จดหมายรักประสานไมตรี ICT.


เกิดมาผมก็เพิ่งเคยเจอนี่แหละ

ที่มีหน่วยราชการ สั่งให้ผมเอาเงินตัวเองไปอบรมชาวบ้านอย่างนั้นอย่างนี้ !

สั่งให้ผม ทำสิ่งที่ถูกที่ควรก็ไปอย่าง

แต่นี่ มาสั่งให้ผมควักเงินส่วนตัว ไปทำเรื่องมักง่ายและค่อนไปทางโง่!!

เงินผมไม่ได้หาง่ายๆ นะครับ

เงินเดือนผมก็ไม่มี

งบประมาณก็ไม่มีใครส่งมาให้ผลาญเล่น

แม่ยายก็ไม่มีมรดกให้

เงินผมไม่ได้มีไว้เพื่อทำเรื่องดัดจริต

ถามว่าผมทำอะไร

ทำเรื่องการจัดการความรู้ ครับ

ดำเนินการกับโครงการนี้อย่างไร?

ประสานงานบริษัทปูนซิเมนต์ไทยที่ส่งพนักงานมาอบรม สร้างอาคารรองรับโครงการนี้ ราคา1,000,000 บาท ปัจจุบันค่าน้ำ ค่าไฟ ผมควักสมทบอยู่แล้ว  การปรับปรุงระบบไฟฟ้า30,000 บาทก็ควักไปแล้ว การที่ทะลึ่งมาสั่งให้ผมอบรมบ้าๆบอๆ ควรตรวจสอบสติกันหน่อย

ถ้าเป็นเรื่องการจัดการสิ่งที่โง่ทั้งปีทั้งชาติ ผมพยายามเลี่ยง ครับ!

ถามหน่อย

มีเจ้าที่กระทรวงไอซีทีซักกี่คน ที่ควักเงินตัวเองมาอบรมชาวบ้าน เหมือนที่สั่งให้ชาวบ้านทำอยู่เดี๋ยวนี้!!

เรื่องนี้โต้กันไปก็เท่านั้น  มันต้องพิสูจน์ นัดมาเลย จะเกณฑ์ชาวบ้านมาให้อบรม เอาวันละ20คน ใช่ไหม? แล้วกระทรวงICTเอาอาจารย์มหาวิทยาลัยที่รับจ๊อบอบรมคอมพิวเตอร์ในโครงการมาสอนให้เราดู ดีหรือไม่ดี จะให้คนกลางชาวBlogger และสื่อมวลชน มาเป็นประจักษ์พยาน เราถึงจะประเมินได้ว่า วิธีที่กระทรวงฯเสนอให้ศูนย์ฯควักเงินตัวเองอบรมชาวบ้าน100คน ภายใต้วิทยากรของกระทรวงฯจัดหาให้นั้นเป็นฉันใด

ใครกันแน่ที่ไม่มีเหตุผล

มหาชีวาลัยอีสานตั้งอยู่ในป่า ห่างไกลเสาโทรคมนาคม แม้แต่ระบบโทรศัพท์สัญญาณอ่อนมาก โทรได้บ้างไม่ได้บ้าง (ไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกันหรือเปล่ากับระบบสัญญาณอินเตอร์เน็ท) ที่นี่ฝนตก ลมพัดแรง การไฟฟ้าฯติดตั้งตัดสัญญาณอัตโนมัติ เพียงฝนตกลมกระโชกหรือหมาเห่าดังไฟฟ้าก็ดับแล้ว โครงการฯนี้ไม่มีเครื่องสำรองไฟให้ การใช้คอมพิวเตอร์ของICT จึงประสบเหตุข้อมูลหายอยู่เนืองๆ

เรื่องสุสานไอซีที มีผู้รู้ ผู้ชำนาญการ ผู้สนใจ ผู้สันทัดกรณี ลิ่วล้อ มาแนะนำให้ความเห็นในฐานะคนกลาง ล้วนเป็นแง่มุมที่ดีควรค่าแก่การศึกษาพิจารณา ผมเชื่อว่าโครงการไอซีทีชุมชนเป็นเรื่องที่ดี แต่กลไกการทำงานของแต่ละศูนย์มีข้อปลีกย่อยเฉพาะตัว ถ้าปล่อยให้เราดำเนินการเอง พิจารณาเลือกความเหมาะสมว่าจะใช้ประโยชน์จากเครื่องมือที่ได้รับนี้อย่างไร? จะไม่ดีกว่ารึครับ!

ที่ผ่านมา เราได้อบรมครู อาจารย์ นักศึกษา โดยBlogในเครือข่ายที่ชำนาญ ก็เห็นว่ามันไม่ง่ายเลย เราใช้เครื่องของICT.เป็นเครื่องมือในการสอนวิธีใช้อินเตอร์เน็ท ถ้าเปิดเครื่องพร้อมกัน จะใช้ได้3เครื่อง เครื่องอื่นก็ทำงาน แต่คนใช้นั่งใบ้กินรอๆๆ..

การมาตรวจว่าใช้ได้แล้ว20เครื่อง แต่ยังไม่ได้พิสูจน์ว่าถ้าใช้พร้อมกันสัก10เครื่องมันจะอืดเหมือนเดิมรึเปล่า สิ่งนี้ต้องพิสูจน์ ทราบว่าฝ่ายตรวจรับงาน จะมาดูวันที่28 บังเอิญว่าผมมีประชุมสภามหาวิทยาลัยช่วงเช้า ช่วงบ่าย จ..100 เชิญไปเป็นวิทยากรที่สวนลุมพินี จึงขออนุญาตเลื่อนนัดออกไปเป็นวันที่6-7เมษายน จะดีไหมครับ?

ผมยินดีมาก ที่เจ้าหน้าที่ICT. ลงมาดูข้อเท็จจริง ดีกว่าเอาแต่ชกลมอยู่ในห้องแอร์ ถ้าแก้ไขได้ดีเราก็ขอคาวระ แต่ถ้ามันยังไม่ดีอย่างที่คุยจะได้แก้ไขปัญหากันตรงๆ เรื่องการกล่าวอ้าง ว่าระบบที่นำมาใช้ในศูนย์ไอซีทีชุมชนนั้น ดีที่สุดกว่าทุกระบบหรือระบบอื่นๆ มันอาจจะเป็นได้ เพราะเรื่องสัญญาณมีรายละเอียดปลีกย่อย ด้านความแรงของสัญญาณ ธรรมชาติของภูมิศาสตร์ ร่วมทั้งเทคนิควิธี

(กรณีเรื่องระบบสัญญาณ มีตัวอย่างไปดูได้ในโรงเรียนชนบท ผู้บริหารฯต้องหาเงินไปซื้อบริการสัญญาณจากบริษัทเอกชน ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าระบบและอุปกรณ์ที่รัฐฯจัดหาให้ เท่าที่สังเกต ภาคธุรกิจเอกชนใช้ของไอพีสตาร์ ไปไหนผมสังเกต ที่สนามบินบุรีรัมย์ก็ใช้ไอพีสตาร์ ถามว่าทำไมถึงใช้ยี่ห้อนี้ เขาบอกว่าเจ้านี่แหละดีที่สุด จึงไม่รู้ว่าของICT.ดีกว่าจริงหรือขี้โม้!)

มหาชีวาลัยอีสานใช้บริการของICTและไอพีสตาร์ เห็นข้อเท็จจริงว่าของใครคล่องตัวดี ไม่ต้องรอนาน ไม่ล่มบ่อย เปรียบเทียบอย่างตรงไปตรงมา เพราะไม่มีเหตุผลที่จะไปกุข่าวหาเรื่องใคร? จะมาทึกทักเพียงว่าใช้ได้ทุกเครื่องคงไม่พอหรอก ควรพิจารณาว่ามีประสิทธิเทียบเท่า หรืออย่างน้อยก็ไม่แพ้ระบบอื่นที่นิยมใช้ทั่วไป

มันถึงจะสมอ้างที่ว่า ระบบสัญญาณที่ICTคัดสรรให้มาดีที่สุด

เมื่อวานนี้บริษัทโพเวลอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์จำกัด โทร:(662)641-4589 ซึ่งรับผิดชอบจัดหาอุปกรณ์ต่างๆมาติดตั้งในโครงการ ทราบปัญหาแล้วลงมาดูแลแก้ไข กรณีนี้ต้องขอบขอบคุณ2หนุ่มจากบริษัทฯ มาจัดการระบบสัญญาณให้ใหม่ ทราบว่าใช้อินเตอร์เน็ทได้ทุกเครื่องแล้ว ตะกี้นี้ก็ส่งอุปกรณ์มา 1 ห่อใหญ่ แกะดู อ๋อ เป็นป้ายที่ทำให้ถูกต้อง ชื่อโครงการICT.เมื่อก่อนเขียนเป็น ITC. ชื่นใจครับ ที่ยังเอาใจใส่ทำให้ถูกต้อง

เป็นธรรมชาติของหน่วยราชการประเทศไทย ถ้าใครไปแตะต้องไข่จงอาง จะหาทางแก้ตัวสู้หัวชนฝา เพื่อรักษาหน้าตนเองอย่างถึงที่สุด วัฒนธรรมราชการยอมรับข้อผิดพลาดไม่ได้ อะไรที่เป็นราชการต้องถูกหมด ดีหมด ระบบมันจึงซักกะตายอย่างที่เป็นอยู่ เรื่องนี้ก็เป็นที่เข้าใจได้ เพราะมีบทเรียนตัวอย่าง..เทกระจาดวัวพลาสติกจนหน้าแหกไปทั้งโลกมาแล้ว

เรื่องนี้เพิ่งยกที่2

อาจจะมีอีกหลายยก

เชิญท่านผู้รู้ติดตามและทยอยให้คำแนะนำ ด้วยความระทดระทวยใจ!! อิ อิ

คำสำคัญ (Tags): #เฮฮาศาสตร์ 4
หมายเลขบันทึก: 170550เขียนเมื่อ 12 มีนาคม 2008 17:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2012 19:58 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)
  • นิมนต์พระมาอบรมรอบละ 20 รูป ดีไหมครับ Hi5 กำลังฮิต  อิอิ
  • ไม่เปลืองข้าวดี ให้ลูกศิษย์หิ้วปิ่นโตมาเอง

สวัสดีเจ้าค่ะ พ่อครูบา

         เป็นกำลังใจให้พ่อครูสู้ต่อไปเจ้าค่ะ คิคิ เห็นด้วยกับพ่อนึกเจ้าค่ะ  อบรมพระเฉพาะตอนเย็นก็ได้ เพราะพระไม่ฉันข้าวเย็น คิคิ

       เป็นกำลังใจให้และรักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ ------>น้องจิ ^_^

P

 P
  • เรื่องนี้ไม่ใช่การต่อสู้อะไร?
  • เขาถามหาเหตุผล
  • เราก็ให้เหตุผลไป
  • ส่วนจะเกิดผลประการใด ขึ้นอยู่กับสภาพจริยธรรม ของมนุษย์

ไม่ทราบว่าท่านได้อ่านกฎ กติกา การเสนอตัวขอรับการสนับสนุนจาก ICT ก่อนหรือเปล่า ถ้ายังไม่เคยอ่าน ตามลิ้งค์ไปเลยจ้า 

 

http://www.ccdkm.org/CCDKM/documents_thai/20071217/ICT_Telecenter_12_2007.pdf 

 

ศูนย์ของท่านน่าจะเป็นปี 50 แต่ตามลิ้งค์เป็นของปี 51 แต่วัตถุประสงค์ และกฎกติกา มายาท ยังน่าจะเหมือนเดิม

 

เลยให้ย้อนกลับไปคิดว่า เอกสารเหล่านี้ท่านได้อ่าน และเข้าใจเงื่อนไขต่างๆ เหล่านี้ ก่อนยื่นเอกสารขอรับการสนับสนุนบ้างหรือเปล่า 

 

ถึงได้โกรธกระทรวงไอซีที หัวฟัดหัวเวี่ยง มา 2 กระทู้แล้ว

ด้วยความเคารพ

 

4. ไม่บอก
เมื่อ พ. 12 มี.ค. 2551 @ 18:35
573235 [ลบ]
  • ไหนๆจะอาสา ทำหน้าที่เปิดเผยความจริง ช่วยเปิดเผยตัวหน่อย  พวกอีแอบ ทั้งหลาย
  • ผมขอเรียนว่า  รายการ เงื่อนไขทั้งหมด
  • ผมรู้จากภายหลังที่ได้รับเครื่องและอุปกรณ์แล้ว

พ่อขา ขนาดชื่อ -สกุล เขายังไม่กล้าเปิดเผย แล้วจะรับผิดชอบอะไรใหญ่ ๆ ได้หละคะพ่อ

ข้าราชการไทย ชาวบ้านคือพระเจ้า ทุกอย่างที่ทำต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของชาวบ้าน ผิดก้อยอมรับว่าผิด และรีบหาทางแก้ไข ส่วนปัญหาจะเริ่มต้นที่ใคร นั่นเอาไว้หาเหตุผลทีหลัง

จริงไหมค่ะ

  • อยากให้คุณไม่บอก
  • บอกชื่อมา
  • เราจะได้ตามไปพบครับ
  • ขอบคุณครับ
  • ใครพอจะบอกได้บ้างว่า
  • 20 ศูนย์ที่นี่
  • ทำไมเหลือ 17 ศูนย์
  • ที่นี่
  • คนที่นี่เลยมาตอบใน
  • gotoknow
  • อยากได้ ความเห็นอีกๆๆ
  • ใครพอจะตอบอันนี้ได้บ้างครับ
  • P
    33. Little Jazz \(^o^)/
    เมื่อ พ. 12 มี.ค. 2551 @ 12:24
    572826 [ลบ]

    ขอวิเคราะห์จากมุมมองคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายใดนะคะ

    1. ครูบาฯ ได้รับการทวงถามและขอทราบปัญหาในการไม่จัดอบรมตามขอบเขตดำเนินงานที่ทาง ICT
    ปัญหา: เนื่องจากเครื่องที่ได้รับมาไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะเข้าอินเตอร์เน็ตเพียงไม่กี่เครื่องระบบก็อืด ก็เลยทำไม่ได้ แจ้งไปแล้วที่กระทรวงแต่เงียบหาย ได้รับการบอกให้ไปติดต่อบริษัทผู้รับเหมา
    ทางแก้: เช็คระบบอินเตอร์เน็ต เช็คฮาร์ดแวร์ ส่วนนี้เป็นหน้าที่ของฝ่ายใดก็ควรมาจัดการรับผิดชอบก็ทำเสีย ทุกอย่างจะได้ดำเนินการต่อไปได้ ถ้าบริษัทติดตั้งอุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน กระทรวงผู้เป็นต้นสัญญาจ้างก็ควรเป็นผู้ออกหน้า ไม่ใช่ให้ปลายทางเป็นผู้ไปติดต่อหาทางแก้เอง เพราะไม่มีอำนาจในการจัดการ


    2. ครูบาฯ บอกว่าสเป็คเครื่องต่ำ ระบบจานดาวเทียมเป็นรุ่นเก่า หรือคุณภาพไม่ดี ทาง ICT บอกว่าดีเกินมาตรฐานราคากลาง
    ปัญหา: เป็นเรื่องจริงตามคำกล่าวอ้างหรือไม่ ฝ่ายใดเกิดการเข้าใจผิด
    ทางแก้:
    - ICT ชี้แจงสเป็คเครื่อง พร้อมราคาที่บริษัทผู้รับเหมาเสนอมาให้ทางกระทรวงเพื่อความโปร่งใส บริสุทธิ์ใจ ซึ่งควรทำเพราะเงินนั้นมาจากภาษีประชาชน ไม่ใช่ออกจากกระเป๋าเจ้าหน้าที่กระทรวงคนใด ประชาชนมีสิทธิ์ตรวจสอบได้
    - ครูบาฯ ตรวจสอบสเป็คเครื่องตามที่ ICT ชี้แจง หากตรงก็ต้องหาทางแก้ไขวิธีอื่นจนกว่าจะใช้ได้เนื่องจากไม่เกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ หากไม่ตรงก็ต้องแจ้ง ICT ว่าผู้รับเหมาส่งสินค้าต่างจากมาตรฐานที่ระบุไว้ หรือสุดท้ายหากตรงแต่ราคาไม่สมเหตุสมผลตามราคากลางของตลาดทาง ICT ก็ควรชี้แจงว่าเป็นเพราะสาเหตุใดจึงเลือกเงื่อนไขนี้ และผู้รับเหมารายนี้

    3. ทางกระทรวงโดยคุณพุทธชาติ ชี้แจงว่าทาง ICT ไม่ได้รับการติดต่อ และพร้อมจะย้ายเครื่องหากไม่ต้องการ
    ปัญหา: การสื่อสารขัดข้อง ฝ่ายทางครูบาฯ บอกแจ้ง ทางกระทรวงบอกไม่มีใครแจ้ง ครูบาฯ ใช้เครื่องไม่ได้ตามเป้าประสงค์ ทำงานไม่ได้ กระทรวงทวงถามว่าทำไมไม่ทำงาน พอทราบว่ามีปัญหา กระทรวงบอกว่าที่อื่นเขาปกติ ยกเครื่องกลับมั้ยถ้าบอกว่าใช้ไม่ได้ ครูบาฯ ใช้ไม่ได้ก็ไม่รู้จะตั้งไว้ทำไม
    ทางแก้: ไม่ต้องสนใจแล้วว่าใครแจ้ง ใครไม่ได้รับแจ้ง ตอนนี้ทราบแล้วว่ามีปัญหา ใช้ไม่ได้จริง การยกเครื่องกลับไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา เพราะถ้าปัญหาไม่ได้ถูกแก้ที่ต้นเหตุจริงๆ ยกไปที่อื่นก็อาจเกิดเหตุการณ์เช่นเดิม แล้วที่นี่จะทำยังไง คิดจะย้ายก็ย้าย คิดจะตั้งก็ตั้ง ควรดูประชาชนเป็นศูนย์กลาง ศูนย์นี้เจตนาตั้งขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้รับความรู้ แต่ถ้าใช้ไม่ได้ก็ไม่ควรมาหาข้อถกเถียงกันว่า ของดี ของไม่ดี ใครผิด ใครถูก ควรร่วมกันดำเนินการแก้ไขด้วยกันทั้งสองฝ่าย การใช้บล็อกเป็นเครื่องมือในการตอบไปมาไม่แก้ปัญหา โทรศัพท์มี ลดฑิฐิโทรหากันได้ ใครโทรก่อนไม่ได้หมายความว่าคนนั้นผิด แต่เป็นผู้ที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าเรื่องส่วนตัว

  • ไปดูมาแล้วเจอเจ้าหมอนี่นะครับ

ไม่มี File นี้ให้ Download กรุณา ตรวจสอบ Link ใหม่อีกครั้ง

พอเข้าปลายหนาวต้นร้อน พายุใหญ่ก็มาพอดี

หลายท่านและผมเองมีข้อสรุปมานานแล้วว่า ระบบราชการไม่ทันสมัยเสียแล้วสำหรับการพัฒนาบ้านเมือง ที่เอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ยิ่งคนบางคนในระบบที่...ยิ่งทำร้ายประเทศชาติเสียจริงๆ

เวรกรรม.. ป้ายชื่อเบ่อเร่อเบ่อร่า ยังผิด ระวังคนจะเปลี่ยนชื่อ ICT เป็นอย่างอื่นไปนะ เอ้า ซิบอกเจ้า..โดยเฉพาะ ตัว I นี่น่ะ  ไม่เชื่อลองถาม ดร.ขจิตดูซิ ..อิ.อิ..

มีหลายเรื่องที่ผมไม่แปลกใจเลยครับ

น่าสน และน่าแปลกใจ โครงการที่รัฐใช้วิธีประเมินนับหัวแบบนี้ระบาดไปทั่ว  โครงการอ่านแล้วไม่น่าเชื่อว่าออกมาจากกระทรวงนี้  ลองเอาไปอ่านทบทวนทั้งกระทรวงดูจะรู้ว่า  มนุษย์นินจาที่ตอบมาจะทำได้ใหม  อย่าอ้างข้างๆคูๆ  พวกมองแต่วัตถุ  ไม่รู้จิตใจคน

จะเป็นคนกลางเปิดเวทีเอาสื่อมวลชนมาด้วยดีใหม  ใครต้องการบอกมาจะจัดให้

P

ครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ

 

  • เข้ามาเป็นกำลังใจ

แต่... ถ้าใครพาดพิงพระคุณเจ้าเกินขอบเขต ระวังอาจโดนสวน.....

เจริญพร

ความรับผิดชอบคืออะไร

คนที่รับผิดชอบอยู่ตรงไหน

คนที่กินเงินเดือนภาษีประชาชนทำได้แค่นี้  รับชอบอย่างเดียว ปัญหาอยู่ตรงไหน ก็ไม่สนใจ   ปัดว่า     "ไม่ทราบว่าท่านได้อ่านกฎ กติกา การเสนอตัวขอรับการสนับสนุนจาก ICT ก่อนหรือเปล่า" 

ทำให้เข้าใจว่าคนใน ICT  เป็นมนุษย์ไขลาน  จุดประสงค์และเป้าหมายโครงการเป็นอย่างไร ไม่รู้ ไม่ทราบ ไม่เข้าใจ

การแก้ปัญหา   ใช้ไม่ได้   ทำความเข้าใจกับปัญหาไม่ได้ จุดเกิดเหตุไม่เข้าไปสำรวจ แต่มาปัดความรับผิดชอบให้พ้นๆ  ไม่ทำความเข้าใจกับผู้ใช้สอย แล้วยังออกมาโต้ตอบในวงนอก

ฐานะพวกคุณคืออะไร  บทบาทมากน้อยแค่ไหน กำลังผลักดันอะไร   จุดประสงค์เช่นไร 

ถ้าทำได้แค่ไปวันๆ  แก้ปัญหาไม่ได้  รับผิดชอบไม่เป็น   เงียบๆเถิดครับ  

หรือว่ามีปัญหากับผลประโยชน์บางอย่างก็บอกมา  พูดมาตรงๆ

ท่านครูบาคะ

  • มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ
  • ดูที่อาจารย์ขจิตลิงค์ให้ ...ดูเหมือนว่า การจัดอบรมโดยนับหัวและมีวิทยากรมาให้แล้ว เป็นที่หลายๆ ศูนย์
  • อ่านบันทึกก่อนของครูบา ...ถ้าเกณฑ์ 100 คนมาอบรม เพื่อให้สัมผัสคอมพิวเตอร์ได้เล่นอินเตอร์เนทเป็น..
  • มันจะไปเป็นข้อชี้วัดเหมือนสมัยก่อนที่ให้จัดศูนย์อ่านหนังสือหมู่บ้านแล้ว บอกว่า"การอ่านออกเขียนได้ของคนไทย 95%" ...แต่พอสำรวจอีกทีคนไทยอ่านหนังสือไม่เกิน 1 หน้า ต่อวัน
  • เหล้าเดียวกันแต่คนละไห??

 

 

พ่อขา 

ขอมาแจ้งข้อมูลจาก  สุสาน ICT. ที่หนิงได้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น ว่า ...เครื่องของลูกๆ DSS ที่นี่ spec สูงกว่านั้น

หนิงขออนุญาตเปิดเผยข้อมูลราชการ   ดังนี้นะคะ  ได้โปรดอย่ามองว่าเราไม่ตามรอยเศรฐกิจพอเพียงนะคะ  เพราะการใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเตอร์ของคนที่มองไม่เห็นจะต้อง ใช้งานโปรแกรมช่วยพร้อมๆกันหลายตัว  จึงต้อง spec สูงนิดๆ  แต่เราพยายามจัดหาในราคาถูกนะคะ 

เครื่องที่ 1-2  ปลายปี 2548 ได้รับสนับสนุนเครื่องเก่าจากห้องบริการคอมพิวเตอร์ค่ะ

ถ้าจำไม่ผิด Celeron /Ram 128 mb/ HDD 20Gb/ on board  จอธรรมดา 14 นิ้วค่ะ ตอนนี้ตั้งโชว์ไว้  เพราะบูธไม่ขึ้นแล้วแต่ไม่ทิ้งนะคะ  ตั้งใจเก็บไว้เป็นของรักของหวง  เครื่องประเดิม  สมัยริเริ่มไงคะ

เครื่องที่  3-4  (จำนวน 2 เครื่อง)

                ได้รับการสนับสนุนจาก บ.lifeaborad group.จำกัด  เมื่อ มีนาคม 2549  เท่าที่คุยกันทราบว่าราคา  ประมาณ 23,000 บาท /เครื่อง  จอแบน 15 นิ้ว

 

Main Board

Celeron 2.53 GHz

Ram

512 mb

Harddisk

80 GB

Display

Realtek AC97 Audio

Sound

On Board

                                         

เครื่องที่  5-6 (จำนวน 2 เครื่อง)

                งบอุดหนุนการจัดตั้งศูนย์บริการนิสิตพิการ  จาก สกอ.ปี 2549   หนิงจัดซื้อที่ราคา 22,000 บาท/ เครื่อง  จอ LCD 15 นิ้วมีลำโพง

 

Main Board

Pentium 4   2.8 GHz

Ram

512 mb

Harddisk

80 GB

Display

ATI  Radeon  x300/x550/x1050

Sound

On Board

เครื่องที่ 7 – 10 (จำนวน 4 เครื่อง)

ได้รับการสนับสนุนจาก บ.คลองหลวงเมืองใหม่  กันยายน 2550  หนิงไปร่วมซื้อและรับของที่เซียร์ รังสิต กทม.  จอ LCD 15นิ้ว ไม่มีลำโพง  เห็นราคา รวม 100,400 บาท  รวม Handydrive  1Gb อีก 2 ตัวค่ะค่ะ

 

Main Board

Pentium D 2.66 GHz

Ram

1 GB

Harddisk

80 GB

Display

ATI  Rade on 9550/X1050

Sound

SB Live Audio (E400)

 

เครื่องที่  11-12   (จำนวน 2 เครื่อง)

งบอุดหนุนการพัฒนาการศึกษาผู้พิการ จาก มหาวิทยาลัยมหาสารคาม  ปี 2550  กองกิจการนิสิตจัดซื้อ สิงหาคม 2550 ราคา 25,000 บาท /เครื่อง  จอ LCD 17 นิ้วมีลำโพง

               

Main Board

Dual Core 1.86 GHz

Ram

1 GB

Harddisk

160 GB

Display

ATI  Rade on 9550/X1050

Sound

Sound Blaster 5.1

เครื่องที่ 13-14 (จำนวน 2 เครื่อง)

เป็นเครื่องติดตั้งประจำห้องบันทึกหนังสือเสียง  งบสนับสนุนการจัดการศึกษาผู้พิการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม  ปี 2550 ค่ะ  กองกิจการนิสิตจัดซื้อให้ค่ะ  ราคารวมๆกับห้องบันทึกเสียง 2 ห้องแฝดติดกัน  อยู่ที่  2 แสนอ่ะค่ะ  เข้าใจว่าราคาคอมพิวเตอร์อยู่ที่ประมาณเครื่องละ 18,900 บาท  อันนี้ก็จอ LCD 17 นิ้ว ไม่มีลำโพงค่ะ

 

Main Board

Pentium 4 3.00 GHz

Ram

512 MB

Harddisk

250 GB

Display

On Board

Sound

Creative รุ่น Audigy Value

 

สรุปใน  14  เครื่องใช้งานได้จริง  12  เครื่อง

ให้บริการเด็กๆ  7  เครื่อง  เจ้าหน้าที่  3  เครื่อง  แต่กรณีเด็กมาเยอะ  เราให้เด็กได้ใช้หมดค่ะ

อิอิ  เจ้าหน้าที่แอบหาข้ออ้างอู้งาน 

ส่วนเครื่องในห้องบันทึกเสียงไม่ได้ต่ออินเตอร์เน็ท  ไม่ค่อยมีใครชอบใช้  อิอิ   ตั้งใจเอาไว้เพื่องานบันทึกเสียงจริงๆค่ะ

ต้องขอขอบพระคุณกัลยาณมิตรทุกๆฝ่าย 

ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ  คือสำนักคอมพิวเตอร์ มมส.  สกอ.(สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา  และมหาวิทยาลัยมหาสารคามโดยกองกิจการนิสิต  

หรือภาคเอกชน (เพื่อนหนิง)  ทั้ง บ.lifeaboradgroup.จำกัด และ บ.คลองหลวงเมืองใหม่    ด้วยนะคะ  ที่ทำให้เรามีวันนี้  วันที่เด็กๆมีความสุขกับการเรียนรู้  เข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ จริงๆค่ะ 

ขอบพระคุณค่ะ

เคลียร์ spec แล้วนะคะพี่น้อง....

อ๊ายยยยยยยยยยย  อายๆ  อายจัง

ไม่ใช้ Mainboard นะคะ  แหะ ๆ  CPU ต่างหาก  เรียกผิด ๆ 

อายจัง

ขออภัยให้ พยาบาลผู้มาทำงานกับคนพิการเถอะนะคะ  ไม่เคยเรียน ICT อ่ะ

พลาดอย่างแรง 

พุทธชาติ ศิริบุตร

ไม่ทราบว่าคนชื่อไม่บอกเป็นใครนะคะ แต่คิดว่าคงไม่ใช้คนกระทรวง ถ้าจะถามหาความรับผิดชอบ ก็ขอรับเองค่ะ เป็นคนกระทรวงและเป็นคนปั้นโครงการนี้มากับมือ บอกตรงๆ ว่ารักมาก


อาจจะเป็นความผิดพลาดของตัวเองที่ไม่สามารถทำให้คนระดับปราชญ์

เข้าใจวัตถุประสงค์ของโครงการได้ค่ะ ทั้งๆ ที่ลงไปพบท่านถึง 2 ครั้งช่วงก่อนตั้งโครงการ มันน่าจะเป็นความหย่อนประสิทธิภาพด้านการสื่อสารของหนูเองมังคะ

ไม่อยากจะเขียนมาก เขียนมาก็หาว่าแก้่ตัว ไม่เขียนก็หาว่าไม่รับผิดชอบ

และก็เรียกว่าแบไม่เคยนั้งห้องแอร์แก้ปัญหาเลยค่ะ ครูจะรู้ไหมว่าระหว่างที่กระทรวงให้ครูดำเนินการศูนย์ที่ครูทำเรื่องขอเข้ามาถึงสองครั้ง
หนูต้องออกไปตามหาผู้ต้องการโอกาสที่จะพัฒนาชุมชนร่วมกันถึง 70 กว่าแห่งทั่วประเทศ ไม่เคยได้นั่งทำงานในห้องแอร์เลย....

ถ้าจะโทษอีก ก็โทษได้เลยค่ะว่าปล่อยให้ท่านแก้ปัญหาเอง เนื่องจากมัวแต่ไปตะลอนๆ ตามต่างจังหวัด แต่หากท่านแจ้งปัญหาหนูสักนิด หนูจะรีบหาทางแก้ปัญหาให้ ด้วยปัญญาที่มีอยู่น้อยนิด แต่หนูไม่เคยนิ่งเฉย

ตอนนนี้ทีมงานอยู่ในระหว่างลงสำรวจเพื่อประเมินผลการดำเนินงานของแต่ละศูนย์
ซึ่งก็ต้องบอกกันตรงๆ เลยว่า ไม่ใช่ทุกศูนย์ที่จะสามารถดำเนินการอย่างราบรื่น แต่ศูนย์อื่นๆ ก็มาแจ้งสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วเราก็แก้ไขกันเป็นเรื่องๆ ไป ในช่วงแห่งการเรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งศูนย์ของท่านเราจะไปวันที่ 28 มีนาคม แต่ก็มาทราบวันนี้มาท่านไม่สะดวก แต่ด้วยความเคารพที่มี เราขอยืนยันการลงพื้นที่ไปพบท่าน ในวันที่ท่านสะดวกค่ะ

แล้วเรื่องที่ท่านบอกว่าให้เอาเงินท่านไปอบรมคนในพื้่นที่ หนูไม่ทราบว่าใครแจ้งท่านอย่างนั้น เพราะทุกๆ ที่ กระทรวงจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายท้้งหมด เพียงขอความกรุณาหาคนมาอบรมให้เราเท่านั้น จริงอยู่มันอาจเป็นแค่การอบรมวันเดียว แต่เราไม่ได้หวังว่าชาวบ้านที่ท่านเรียก "ตาสีตาสา" จะมานั่งเขียน blog ได้หรอกค่ะ เราแค่หวังว่าให้เค้าได้รับโอกาสในการสัมผัสเครื่องมือที่มาจากภาษีประชาชน และเห็นว่ามันทำอะไรได้บ้าง โดยหวังอีกเล็กๆ ว่า วันหลังเมื่อเค้าว่างจากงาน เค้าอาจจะอยากกลับมาเพื่อสืบดูราคาพืชผล หรือใช้เป็นช่องทางในการสร้างอาชีพ เราไม่เคยหวังไกลว่าชาวไร่ชาวนาเหล่านั้นจะสามารถมานั้งเขียน blog ได้เหมือนพนักงานปูน แต่หากทำได้ นั่นคือผลงานที่เยี่ยมยอดของท่านเอง--ไม่ใช่ผลงานของกระทรวงเลย เพราะเราเป็นคนที่ยื่นเครื่องมือให้เท่าันั้น ไม่ใช้่ผู้ลงมือปฏิบัติอย่างเจ้าหน้าที่ดูแลศูนย์ทั้ง 20 แห่ง

 

