"...สมัยคุณธนะพงษ์ เป็น ผวจ.น่าน จำได้เคยมีเรื่องชาวน่านต่อต้านโครงการกก อิง น่าน โครงการนี้เป็นการต่อต้านด้วยสันติและใช้ปัญญา และในคราวนั้น ได้เคยไปรับฟังการรับฟังความคิดเห็นที่ กศน.น่าน มีทีมวิชาการมาอ้างว่า มารับฟังความคิดเห็น ผมเขาไปฟังราวใกล้เที่ยง ได้ฟังสตรีท่านหนึ่งเธอพูดอยู่นาน เลยกระซิบถามชาวบ้านที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ว่า เธอเป็นถึงด๊อกเตอร์มาจากส่วนกลางดูเหมือนเธอจะพูด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ อยู่ได้คนเดียว เลยอดทนไม่ได้ต้องยกมือขอเธอพูดแทรกว่า ตกลงมารับฟังความคิดเห็นหรือมาประชาสัมพันธ์ชี้นำโครงการฯ และขอให้บันทึกในหมายเหตุรับรู้ร่วมกัน ณ ที่แห่งนี้ด้วยว่า ท่านมาพูดอยู่คนเดียว โดยสัดส่วนเวลากว่าร้อยละ ๘๐ เป็นของท่านทั้งสิ้น.... "
โครงการนี้ดูจะสร้างความไม่มั่นคงในชีวิตชาวน่านเข้าอีกแล้ว ขณะที่ชาวน่านร่วมมือ ร่วมใจพยายามรักษาป่าไม้ธรรมชาติป่าต้นน้ำ ให้มีปริมาณน้ำในลำน้ำน่าน และลำน้ำสาขาให้มากกว่าที่ผ่านมา มีกิจกรรมทำกันมาอย่างต่อเนื่อง
หากท่านมองแบบไม่รู้จัก ไม่เข้าใจจะมองไปว่า ชาวน่านเป็นคนเห็นแก่ตัวต้องออกมาต่อต้านแล้งน้ำใจ ไม่ยอมให้ใช้พื้นที่ผันน้ำเพื่อคนปลายน้ำ ผมคิดว่า ผู้บริหารระดับสูงควรได้ตระหนัก การจะทำอะไรต่อไป หรือแม้กระทั่งให้ข่าว ควรได้คำนึงถึงสิ่งที่ได้ทำมา และให้รับรู้ความจริงกันด้วยว่า น้ำจำเป็นต่อการดำรงชีวิตก็จริง และวิถีชีวิตผู้คนข้างลำน้ำเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ก่อนอ่านข่าวสดวันนี้ โปรดเรียนรู้ได้จากเรื่องเดิมตามลิ๊งค์ครับ
http://www.localtalk2004.com/V2005/detail.php?file=1&code=d1_31082005_01
http://www.ryt9.com/news/1998-02-18/22041006/
http://www.thaingo.org/cgi-bin/content/content3/show.pl?0130
http://www.seub.ksc.net/Library/kt-270942-1.htm
http://203.155.16.66/idi/votepipe/first.html
ส่วนกลางให้ความรู้ ตัวเลขเด็ดๆอย่างที่ยกมานั้นเกิดขึ้นมาตลอด
ชาวบ้านเคยปลูกพืชเชิงเดี่ยวมายาวนาน จนป่าพังพินาศ เพราะใคร
ป่าไม้น่าน-แพร่ ที่ถูกตัดอย่างมโหฬารในอดีตที่ผ่านมา เพราะใคร
ประชาชนในพื้นที่ต้องมีความรู้ความเข้าใจด้วยกันจริงๆ
ควรให้ตระหนักรู้ที่จะประหยัด ซ่อมเสริมป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติให้มากๆ
สอนเด็ก-ผูใหญ่ให้รู้เวลาเปิดน้ำประปาว่ามันมาจากไหน และมันสามารถหมดไปได้ด้วย
มาเที่ยวเมืองน่านต่อ
ด้วยความยินดีกับพี่ประจักษ์ และข้อคิดความเห็นที่ดียิ่งจากคุณ Tafs