งานมหกรรมการจัดการความรู้แห่งชาติ ครั้งที่ ๔ เพิ่งเสร็จสิ้นลงไปหมาดๆ ผู้เขียนได้รับเกียรติให้เข้าไปช่วยในวันที่สองของการจัดงานเพื่อเป็นผู้ดำเนินการเสวนาในห้องย่อย Love & Learn หรือ "สุขใจได้เรียนรู้" ภายใต้ความคิดหลักของงานคือ "เปลี่ยนกระบวนทัศน์ พัฒนาวัฒนธรรมการเรียนรู้"
การสรุปภาพของงานและของห้องย่อยนั้นน้องๆทีมงานของสถาบันการจัดการความรู้เพื่อสังคม คงจะได้จัดทำเผยแพร่ในเว็บของสคส. ผู้เขียนจะขอเพียงนำคำถามที่น่าสนใจบางส่วนจากวงเสวนาและความรู้สึกของผู้เขียนมาเล่าสู่กัน
วงเสวนา "สุขใจได้เรียนรู้" เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๐ มีสองช่วง
เรื่องราวดีๆที่สวยงามประเทืองใจผู้ที่ต้องการเห็นเด็กๆของเราได้รับการศึกษาที่จะทำให้เขาเติบโตเป็นผู้พร้อมที่จะพัฒนาตนเองและร่วมพัฒนาชุมชนและสังคม ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะทำได้ดังวาดฝัน แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงที่โรงเรียนเพลินพัฒนา ที่ครู ผู้บริหาร ผู้ปกครองร่วมใจ ร่วมแรงกันเปลี่ยนแปลงวิธีคิด วิธีการทำงานด้วยกัน โดยใช้กระบวนการการจัดการความรู้เติมลงไปในการทำงานเช่น การมี ครูของครู การสร้างโรงเรียนให้เป็นเมืองที่มีธรรมาภิบาล มีธรรมนูญ มีองค์กรครอบครัวเพลินพัฒนาที่ผู้ปกครองต้องมีส่วนร่วมในการทำสิ่งดีๆเพื่อลูกหลานที่ไม่จำกัดเฉพาะลูกของตน สิ่งเหล่านี้ได้นำความสุขมาให้ทุกคนรายละเอียดอ่านได้จากหนังสือ โรงเรียนจัดการความรู้
คำถามที่น่าสนใจจากผู้เข้าร่วมฟัง เช่น จะทำอย่างไรกับครูที่ดื้อ ไม่อยากเปลี่ยนแปลง ข้อนี้ ครูปาด- ศีลวัต ศุษิลวรณ์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนฝ่ายวิชาการ ซึ่งนั่งฟังอยู่ข้างล่างช่วยลุกขึ้นตอบว่า เด็กดื้อ ครูดื้อ ไม่มี มีแต่ "ความดื้อ" ที่อยู่ในเด็ก และในครู เมื่อคิดอย่างนี้จะมองเห็นวิธีที่จะจัดการกับความดื้อ ไม่ใช่จัดการคน เป็นสิ่งที่ต้องคิดอย่างมีเมตตา มีความเข้าใจ และเปิดใจรับฟัง
เรื่องโรงเรียนทางเลือกแบบนี้คงโดนใจผู้ฟังที่ต่างก็เป็นพ่อแม่ หรือมีลูกหลาน มีคำถามว่า ค่าเทอมเป็นอย่างไร คำตอบคือ ค่าเทอมสูงกว่าโรงเรียนทั่วไปแต่เป็นค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้น ตรวจสอบได้ ครูทุกคนได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับการทำงานอย่างทุ่มเท ใครเคยเห็นบ้างว่ามีโรงเรียนไหนวางหลักสูตร ๑ ปีการศึกษา เป็น ๔ เทอม คือ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา การเรียนการสอนที่นี่เป็นนวัตกรรมทางการศึกษาจริงๆ (ผู้เขียนคิดว่าค่าเทอมยังย่อมเยากว่าโรงเรียนนานาชาติตั้งเยอะ เรามักชอบคิดว่าอะไรที่คนไทยทำต้องถูก หากฝรั่งทำต้องแพงแต่รับได้)
ท่านหนึ่งถามว่าฟังแล้วอยากให้ลูกหลานได้มาเรียน แต่ส่วนใหญ่พ่อแม่มักต้องทำงานยุ่งแทบไม่มีเวลาที่จะมามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมสร้างการเรียนรู้ แล้วลูกจะมีโอกาสเรียนที่โรงเรียนนี้ไหม คำตอบคือ ได้ แต่วิธีที่คุณครูทั้งหลายใช้ก็คือ จะพยายามทุกวิธีที่จะให้ผูปกครองได้มามีส่วนร่วมในกิจกรรมสักครั้งแล้วจะเห็นสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นกับลูกหลานของตน และจะแนะนำว่า การทำงานนั้นก็เพื่ออนาคตของลูก แต่อนาคตของลูกอยู่ที่ปัจจุบัน หากไม่มาช่วยสร้างให้เขาสัมผัสความรักความอบอุ่นตอนนี้ อนาคตอาจจะสายไป
ช่วงนี้คุณครูนงเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ฟังได้ด้วยการพูดว่า แม้จะเป็นแค่คนตัวเล็กๆ แต่งานที่ทำอย่างจริงใจ มุ่งมั่นนั้นเข้าตาผู้ใหญ่อย่างผู้ว่าราชการจังหวัดฯซึ่งทักทายครูนงอย่างเป็นกันเอง และแถมยังนำกระบวนการวิธีการ "โรงเรียนคุณอำนวยเมืองคอน"ที่ครูนงสร้างก๊วนขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ แต่อาศัยใจเชื่อมกับหน่วยงานอื่นๆ นำไปเป็นรูปแบบ โรงเรียนคุณอำนวยเมืองคอน อย่างเป็นทางการ ระดับจังหวัดด้วย เป็นความสุขที่ไม่คาดฝัน และครูนงมีแมวมองเสาะหาผู้ชำนาญแต่ละด้านมาร่วมพลังเป็นครูกระบวนการด้วย
ดร.วัลลาเล่าถึงเครือข่ายเบาหวาน และกล่าวว่า มีเครือข่ายแบบไร้ตัวตน(ตามคำพูดของคุณครูปาด) งานเครือข่ายที่ขยายออกไปได้เพราะความรู้สึกดีๆ อย่างเพื่อนช่วยเพื่อน เครือข่ายเบาหวานไม่ได้ตั้งเป็นองค์กร ไม่ได้มีงบประมาณแต่จะทำงานเมื่อไหร่จะมีผู้อาสาเข้ามาร่วมแรงร่วมใจกันอย่างดีทุกครั้ง เป็นการทำงานที่มีความสุข เมื่อนำหลักการจัดการความรู้เข้ามาใช้ ทำให้ทุกคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องเกิดมิตรภาพต่อกัน และเพิ่งได้ยินที่มาของสำนวน "น้ำเต้าหู้ ครูระเบียบ" จากอาจารย์วัลลาครั้งนี้เอง อาจารย์ชี้ว่าความสุขที่เกิดขึ้นคือ การเปลี่ยนแปลงตนเอง ความมีอิสระทางใจเพราะยืดหยุ่นเป็น
คุณเอนกได้เข้ามาเป็นเครือข่ายและได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้นำกระบวนการการจัดการความรู้ไปใช้ ทำให้เกิดการทำงานเป็นทีมอย่างมีความสุข เกิดการเรียนรู้งานของกันและกัน ส่งผลให้มีความเห็นใจ เข้าใจกันในระหว่างผู้ร่วมงานทุกฝ่าย ข้ามฝ่าย ข้ามแผนก จากเดิมไม่ได้มีความสนิทสนมกับอาจารย์วัลลานัก แต่เมื่อร่วมงานกันไป ความรู้สึกที่เป็นเพื่อน มีความเชื่อใจ ไว้ใจก็เกิดเป็นความรักเคารพ ปรึกษาหารือกันได้ทุกเรื่อง
ข้อสรุปจากทั้งสองช่วงคือ ความสุขนั้นต้องเริ่มที่ตนเองก่อน ที่ต้องมีท่าทีต่องานที่ทำอย่างมีใจรัก เปิดใจกว้าง เรียนรู้จากความสำเร็จเล็กๆของผู้คน ทำให้ทุกคนรู้สึกมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีคุณค่า มีความรู้-มีความสุขในงาน(ไม่ใช่จะเอาแต่ผลสำเร็จของงาน ผู้ปฏิบัติจะเป็นทุกข์อย่างไรไม่สำคัญ) การเรียนรู้จึงจะเกิด เป็นการพัฒนาตน พัฒนาคน พัฒนางาน อย่างเป็นเรื่องเดียวกัน
สวัสดีค่ะ
หนังสือโรงเรียนจัดการความรู้ ได้ฝากน้องมะปรางเปรี้ยวซื้อ และกำลังจะมาถึงแล้วค่ะ กำลังอยากอ่านพอดี
เรื่องโรงเรียน ยังไม่ได้ตัดสินใจเลยค่ะ บางที จะขอเข้าไปชมด้วย
ขอบคุณที่เล่ามาจนเห็นภาพเลยค่ะ
ขอบคุณคุณ สิงห์ป่าสัก ที่หมู่นี้มาให้กำลังใจกันบ่อยโดยตามอ่านและให้คำแนะนำดีๆด้วยค่ะ
น่าชื่นชมทุกท่านในวงเสวนา(และผู้ร่วมทีมงานที่ไม่ได้มาปรากฏตัว)จริงๆค่ะ ได้พบและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับท่านเหล่านี้ทำให้มีความสุขไปด้วยและมีความรู้เพิ่มขึ้นอีกมากมายค่ะ
สวัสดีค่ะคุณพี่ศศินันท์ ตอนทราบเรื่องโรงเรียนนี้แล้วคิดถึงคุณพี่ ตรงที่คุณพี่คงจะอยากให้หลานได้รับสิ่งดีๆและร่วมสร้างสิ่งดีๆกับโรงเรียนให้หลานและลูกหลานของทุกคนที่มาเรียนด้วยกัน ทุกคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากให้เมืองไทยมีโรงเรียนอย่างนี้มากๆค่ะ
สวัสดีค่ะคุณพี่นุช.....คุณนายดอกเตอร์
ขอบคุณมากนะคะ สบายดีนะคะ
ตามมาเก็บความรู้ค่ะ
ดีใจที่ได้โอกาสเรื่องเล่าดีดีค่ะ
ปีนี้ไม่มีโอกาสไปฟังด้วยตัวเองค่ะ
เสียดายโอกาสจังเลยค่ะที่จะได้รู้จักคุณป้าแดงในงาน อุตสาห์มาจากที่ไกลๆมาร่วมในงานเดียวกันแต่ไม่กล้ามาทักกัน ฮือ ฮือ ต้องพิจารณาตัวเองว่าคงทำหน้าดุเกินไปหรือเปล่า คุณป้าแดงเลยกลัวถูกกิน
อยู่ในงานรู้สึกว่าตัวเองก็เขินๆเพราะมีบล็อกเกอร์ที่เขาคุ้นเคยกันเป็นกลุ่ม ตัวเองก็ไม่ค่อยรู้จักใคร เนี่ยถ้าคุณป้าแดงไปทักกันนะ คงจะมีความสุข อบอุ่นในไมตรียิ่งนักค่ะ
คุณครูอ้อย เปลี่ยนรูปใหม่อีกแล้ว เข้าบรรยากาศมากเลยค่ะ
งานแบบนี้มันเป็นอย่างไรล่ะคะจึงไม่สามารถไปร่วมได้ เรื่องเกี่ยวกับการจัดการความรู้ในโรงเรียนก็ตรงกับงานของทุกโรงเรียนนะคะ แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ตามเก็บความรู้จากการอ่านก็ได้ระดับหนึ่งและคงมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับกัลยาณมิตรทั้งหลายในโอกาสต่อๆไปค่ะ
สบายดีค่ะ คุณครูอ้อยคงสบายดีเช่นกันนะคะ อาจกำลังเหนื่อยหน่อยตอนเตรียมกิจกรรมคริสต์มาสให้เด็กๆได้เรียนรู้และสนุกสนานกัน
คุณอุบล ขยันดีจังเลยค่ะ ตามมาแวะอ่าน ปีหน้าคงมีกิจกรรมทำนองนี้ให้เป็นโอกาสได้พบกัน แต่ถ้าจะง่ายกว่านั้นคือ หากมีโอกาสผ่านหรือมาอยุธยาทำโปรแกรมแวะเจอกันสักหน่อย แม้นมีเวลาน้อยไปเจอกันในเมืองก็ได้ จะพาไปทานก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อย
วันนี้ในจังหวัดมีงานฉลองฯใหญ่ คงเหมือนกันทุกจังหวัดนะคะ
สวัสดีค่ะพี่บางทราย อานิสงส์อย่างหนึ่งของการที่ทุกคนตระหนักในการใช้การจัดการความรู้ในงาน และในชีวิต คือการจดบันทึกเพื่อทบทวนสิ่งที่ทำไปและยังเป็นการแบ่งปันเรื่องราวให้ได้เรียนรู้ สามารถนำไปปรับใช้หรือต่อยอด แตกแขนง สร้างเครือข่ายออกไปได้อีก
ขอบคุณที่ตามมาเก็บความรู้ถึงที่นี่นะคะ
ขอบคุณค่ะ
ปีที่แล้ว 2549 ดิฉันได้ไปงานมหกรรม KM
มีพิธีกรคนหนึ่ง...ใส่ชุดผ้าไทย สวยงามมาก
ไม่แน่ใจว่าใช่คุณนุช..ไหม
สวยงามในชุดผ้าไทย
ค่ะคุณอุบล น่าจะใช่เพราะพิธีกรที่อาวุโสที่สุดในนั้นก็คือดิฉันเองค่ะ หลังจากนั้นรู้สึกว่าสายตาแก่ลงเรื่อยๆเลยไม่สามารถช่วยงานพิธีกรได้ ต่อจากนี้ไปคงเลิกงานที่ตองขึ้นเวที สายตายาว ถอดแว่น ใส่แว่น ไปมา ตัวเองก็เวียนหัว ผู้ร่วมเสวนาก็คงรำคาญด้วยค่ะ
ขอบคุณในคำชม รีบรับเลยค่ะ
มาเยี่ยม...คุณนายดอกเตอร์
เห็นด้วยครับที่ความสุขเมีจุดเริ่มต้นที่ตนเอง
แล้วแผ่ขยายรัศมีกว้างออกไปเป็นวงกลมไร้ขอบเขต
โดยมีศูนย์กลางออกจากตนเองนะครับ...
เห็นด้วยกับอาจารย์ค่ะ ว่าผู้ใหญ่ดื้อนั้นสร้างความอลเวงให้สังคม เด็กดื้อด้วยความบริสุทธิ์ ด้วยความไม่รู้ ผู้ใหญ่ดื้อด้วยอัตตาที่คับฟ้านึกว่าตัวเองแน่
สวัสดีค่ะคุณออต ดีใจที่ได้เจอเช่นกัน
การใช้ผ้าไทยนั้นทำให้พี่ได้มีโอกาสแสดงความชื่นชมและส่งเสริมคนทำผ้า หากไม่มีคนใช้ผ้าไทย อย่างเข้าใจคุณค่าแห่งคนและภูมิปัญญา ต่อไปคนทำผ้าคงลดลง หรือเป็นแค่ผลิตกันเยอะๆเพื่อหาเงินอย่างเดียว
ทุกครั้งที่นุ่งห่มไทย ภูมิใจมากค่ะ รู้สึกว่าได้ช่วยร่วมสร้างรูปร่างของชาติให้ปรากฏว่า นี่คือคนไทย รูปร่างหน้าตาอย่างนี้ ใช้ผ้าอาภรณ์อย่างนี้
น้องซูซานเลยได้ช่วยให้โรงเรียนสมใจ ที่ได้ดูดเงินผู้ปกครอง หรือได้ชิ้นงานไปอวดอ้างว่าเป็นผลงานเด็กนักเรียนของเขา ก็เป็นโรงเรียนอีกระดับที่มีความเหลือเฟือ ผู้ปกครองไม่เดือดร้อนเงิน แต่เซ็ง ทำอย่างไรผู้ปกครองจะช่วยกันไม่ให้สิ่งอย่างนี้เกิดขึ้น หรือเอาเข้าจริงๆ ผู้ปกครองส่วนใหญ่ก็นึกสนุกที่ได้มีการบ้านสิ่งประดิษฐ์ เหมือนเป็นนักเรียนคนหนึ่ง
วิธีคิดและการปฏิบัติของโรงเรียนเพลินพัฒนานั้น ยอดเยี่ยม น่านำไปเป็นตัวอย่าง ซื้อหนังสือมอบให้โรงเรียนหลานสักเล่มซีคะ เผื่อผู้บริหารโรงเรียนอาจเกิดแรงบันดาลใจใหม่ๆนะคะ
สวัสดีค่ะคุณหมอ ขอบคุณที่นำรูปมาฝากถึงที่ น้องซูซานเขาบอกว่าดิฉันดู "ไฮโซ" สมชื่อคุณนายดอกเตอร์ค่ะ ซึ่งไม่ได้ตั้งใจจะมี look เช่นนั้น มันเป็นเองค่ะ
เลยขอประกาศว่าผ้าพาดคอนั้นได้เป็นของขวัญในวันนั้นจากดร.วัลลา ตันตโยทัย เลยแกะห่อใช้เลยค่ะ
มาแกะรอยติดตามความรู้ค่ะ....แหววไม่ได้ลงทะเบียนเข้าห้องย่อย เพียงไปชมนิทรรศการวันที่ 30 เท่านั้น
ขอบคุณน้องแจ๋วแหววที่มาตามเก็บความรู้ เสียดายไม่ได้เจอกันในงานนะคะ
น้องซูซานบอกว่าพี่แต่งไทยแบบนี้ดูไฮโซเจงๆสมนามแฝง ^_^ มันช่วยไม่ได้นะคะ
อ่านที่น้องซูซานเขียนแล้ว เศร้าใจโรงเรียนค่ะ
จริงๆครูต้องให้นักเรียนทำเอง วิธีก็ ให้คิด ให้ทำเดี๋ยวนั้นเลย พอให้เป็นการบ้าน ผู้ปกครองอดไม่ได้ก็ช่วยทำ
พี่เองก็เคยเป็นแอบช่วยลูกทำงานศิลปะ แต่ครูเขารู้ทัน ให้กลับมาทำใหม่ เขาบอกว่า ดูฝีมือเด็กออก ลูกอยู่เซ็นต์คาเบรียลค่ะ
มีหลานสาวอยู่คนหนึ่ง เป็นนักล่ารางวัล ประกวดการเขียนภาพ แต่เขาให้ทำที่งานเลย ไม่ให้คิดมาก่อน เขาได้รางวัลมาแยะเลย พอเด็กได้ทำเอง ได้รางวัลเอง มันเป็นเหมือนความภาคภูมิใจของเขานะคะ
สำคัญที่โรงเรียน ต้องให้เด็กแสดงออกเอง ผู้ปกครองอย่างพี่ จะได้ไม่มีโอกาสช่วย ได้แค่ลุ้นค่ะ
สวัสดีครับ ไม่ได้ทักทายคุณนายด๊อกเตอร์เลยครับตั้งแต่งานมหกรรม แต่ยังจำคำแนะนำของอาจารย์ที่บอกเกี่ยวกับเรื่องโรงเรียนของลูกๆผม ทีคงไม่มีโอกาสส่งมาเรียน"แบบเพลินพัฒนา" ว่าให้หาจุดได้เปรียบของความเป็นชนบท ที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ได้ความเอื้ออาทรจากชุมชนเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ถ้าส่งเสริมการไฝ่เรียนรู้น่าจะพัฒนาได้เหมือนกัน
ผมได้เรียนรู้จากเพลินพัฒนาว่า อย่าปล่อยให้โรงเรียนเป็นผู้รับผิดชอบอย่างเดียว เราก็สามารถมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมของโรงเรียนได้ด้วยในฐานะผู้ปกครอง "แล้วผมจะพยายามไปเยี่ยมครูที่โรงเรียนลูกผมครับ "
ขอบคุณผู้ดำเนินรายการในวันนั้นครับ ที่ให้ผมใช้ความรู้สึกในการเล่าเรื่อง มันมีความสุขมากครับที่ได้เล่า
สวัสดีค่ะอาจารย์Panda อยู่บนเวทีมองเห็นอาจารย์จำได้ทันทีเลยค่ะ เสียดายไม่มีโอกาสได้กราบสวัสดีอาจารย์
พบกันในงานประชุมใหญ่ๆก็อย่างนี้แหละนะคะ มีอะไรให้ต้องไปดู ไปฟังเฉลี่ยๆไป
ขอบคุณที่กรุณาแวะมาเยี่ยมค่ะ
สวัสดีค่ะคุณพี่ศศินันท์ ขอบคุณที่ร่วมแชร์ประสบการณ์ค่ะ คนไม่มีลูก ไม่ได้เลี้ยงเด็กใกล้ชิดพูดได้ก็แค่ที่เห็นและคิดนะคะ แต่เท่าที่พบเห็นอย่างที่บ้านแม่บ้านเขามีลูกหลาน เขาจะบอกว่าเสียเวลาที่จะมาค่อยๆสอน ค่อยๆบอก บอกว่ารำคาญ เลยรีบๆทำเพื่อให้เสร็จแค่ให้เด็กมีงานไปส่ง นี่ระดับโรงเรียนวัดค่ะ
โรงเรียนที่มีชื่อเสียงว่ามีแต่คนร่ำรวยเท่านั้นจึงจะมีปัญญาส่งลูกไปเรียน มักมีปัญหาคล้ายๆกัน คืองานการบ้านที่เป็นสิ่งประดิษฐ์ และการใช้ชีวิตของเด็กที่โรงเรียนมักเป็นโอกาสได้แสดงออกถึงความร่ำรวยของครอบครัวเด็กหากคุณครูไม่ระมัดระวังและเข้มงวดพอนะคะ
สวัสดีค่ะคุณอเนก ดีใจที่ทำให้คุณอเนกหายเครียดและมีความสุขที่ได้เล่า เรื่องเล่าของคุณอเนกก็ได้สร้างความสุขให้กับผู้มาร่วมเข้าฟังเช่นกัน
โรงเรียนแบบเพลินพัฒนาจะมีขึ้นในจุดต่างๆของสังคมไทยก็ด้วยแรงตั้งใจอย่างคุณอเนกนี่แหละค่ะที่ไม่เอาความรับผิดชอบในการเรียนรู้และการพัฒนาของลูกหลานให้ตกเป็นภาระหน้าที่ของโรงเรียนแต่ฝ่ายเดียว
ยินดีมากที่ได้มีโอกาสสนทนากัน ได้รู้จักกันมากขึ้น หวังว่าวันหนึ่งคงได้ไปเยี่ยมกันถึงนครพนมค่ะ
อยากรู้เกี่ยวกับบุคคลที่น่าสนใจในแนวคิดหลักการจัดการสมัยต่างๆ
ตอบทางเมล์ให้หน่วยนะค่ะขอบคุณค่ะ