มีข้าวที่หุงแล้วอยู่ 5 กิโล ทำยังไงให้เก็บไว้กินได้นาน


วิธีการของคุณน้องเธอก็คือ เธอแบ่งข้าวสุกใส่ถุงพลาสติค แล้วมัดปากถุงให้แน่น ถุงละมื้อ แล้วเอากลับไปยัดไว้ในช่องแช่แข็งของตู้เย็นธรรมดา วิธีนี้สามารถเก็บข้าวเหล่านี้ไว้กินได้เป็นเดือน

     ปัญหานี้เกิดขึ้นจริงครับ กับเมื่อคราวก่อนที่ผมมาญี่ปุ่น มีน้องเปิ้ล นักศึกษาปริญญาเอกชาวไทยคนหนึ่ง เขาหิ้วข้าวมาจากเมืองไทย 5 กิโล แล้วต้องไปพักอยู่นอกมหาวิทยาลัย ที่พักไม่มีครัวให้ทำ ไม่มีหม้อหุงข้าว  ก็เลยต้องมาหาหยิบยืมใช้จากคนที่มีหม้อหุงข้าว ทีนี้จะมาขอใช้ทุกวันก็ดูกระไร คุณเธอ ก็เลยขอหุงข้าวทั้งหมด 5 กิโล ให้สุกในครั้งเดียว.....หม้อไม่ได้ใหญ่มากหรอกครับ แต่เธอหุงหลายๆครั้ง ระหว่างที่รอข้าวสุกนั้น เราก็คุยกันไปเรื่อยๆ

     เมื่อคราอยู่เมืองไทย ปัญหาเรื่องการเก็บข้าวสุก ไม่เคยอยู่ในหัวของผมสักครั้ง ทุกครั้งที่กินข้าวเหลือ เมื่อก่อนก็จะเก็บข้าวไว้ในหม้อหุงข้าว เสียบปลั๊กไว้ปล่อยให้อุ่นอย่างนั้นจนถึงมื้อต่อไป  ปัจจุบันเมื่อมีข้าวเหลือ เพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน ก็จะคดข้าวใส่ทัฟเปอร์แวร์ปิดฝา แล้วเอาไปแช่ไว้ในตู้เย็นจนมื้อต่อไปแล้วค่อยนำมาอุ่นรับประทาน ซึ่งไม่ว่าเป็นวิธีไหนก็เก็บเจ้าข้าว 5 กิโลไว้กินได้ไม่นานหรอกครับ

     วิธีการของคุณน้องเธอก็คือ เธอแบ่งข้าวสุกใส่ถุงพลาสติค แล้วมัดปากถุงให้แน่น ถุงละมื้อ แล้วเอากลับไปยัดไว้ในช่องแช่แข็งของตู้เย็นธรรมดา วิธีนี้สามารถเก็บข้าวเหล่านี้ไว้กินได้เป็นเดือน  ช่างเป็นวิธีการที่ดีทีเดียว

     มาคราวนี้ ผมก็เลยขอยืมวิธีการของเธอมาใช้บ้าง คือหุงข้าววันละหม้อ แล้วแบ่งใส่ถุงไว้ เก็บในช่องแช่แข็ง เมื่อไหร่จะทานก็เอาออกมาอุ่นในไมโครเวฟ สะดวก รวดเร็ว ได้ข้าวร้อนเหมือนหุงใหม่ในเวลาอันรวดเร็ว สบายเลยเรา

หมายเลขบันทึก: 126972เขียนเมื่อ 11 กันยายน 2007 06:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 03:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (29)

สวัสดียามเช้าค่ะ  คุณไมโต...Mitochondria  

  • เป็นความคิดที่ดีมากค่ะ  แบบครูอ้อยน่าจะทำแบบนั้น  เพราะไม่ชอบการล้างหม้อข้าวเลยค่ะ..อิอิ

แวะมาทักทายด้วยความคิดถึงค่ะ

สวัสดีตอนเช้าครับ ครูอ้อย

  • ครูอ้อยความไว ไม่เคยเป็นรองใครเลยนะครับ
  • ปกติครูอ้อยไม่ต้องลงมือทำกับข้าวเองไม่ใช่หรือครับ มีข่าวแว่วๆมาว่า คนใกล้ตัวครูอ้อยนี่ มีฝีมือด้านนี้สุดๆ  จนหลายคนติดอกติดใจ อยากตามกลับไปชิมรสมืออีกสักหลายๆครั้ง
  • ในเมื่อทำแล้ว อย่าลืมล้างให้ด้วยต่ะ....อิ  อิ
  • น่าสงสารเนอะ
  • คนไกลบ้าน
  • สงสัยต้องหาวิธีทำบ้าง
  • แต่ผมกินได้ทุกอย่างไม่จำเป็นว่าต้องเป็นข้าวครับ
  • แต่ไม่กินหิน ทราย ถนน อาคาร เหมือนคนบ้านเรานะ
  • ดีใจเหมือนได้แก้วที่ได้อ่านบันทึกพี่
  • ถ้ามีโอกาสคงได้พบกันนะครับ
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ คุณน้องขจิต

  • ดูเหมือนกับเราคุ้นเคยกันทางบล็อกโดยยังไม่ได้พบปะตัวเป็นๆกันนะครับ มีแต่คนที่เคยพบคุณน้องบอกเล่าเรื่องราวให้ฟัง ว่าคุณขจิตน่ารักอย่างนั้น น่ารักอย่างนี้  จนอยากเจอตัวเป็นกันจริงๆ
  • ผมอยากจะกินได้ทุกอย่างเหมือนคุณขจิตจริงๆ แต่ลิ้นเจ้ากรรมดันเลือกกิน อาหารอะไรไม่ถูกปาก เจ้าลิ้นก็ไม่ค่อยจะยอมรับเข้าไปเสียด้วยซิ แต่ผมกินไม่ยากนะครับ หากไม่มีอะไรกิน แค่ข้าวไข่เจียวจานนึงก็ใช้ได้แล้วครับ
  • ยังไงก็ไม่กิน อิฐ หิน ดิน ทราย หรือสนามบิน เช่นเดียวกันครับ สงสารประเทศชาติ และอยากสาบแช่งคนที่กินของพวกนี้ให้........
  • วิธีนี้ใช้ได้ดี ทีเดียวครับ เวลาอยู่ไกลบ้าน หรือมีเวลาจัดการไม่มาก เพราะทุกอย่างจับเข้าไมโครเวฟ รอแป๊บเดียว ก็ได้ข้าวและกับร้อนๆมาทานแล้วล่ะครับ

วิธีทำครั้งเดียวแล้วแบ่งห่อหรือแพ็คเก็บไว้นี่ รู้สึกจะเป็นวิธีที่มาจากนศ.PhD ที่เรียนเมืองนอกเมืองนากันนะคะ ที่เพิร์ธพี่โอ๋ก็จะเห็น หลายๆหนุ่มสาวเขาทำกับข้าวอาทิตย์ละครั้ง แล้วแบ่งไว้เป็น 5-6 ห่อใส่ตู้เย็นไว้ บางคนก็ผัดไส้แซนวิชไว้ทีละกล่อง แต่ละวันก็เอามาใส่ขนมปังจับเข้าเครื่องทับแซนวิชได้เป็นอาหารกลางวันทุกวัน กุ้งตัวๆก็ซื้อมาแกะ ลวกน้ำร้อนแล้วก็แบ่งเป็นห่อๆด้วยพลาสติก wrap ใส่ช่องแข็งให้หยิบออกมาได้ทีละห่อ ละลายก็ง่าย

เรียกว่าอาทิตย์นึงก็ทำกับข้าวหนเดียวพอ วันอื่นๆก็แค่เอามาอุ่นไม่เสียเวลาดี

แต่เรื่องข้าวนี่เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละค่ะ ยังไงๆก็คงอร่อยน้อยลงเรื่อยๆนะคะกว่าจะได้กิน สู้หุงเอาใหม่ๆไม่ได้ เคยเห็นพี่คนนึงเธอมีหม้อหุงข้าวประจำตัว ใบเล็กนิดเดียว หุงพอกินคนเดียวน่ะค่ะ ดี๊ดี

ต้องบอกว่านี่เป็นของแถมที่สุดยอดเลยนะคะ (การใช้ชีวิต) สำหรับการไปเรียนต่อต่างประเทศเนี่ย

พี่โอ๋ครับ 

  • ดูเหมือนว่า ทุกอย่างจับแช่แข็งไว้ได้ พออยากทานก็เอาออกมาเข้าไมโครเวฟ ส่วนรสชาดอาจเปลี่ยนแปลงไปบ้างสำหรับคนที่มีลิ้นพิเศษแบบที่สามารถแยกความแตกต่างของรสชาดออกได้ในระดับนาโน ส่วนลิ้นจรเข้อย่างผม ขอเพียงข้าวร้อนๆ กับข้าวร้อนๆ ก็แยกไม่ออกแล้วล่ะครับ ว่าแตกต่างหรือเปล่า เพราะท้องมันร้องบอกว่า รับประทานเข้าไปเถิด เร็วๆซิ.....
  • ที่นี่เขามีหม้อหุงข้าวใบเล็กๆให้ยืมครับ ก็สะดวกดี วันหนึ่งหุงข้าวครั้งเดียว แล้วก็เก็บส่วนที่เหลือไว้ในหม้อ เสียบปลั๊กอุ่นไว้ กลับมาตอนเย็นก็ทานได้เลย แต่มาคิดอีกทีก็เพิ่มปัญหาโลกร้อน แบ่งข้าวใส่ถุงแช่เย็นไว้อย่างน้องเขาดีกว่า    กลับมาเอาเข้าเวฟ ก็กินได้ทันทีเหมือนกัน ประหยัดไฟกว่าด้วย แม้ไม่ต้องจ่ายค่าไฟก็ตาม

เอาแล้วไหมล่ะ ความรู้จากห้องแลบสู่ห้องครัว

โอ้ย.....กลับเมืองไทยคราวนี้น้ำฝน น้ำฟ้า และคุณแม่ คงได้ทานอะไรแปลก ๆ เพิ่มเป็นแน่ (ยกเว้นผัก) ฮา ๆ ๆ

แต่ของอึ่งหุงแล้วเก็บเข้าตู้เย็น เวลาจะเอามาอุ่นมันแข็ง ๆ แล้วยุ่ย ๆ ไม่อร่อยเลย (ลูกชายบอก) จะมีวิธีไหนดีเนี่ย

พี่ชายไมโต

คงเหมือนกับที่เราซื้ออาหารแพคกล่องในร้านสะดวกซื้อเหมือนกันนะครับ พอเอาเข้าไมโครเวฟก็อุ่นน่ารับประทานเหมือนหุงเสร็จใหม่ๆ แต่ยังไงก็ตามยังขาดจิตวิญญาณอยู่นิดๆ แต่เอาเถอะ...มันอยู่ที่ใจปรุงเเต่งต่างหาก

ทานข้าวให้อิ่มนะครับพี่ไมโต....จะได้มีแรงเรียนและมีแรงคิดถึงคนอยู่ทางนี้

สวัสดีค่ะคุณไมโต

           สงสัยต้องเอาข้าวเย็นแช่แข็ง เหมือนที่คุณไมโตแนะนำซะแล้ว เพราะส่วนใหญ่ที่บ้าน ถ้าข้าวเหลือค้างคืน มักจะกลายเป็นอาหาร นก หมา แมว ไก่  ข้างบ้านหมดค่ะ

อ้าว พี่ไมโต ไปอยู่ญี่ปุ่นแล้วเหรอค่ะ :)

อ่านบันทึกการหุงข้าวของพี่ไมโตแล้ว ทำให้นึกถึงรายการ TV champian อยู่อย่างประหยัดหมื่นเยนในโตเกียวเลยค่ะ

สวัสดีครับ

P

คุณอึ่งอ๊อบ

  • เมื่อกลับถึงบ้าน พวกเด็กๆคงไม่ได้กินอะไรแปลกๆหรอกครับ เพราะคุณสมจินกะเจ้าน้ำฝนจะเป็นคนจัดการเมนูประจำวัน วันไหนคุณแม่ไม่อยากทำ หรือมีเมนูไม่น่าสนใจ หรือวันไหนเจ้าน้ำฝนดูทีวีได้เมนูน่าสนใจมาล่ะก้อ วันนั้นเจ้าน้ำฝนก็จะเป็นแม่ครัวเองครับ ผมกะน้องน้ำฟ้า เป็นเพียงขุนพลอยขยับ รอกินกับครับ
  • ถ้าข้าวแช่เย็นในตู้เย็น 4 องศา ระบบในตู้เย็นจะดูดน้ำออกจากข้าว ทำให้ข้าวแข็งขึ้น ยุ่ยๆ ขึ้น ทานไม่อร่อยเหมือนข้าวหุงใหม่ แต่ถ้าแช่แข็ง ลักษณะตอนแช่จะแข็งโป๊กเหมือนอาหารแช่แข็งปกติ ที่เขวี้ยงไปโดนหัวใครก็แตก พอจะทานก็เอาออกมาอุ่นในไมโครเวฟให้ร้อน ลักษณะจะเหมือนกับข้าวหุงใหม่ ไม่มีผิดเลยครับ ทานได้อร่อยไม่แพ้กัน
P น้องเอกครับ
  • การทานข้าวให้อร่อย ไม่ได้อยู่ที่รสชาดของข้าวเพียงอย่างเดียว หัวใจของมันอยู่ที่การเข้าครัว ช่วยกันทำกับข้าว ช่วยกันหยิบ ช่วยกันจับครับ เสร็จแล้วค่อยมานั่งจ้องหน้า ทานด้วยกัน
  • รสชาดเป็นเพียงส่วนหนึ่งครับ บรรยากาศเป็นส่วนเสริม  จะปิดไฟแล้วจุดเทียนสลัวๆ เปิดเพลงบรรเลงเย็นๆ เหมือนบ้านคุณติ๋วก็มีส่วนช่วยให้เจริญอาหารได้มากขึ้นครับ แม้ว่าจะเป็นข้าวไข่เจียวก็ตาม
  • รวมๆสิ่งเหล่านี้ คงจะเรียกว่าจิตวิญญานตามที่คุณเอกเข้าใจมั้ยครับ
P คุณแป๊ดครับ
  • ผมเองก็เช่นเดียวกับคุณแป๊ดครับ เรามองข้ามเรื่องการถนอมข้าวเก็บไว้กินนานๆโดยรสชาดของข้าวไม่เปลี่ยนไปครับ อาจเป็นเพราะเราหุงข้าว ทำอาหารกันทุกวัน เป็นชีวิตประจำวันปกติ แถมยังมี หมู หมา กา ไก่ อยู่ข้างบ้านที่ต้องหาให้ช่วยทานด้วย เมื่อมีข้าวเหลือ ก้อเลยไม่ใช่ปัญหา จึงมีโอกาสทำอานิสงด้านการบริจาคทานอยู่เป็นนิจ
  • ลองดูซิครับ ผมคิดว่ารสชาดไม่เปลี่ยนครับ ทานได้ เป็นข้าวร้อนๆ แบบหุงใหม่ๆ ด้วย อีกอย่างจะได้ช่วยกันใช้ไมโครเวฟด้วย เพราะเป็นอีกเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่บ้านผมใช้ไม่ค่อยคุ้มค่าครับ เพราะปกติใช้เตาไฟเป็นหลัก
P อาจารย์จันทวรรณครับ
  • ผมมาได้ครบอาทิตย์ไปเมื่อวานนี้ครับ เหลืออีก 80 วัน จะได้กลับบ้านเสียที
  • รายการทีวีแชมเปี้ยน ที่ว่า 10000 เยน ให้อยู่ 1 เดือนนั้น ถือว่าโหดมากครับ เพราะจะผักจะหญ้า ที่นี่อย่างน้อยๆ ก็เริ่มต้นกันที่ 300 เยนแล้วล่ะครับ ข้าวตามร้านทั่วไปเหมือนที่เรากินข้าวแกง อย่างน้อยก้อ 500 เยนขึ้นไปครับ เปรียบไปก็ไม่ต่างกับถ้าอยู่บ้านเรา ให้ใช้เงิน 500 บาทใน 1 เดือนหรอกครับ ทำได้ครับ แต่คงทรมานน่าดู

ผมอ่านข้อความนี้

 "ผมมาได้ครบอาทิตย์ไปเมื่อวานนี้ครับ เหลืออีก 80 วัน จะได้กลับบ้านเสียที"

ทำให้ผมนึกถึงมิตรคนหนึ่ง คือ หมอแป๊ะ อ.หมอ ธนพันธ์ ขึ้นมาทันที

คุณเอกครับ

  • ความรู้สึกผมคงไม่ต่างจากหมอแป๊ะมากมายหรอกครับ
  • ตอนผมไปอยู่กัวลาลัมเปอร์ 6 เดือน ผมยังแอบหนีกลับบ้านเลย ขึ้นรถทัวร์เย็นวันศุกร์ แล้วมาถึงหาดใหญ่ เช้าวันเสาร์ ได้อยู่บ้านเสาร์อาทิตย์เช้า พอบ่ายวันอาทิตย์ก็ขึ้นรถทัวร์กลับไปเรียนต่อถึงโน่นตีสามวันจันทร์
  • หรือแม้แต่ตอนกลับ ผมก็โยนตั๋วเครื่องบินทิ้ง (refund ไม่ได้) เพราะเขาซื้อให้เป็นตั๋วจากกัวลาลัมเปอร์ไปกรุงเทพฯแล้วจากกรุงเทพมาหาดใหญ่ ซึ่งไปอ้อมโลกมา ผมก็เพียงแค่หิ้วกระเป๋าออกจากมาเลเซียตอนหัวค่ำแล้วหาเช้าที่หาดใหญ่ สบายกว่าตั้งเยอะ และไม่ต้องนอนรออีกวัน เพื่อไปต่อเครื่องในวันรุ่งขึ้น
  • ความรู้สึกเหล่านี้คงไม่ได้เกิดขึ้นทุกคนครับ ขึ้นอยู่กับว่าเขามีใจจดจ่ออยู่กับอะไร อย่างผม ผมอยากอยู่บ้าน ผมไม่เคยมีความรู้สึกว่าอยากจากบ้านไปไหน การที่ได้อยู่พร้อมหน้าค่าตากันในบ้านถือเป็นความพอใจอย่างยิ่งของผมครับ
  • สักวันคุณเอกคงจะพอเข้าใจครับ
มาอีกรอบ คราวนี้มาเป็นยามภาษาค่ะ รู้สึกว่าคุณไมโตฯของเราจะเข้าใจผิดจริงๆ เลยต้องมายืนยันอีกทีว่า รสชาติ ใช้ ชาติ นี้นะคะ ชาด = แดง ค่ะไม่เกี่ยวกับรสอาหาร คงจะเป็นอาหารชาติโน้นชาตินี้ ละมังนะคะ พี่โอ๋ใช้วิธีเดาที่มาเอาไว้กับจำคำแปลของชาด จะได้จำได้และใช้ไม่ผิดในครั้งต่อๆไป)

สวัสดีตอนเช้าครับ พี่โอ๋

  • ขอบคุณมากครับ ที่ช่วยแก้การใช้คำภาษาไทยให้ถูกต้อง ยิ่งเป็นภาษาเขียน ยิ่งสำคัญครับ เพราะเป็นการช่วยกันธำรงรักษาภาษาไทย ให้ใช้ได้อย่างถูกต้องและยืนนาน
  • รบกวนพี่โอ๋ เข้ามาแก้บ่อยๆ นะครับ เพราะคงยังมีคำที่ผมใช้ผิดอีกมาก เพียงแต่พยายามใช้และเขียนให้ถูกต้องที่สุด

อรุณสวัสดิ์ค่ะ พ่อดอกมะลิ

  • ขอข้าวสวยร้อนๆจานนึงค่ะ  แล้วกับข้าวมีอะไรที่เหลือบ้างคะ...เอามาอุ่นทานกันเร้ว....
  • อืม....เห็นอะไรแวบๆเหลืออยู่ในจาน..ท่าทางจะรสชาติดีแฮะ

แม่ไม้ดำหอม

  • เมนูวันนี้ มีไก่ผัดขิง กับกุนเชียงครับ มีน้ำพริกมะขามกุ้งเสียบด้วย สนใจมั้ยล่ะ ถ้าสนใจก็นั่งลงได้เลย เดี๋ยวจะคดข้าวให้
  • รสชาติน่ะ ดีอยู่แล้วล่ะ แต่ถ้าเอาเข้าปากเมื่อไหร่อาจจะขอเปลี่ยนคำพูดได้ เพราะฉะนั้นต้องพูดเสียก่อนที่จะกิน...

ครูอ้อยมาทักทายดวยความคิดถึงค่ะคุณไมโต...Mitochondria

  • เคยไหมคะ  เวลาทำอะไรไม่ได้  จะคิดถึงคนที่เราคิดว่าเขาช่วยได้
  • แต่พอจะพูดก็อ้าปากไม่ออก...ครูอ้อยกำลังเป็นแบบนั้นตอนนี้ค่ะ

คิดถึงค่ะ

สวัสดีครับ ครูอ้อย

  • แสดงว่าครูอ้อยกำลังกังวลใจ ไหนเล่าให้ฟังหน่อยซิครับครูอ้อยเรื่องอะไรครับ หากมีสิ่งใดที่ผมพอจะช่วยได้ล่ะก้อ ด้วยความยินดี
  • หรือจะกริ๊งกร๊างมาคุยกันก้อได้....อิ อิ...

อรุณสวัสดิ์ค่ะ พ่อดอกมะลิ

  • ตื่นสายไปหน่อยค่ะ  มัวแต่ไปเป็นครีภรรยาอยู่
  • ขอข้าวสวยร้อนๆจานนึงค่ะ  อ้อ....มีไข่เจียวร้อนๆด้วยไหมคะ  ทานกับน้ำพริกตอนเช้าๆจะได้ไม่แสบท้อง....ถ้าต้องทำเพิ่มฉันก็จะคอยนะคะ  ไม่เอากรอบนะคะ  ฉันชอบไข่เจียวนิ่มๆ  นุ่มคอดี  ไม่งั้นไอแค็กๆๆ...
  • ...แต่เอ...แค่ไก่ผัดขิง กับกุนเชียงก็OKแล้วนะ...หอมจัง...มะๆๆ...หม่ำเลยละกัน....
  • อ่ะๆ...โอย...สำลักไอข้าวร้อน

แม่ไม้ดำหอม

  • ขอโทษครับ ที่ปล่อยให้รอเสียนานเชียว เพราะมัวแต่ไปเม้าท์กับข้างบ้าน นี่คุณสมจินเธอถึงบอกว่า อย่างผมน่ะ 3 บ้านค่ำ ซึ่งหมายถึง ออกจากบ้านตั้งแต่เช้า ไปได้แค่เพียง 3 บ้านก็ค่ำเสียแล้ว....ช่างเป็นคำเปรียบเปรยที่โดนใจจริง
  • ชอบทานไข่เจียวหรือครับ ไข่เจียวร้อนๆทานกับน้ำพริก อร่อยกำลังเหมาะเลยครับ อ้อ ไม่ชอบแบบกรอบๆ จะเอาแบบนิ่มๆเหรอ อย่างนี้ก็ต้องบีบมะนาวลงไปสักครึ่งซีก ช่วยให้ไข่เจียวนุ่มขึ้น เวลาทอดอย่าเอาไฟแรงมากนะ ใช้ไฟปานกลาง น้ำมันเยอะๆ ถ้าอยากรู้ว่าไฟปานกลางเป็นยังไง ก็เอามือคุณติ๋วจุ่มในน้ำมันไว้ หากทนไม่ได้เมื่อไหร่ ก็เป็นอันใช้ได้ครับ (อันนี้....ล้อเล่น........แหรมเลย)
  • ทานได้แล้วครับ.....อ้อ...ขาดเสียงเพลงไปอีกอย่าง....เชิญครับ ......แล้วเพลงเพลง หาดทราย สายลม สองเรา ของพี่เบิร์ดก็บรรเลงขึ้น......
  • ตามสบายครับ......

สวัสดีค่ะ คุณไมโตฯ

      เรื่องเมนูไข่ ๆ นี่ถนัด  ขอแจมด้วยคนนะคะ

      ถ้าจะเจียวไข่ให้หอม ฟู กรอบ  ต้องใส่นมสดผสมลงไปด้วยค่ะ สักหนึ่งชอ้นโต๊ะ  รับรองอร่อยเหาะ

       อย่าลืมสิคะ ว่า ไข่ กับ นม หนะ เป็นของคู่กัน

 

สวัสดีครับ คุณแป๊ด

  • ของคุณกฤษณาเธอไม่ชอบกรอบๆครับ ของผมน่ะชอบยังไงก็ได้ ขอให้เป็นไข่เจียวร้อนๆกะข้าวสวย นี่ยังไม่เคยลองเมนูแบบคู่กัน ระหว่างไข่กับนม วันหลังคงต้องลองดูบ้างแล้ว เอ! รู้สึกเหมือนขาดอะไรไปอีกสักอย่าง อ๋อ ต้องใส่เนื้อลงไปด้วยจะได้ครบสูตร เป็น เนื้อ นม ไข่ สามสหาย เพื่อนเกลอ นั่นไง

มื้อเย็นนี้ล่ะคะ..มีอะไรทานคะ

...ไข่เจียวหมดแล้ว..กุนเชียงเหลือไหมคะ  ถ้าเหลือเอามาทำยำกุนเชียงต่อก็ได้ค่ะ  เปรี้ยวๆหวานๆ...แซ่บดี  แล้วเย็นนี้จะชวนฉันทานด้วยไหมคะเนี่ย  ถ้าชวนฉันจะได้หาอะไรติดไม้ติดมือมาด้วย

อ้อ..ลืมบอกไป  ไข่เจียวเมื่อเช้านี้อร่อยมากค่ะ  ต้องใส่มะนาวนิดนึงใช่ไหมคะ...ไฟปานกลางขนาดนิ้วฉันพอทน...จะจำสูตรนี้ไว้ค่ะ...ขอบคุณนะพ่อนะ

แม่ไม้ดำหอม

  • มื้อเย็นนี่ผมไม่อยู่ครับ ออกไปเดินออกเล่นข้างนอก กลับมาตอน 3 ทุ่ม มาทานข้าวด้วยไม่ได้ครับ
  • สำหรับเรื่องไข่เจียวนั้น การบีบมะนาวลงไปในไข่เจียวสักครึ่งซีก ช่วยให้ไข่เจียวนุ่มขึ้น เป็นเรื่องจริงครับ การทอดใช้ไฟปานกลาง เป็นเรื่องจริงครับ ส่วนการทดลองว่าไฟได้ที่แล้วหรือยังโดยการเอามือจุ่ม เป็นเรื่องหลอก เอสัปดาห์นี้ไหงมีเรื่องจริงสองเรื่องหว่า.....ว่าไงน้องอั้ม

เดี๋ยวๆๆๆ....คุณๆ...

  • คุณเรียกฉันว่าน้องอั้มเหรอ....นี่..ฉันไม่ได้คิดถึงน้องอั้มที่แปลว่าหม่ำนะ...แต่ฉันคิดว่าฉันเป็นน้องอั้ม-พัชราภา...เนี่ย...นั่งยิ้มหน้าบานไม่หุบแล้ว..อิ...อิ..แล้วคืนนี้น้องอั้มจะนอนหลับไหมเนี่ย....
  • ใช่ครับ คุณติ๋วก็ไม่แตกต่างจากน้องอั้ม-พัชหรอกครับ ว่าแต่ว่าจะกลืนอะไรเข้าไปลงมั้ยเนี่ย อย่ามัวแต่ลอยเป็นลูกโป่งนะ.....

ฮาๆๆๆๆๆ...

เฮ้ๆๆๆ.......เพื่อนให้ฉันเป็นอั้ม...พัด...ชรา....ภา(พ)....ไชยย.....โยวววว....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท