าเจ็บป่วยแล้วเสียชีวิตก่อนวัยอันควรก็มาจากคำว่าไม่กลัวเป็นสิ่งแรก เพราะมีเพื่อนอีกหลายคนยังมีความคิดในลักษณะนี้อยู่ เมื่อไรที่เขาพบประสบแบบเราเขาก็จะเริ่มคิดเหมือนเรา ก็จะเริ่มกลัว เริ่มมีความวิตกกังวล มันก็เป็นผลพวงจากตัวเราเอง การสูบบุหรี่ การดื่มเหล้า การอดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอเหล่านี้เป็นบ่อเกิดแห่งโรค บางคนไม่เคยไปตรวจร่างกายเลย พอมีอาการผิดปกติไปตรวจพบว่าเป็นโรคนั้นโรคนี้ ก็ทรุดทำใจไม่ได้ ท้อถอยก็เป็นเหตุให้เสียชีวิตอย่างปัจจุบัน  ใครที่ยังไม่เคยไปตรวจสุขภาพโดยเฉพาะ ใครที่อายุมากเกินกว่า 35 ปีสมควรอย่างยิ่งที่จะเข้ารับการตรวจร่างกายประจำปี ขอให้มีความสุข การไม่มีโรคเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุดอย่างยิ่ง ขอบคุณครับ