เรื่อง Spec ที่ใครๆ คิดว่าห่วย นั้น เราขอแจ้งว่า ณ ปี 2550 นั้น เราตั้งงบประมาณไว้ที่เครื่องละ 20000 บาท โดยเราสามารถจัดหา
เครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย ที่มี CPU เป็น Pentium 4 Ram 512 MB Harddisk 80 GB พร้อมอุปกรณ์ Multimedia และที่สำคัญ เราไ่ด้ให้สิ่งที่ดีมากๆ สำหรับการใช้งานในลักษณะอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ คือเมนบอร์ดที่ง่ายต่อการบริหารจัดการ หากทำเป็น -- ราคาก็สูงกว่าเมนบอร์ดที่ใช้ตามบ้าน แต่ปีนี้ที่เราจะจัดหาเราสามารถอัพได้ถึง Core 2 Duo และเพิ่ม Anti Virus 3 ให้ด้วย

ส่วนเรื่องอินเทอร์เน็ตนั้น เราก็ได้จัดหาระบบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับชุมชน โดยที่มหาชีวาลัยซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องระยะทาง ระบบเดียวที่ท่านจะใช้่ได้ คือ IPSTAR ซึ่งก็คือระบบที่ท่านใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ เพราะระบบ ICT ที่ท่านว่านั้นมันไม่มีค่ะ เราไม่ใช่ผู้ให้บริการ เพราะเราใช้บริการของ TOT เหมือนกัน

และขอสำหรับคนที่ดูถูกคนไทยด้วยกันที่เค้าเป็นเกษตรกรว่าเค้าไม่อ่านหนังาสือ
หรือจะไม่มาเล่นเน็ตนั้น ขอเรียนมามันเป็นเรื่องจริง แต่หน้าที่ของกระทรวงคือเราต้องลงมือเข้าไปลดช่องว่างนั้น เข้าไปเติมสิ่งที่หายไปของสังคม ชาวนาที่เป็นผู้ีพระคุณของเรา เค้าจะต้องไม่ถูกเอาเปรียบ เค้าต้องมีโอกาสรู้ข้อมูล อย่างน้อยก็ราคาข้าวเปลือกที่เป็นจริง หรือโรงสีในระแวกบ้านของเค้า เค้าจะไม่โดนกดขี่โดยเ้จ้าของโรงสี--นี่คือความฝันของโครงการ ถึงมันอาจจะดูลมๆ แล้งๆ ในสายตาผู้มีการศึกษา แต่เราขอโอกาสพิสูจน์บ้าง ว่า ชาวนาไทยไม่น้อยหน้าชาวนาอินเดียเหมือนกัน

ทุกสิ่งเป็นไปได้ค่ะ หากเราเชื่อและลงมือทำ ซึ่งมันอาจจะใช้เวลาสักหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่เคยมีใครคิดจะทำ เพราะคิดว่ามันทำไม่ได้

 

ถ้าใครว่าง ไปลงพื้นที่ด้วยกันสิคะ ท่านจะได้เห็นแววตาเด็กขาดโอกาสที่กำลังรอโอกาสเหล่านี้อยู่ เด็กที่พ่อแม่ไม่มีเงินให้กินข้าวกลางวัน เด็กที่ไม่มีรองเท้าใส่ เด็กที่มีชุดนักเรียนชุดเดียว และได้เรียนคอมพิวเตอร์ด้วยการมองเครื่องเก่าๆ ใช้งานไม่ได้ ไปด้วยกันสิคะ อยู่แค่ฉะเชิงเทราแค่นี้เอง -- เด็กๆ พวกนี้กำลังจะได้เครื่องคอมพิวเตอร์ สิ่งที่ทำให้เข้ามีโอาสเรียนรู้ได้มากขึ้น ได้เปิดโลก ได้รู้ว่าผู้ใหญ่เค้าตัดสินคนอื่นจาก ฺBlog ที่ไม่เคยมีใครมาถามเลยว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง

เชื่อได้เลยค่ะ ใครก็ตามที่ได้มาด่าว่าโครงการนี้ไว้ ถ้าได้ลงพื้นที่ด้วยกัน จะขอถอนคำกล่าวหาทั้งหมดที่มี -- นี่ไม่ใช่คำท้าทายนะคะ แต่เผื่อใครจะเกิดเมตตาิอยากช่วยเหลือเด็กๆ เหล่านี้ขึ้นมาบ้าง

ช่วงปี 50 ที่ผ่านมา เป็นระยะแรกของการดำเนินการโครงการ มันเป็นช่วงเวลาที่เราไม่รู้ว่าเราควรให้โครงการแก่ใครบ้างจึงจะเกิดประโยชน์ตรงตามวัตถุประสงค์
ของโครงการอย่างสูงสุด เราพิจารณาจากการพูดคุย และทำความเข้าใจ ซึ่งบางที่ก็ประสบความสำเร็จ บางที่ก็มีปัญหา บางที่ก็ล้มเหลว แต่เราไม่ทิ้งค่ะ เราพยายามศึกษา ลงะพื้นที่ประเมิน กระตุ้น และสร้างกำลังใจ ช่วยแก้ไขปัญญา โดยหากใครอาการหนัก เราก็พร้อมที่จะนำสิ่งเหล่านั้นไปให้ผู้อื่นเพื่อจะได้ไม่เป็นภาระกับเค้าต่อไป และสิ่งนี้ไม่ใช้การแก้ปัญหานะคะ มันคือการย้ายไปสร้างประโยชน์ในที่ๆ เหมาะสมต่างหาก

และสิ่งที่ผ่านมานั้ นมันคือบทเรียนสำหรับการพิจารณา และการดำเนินงานของปีนี้ ซึ่งเราได้เยอะมากๆ ค่ะ

สุดท้ายก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้โอกาสอ่านมาจนจบ ท่านจะตัดสินอย่างไรก็สุดแล้วแ่ต่

และขอบอกว่ายังเคารพท่านครูบาเหมือนวันแรกที่ได้พบ ยังสำนักบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนของท่านเสมอ ยังหวังที่จะได้เข้าไปคาราวะท่านอยู่เสมอ โอกาสที่ท่านให้มาคือ 6-7 เมษา ซึ่งหนูจะพยายาม แต่เนื่องจากท่านเป็นผู้มีเกียรติ หนูไม่สามารถไปแต่ลำพังด้วย จะต้องนำผู้ใหญ่ไปเข้าพบท่านด้วย จึงขอโอกาสไปเรียนถามผู้ใหญ่ก่อนนะคะ หากท่านสะดวก เราจะลงไปพบเพื่อรับทราบปัญหา และแก้ไขร่วมกัน

 

ด้วยความเคารพ

พุทธชาติ ศิริบุตร
สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
[email protected]

เครื่องที่ 7 – 10 (จำนวน 4 เครื่อง)

ได้รับการสนับสนุนจาก บ.คลองหลวงเมืองใหม่  กันยายน 2549  ค่ะ ไม่ใช่ 2550 นะคะ

แหะๆ  จำพ.ศ.ผิดอีกแล้วค่ะ  อิอิ  วันนี้เป็นอะไรเนี่ย...

เป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายร่วมแก้ไขปัญหา และจูงมือเดินไปด้วยกัน

ชอบจังใจคำๆ นี้ อ่ะ

 

"เด็กๆ พวกนี้กำลังจะได้เครื่องคอมพิวเตอร์ สิ่งที่ทำให้เข้ามีโอาสเรียนรู้ได้มากขึ้น ได้เปิดโลก ได้รู้ว่าผู้ใหญ่เค้าตัดสินคนอื่นจาก ฺBlog ที่ไม่เคยมีใครมาถามเลยว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง"

 

โดนใจอย่างแรง พี่บ่าวเอ๊ย....

  • แหมถ้าคุณพุทธชาติ ศิริบุตร(อ้อย)
  • บอกแบบนี้ตั้งแต่ทีแรกก็คงเข้าใจกันได้ดี
  • จริงๆๆแล้วหลายคนที่มาเขียนในนี้
  • ลงพื้นที่ทั้งนั้นครับ
  • ไม่ได้ตัดสินใจใครจาก blog
  • บางทีอาจจะลงพื้นที่มากกว่าเจ้าหน้าที่ของกระทรวง ICT เสียอีกครับ
  • ถ้าได้วันแน่นอนแล้วบอกด้วยนะครับ จะชวนพี่ๆน้องใน gotoknow ไปดูเสียหน่อย
  • ขอบคุณครับ

พี่ไม่เคยลงพื้นที่นะคะน้องชาย

ก็เพราะพี่ไม่ได้อยู่สูงกว่าใครเขา  ทำไมพี่ต้องลงไปด้วยหละค่ะ  เราอยู่ด้วยกัน  พื้นที่เดียวกัน  เห็นมานักต่อนักค่ะ 

พี่เองทำงานกับคนมองไม่เห็น  พี่จึงจะพูด(พิมพ์)อะไรตามที่ตาเห็นค่ะ  ไหนๆก็โชคดีมีบุญ  เกิดมาได้มองเห็นกับเขาแล้ว  มีตามองอะไรก็ต้องมองให้ชัดค่ะ  ไม่รู้ว่าวันไหนตื่นมาจะมองอะไรไม่เห็นบ้าง  ใช่ไหมคะ  ของแบบนี้ไม่ใครรู้นิ

พุทธชาติ ศิริบุตร

ขอบคุณสำหรับความเข้าใจที่มีเพิ่มขึ้นมาบ้าง

ขอขอบคุณคุณขจิตมากเลยนะคะ ที่ตั้งใจจะลงพื้นที่ไปช่วยกัน ทริปแรกเราไปกันที่ 40 กม. จากกรุงเทพเลยไม๊คะ โรงเรียนที่ถูกลืม โรงเรียนที่หลังคามุงสังกะสี โรงอาหารไม่มีผาผนัง มีตึกเรียนตึกเดียว นักเรียนตาใสๆ หน้ามอมๆ แล้วได้รับโอกาสดีๆ ที่ผู้ใหญ่หยิบยืนให้ ดูซิว่าพวกเขามีอะไรเปลี่ยนแปลงขึ้นมาบ้าง

เนื่องจากไม่ได้เป็นสมาชิก gotoknow ก็ขอรบกวนคุณขจิตช่วยนัดเพื่อนสมาชิกที่ใจบุญ และพร้อมพิสูจน์เรื่องราวต่างๆ จำนวนซัก 10 ท่าน เพื่อสร้างเรื่องราวดีๆ และกิจกรรมน่ารักๆ ให้แก่เด็กๆ ที่ไม่ได้รับโอกาสเท่าเทียวกับโรงเรียนใกล้เคียง ... เชื่อหรือไม่โรงเรียนนี้อยู่ห่าง กทม. เพียง 40 กม แต่ใช้ IPSTAR.... ครบสิบคนเมื่อไหร่ไปกันเลยนะคะ เอารถกระทรวงฯ ไปแต่ข้าวปลาหากินกันเองเพราะไม่มีงบประมาณเหลือเฟือ

แล้วเจอกันนะคะ

พุทธชาติ ศิริบุตร
[email protected]
สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

พุทธชาติ ศิริบุตร

ขอถอนคำว่า "ลงพื้นที่" เป็นคำว่า "เยี่ยมเยีนน พบปะ" ค่ะ

โดนใจมากๆ เลยค่ะ กับคำว่า "พื้นที่เดียวกัน" เพราะว่าไม่อยู่สูงกว่าใคร ... ขอบคุณมากค่ะคุณหนิง

พุทธชาติ ศิริบุตร
สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

[email protected]

แวะมาอ่านคำอธิบายของคุณพุทธชาติ ศิริบุตร ค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท