ภาคต้น -
(๒๗ สิงหาคม เวลา ๒o : ๑๕ น.)
ดอกไม้ ดอกไม้จะบาน..
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">
บริสุทธิ์กล้าหาญ …จะบานในใจ </p>
สีขาว หนุ่มสาวจะใฝ่
แน่วแน่แก้ไขจุดไฟศรัทธา.......
....
เสียงเพลงแห่งหนุ่มสาวก้องดังอย่างมีความหมาย ..ขณะที่ผมยืนอยู่กับลูกชายทั้งสองคนในมุมหนึ่งอย่างเงียบสงบ คลองริมชี หรือริมตลาดน้อยเต็มไปด้วยแสงเทียนกะพริบวาววับต้านลมอย่างไม่หวาดหวั่น
เสียงสวดพระพุทธมนต์สิ้นสุดลงเมื่อครู่, นิสิตจำนวนมากทยอยเดินออกไปจากริมคลองชี หลายกลุ่มยืนนิ่งอาวรณ์ หรือแม้แต่การแสดงความระลึกถึงและให้เกียรติ "เพื่อน" ผู้จากลาไปอย่างเงียบ ๆ
...
ย้อนกลับไปก่อนวันแม่เพียงไม่กี่วัน นิสิตชายท่านหนึ่งจากลาเพื่อน, พ่อแม่ และมิ่งมิตร หรือแม้แต่สถาบันโดยไม่เอ่ยลา
และเป็นการจากลาในคืนเงียบที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยวเหงา
....
จริงเท็จประการใด คือ คำถามที่ไม่อาจรู้คำตอบเกี่ยวกับเหตุการณ์แห่งการจากพราก ...
เพื่อนจากไปอย่างเงียบเหงาโดยปราศจากการพบพานของใคร ๆ หรือแม้แต่การจากลาที่อาจมีใครสักคนพานพบ (แต่นิ่งเงียบชาเฉย) ... หรือแม้แต่เพียรพยายามที่จะช่วยอย่างเต็มที่แล้ว แต่ก็ไม่อาจทานทัดมัจจุราชผู้ซึ่งเที่ยงธรรมต่อหน้าที่
หรือการจากลาครั้งนี้เป็นชะตากรรมที่พรหมลิขิตได้ขีดเส้นไว้อย่างแน่นหนาแล้ว
.....
ค่ำคืนของวันนี้ ผู้คนจำนวนมากพกพาหัวใจอันบริสุทธิ์มาร่วมแสดงความระลึกถึงและไว้อาลัยต่อการจากไปอันเงียบเหงาของเพื่อนคนหนึ่งที่จากลาโดยปราศจากโอกาสแห่งการ "บอกลา.."
ความดีงามแห่งนาฏกรรมทั้งปวงที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ ยิ่งใหญ่และงดงามยิ่งกว่าการบอกกล่าวด้วยถ้อยคำใด
ยิ่งใหญ่ เพราะกำลังบอกกับ "สังคม" ว่า ที่นี่ต้องไม่เงียบ... การตายไม่ใช่ความเงียบ เพราะที่นี่คือ "สังคม" ที่ต้องอยู่ร่วมกัน !
....
ในห้วงท้ายที่ผมเดินกลับออกมา นิสิตกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มหนึ่งยืนสงบนิ่งอยู่ฟากฝั่งหนึ่งของตลาดน้อย ผมคะเนหมายเองว่า น่าจะเป็นกลุ่มคนแห่งความรักที่สนิทแน่นกับผู้จากไป
ไม่นานนัก, ผมแว่วยินเสียงเพลงแว่วเศร้าลอยข้ามมาอย่างแผ่วเบา ผมไม่อาจรู้เลยว่าเพลงนั้นคือเพลงอะไร สรรพเสียงและบรรยากาศแห่งเพลงนั้นเป็นเช่นใดบ้าง
แต่ผมก็มั่นใจว่า เพลงนั้นได้ออกจากหัวใจของคนที่มีชีวิตอยู่และส่งผ่านสายน้ำนั้นไปสู่เพื่อนผู้จากลาในคืนเงียบ
ความตายยุติธรรมเสมอ ไม่ว่าใกล้ หรือ ไกล ก็เดินทางไปเยือนทุกคนอย่าง
เสมอภาค
</span><p></p><p></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ภาคปลาย –</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">(๒๘ สิงหาคม เวลา o๖ : ๓o น.)</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมพาตัวเองออกจากห้องหับพร้อมข้าวปลาอาหาร หรือแม้แต่ขนมนมเนยในการตักบาตร …</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมไปถึงที่หมายเป็นอันดับต้น ๆ ของผู้คนทั้งหลาย , และจากนั้นชั่วระยะสักพักพระภิกษุสงฆ์ก็เดินทางมารับบิณฑบาตอย่างถ้วนทั่ว</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">การตักบาตรครั้งนี้ ผมเชื่อเหลือเกินว่า หลายคนมาด้วยจุดมุ่งหมายอันเดียวกัน นั่นคือ การอุทิศส่วนกุศลแก่เพื่อนิสิตที่ล่วงลับไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">และผมก็เช่นเดียวกัน , ผมไปเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับน้องนิสิต ผมไม่ได้อธิษฐานใดให้กับตนเอง หรือแม้แต่คนรอบข้าง หากแต่อธิษฐานอย่างแรงกล้าในการส่งผลบุญนี้ทั้งปวง (ถ้าพอจะมีบ้าง) ไปถึงเขา ….</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p> </p><p> </p><p> </p>
สวัสดีค่ะ
หวัดดีครับพี่
สวัสดีเจ้าค่ะ ครูแผ่นดิน ถิ่นสยามที่น่ารัก
โห เศร้าจังเลยนะค่ะ..แค่นึกถึงวันที่จะต้องจากเพื่อนม.6ไปยังเศร้าเลยเจ้าค่ะ นั่นแค่เป็นการจากแต่ก็ยังหาโอกาสเจอได้ ...ถ้าไม่ได้เจอนี่สิ คงจะเศร้าเพิ่มอีกทวีคูณ
เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ---------> น้องจิ ^_^
อ่านแล้วทำให้รู้สึกว่า แต่ละคนที่ยังอยู่ในวันนี้ ได้รับโอกาสที่จะได้ทำอะไรดีๆ ให้กับสังคมต่อไปได้...
เวลาของแต่ละคนบนโลกนี้อาจมีเท่า..หรือไม่เท่ากันก็ได้.. แต่ที่แน่นอนคือ เราไม่รู้ว่าเวลาของเราจะหมดลงเมื่อใด... ดังนั้นต้องตั้งใจอยู่กับปัจจุับันและทำปัจจุบันให้ดีที่สุด...
เช้านี้อ่านบันทึกที่ทำให้นึกถึงปัจจุบันขณะถึง ๒ เรื่อง... นับเป็นเช้าที่ดีที่มีผู้มาเตือนสติถึง ๒ ครั้งค่ะ..
ขอบคุณค่ะ
มาร่วมไว้อาลัยกับลูกศิษย์อาจารย์ด้วยคนนะคะ
-----------------------------------
อ่านแล้วเศร้าไปด้วย แต่ก็คิดว่า เมื่อมีการเกิด ก็ต้องมีการจากพราก สิ่งเหล่านี้เป็นสัจธรรมที่เราต้องเผชิญ ตราบเท่าที่เรายังคงวนเวียนในวัฏสังขารนี้
สวัสดีค่ะ
ถ้าดิฉันเป็นผู้ล่วงลับท่านนั้น ดิฉันจะฝากขอบคุณมาถึงทุกคน ที่ให้ความสำคัญกับดิฉัน ในภพชาตินี้ ความตายไม่มีเครื่องหมาย ไม่มีเวลาที่แน่นอน และไม่รู้สถานที่ แต่ที่แน่ๆคือต้องพบแน่นอน ถ้าชาติหน้ามีจริงและเราได้พบกันอีก ดิฉันจะทำทุกอย่างเป็นการตอบแทน ไม่ให้คั่งค้างเหมือนชาตินี้ ลาก่อนทุกคน
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะคุณพนัส
บันทึกเศร้าๆอย่างนี้ จะว่าไปก็ดีไปอย่าง เป็นการเตือนสติเราอย่างดีค่ะ ตอนนี้เขาไปสบายแล้วค่ะ
คนอยู่ก็ทุกข์ต่อ สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ค่ะ
สวัสดีครับ...
ช่วงนี้ต้องถือว่าการงานหนักหน่วง และดูเหมือนเรื่องเศร้าจะสัญจรเข้ามาทักทายอยู่อย่างต่อเนื่อง...
การจากพรากเป็นธรรมดาสามัญของชีวิต แต่ที่พบพานก็ไม่เคยเห็นใครเฉยชาไม่รู้สึกรู้สากับการสูญเสียคนใกล้ตัวโดยไม่รู้สึกอะไร..
ค่ำคืนนั้น, นิสิตจำนวนมากและมากจริง มาร่วมไว้อาลัยจุดเทียนส่งใจไปถึงเพื่อนที่จากไปอย่างน่าชื่นชม ...
สังคม คือ การอยู่ร่วมกัน การแสดงความรู้สึกต่อสิ่งที่สะท้อนความเป็น "สายสัมพันธ์" จึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ขอบพระคุณนะครับที่แวะมาทักทาย... และผมต้องขออภัยอย่างยิ่งที่ตอบบันทึกล่าช้าเอามาก ๆ ..
สวัสดีครับ อ.ขจิต
สวัสดีครับ อ.ย่ามแดง
ขอบคุณที่แวะมาร่วมแสดงความเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้ รวมถึงการนำพาข้อคิดเตือนใจมาฝากด้วยเช่นกัน
เมื่อไม่สามารถต้านทานพญามัจุราชได้..ก็ขอส่งความระลึกถึงและความเสียใจมาพร้อมกันนี้ครับ
สำหรับคนที่อยู่ก็คงต้องตระหนักอยู่เเสมอว่าเราจะไม่ประมาทกับความ"ตาย"
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ ป้าแดง
การจากลาในทำนองนี้, บางทีนี่อาจจะเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดของเขาคนนี้ก็เป็นได้ เพราะไม่ต้องมาเหนื่อยกับการโลดแล่นทยานไล่ล่าความฝันใด ๆ อีกแล้ว
แต่สำหรับคนที่ยังมีชีวิตอยู่โดยเฉพาะญาติก็คงเศร้าใจยาวนานอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าไม่นาน ทุกอย่างก็จะผ่านพ้นไปด้วยดี และทุกอย่างก็จะประทับตรึงไว้ในความทรงจำเป็นสำคัญ
....
ขอบพระคุณครับ
สวัสดีครับ หนูจิ
การจากที่ยังมีโอกาสได้เจอกันนั้น...ยังถือว่าโชคดี และการจากพรากที่หมายถึงการล่วงลับนั้นก็เป็นธรรมดาที่นำพาความเศร้าโศกมายังมิ่งมิตรชิดใหล้
แต่บางครั้ง, การล่วงลับเช่นนี้ก็น่าจะหมายถึงการหลุดพ้นไปสู่ความสุขสงบได้เหมือนกัน ..ใช่ไหม
สวัสดีครับ อ.กมลวัลย์
ขอบพระคุณนะครับที่นำมุมชีวิตดี ๆ มาฝาก และช่วยเตือนสติเราทุกคน
เวลาของแต่ละคนบนโลกนี้อาจมีเท่า..หรือไม่เท่ากันก็ได้.. แต่ที่แน่นอนคือ เราไม่รู้ว่าเวลาของเราจะหมดลงเมื่อใด... ดังนั้นต้องตั้งใจอยู่กับปัจจุับันและทำปัจจุบันให้ดีที่สุด...
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ
ไม่มีการสูญเสียใดที่ไม่ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวด โดยเฉพาะการสูญเสียคนที่ทำดีเพื่อสังคม ... และหนึ่ในนั้นก็รวมครูที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตที่ภาคใต้ด้วย
และนี่คืสัจธรรมของชีวิตที่เราต้องยึดและตระหนักอย่างหนักแน่น
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ พี่อัมพร
สวัสดีครับ คุณต้อม
ช่วงนี้นิสิตในมหาวิทยาลัยเสียชีวิตบ่อยครั้งขึ้น บันทึกนี้จึงเป็นห้วงอารมณ์ที่เกิดขึ้นจากปรากฎการณ์ของการสูญเสียเหล่านั้น
ขอบคุณนะครับที่แวะมาให้กำลังใจและนำพาแง่งามของชีวิตมาฝาก
ขอบคุณมาก ..น้องนุ้ย
ขอบคุณที่ช่วยเก็บภาพบรรยากาศนั้นไว้ พี่เองก็บันทึกภาพไว้บ้าง แต่ค่ำคืนนั้นมันเปลี่ยวเศร้าจริง ๆ
สวัสดีครับ
อ่านทัศนะแล้ว .. ผมซาบซึ้งจนไม่รู้จะตอบด้วยถ้อยคำใด ได้แต่ขออนุญาตนำกระบวนความเหล่านั้นมากล่าวซ้ำอีกรอบ นะครับ
สวัสดีครับ พี่สมนึก
สวัสดีครับ
ขอบคุณมากเลยครับ
และกระบวนความข้างต้นที่นำมาฝากไว้ในบันทึกของผมนั้น ถือได้ว่าสำคัญมากสำหรับผู้มีชีวิตอยู่
เพราะคนที่มีชีวิตอยู่สามารถเรียนรู้ชีวิตจากข้อบกพร่องของผู้ที่จากไปได้ รวมถึงการต่อยอดต่อความดีงามของเขาด้วยเช่นกัน
....
ขอบคุณอีกครั้งนะครับ
สวัสดีครับ คุณกาเหว่า
การสูญเสีย ตอกย้ำให้คนที่มีชีวิตอยู่ได้ตระหนักถึงวันเวลาที่มีอยู่อย่างน้อยนิด
และนั่นหมายถึงการทำวันนี้ให้ดีที่สุด .. และคำว่าดีที่สุดก็หมายถึง การลงมือทำในสิ่งอันเป็นความงดงาม ...
ผมเชื่อเช่นนั้นนะครับ
สวัสดีครับ พี่ศศินันท์
บันทึกเศร้าๆอย่างนี้ จะว่าไปก็ดีไปอย่าง เป็นการเตือนสติเราอย่างดีค่ะ ตอนนี้เขาไปสบายแล้วค่ะ
คนอยู่ก็ทุกข์ต่อ สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ค่ะ
ขอบพระคุณมากครับที่มาช่วยเติมเต็มสัจธรรมแห่งชีวิตในบันทึกนี้
เศร้าจังเลยค่ะ พี่เพิ่งจะไปงานส่งอาจารย์ของพี่ท่านหนึ่งไปสวรรค์ค่ะ ท่านจากไปด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หลังจากเกษียณได้ 2 ปีค่ะ วันก่อนอ่านเรื่องที่ท่านเขียนเกี่ยวกับความฝันหลังเกษียณ ทำนบน้ำตาก็พังอีกครั้ง
ขอให้น้องนักศึกษาสู่สุขคติด้วยค่ะ
สวัสดีครับ
เป็นธรรมดานะครับที่เราจำต้องพบพานกับเพื่อนในหลายลักษณะ
แต่ถึงอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนลักษณะใดก็ล้วนแต่เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ชีวิตด้วยกันทั้งนั้น
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ อ.แป๋ว
ไม่มีการสูญเสียใดที่ไม่นำพาความเศร้าสะเทือนใจมาสู่ผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ถ้ามองในแง่ดี ผู้จากลานั้นก็ถือว่าหลุดพ้นจากห้วงกรรมไปอีกวาระหนึ่งแล้ว
ดีที่สุดสำหรับผู้มีชีวิตอยู่ก็คงได้แต่ภาวนาให้ผู้จากลานั้นสู่สุขคติภพ และเราก็หันกลับมาทำวันนี้ให้ดีที่สุดกันต่อไป
...
ขอบพระคุณครับ