ขอคารวะผู้ถือหนังสืออ่าน


หนังสือคือความเชื้อเชิญของความก้าวหน้า

หนอนหนังสือ....เป็นสำนวนที่เปรียบเทียบกับคนที่รักการอ่านมากๆ  พวกหนอนหนังสือคงคิดว่าหนังสือคือความเชื้อเชิญของความก้าวหน้า หนังสือคือเพื่อน หนังสือคือจักรวาล มีนิยามเกี่ยวกับหนังสือมากมาย ก่อนถึงโลกยุคสื่อสารถือกันว่า  ตัวชี้วัดความเจริญคือหนังสือ  ประเทศใดมีการใช้กระดาษพิมพ์หนังสือมากที่สุดประเทศนั้นเป็นอารยประเทศ

           ปัจจุบันมีผู้ผลิตหนังสือมากมาย  การสอนให้เด็กๆ รู้จักเลือกหนังสือเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองต้องใส่ใจและชี้นำ บนแผงหนังสือไม่ได้มีแต่หนังสือของคนไทยที่ขายดี   มีคู่แข่งหนังสือแปลจากต่างประเทศที่ส่งออกวัฒธรรมทั้งวิถีชีวิตในอดีตและปัจจุบันโดยใช้ความหล่อเหลาสวยงามของดาราเป็นสื่อในการโฆษณา  ดาราประเทศไหนที่เรานำเข้าเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ เราจำเป็นต้องนำเข้าสินค้าอื่นๆที่สื่อถึงเขาชื่นชอบเขา   ทำให้ได้ประโยชน์หลายต่อ  แม้แต่หนังสือที่เราเอาของเขามาแปลแล้วตั้งชื่อแปลกๆเพื่อดึงดูดความสนใจ ประกอบกับภาพประกอบสีหวานๆ ของจิตรกรที่คัดสรรมา ติดข้อความว่าหนังสือขายดี ยอดขายก็พุ่งแล้ว   การนำเอาวัฒนธรรมมาแปรรูปแล้วส่งออกเป็นสินค้าด้านบันเทิง  ช่วยทำรายได้เข้าประเทศเขาอย่างมหาศาล

          วันไหนพาลูกไปร้านหนังสือเพื่อสร้างนิสัยให้ลูกรักการอ่าน  อย่าลืมต้้งคำถามกับลูกทั้งก่อนซือและหลังจากที่ลูกอ่านหนังสือจบ  การตั้งคำถามและการแสดงความคิดเห็น เป็นการช่วยลูกคิด และการสอนวิธีการคิดให้ลูกในเบื้องต้น แล้วลูกจะเลือกอ่านหนังสือที่มีคุณค่าได้เองในเวลาต่อมา  ช่วยกันจัดการเรียนรู้ให้ลูกที่บ้านนะคะ......เพื่อสักวันลูกเราจะได้เป็นผู้แปรรูปวัฒนธรรมเป็นสินค้าส่งออกอย่างประเทศอื่นเขาบ้าง  วันนี้เราต้องส่งเสริมการอ่านกันอย่างจริงจัง  เพื่อให้ผสมผสานกับความใส่ใจทางเทคโนโลยี  ซึ่งเด็กไทยมีความสามารถเพียงพอ  ขอเพียงแต่ผู้ใหญ่ทั้งสถาบันครอบครัวและสถาบันการศึกษาร่วมมือกัน ถ้าทำได้การอ่านไม่เพียงแต่สังคมจะพัฒนาแต่เป็นการป้องกันปัญหาหลายชนิดที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย  ขอจบลงด้วยบทกวีสร้างสรรค์ฉายากวีแห่งรัตนโกสินทร์ยุคปัจจุบันนะคะ

ขอคารวะผู้ถือหนังสืออ่าน

ท่านคือต้นธารแห่งการผลิต

จากชีวิตรับรู้สู่ชีวิต

นำมนุษย์ใกล้ชิดเป็นมิตรกัน .

               ดิฉันขอคารวะท่านทุกครั้งที่ท่านอ่านหนังสือค่ะ

หมายเลขบันทึก: 154025เขียนเมื่อ 16 ธันวาคม 2007 22:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 พฤษภาคม 2012 15:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ผมก็เป็นลูกศิษย์คนหนึ่งของ

อาจารย์กิติยา  เตชะวรรณวุฒิ

อาจารย์ครับเรื่องหนอนหนังสือที่อาจารย์เขียนมาอะครับ  ทำให้ผมคิดอะไรๆหลายๆอย่างได้นะครับ

เพราะว่าผมก็อาจจะไม่ค่อยกับหนังสือแต่ก็ต้องจับมั่งละครับ  เพราะว่าอนาคตข้างหน้าของผมจะเป็นอย่างที่ผมฝันไว้หรือป่าวก็ไม่รู้นะครับ

แต่ถ้าผมอ่านวันละนิด  อ่านแล้วคิด  เพือ่นชีวิตข้างหน้าของผมครับ

 

ผมขอขอบคุณอาจารย์กิติยา  เตชะวรรณวุฒิ 

ด้วยครับ  เพราะอาจารย์สอนผมให้เป็นคนรักการอ่านครับ

ข้างบนที่ผมเขียนมานี้ผมจะเขียนผิดหรือ เขียนเป็นภาษาพูกก็ตามผมต้องขออภัยอาจารย์ด้วยครับ

สำหรับหนู จะเรียกตัวเองว่า หนอนหนังสือ ได้รึเปล่าก็ไม่รู้นะคะ ยอมรับว่าตัวเองก็เป็นคนชอบอ่านหนังสือ มีหนังสือดีๆเก็บไว้หลายเล่ม แต่ก็ไม่ได้มีหนังสืออ่านแบบพกติดตัวตลอดเวลา หรือว่างเมื่อไรก็เข้าห้องสมุดแบบที่พวกชาวแว่นหนาเขาทำ หนูจะอ่านเมื่อว่างจริงๆและทุกก่อนนอน แล้วก็เวลาที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในห้องเรียน บางทีเสียใจกับอะไรบางเรื่อง ก็จะหันไปอ่านหนังสือ เพื่อจะได้ลืม เรียกได้ว่าหนังสือคือเพื่อนที่ซื่อสัตย์สำหรับหนูเลย ขอบคุณอาจารย์นะคะที่แนะนำหนังสือดีๆให้กับพวกเรา ไม่ว่าจะวรรณกรรมหรือว่าหนังสือที่ได้รับรางวัล ยอมรับเลยค่ะ ว่าเวลาไปร้านหนังสือ ไม่เคยได้สนใจหนังสือ ไล่ตงจิ้นลูกขอทาน ที่วางไว้บนชั้นอย่างสง่าผ่าเผยเลยสักนิดเดียว แต่เมื่อได้รับการการันตีจากอาจารย์ หนูเลยต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ และก็ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ เป็นหนังสือในหนึ่งไม่กี่เรื่องที่หนูประทับใจที่สุด อ่านไปร้องไห้ไป ทุเรศกับข่าวการคิดสั้นฆ่าตัวตายเพราะความรักของวัยรุ่น กว่าพ่อแม่จะเลี้ยงมาได้ เทียบไม่ได้กับอุปสรรคในชีวิตของไล่ตงจิ้นสักนิดเดียว ขอบคุณนะคะที่วันนั้นอาจารย์ได้พูดถึงหนังสือ ไล่ตงจิ้นลูกขอทาน ทำให้ได้รู้ว่าชีวิตของเราทุกคนมีค่าเท่าเทียมกันเสมอ และรู้จัก อดทน ต่อความยากลำบาก ไม่ว่าเราจะเจ็บปวดแค่ไหน สักวันจะต้องมีวันของเรา    และสุดท้าย ^_^ ดีใจและภูมิใจเสมอค่ะ ที่ได้เป็นลูกศิษย์ของกวีแห่งรัตนโกสินทร์ยุคปัจจุบัน ^_^
  ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ค่อนข้างชอบอ่านหนังสือ เวลาไปห้างทีไรก็ชอบเข้าร้านหนังสือไปหยิบหนังหนังสือเล่มที่สนใจอ่านอย่างคร่าวๆ ถ้ามีเงินพอก็จะซื้อ แต่มีเงินไม่พอก็จะนำหนังสือกลับไปวางไว้ที่เดิม แล้วก็ไปหาหนังสือเล่มใหม่ การกระทำของดิฉันคนอื่นอาจจะมองว่าน่าเกลียด แต่ความน่าเกลียดก็มาซึ่งความรู้โดยไม่ต้องเสียเงินจริงไหมค่ะ  แต่ส่วนใหญ่ถูกใจเล่มไหนก็จะซื้อค่ะ เพราะอดใจไม่อยู่ค่ะ หนังสือทำให้ดิฉันมีความคิดสร้างสรรค์ และมีมุมมองที่มากขึ้นค่ะ

ดิฉันคิดว่าการอ่านหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นหนังสืออะไร ชนิดไหนก็ให้ความรู้เหมือนกันหมด ส่วนตัวดิฉันเองนั้นชอบอ่านนวนิยายเกี่ยวกับการผจญภัย และคดีเงื่อนปมปริศนาการฆ่า เกี่ยวกับนักสืบ เพียงอย่างเดียว เนื่องจากชอบมากๆ แต่ดิฉันคิดว่าวันนี้ดิฉันพร้อมเสมอที่จะอ่านหนังสือต่างๆ ดิฉันจะถามตัวเองก่อนและหลังสือหนังสือเสมอ ว่าดิฉันจะได้อะไรจากนังสือ และได้อะไรจากหนังสือที่จะอ่าน สุดท้าย ขอบคุณ คุณกิติยามากที่ ทำให้ดิฉันรู้จักความสำคัญของการอ่านมากขึ้น

ช็อตกาแลต(เด็กในสังกัด)

ผมว่าอ่านหนังสือชนิดใหนก็มีประโยชน์ทั้งสิ้นนะครับ ถ้าเรารู้จักคิด วิเคระห์ แยกแยะ ถ้าเรารู้จักคิดวิเคระห์แยกแยะและทําความเข้าใจ ต่อให้เราอ่านหนังสือโป้!เรายังได้ความรู้เลยนะครับ จิงมั้ยครับ(อย่างน้อยก็ได้จินตนาการนะครับ)อิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท