ช่วงนี้ฉันอาศัยห้องสมุดเป็นที่ทำงาน ด้วยเหตุผลของการเป็นคลังความรู้และข้อมูลที่ฉันต้องใช้สำหรับการเขียนงาน และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ทำให้ความรู้สึกหงุดหงิดหัวใจเกิดขึ้น
ทรัพยากรหลักของห้องสมุด คือ หนังสือ ที่มีไว้บริการให้กับผู้ใฝ่รู้ทุกคน โดยไม่แบ่งชั้นวรรณะ ทั้งความใฝ่รู้ที่เกิดขึ้นเองจากจิตใต้สำนึก หรือจำเป็นต้องใฝ่รู้ด้วยบทบาทและหน้าที่
หนังสือทุกเล่มในห้องสมุดเป็นสมบัติของใคร?
ฉันมักตั้งคำถามกับลม กับฝน กับคนรอบข้าง และกับตัวเองเสมอ ที่เห็นรอยขีด รอยมาร์กเกอร์ รอยพับ รอยดินสอ และสารพัดรอย ที่ผู้ใช้ประโยชน์จากหนังสือก่อนหน้าฉันได้ทิ้งไว้
ฉันมั่นใจว่าทุกคนรู้ว่า หนังสือทุกเล่มที่เรียงรายคอยตอบคำถามกับทุกคนที่ต้องการอยู่บนชั้นนั้น เป็นของใคร คำตอบว่า เป็นของใคร ไม่สำคัญ หากแต่ความตระหนักว่า มิใช่ของตนแต่เป็นของ “ส่วนรวม” และใช้มันอย่างเหมาะสมต่างหากที่สำคัญ
ข้อความที่ฉันพบเห็นเสมอในห้องสมุดที่คอยเตือนไม่ให้ใครก็ตามเข้าใจผิดว่าของส่วนรวมในมือนั่นสามารถที่จะทำอะไรกับมันก็ได้ ตั้งแต่ขีด เขียน พับ หรือกระทั่งตัด ฉันยังแอบสงสัยว่าใครหนอจะมือบอนขนาดนั้น...ไม่นานนักฉันก็รู้ว่ามีคนมือบอนและมักง่ายมากมายที่ใช้ของส่วนรวมราวกับเป็นสมบัติส่วนตนอย่างไม่ระอา
บางคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ดีเสียอีกที่มีคนเน้นข้อความสำคัญในหน้านั้นๆ ให้คนอ่านทีหลังได้หาใจความสำคัญง่ายขึ้น...แต่ฉันคิดว่าคนขีดคงไม่ได้คิดแบบนั้นแค่คิดทำเพื่อตัวเองต่างหาก เพราะถ้าเค้าคิดถึงคนอื่น เค้าต้องรักษาหนังสือนั่นไว้อย่างดีไม่ทำให้เปรอะเปื้อนเด็ดขาด
ฉันถือว่าหนังสือเป็นครู เป็นแหล่งความรู้ ต้องทะนุถนอมดูแลอย่างดี วันนี้หนังสือเล่มนี้ได้ให้ความรู้กับฉัน แน่นอนว่าต่อไปก็ต้องไปให้ความรู้ความบันเทิงกับคนอื่นได้อีก ยิ่งเป็นหนังสือในห้องสมุดโอกาสนั้นย่อมมีแน่นอน
ฉันไม่ปฏิเสธว่าการเน้นข้อความในหนังสือเป็นสิ่งจำเป็น แต่ควรเป็นหนังสือของตัวเอง หาใช่ของส่วนรวม... วิธีของฉันที่ใช้กับข้อความสำคัญในหนังสือส่วนรวม คือ เขียนมันขึ้นมาใหม่ในสมุดของฉันเอง การจำข้อความจากลายมือตัวเอง จำจากเสียงตัวเอง มักมีประสิทธิภาพเสมอ...ฉันเชื่ออย่างนั้น
ฉันได้แต่เพียรบอกคนรอบข้างและตัวเองเสมอว่า
“อย่าทิ้งอะไรไว้ อย่าเก็บอะไรไป นอกจากความรู้และความประทับใจ”
และฉันหวังว่า หนังสือเล่มต่อไปที่ฉันจะหยิบจากห้องสมุดคงจะไม่มีร่องรอยการขีดเขียนมีแต่เพียงร่อยรอยการใช้งานอย่างทะนุถนอมเท่านั้น...
หรือฉันคิดมากไป...หรือฉันหวังมากไป
สวัสดีค่ะ น้องพิมพ์
ป้าแดง ก็ไม่ค่อยปลื้มเลย กับการขีดเขียนลงในหนังสือส่วนรวมอ่ะค่ะ
ปล. สบายดีนะคะ
สวัสดีคะ ป้าแดง
มาแบบ "ป้าไม่ปลื้ม!!!" เลยนะคะ
อยากให้เด็กวัยเรียนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ที่ใช้หนังสือในห้องสมุดตระหนักถึงสิ่งนี้กันให้มากๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่เรื่องเล็กๆ แต่ถ้าเรื่องเล็กๆ ยังทำกันไม่ได้ ก็ไม่กล้าคิดถึงเรื่องใหญ่โตในอนาคตได้เลยนะคะ...หรือหนูคิดมากไป
ขอบคุณป้าแดงมากนะคะ หนูสบายดีคะ ป้าแดงละคะ ทัวร์จนป่วย รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
---^.^---
แหะๆ ไม่เคยขีดเขียนอะไรลงไปในหนังสือส่วนรวมนะคะ
แต่ว่า...ชอบเอาของวางทิ้งไว้บนโต๊ะ -เก้าอี้ ( อิอิ จองๆ แล้วแอบไปกินข้าวก่อนมาอีกรอบ ) สมัยก่อนนี่ เป็นบ่อยๆค่ะ
อ้ายเอกก่อบ่ปลื้มครับน้องพิมพ์
-------------------------------
อาจเป็นด้วยที่คุณแม่น้องพิมพ์ทำบรรณารักษ์หรือเปล่าครับ อิอิ
ผมเห็นด้วยครับ หนังสือส่วนตัวผมเองก็ยังถนอมเลยครับ แทบไม่มีรอยขีดข่วน หากจะโน๊ตผมก็เขียนลงในกระดาษครับ
หลายคนที่ยืมหนังสือผม ก็จะทราบว่าหนังสือผมเหมือนใหม่
ผมมีปัญหาสองกรณีครับ
ผมเลยแก้ปัญหา มีหนังสือใดที่มีสำเนา หรือ ซื้อมาสองเล่ม ผมมักเลือกให้เพื่อนๆฟรี (หากหนังสือนั้นเขาสมควรได้อ่าน)
สวัสดีหนูพิมพ์
ผมมักจะซื้อเองครับหนังสือ ไม่ค่อยใช้บริการห้องสมุดนอกจากจำเป็น เช่น หนังสือเก่า หรือราคาแพงมาก เพราะบางครั้งอ่านนานเกรงใจคนอื่นที่เขาจะอ่านบ้าง ...แต่รอยจารึกไม่นิยมครับนอกจากในใบยืม...รักษาสุขภาพด้วย อย่าเครียดมากครับ.......
ขอบคุณครับ........
ดีครับ น้องพิมพ์ (ทักแบบวัยรุ่น)
บุญรักษา หนังสือ ครับ :)
สวัสดีคะ พี่หนิง
สบายดีนะคะ...
"ห้ามจองที่นั่ง" "ระวังของหาย" "อย่าวางของมีค่าทิ่งไว้" ป้ายพวกนี้เดี๋ยวนี้มีติดในห้องสมุดแล้วนะคะ ดีนะ ที่พี่หนิงทำไว้นานนนนนแล้ว ไม่งั้นผิดกฎห้องสมุดนะคะ อิอิ
สวัสดีเจ้า อ้ายเอก
"อ้ายบ่ปลื้ม"
คุณแม่เป็นเจ้าหน้าที่ห้องสมุดตั้งแต่บุกเบิก ทำมาแล้วแทบทุกตำแหน่งในห้องสมุด ยกเว้นก็แต่เลขาสำนัก กับผอ. คะ อิอิ ก็เลยมีโอกาสใช้ห้องสมุดเป็นสนามเด็กเล่นอยู่หลายปี อ่านหนังสือดีๆ สวยๆ หลายเล่ม ที่สำคัญได้เรียนรู้ว่า กว่าจะมีหนังสือแต่ละเล่มให้แต่ละคนอ่านไม่ได้ง่ายเลย...เพราะฉะนั้นต้องรักษาอย่างดีให้เกิดประโยชน์กับคนหลายๆ คนคะ
หนังสือดีอ่านแล้วแนะนำ ถ้าคนถูกแนะนำสนใจ เค้าก็คงไปหาอ่านเอง...
ให้ยืมไปก็บ่ได้คืน...เป็นบางครั้งเหมือนกันเจ้า
แต่ให้ยืมแล้วยับกลับมาบ่ค่อยมี เพราะก่อนให้ยืมกำชับและขู่ว่า อย่าทำของฉันยับนะ ฉันหวง...หรือขู่มากไปก็เลยบ่ได้คืน หุหุ
แต่การให้หนังสือเป็นของกำนัลของอ้าย น้องพิมพ์ว่าเป็น ของขวัญที่ดีที่สุดเลยเจ้า...
สวัสดีคะ นายช่างใหญ่
หนังสือดี และแพง มักหาได้ในห้องสมุดเสมอ
ยิ่งรู้ว่าแพง และดียิ่งต้องรักษาให้มาก
ไม่เครียดคะ ไม่เครียด...ขอบคุณมากคะ
ดีคะ อาจารย์ Wasawat (ทักตอบแบบวัยรุ่น)
พฤติกรรมขาดจิตสำนึก...สมควรโดนยี้ที่สุดเลยนะคะ เห็นด้วย เห็นด้วย
อาจารย์คะ เค้าว่าบรรณารักษ์กว่าครึ่งหนึ่ง...ดุ...นะคะ
ขอบคุณมากคะที่แวะมา
บุญรักษาเช่นกันนะคะ
---^.^---
สวัสดีค่ะ คุณพิมพ์
เด็กสมัยนี้ไม่ชอบอ่านหนังสือค่ะ มักจะ Copy แล้วก็ Paste จาก net เวลาทำรายงาน
เวลาสั่งงาน มักบ่นว่า....อาจารย์ขาที่หอพัก net ล่ม แทนที่จะบอกว่า หาหนังสือไม่ได้...หาแล้วไม่มี...
นิสัยรักการอ่านของเด็กสมัยนี้ต้องปรับปรุงค่ะ
สวัสดีคะ อาจารย์ little cat
ตอนที่มีโอกาสสอนหนังสือก็ประสบปัญหาแบบเดียวกันคะ หาในเนตไม่ว่า แต่ดันตัดแปะแบบไม่เนียนให้อาจารย์จับได้...ไม่ไหวเลย
ก็เลยมีจัดเวลา 1 คาบ ไปทัวร์ห้องสมุดกัน พร้อมกับมอบหมายรายงานกลุ่มให้ทำภายในเวลา ภายใต้ทรัพยากรในห้องสมุด ก็เลยได้รู้มาอีกข้อหนึ่งว่า นักศึกษาส่วนใหญ่หาหนังสือในห้องสมุดไม่ค่อยเป็น ไม่รู้ว่าหมวดไหนเป็นอะไร อยู่ตรงไหน ยืมได้หรือไม่ได้...
เด็กสมัยนี้ มีอะไรเหนือความคาดหมายบ่อยๆ เลยนะคะ
ขอบคุณที่อาจารย์แวะมาทักทายนะคะ
---^.^---
สวัสดีเจ้า คุณสิงห์ป่าสัก
ยินดีจ้าดนักเจ้า :)
อ่านหนังสือในห้องสมุดทุกอาทิตย์ดีจังเลยนะคะ
ดีใจที่ได้ร่วม ลปรร ด้วยกันเจ้า
---^.^---
ขอให้มีความสุขนะคะ เอาขนมอร่อยๆมาให้ค่ะ