ดิฉั้นเพิ่งอ่านหนังสือจบลง มันยังวางอุ่นๆ อยู่ข้างตัว อยู่เลย...เมษายน 2550 ดิฉั้นเดินทางพร้อมลูกๆไปหาครูบาสุทธินันท์ที่มหาชีวาลัยอิสาน จ.บุรีรัมย์ ได้พบผู้หญิงคนหนึ่ง..."พี่หน่อย" เธออายุมากว่าดิฉั้นเพียง 2 ปีแต่ทว่าสิ่งที่เธอทำนั้นยิ่งใหญ่มาก...เธอเป็นนักกิจกรรมทำงานเพื่อสังคม..โดยการเขียนโครงการขอทุน...ต่างๆเพื่อมาทำงานด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่จ.สุรินทร์ในนาม"กลุ่มเด็กรักป่า" รับทราบว่าพี่หน่อยไม่ค่อยสบาย...เป็นโรคไต...ทราบเท่านั้นจริงๆ
หลังจากนั้นเราทักทายคุยกันบ้างทางอีเมลส่งบอกความคิดถึงกันบ้างเมื่อใจคิดถึงกันเดือนละครั้งเห็นจะได้ล่าสุดมีอีเมลจากพี่หน่อยมาถึง...จะมีงานเปิดตัวหนังสือของเธอที่ห้องสมุดเล็กๆ ในกรุงเทพฯ หากดิฉั้นอยู่แถวๆ กรุงเทพก็ขอให้เธอได้รับเกียรติไปร่วมงานเปิดตัวหนังสือของเธอ....แต่ดิฉั้นก็พลาดงานนั้นไป.....
พฤหัสที่ผ่านมากัลยาณมิตรท่านหนึ่งส่งหนังสือเล่มนี้มาให้ดิฉั้น....โดยไม่มีโน๊ตใดๆอย่างที่เคยทำ ดิฉั้นรู้สึกขอบคุณในใจไม่ได้โทรกลับอย่างที่ควรจะทำ คิดต่อว่าคงมีอะไรดีๆ ในเล่มนี้แน่ๆ เธอจึงตั้งใจส่งให้ดิฉั้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ ดิฉั้นตอบสนองความตั้งใจของเธอโดยวางหนังสือเล่มอื่นที่อ่านค้างอยู่ ใช้เวลาตอนตื่นเช้าและก่อนนอนบ้างเริ่มอ่านตั้งใจว่าจะอ่านให้จบโดยเร็วและจะส่งคืนเธอ
"ช่วยหน่อยเปลี่ยนไต บันทึกเหนือทุกข์ เหนือสุข" ผู้เขียนอาริยา โมราษฏร์.....เป็นงานเขียนของ "พี่หน่อย" หนังสือเล่มนี้สร้างความตราตรึงในทุกอักษรทุกบรรทัดทุกช่องว่างตัวอักษร เธอเขียนถึงชีวิตที่ต้องเผชิญกับโรคไตระยะสุดท้ายเธอได้รับไตจากคนที่เธอไม่รู้จัก
ชายคนหนึ่งจากความตั้งใจทำกุศลยิ่งใหญ่แก่เพื่อนมนุษย์ที่เขาไม่รู้จักเลยในชีวิต เธอมีชีวิตใหม่ได้อีกครั้งจากกุศลของคนรอบข้าง ด้วยพลังจากคนรอบข้างพลังความหวังดีและกำลังใจจากเพื่อนมนุษย์ที่มีให้เธอด้วยอนิสงค์ของความดีที่เธอทำมาตลอดชีวิตที่ถือว่าน้อยนิดมากแต่ทว่าทำด้วยความตั้งใจและใส่ใจ เท่าที่จะทำได้เธอใช้ต้นทุนความรักเกื้อหนุนความฝันทั้งเล็กและใหญ่ของคนรอบข้างเธอโดยไม่หวังผลตอบแทน ตลอดมา
เธอพบว่าภายในเธอเบิกบานอิ่มไปด้วยความดีงามของผู้คนที่อยู่รอบข้างส่งผลให้หัวใจอบอวลไปด้วยมิตรภาพ ความรักและความฝัน ในขณะที่โรคภัยก็รุมเร้าแต่ทว่าในใจเธอเบิกบานเร่งทำความดีแข่งกับเวลาที่เหลืออยู่ของเธอ
หนังสือเล่มนี้สะท้อนบุคลิคของผู้หญิงที่เข้มแข็งแต่ทว่าอ่อนโยนคนหนึ่งที่มีชีวิตอยู่เพื่อทำความดีแข่งกับเวลาดิฉั้นอ่านจนจบวางมันลงอย่างมีความรู้สึก.....มีพลัง..ขอบคุณ คุณรัตติยา เขียวแป้น...ที่ส่งหนังสือเล่มนี้มาให้ ขอบคุณพี่หน่อย ที่เขียนหนังสือเล่มนี้....