"ถ้าคนที่รู้ว่าตัวเองโง่คือคนฉลาด" มีค่าความจริงเป็นจริง ดังนั้นมาสอนคนให้โง่กันเถิดครับ


สวัสดีครับทุกท่าน

คำแนะนำเบื้องต้นสำหรับบทความนี้

  • บทความนี้ใช้คำว่า โง่ กับ ฉลาด หากท่านใดไม่ชอบคำว่าโง่ ให้แทนด้วยคำว่า ไม่รู้  และ หากไม่ชอบคำว่า ฉลาด ให้แทนด้วยคำว่า รู้

  • ขอบพระคุณมากครับ


         ทุกท่านคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า

คนที่รู้ว่าตัวเองโง่ คือ คนฉลาด  ใช่ไหมครับ ดังนั้น หากข้อความนี้เป็นจริง ผมจะขออนุญาตแปลงความนี้เป็นแบบเงื่อนไขนะครับ นั่นคือ

ถ้ารู้ว่าตัวเองโง่ แล้วเป็นคนฉลาด

ทำให้คิดต่อไปได้ว่า

  • คนฉลาด แล้ว อาจจะไม่รู้ว่าตัวเองโง่  ก็เป็นได้   หรือ

  • คนฉลาด แล้ว อาจจะรู้ว่าตัวเองยังโง่อยู่ ก็เป็นได้ ครับ  หรือ

  • ไม่รู้ว่าตัวเองโง่ หรือ เป็นคนฉลาด

หากข้อความ ถ้ารู้ว่าตัวเองโง่ แล้วเป็นคนฉลาด  นี้เป็นจริง แล้ว

ผมคิดว่า เราควรจะสอนคนให้รู้ตัวว่าตัวเองโง่ ให้ตัวเองเข้าถึงความโง่ของตัวเองในเรื่องนั้น แล้วเราจะไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น เพราะอะไร

  • เมื่อเรารู้ว่าเราโง่ เราจะเปิดใจที่จะเรียนรู้ เพราะถือว่าตัวเองว่าง

  • เมื่อเรารู้ว่าเราโง่ เราจะไม่ยึดติดตัวเราตัวข้า ข้าแน่ เป็นหนึ่งในยุทธจักร

  • เมื่อเรารู้ว่าเราโง่ เราไปขอความรู้จากปราชญ์ต่างๆ เราก็จะได้รับการช่วยเหลือและสนับสนุนอย่างดี

  • เมื่อเรารู้ว่าเราโง่ ทำให้เราค้นหาสิ่งที่ฉลาดได้ที่เป็นครูให้เราได้เช่น ธรรมชาติเป็นครูคนแรกของเรา ต่อมาอาจจะเป็นพ่อแม่ และมีครูอื่นๆ ตามมา

  • เมื่อเรารู้ว่าเราโง่ จะทำให้เราตัวเล็กๆ แล้วเราจะเห็นอะไรมากขึ้น ด้วยความสงสัยอยากรู้ เราเข้าถึงสิ่งที่เป็นธรรมชาติเหล่านั้นด้วยความโง่ที่เรารับรู้ในตัวเรา

  • เมื่อเรารู้ว่าเราโง่ เราจะไม่ยึดติดกับสิ่งที่คิดว่าตัวเองรู้มานั้นถูกต้องแล้ว ทำให้เราไม่อยู่ในกะลาครอบ หรือกบในกะลาครอบ หรือคนในหมวกใบต่างๆ ที่สวมด้วยตำแหน่งต่างๆ มากมาย

  • เมื่อเรารู้ว่าเราโง่ ...เราจะ... อะไรอื่นๆ อีกมากมายครับ

แล้วหากคุณคิดกลับกันหล่ะครับ เป็นหากเรารู้ว่าเราฉลาด หรือคิดว่าตัวเราฉลาดหล่ะครับ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ลองเขียนหรือกลั่นออกมาดูนะครับ ให้คิดกันเองนะครับ

การศึกษาเราที่มีส่วนหนึ่งล้มเหลว ก็เพราะเรามุ่งหวังที่จะสอนให้คนเก่ง สอนให้คนฉลาด หรือเปล่าครับ เมื่อเราหวังอย่างนั้น เลยอาจจะทำให้ไปไม่ถึงเป้าหมาย แล้วหากการศึกษาเราสอนให้คนรู้ว่าตัวเองโง่หล่ะครับ เราจะไปถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าไหมครับ.... ลองคิดดูนะครับ

สำหรับตัวผมเอง ผมค้นพบว่า ยิ่งเรียนยิ่งรู้ว่าตัวเองโง่ ยิ่งทำให้มีความรู้สึกอยากรู้ในหลายๆ เรื่อง แต่เมื่อลงลึกไปในแต่ละเรื่องก็ยิ่งรู้ว่าโง่อีก ทำให้ชีวิตการเรียนรู้ของเรานั้น ไม่จบสิ้น จนมาถึงวันนี้ ก็ขอสรุปว่าตัวผมเองนั้นโง่มากครับ

ผมรู้สึกดีที่ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับหลายๆ ท่าน ทำให้ผมได้รับรู้หลายๆ อย่างในสิ่งที่ผมรู้สึกว่าผมโง่และไม่รู้อยู่มากมาย สิ่งเหล่านี้ เป็นกำไรของชีวิตตลอดช่วงการเรียนรู้

ผมสังเกตว่า เมื่อครูสอนผม แล้วผมทำท่าพยักหน้าว่าผมรู้ทั้งๆที่ผมไม่รู้ในเรื่องนั้น ผมจะโง่นาน แล้วโง่ลึกครับ  แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณครูสอนแล้วผมก็ไม่เข้าใจ ผมพยายามถามอยู่อย่างนั้นหล่ะ เพราะอยากรู้ เพราะรู้ตัวว่าตัวเองกำลังโง่อยู่ จะทำให้ผมเข้าถึงสิ่งนั้นได้แล้วสิ่งนั้นก็จะอยู่กับเราแล้วทำให้เราจำได้นาน....

ไม่ทราบว่าท่านอื่นคิดเห็นอย่างไร เชิญร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ

หากความเห็นนี้ส่งผล วันหนึ่งอาจจะมีสถาบันติวเพื่อขุดค้นความโง่ในตัวตนขึ้นมาก็ได้นะครับ นอกจากจะมีสถาบันติวเพื่อความฉลาดเพียงอย่างเดียว

ท้ายที่สุดแล้ว ฝากให้คิดว่า กรณีไหนที่เราเป็นอยู่

  • เป็นคนฉลาด อวด ฉลาด

  • เป็นคนฉลาด อวด โง่

  • เป็นคน โง่  อวด ฉลาด

  • เป็นคน โง่ อวด โง่

  • หรือ เป็นคน นอกกรอบนี้ หรือ อื่นๆ

สำหรับผม เป็นคน โง่ ครับ บางครั้งอวดโง่ บางครั้งอวดฉลาดทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองโง่

คนที่นอนราบกับพื้น จะไม่มีวันล้ม
แต่หากลุกขึ้นยืนวันไหน โอกาสล้มก็มีสูง
ยิ่งรู้ว่าตัวเองต่ำเท่าไหร่ ยิ่งเจ็บตัวน้อยเท่านั้น
ยิ่งรู้ว่าตัวเองอยู่สูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งหนาวขึ้นเมื่อนั้น
ยิ่งสูงยิ่งหนาว เป็นสัจนิรันดร์

กราบขอบพระคุณมากครับ

เม้ง

หมายเลขบันทึก: 118384เขียนเมื่อ 9 สิงหาคม 2007 17:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม 2012 07:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (38)

บางครั้งการรู้จักตัวเองก็สำคัญครับ คนเราย่อมจะไม่ฉลาดหรือโง่ไปซะทุกเรื่อง...

บางเรื่องเราฉลาดเราก็รับรู้ว่าตัวเราฉลาดในเรื่องนี้ เราจะได้แบ่งปันและถ่ายทอดในสิ่งที่เรารู้แก่ผู้อื่นบ้าง...

ส่วนบางเรื่องที่เราโง่ เราก็ต้องรู้ตัวเราเองว่าเราโง่เรื่องนี้ จะได้พัฒนาตัวเองให้มากขึ้นในเรื่องเหล่านี้ครับ...

ฉลาดหรือโง่ตัวเราเองครับที่รู้ดีที่สุด...

ขอบคุณครับเพื่อน...

สวัสดีครับ...บันทึกนี้ถูกใจผมจริงๆครับ ขอชมกันตรงๆ ตรงนี้เลยละกัน ผมว่าการคิดด้วยตรรกะที่จบลงที่การค้นพบว่า คนรู้ว่าโง่ คือ คนฉลาด  น่าจะเรียกว่ารับปริญญาใจไปแล้ว

อยากให้มีคนคิดและค้นพบแบบคุณเม้งเยอะๆครับ

คนที่ฉลาดแล้วแกล้งโง่เป็น...ผมว่าเราน่าศึกษาและสอบถามวิธีคิดของเขานะครับ ว่าเขาคิดอะไรอยู่จึงยอมแกล้งโง่บ้างทั้งๆที่ตนเองรู้อยู่แล้ว อาจมีอะไรที่ทำให้เราทึ่งเพิ่มขึ้นอีกก็ได้ครับ

สวัสดีครับคุณเม้ง

     ผมเคยแกล้งโง่อยู่บ่อยๆ อยากได้ความรู้ อยากได้วิชาอะไรของใครก้ แกล้งทำเป็นโง่ๆ เซ่อร์ๆ สักพักก็ได้ความรู้มาครับ 

P

สวัสดีครับเพื่อนเหรก

  • ขอบคุณเพื่อนมากครับ คนก็คงผสมกันไปให้ทั่วครับ มีตั้งแต่ค่าตั้งแต่ซ้ายมือถึงค่าตรงกลาง ถึงค่าทางขวามือครับ อยู่ที่ว่าเราจะหยิบหรือเข้าถึงแต่ละค่ามากน้อยแค่ไหนครับ
  • ผมเจอตัวโง่ในตัวผมบ่อยครับ บางด่านใช้เวลาครึ่งปีครับ กว่าจะผ่านไป ตัวโง่ในตัวผมบางตัว ต้องปล่อยไปศึกษาเรื่องอื่นก่อนครับ ถึงจะได้คำตอบครับ
  • ผมจึงค้นพบตัวโง่ในตัวผมหลายๆ ตัวหลายๆ จุดเลยครับ ยิ่งมีคนชมผมมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ผมเห็นตัวโง่ในตัวผมเพิ่มขึ้นครับ
  • ใจลำพองเมื่อไหร่ตัวโง่เกิดทันทีครับ แต่พอเห็นตัวเองเล็กๆ หายใจสะดวกขึ้นเยอะเลยครับ
  • ขอบคุณมากครับ

 

สวัสดีครับ

  • หากอยากรู้ว่าคนไหนมีปัญญามากหรือน้อย  ให้ดูที่วิธีพูดของเขา
  • คนมีปัญญามาก  จะพูด  หลักการ
  • คนปัญาญาปานกลาง  จะพูด  เหตุการณ์
  • คนมีปัญญาน้อย  จะพูด  แต่เรื่องของคนอื่น
  • "คนฉลาด  คือ  คนที่โง่เป็น"
  • ไม่อยากพูดมากอีกแล้ว  เพราะกลัวโง่
  •  ต้องมาเข้าสถาบันติวของอาจารย์เม้งอีก
  • สวัสดี

สวัสดีครับ อาจารย์เม้ง

  • ผมหายหน้าไปนานเพราะภัยธรรมชาติ กลับมาก็ได้ลับสมองในสมการของอาจารย์
  • เห็นด้วยและชอบครับกับแนวคิดนี้ ไม่อวดฉลาด เพราะเมื่อไรที่คิดว่าเรารู้แล้ว เราก็ปิดโอกาสรู้มากขึ้น รู้ในมุมมองที่แตกต่าง
  • แต่ลึกๆ ก็ไม่ชอบให้ใครมาว่า เราโง่ นะครับ แหะ แหะ
  • และระหว่าง คนอวดฉลาด กับ คนอวดโง่ ผมรู้สึกค่อนข้างจะพอๆกัน ถ้าเจตนาเกินไป

P
รู้สึกว่าเป็นภาษิตเปอร์เซีย (ไม่แน่ใจ ?) ...
  • ผู้ใดไม่รู้ และไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้ ผู้นั้นเป็นคนโฉด จงหนีไปเสียให้ไกล
  • ผู้ใดไม่รู้ แต่รู้ว่าตัวเองไม่รู้ ผู้นั้นเป็นเด็ก จงสอนเขา
  • ผู้ใดรู้ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองรู้ ผู้นั้นเป็นคนหลับ จงปลุกเขาให้ตื่น
  • ผู้ใดรู้ และรู้ว่าตัวเองรู้ ผู้นั้นเป็นปราชญ์ จงเป็นสานุศิษย์ของเขา

อ่านแล้วชอบใจ ก็นำมาเล่าเล่นๆ ไม่แน่ใจว่าตรงกับบันทึกนี้หรือไม่ ??? (..........)

เจริญพร

P

สวัสดีครับคุณข้ามสีทันดร

  • ขอบคุณมากครับ ที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันนะครับผม
  • มีอะไรอีกเยอะครับ ที่เราต้องศึกษาเรียนรู้ คุณครูที่ยิ่งใหญ่ตอนนี้ของผมคือธรรมชาติครับ ผมเองนี่โง่กว่าต้นไม้มากๆ เลยนะครับ ทั้งๆที่ผมเองมีสมอง แต่พืชไม่มีสมองนะครับ เค้าเรียนรู้ปรับตัวได้ดี แล้วสร้างอาหารได้เองด้วยครับ ไม่ต้องวิ่งหนีใคร ตั้งหลักปักฐานมั่นคง แต่เราเดินได้ หนีภัยได้
  • ผมต้องศึกษาชีวิตของต้นไม้อีกเยอะเลยครับ ผมว่าน่าจะเป็นจริงอย่างที่พระพุทธเจ้ากล่าวไว้ครับ ใบไม้กำมือเดียว  สำหรับผมแล้วใบไม้หนึ่งใบก็ยังเรียนรู้ไม่หมดเลยครับ
  • มีใบไม้ที่ลองสร้างและจำลองมาให้ดูนะครับ ผมก็ยังทำให้คล้ายของจริงยังไม่ได้เลยครับhttp://www.schuai.net/PlantVR/LeafVein/index.htm
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ

สวัสดีครับน้องบ่าว
     ขอแลกเปลี่ยนสั้นๆเป็นภาษาปะกิตหน่อยละกัลลล์

  • I know what I know. ( เป็นได้ แต่อย่าประมาทว่าความรู้สิ้นสุดเท่าที่ตัวเองรู้ )
  • I know what I don't know. ( ฝึกด้วยกระบวนการ วิธีการที่หลากหลาย เพื่อการเป็นอย่างนี้ให้มากๆ จะดีที่สุด )
  • I don't know what I know. ( ไม่ดีนัก แต่ก็ยังมีโอกาสช่วยอะไรๆได้ เพราะคนเขาจะเห็นเอง หากได้เปิดอก คุยกัน )
  • I don't know what I don't know. ( อย่างนี้สิ ยอดแย่  สังคมร่อแร่ก็เพราะเป็นกันแบบนี้แหละ )

ตามมาค้นหาต้นตอที่ทำให้ อ.handy ต้องแสดงฝีมือเป็นภาษาอังกฤษ อิอิ แล้วก็ขอสมทบเป็นสำนวนไทยๆ บ้างขอรับ

โง่...

1. โง่งอนสอนยาก  หมายถึง โง่แล้วยังงอนทำเป็นทีว่าตัวรู้ก็สอนยาก ดังโคลงสุภาษิตเก่า ความว่า....

                         " โง่  ไป่เจียมจิตต์ไว้       ว่าเขลา

                    งอน   พจน์พูดดังเรา             ก็รู้

                    สอน   ฉบับกลับสอนเอา       ครูอีก

                    ยาก   นักจักช่วยกู้                  โง่ให้เหือดหาย"

2. โง่เง่าเต่าตุ่น  หมายถึง โง่จริงๆ  หรือ โง่ที่สุด

3. โง่นอนเตียง  หมายถึง  โง่แล้วไม่เจียมตัว ไปทำในสิ่งที่ตนไม่รู้ไม่เข้าใจ

เอ...ทำไงผมไม่อยากโง่สัก แบบเลยครับผม

คุณเม้งครับ

สมการ ฉลาด-โง่ / อวดฉลาด-อวดโง่ ของคุณเม้งน่าสนใจมากเลยครับ

ผมขอนำมาเชื่อมโยงกับความเห็นของพระมหาชัยวุธที่ว่า "ผู้ใดรู้ และรู้ว่าตัวเองรู้ ผู้นั้นเป็นปราชญ์ ..." นะครับ

จากทั้งสมการ และความเห็นของพระมหาฯ ผมเข้าใจว่าความโง่ หรือฉลาดนั้นไม่ผิด แต่ท่าทีอวดอ้างนั้นต่างหากที่ผิด จริงไหมครับ?

ผมเชื่อว่าถ้าจะทำอาชีพถ่ายทอดความรู้แล้ว เราต้องมีความรู้ มั่นใจในความรู้ และต้องขยันเพิ่มเติมความรู้ เพราะมันเปลี่ยนไปตามบริบทของสังคม กาลเวลา

คำว่ามั่นใจ นั้นใกล้กับคำว่าอวด แต่ท่าทีต่างกันนะครับ มั่นใจนี้ผมหมายถึงว่าเรามีองค์ความรู้ของเรา มีหลักการ ทฤษฎีรองรับ ถ้าทำงานวิจัยก็ต้องมีข้อมูลมายืนยัน และเชื่อมั่นในสิ่งนั้น คือมีจุดยืนนั่นเองครับ แต่การมีสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดไม่จำเป็นต้องมีอาการ อวด คือไม่ได้ไปป่าวประกาศว่าความรุ้นี้ดีที่สุด เจ๋งสุด ของคนอื่นไม่ดี แบบนี้อวดครับ ว่าไหมครับ?

P

สวัสดีครับท่านอาจารย์

  • ท่านอาจารย์สบายดีไหมครับ แนวทางการฝึกอบรมตอนนี้ที่ทุ่งสง ไปได้ด้วยดีนะครับ กลับไปจะไปเยี่ยมศูนย์ด้วยนะครับ
  • กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์นะครับ ในการแลกเปลี่ยน บอกแนวทางนะครับ
  • ผมรู้สึกประทับใจเสมอ เวลาที่เราไม่รู้แล้วมีคนพยายามช่วยแนะนำ ชี้แนะแนวทาง ด้วยความจริงใจ แบบไม่ต้องมีค่าตอบแทนนะครับ
  • ทำให้เราได้ความรู้ ข้อแนะนำดีๆ แล้วเราก็เอาความรู้นั้นไปทำดู แล้วก็ให้คนอื่น กันต่อๆ ไปโดยไม่ต้องหวังผลตอบแทนเช่นกันครับ
  • แล้วเราจะเข้าใจคนอื่นมากขึ้นด้วยครับ เพราะเราก็ไม่รู้มาก่อนครับ
  • กราบขอบพระคุณมากๆ นะครับ
P
TAFS  

สวัสดีครับพี่แท็ฟส์

  • ขอบพระคุณพี่มากๆ เลยนะครับ ที่มาเสริมทำให้ผมได้ความรู้เพิ่มเติม ได้สังเกตการพูดของคน
  • ในขณะหนึ่งก็ได้มองย้อนดูตัวเราเหมือนกันตอนที่เรากำลังพูดอยู่กับท่านอื่นๆ ครับ
  • ระดับพี่แท็ฟส์ จะโง่ได้อย่างไรครับ คุณภาพขนาดนี้นะครับ ในการทำงานระดับ อินเตอร์ เชื่อมโยงเครือข่ายแบบนี้ครับ
  • ผมจะได้มีโอกาสเรียนรู้จากพี่อีกเยอะครับ
  • ขอบพระคุณมากๆ เลยนะครับ
P

สวัสดีครับท่านอาจารย์เต็มศักดิ์

  • ไม่ทราบว่าท่านอาจารย์ไปเจอภัยอันใดมาครับ ได้ประสบการณ์เล่าสู่กันอ่านบ้างนะครับ
  • จริงๆ แล้วเขียนไว้เพื่อเข้าใจตัวเราเองนะครับ ว่าเราประเมินตัวเราในแต่ละช่วงเวลาว่าเราอยู่ในกรณีใดครับ หากเรารับรู้สัมผัสได้ว่าเราเป็นแบบนั้น จิตเราจะเดินแนวทางไหน จะอวดรู้ หรือว่าไม่รู้ เราควรจะหาทางออกอย่างไร
  • เป็นการเรียนรู้เพื่อรู้จักตัวเราเอง รู้จักจุดด้อยของตัวเรา จะทำให้ตัวเรามีสภาพที่พร้อมจะเรียนรู้มากขึ้นครับ
  • ผมเองก็คิดหนักอยู่ครับ เพราะมีคำตอบที่หามาบางอย่างไม่ได้เป็นคำตอบที่แท้จริงครับ ก็ต้องโง่และศึกษาต่อไปครับ
  • ขอบพระคุณคุณหมอมากๆ เลยนะครับ

อาจารย์เม้งครับ

  • ฟ้าผ่าโมเด็มที่บ้านไปสองหน ไม่ใช่กบาลผมนะครับ แต่ก็แทบจะหมดแรง ความพยายามเข้า internet ที่บ้านไปเลย  ตอนนี้เปลี่ยนเป็น aircard แทนแล้วครับ ก็ไม่รู้จะมีปัญหาอีกหรือเปล่า
  • เข้าใจบันทึกของอาจารย์มากขึ้น มันใช้ประเมินตนเองในแต่ละช่วงเวลา ครับ เรื่องนี้มัน dynamic มากเลย บางช่วงเรารู้สึกกระหายอยากรู้ บางช่วงรู้สึกตื้อไปหมด..สมองบวม เหมือนจะปิดสวิทช์ ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น
  • ครับพอรู้ตัวมากขึ้น ก็เรียนรู้ได้ดีขี้น
  • ขอบคุณอีกครั้งครับ

พี่ว่าน้องเม้งคงรู้สึกคล้ายๆกับหลายๆท่านที่รู้แล้วว่า ยิ่งเรียนรู้มากเท่าไหร่ ก็จะรู้ว่าตัวเองยิ่งรู้น้อยลง เพราะยังมีอีกมากที่เรายังไม่รู้ แต่สิ่งที่ดีคือ เรารู้ว่าเรายังมีโอกาสได้เรียนรู้ เจริญปัญญาได้อีกมาก

ขอบคุณค่ะ  ^ ^

P

กราบนมัสการหลวงพี่ครับ

  • กราบขอบพระคุณหลวงพี่ครับ สำหรับการแจกแจงภาษิตเหล่านี้ อ่านแล้วชอบมากๆ เลยนะครับ

 

  • ผู้ใดไม่รู้ และไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้ ผู้นั้นเป็นคนโฉด จงหนีไปเสียให้ไกล
  • ผู้ใดไม่รู้ แต่รู้ว่าตัวเองไม่รู้ ผู้นั้นเป็นเด็ก จงสอนเขา
  • ผู้ใดรู้ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองรู้ ผู้นั้นเป็นคนหลับ จงปลุกเขาให้ตื่น
  • ผู้ใดรู้ และรู้ว่าตัวเองรู้ ผู้นั้นเป็นปราชญ์ จงเป็นสานุศิษย์ของเขา

 จากสี่ข้อคมๆ ด้านบนนี้ ผมของแทนและเทียบเคียงให้แคบลงมาที่ตัวผม ไม่แน่ใจว่าจะเป็นไปได้ทุกกรณีไหมครับ ลองดูนะครับ จะได้เป็นดังนี้

  • ข้าพเจ้าไม่รู้ และไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้ ข้าพเจ้านั้นเป็นคนโฉด จงทบทวนให้จงหนัก (อันนี้ไม่แน่ใจว่าจะรู้ด้วยตัวเองหรือเปล่าครับ)
  • ข้าพเจ้าไม่รู้ แต่รู้ว่าตัวเองไม่รู้ ข้าพเจ้านั้นเป็นเด็ก จงให้โอกาสตัวเองในการเรียนรู้ หากผู้รู้
  • ข้าพเจ้ารู้ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองรู้ ข้าพเจ้านั้นเป็นคนหลับ จงตื่นจากความหลับไหล (เหมือนกับว่าสิ่งนั้นอยู่ในหัวอยู่แล้วเพียงแต่ไม่ได้ผ่านการมองเชื่อมกัน หรือเปล่าครับ)
  • ข้าพเจ้ารู้ และรู้ว่าตัวเองรู้ ข้าพเจ้านั้นควรจะให้โอกาสกับผู้อื่นในการรับรู้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในสิ่งที่ตัวเองพอจะรู้

ถูกผิดประการใด ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ

กราบขอบพระคุณมากครับ

กราบสวัสดีครับทุกท่าน

ดูแล้วและทบทวนแล้วจากข้อคิดเห็นของหลวงพี่นั้น ผมของกระจายกรณีที่เป็นไปได้เพิ่มเติมให้คิดร่วมกัน ดังนี้ครับ

  • ผู้ใดไม่รู้  และไม่รู้  ว่า ตัวเองไม่รู้
  • ผู้ใดไม่รู้  และไม่รู้  ว่า ตัวเองรู้
  • ผู้ใดไม่รู้  และรู้      ว่า  ตัวเองไม่รู้
  • ผู้ใดไม่รู้  และรู้      ว่า  ตัวเองรู้
  • ผู้ใดรู้      และไม่รู้  ว่า ตัวเองไม่รู้
  • ผู้ใดรู้      และไม่รู้  ว่า ตัวเองรู้
  • ผู้ใดรู้      และรู้      ว่า  ตัวเองไม่รู้
  • ผู้ใดรู้      และรู้      ว่า  ตัวเองรู้

เอาไว้ฝึกตรรกะกันภายในนะครับ บริหารสมองครับ เพราะผมเองก็มึนๆ เรื่องความหมายอยู่ครับ ว่าแต่ละกรณีเป็นยังไงครับ

กราบขอบพระคุณมากครับ

เป็นคนที่ไม่ฉลาดคะได้เข้ามาอ่านความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เสมอ...ขอบคุณสำหรับแนวคิดดีๆคะ

P
Handy

 

สวัสดีครับที่บ่าว

  •  ขอบพระคุณมากๆ เลยครับ ที่มาช่วยเปิดสมองให้ผมอีกครับ ได้เรียนรู้ รับรู้ เข้าใจมากขึ้นครับ
  • I know what I know.
  • I know what I don't know.
  • I don't know what I know.
  • I don't know what I don't know.
  • I am quiet, what does it mean?
  • You are quiet, you know or you don't know, what should I do?

ขอเพิ่มเติมไปนะครับ เพื่อความบันเทิงเสริมครับ

ขอบคุณพี่บ่าวมากครับ 

P
รตนญาณ

 

สวัสดีครับคุณ รตนญาณ

  •  ว้าาาววว ขอบพระคุณมากๆ เลยครับ ชอบจังเลยครับ ได้กลอนสอนใจตนอีกแล้วครับ
  • โง่งอนสอนยาก
  • โง่เง่าเต่าตุ่น (ทำเค้าถึงใช้คำว่าโง่ไปโยงกับเต่าครับ ทั้งๆที่เต่าเป็นสัตว์อายุยืนและมีอวัยวะภายในเหมือนสัตว์จำพวกวัวควาย พอโยงไปยังควาย โง่เหมือนควาย ก็ยังไม่เข้าใจอีกครับ ว่าทำไมต้องว่าควายโง่ ....)
  • โง่นอนเตียง (เอ แบบนี้ต้องให้น้ำเกลือด้วยไหมครับ)
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ
P
คุณแว้บ

 

สวัสดีครับคุณแว้บ

  •  ขอบคุณมากครับผม เห็นด้วยครับ ความโง่หรือฉลาดนั้นไม่ผิดใดๆ เลยครับ การไม่กล้ายอมรับความจริงนั้นหรือเปล่าครับ คือจะทำให้มีปัญหา
  • จริงๆ แล้วนั้น โง่กับฉลาดผมว่าอยู่ถึงกันมาก เพียงแต่สวิทช์ที่ทำหน้าที่ในการเปิดปิดปุ่มโง่ฉลาดนั้นจะทำงานเมื่อไหร่แค่นั้นเอง แต่การรู้ตัวในการที่กำลังจะเปลี่ยนสถานะตรงนี้ก็สำคัญครับ ไม่งั้นเราจะทำให้เกิดกรณีอื่นๆ ตามมาด้วย นับว่าเป็นการเช็คสภาพตัวเราเองอย่างหนึ่งเช่นกันครับ
  • สำหรับท่าทีอวดอ้างตรงนี้ ก็ใช่เลยครับ ผมเคยสังเกตตัวเราภายใน ในการพูดหรือวิเคราะห์บางอย่าง หรือตอนที่กำลังถกประเด็นกันภายในสมองของเรานั้น เราจะคิดรวดเร็วมากครับ พร้อมจะมีระบบเช็คตัวเองตรวจสอบภายในเหมือนกัน บางครั้งขัดแย้งความความรู้สึกภายในของตัวเอง หรือบางครั้งเหมือนยอมรับตัวเองไม่ได้ในภายในของเรา มีจะคิดยังกับเป็นวงจรนะครับ เพื่อหาคำตอบที่ดีที่สุดแล้วก็เดินตามนั้น
  • มาถึงความ มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองรู้  ก็ควรมีระดับในการเดินด้วยใช่ไหมครับ เพราะหากมั่นใจมากไปเกินความพอดี เราจะเข้าสู่อีกมิติหนึ่งหรือเปล่าครับ
  • มั่นใจ กับ อวด ในแนวทางเจตนาของการแสดงออก หรือผู้พบเห็นคงสัมผัสได้ด้วยใช่หรือเปล่าครับ
  • มีอีกคำที่น่าสนใจ คือ การข่ม หรือ เกทับ อันนี้ก็น่าคิดครับ ไม่แน่ใจว่าเป็นขั้นกว่าหรือขั้นสุดของตัวใดๆ หรือเปล่าครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ ทำให้ผมต้องคิดต่อไปเพิ่มขึ้นครับ ได้หาโอกาสเรียนรู้ร่วมกันครับ
  • สนุกในการทำงานนะครับ
ผมว่า ๔ กรณ๊นี้ดูไม่มีความน่าจะเป็นเลยนะครับ อาจารย์เม้ง คิดไม่ออกว่าเป็นยังไงครับ
    * ผู้ใดไม่รู้  และไม่รู้  ว่า ตัวเองรู้
    * ผู้ใดไม่รู้  และรู้      ว่า  ตัวเองรู้
    * ผู้ใดรู้      และไม่รู้  ว่า ตัวเองไม่รู้
    * ผู้ใดรู้      และรู้      ว่า  ตัวเองไม่รู้
P
นาย เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี

 

สวัสดีครับคุณหมอ

  •  ตั้งแต่เห็นข้อความเห็นของคำตอบของอาจารย์แล้ว ทำให้ผมคิดต่อไปว่า อาจารย์เป็นผู้โชคดีมากๆ นะครับ ไม่ทราบว่าได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างครับ คอมพิวเตอร์เป็นอะไรบ้างไหมครับ สำหรับอาจารย์คิดว่า ผ่านปลอดภัยมาแล้วครับ
  • เพราะหากระบบผิดพลาดจริงๆ มันจะเผาคอมพิวเตอร์เราไปทั้งเครื่องแล้วเผลอ ชีวิตเรามันก็จะเอาไปด้วยครับ เพราะมันจะแรงมาก โดยที่กระแสนั้นจะวิ่งผ่านเข้าสายโทรศัพท์แล้ววิ่งมาที่โมเด็ม หากโมเด็มไม่มีตัวตัดหรือป้องกัน มันจะวิ่งเข้าคอมพ์เรา ข้อมูลก็คงดำเป็นตอตะโกเหมือนกันครับ
  • ดีใจครับ ที่อาจารย์เปลี่ยนระบบมาใช้เป็นอีกแบบนะครับ
  • ผมมีอาการเหมือนที่อาจารย์บอกครับ บางช่วงเวลาเอาเข้าไปเท่าไหร่มันก็จะต่อต้านครับ เพราะเหมือนว่าสมองไม่พร้อมที่รับ สมาธิวุ่นวายมากครับ ไม่มีสมาธิ แต่เมื่อตัดหลายๆ อย่างออกไปแล้วสิ่งที่เราต้องการจะคิดก็จะเข้ามาหาเราใกล้ตัวเรามากขึ้นครับ
  • จริงๆ แล้วการยอมรับว่าตัวเราไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่ได้เป็นสิ่งที่น่าละอายอะไรเลย เหมือนเรายอมที่จะกล้ารับความจริง หรือยอมเสียหน้าบ้าง หรือยอมรับในสิ่งที่คนอื่นแซวบ้าง ไม่เอามาคิดมากแล้วต้องพาให้โกรธเคืองกันไปเปล่าๆ
  • อย่างตอนเด็กๆ ผมจำได้ว่า เพื่อนๆ จะแซวและจับคู่ให้เราเสมอ เราจะโกรธ วิ่งไล่เพื่อน มองคิดย้อนกลับไปแล้วตลกจริงๆ ครับ จนบางครั้ง เพื่อนที่โดนจับคู่ให้กับเรา เราแทบจะไม่ได้คุยกับเค้าเลย ทั้งๆ ที่อยากจะคุย เออันนี้ ก็คงมีความเกี่ยวข้องกับตัวโง่ หรือสวิทช์ความไม่เข้าใจของเราด้วยใช่ไหมครับ ซึ่งจริงๆ หากเรายอมรับแล้วเปลี่ยนเป็นสนุกไปด้วยกับการหยอกล้อนั้น ก็ไม่ได้จะเป็นปัญหาอะไรเลย
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ ยังคงได้อยู่ร่วมเรียนรู้กันอีกต่อไปจนกว่าจะมลายหายชีวาลัย ครับ
P
กมลวัลย์

 

สวัสดีครับพี่กมลวัลย์

  •  สบายดีไหมครับ ได้เห็นภาพที่พี่พาคุณพ่อคุณแม่ไปที่บ้านท่านครูบาฯ แล้วนะครับ น่าประทับใจมากและดูหมดทุกรูปและกิจกรรมนะครับ
  • ขอบคุณมากๆ เลยนะครับ สำหรับความเห็นเรื่อง รู้และไม่รู้ นะครับ
  • ผมจะศึกษาและเรียนรู้ตามโอกาสที่มีและให้กับคนที่อยากจะเรียนรู้เท่าที่ผมจะให้ได้นะครับพี่ อีกอย่างต้องศึกษาตัวผมเองอีกมากๆ เหมือนกันครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับผม สนุกในการทำงานนะครับ
P
naree suwan

 

สวัสดีครับคุณ naree

  •  ยินดีต้อนรับนะครับ และขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับข้อความดีๆที่ฝากไว้นะครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ
  • ผมเองก็เป็นคนธรรมดาครับ ยังต้องศึกษาอะไรอีกเยอะเลยครับ
  • ขอบคุณมากๆ นะครับ มีความสุขในการทำงานครับ
ผู้หญิงส่วนใหญ่มีประสบการณ์แกล้งโง่เยอะค่ะ เวลาอยู่กับแฟนบางทีก็ทำเป็นไม่รู้บ้างก็ดี ฉลาดมากก็เหนื่อย ฉลาดแล้วก็ทำเองสิ เลยโง่ดีกว่าค่ะ สบายยยย อยู่กับผู้ใหญ่ก็เหมือนกัน ทำเป็นโง่ๆ แล้วฟังท่านกลับจะได้ฉลาด แต่ถ้าทำตัวอวดฉลาดไม่ฟังอาจจะกลายเป็นโง่แทนค่ะ ^ ^
  • ผมไม่อยู่หรอกครับตอนฟ้าผ่า แต่กลับบ้านไป ไฟดับหมด เพราะ cutout ตัดไฟทั้งบ้าน  พอเปิดไฟบ้าน ก็เปิดคอมพิวเตอร์ไม่ได้ เอาคอมพิวเตอร์ไปซ่อม กลับมาถึงรู้ว่าโมเด็มก็ไปด้วย
  • ครั้งนี้เป็นหนที่สองแล้ว ด้วยนิสัยไม่ยอมถอดสายโทรศํพท์ สายคอมพิวเตอร์เวลาไม่ใช้ครับ 
P

     สวัสดีครับคุณเม้ง ผมเคยอ่านเป็นภาษาอังกฤษ นานมาแล้วครับ สมัยอยู่ ม. ต้น แต่ก็อ่านไม่รู้เรื่อง คือแปลไม่ออก จนกระทั่งภาษาอังกฤษชักจะแข็ง ก็เลยพออ่านรู้เรื่อง และก็เลยยึดถือมาเรื่อยๆ มาเจอคำแปลของท่าน BM chaiwut ก็เลยมีความซาบซึ้งมากขึ้น ภาษาอังกฤษ เขาว่าอย่างนี้ครับ

  • He who knows not and knows not he knows not; He is fool - Shun him.
  • He who knows not and knows he knows not , He is simple -Teach him.
  • He who knows and knows not he knows, He is asleep - Awaken him.
  • He who knows and knows that he knows, He is wise -follow him.

    

http://www.wilcherish.com/cardshop/quotes/lee2.htm

P
  • ผู้ใดไม่รู้ และไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้ ผู้นั้นเป็นคนโฉด จงหนีไปเสียให้ไกล
  • ผู้ใดไม่รู้ แต่รู้ว่าตัวเองไม่รู้ ผู้นั้นเป็นเด็ก จงสอนเขา
  • ผู้ใดรู้ แต่ไม่รู้ว่าตัวเองรู้ ผู้นั้นเป็นคนหลับ จงปลุกเขาให้ตื่น
  • ผู้ใดรู้ และรู้ว่าตัวเองรู้ ผู้นั้นเป็นปราชญ์ จงเป็นสานุศิษย์ของเขา

     เดือนหน้า ปลายปีงบประมาณ 50 ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ อ.ทุ่งสง มีงานตลอดทั้งเดือนครับ กระทรวงศึกษาธิการ ต้องการให้โรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง จึงให้ ผู้อำนวยการ ครู/อาจารย์ นักเรียน กรรมการโรงเรียน และผู้ปกครอง เข้าร่วมรับการฝึกอบรมตามหลักสูตรของศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ (หลักสูตรการเรียน โสทรเคยเอาไปเขียนไว้แล้วครับ)

     ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ ยินดีต้องรับทุกๆท่านครับ หากผู้ใดสนใจเข้ารับการฝึกอบรม ร่วมกับกลุ่มของกระทรวงศึกษาธิการ ก็ยินดีครับ เลือกเรียนได้ตลอดทั้งเดือนเลยครับ

พี่คง...งงอะ เพราะเราไม่รู้จักกัน แต่ประทับใจและชื่นชอบเว็บไซต์พี่มากๆ เลย เพราะเคยเห็นภาพ Tsunami ของพี่จากการสืบค้นใน google เนื่องจากต้องทำ thesis แนวนี้ตอนเรียนโท บังเอิญว่าก็ไปโพสต์เว็บพี่ในภาคคณิตศาสตร์ของบางมด(พระจอมเกล้าธนบุรี) ขอเรียกแทนตัวเองว่าลูกชิ้นนะพี่ แล้วมีพี่คนสวยคนนึง ดันรู้จักพี่อีก พี่คนสวยก็ถามลูกชิ้นรู้จักเว็บไซต์นี้ได้ไง คุยไปคุยมาพี่คนนั้นเค้าเคยเรียนที่เดียวกับพี่อะ พี่คนนั้นคือพี่ลี แต่จะติดตามชื่นชมผลงานของพี่ในเว็บไซต์นี้ไปเรื่อยๆนะ พี่เจ๋งอะ ทำได้ไง พอเข้ามาอ่านหัวข้อนี้ของพี่ ข้อความนี้โดนจริงๆ "เมื่อเรารู้ว่าเราโง่ เราจะเปิดใจที่จะเรียนรู้ เพราะถือว่าตัวเองว่าง" ขอบคุณคับป๋ม

สวัสดีครับน้องลูกชิ้น

  • ขอบคุณมากๆ ครับ ด้วยความยินดีที่ได้รู้จักนะครับ
  • ใช่ครับน้องลีเป็นรุ่นน้องของพี่เองนะครับ
  • น้องทำวิจัยด้านไหนครับ ในส่วนของสึนามิ ดีแล้วครับ ร่วมกันศึกษาครับ เพื่อพัฒนาประเทศไปด้วยกันครับ มีหลายๆ อย่างหลายๆ ปัญหาครับ ที่จะต้องร่วมกันทำวิจัยด้วยกันนะครับ
  • เดินไปสู่การใช้คณิตศาสตร์และประยุกต์เข้ากับปัญหาต่างๆ ที่เราพบอยู่ตอนนี้นะครับ
  • มีอะไรที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้ ด้วยความยินดีนะครับผม ฝากเอาไว้ได้เสมอนะครับผม
  • ขอให้น้องโชคดีในการทำงานวิจัยและสนุกนะครับผม ทำด้วยใจ เอาศรัทธานำครับ พี่เรียกว่า ศรัทธาวิจัยครับ มีความสำคัญมากๆ นะครับ ในการทำวิจัยในระดับต่อไปสำหรับประเทศของเรานะครับ
  • ขอบคุณมากครับ 
P
นาย เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี

 

สวัสดีครับคุณหมอ

  •  ขอบคุณมากๆ เลยครับ สำหรับ 4 กรณี เทห์ๆ ที่เขียนไว้ดังนี้นะครับ
  •     * ผู้ใดไม่รู้  และไม่รู้  ว่า ตัวเองรู้
        * ผู้ใดไม่รู้  และรู้      ว่า  ตัวเองรู้
        * ผู้ใดรู้      และไม่รู้  ว่า ตัวเองไม่รู้
        * ผู้ใดรู้      และรู้      ว่า  ตัวเองไม่รู้
  • ช่วยกันคิดต่อว่ามันเป็นอย่างไ
  • ผมลองกระจายแบบคณิตศาสตร์ดูนะครับ พอเอามาปรับให้เป็นภาษาแล้วพร้อมแบ่งวรรคตอน ก็ทำเอาผมก็มึนตามที่เปลี่ยนไปด้วยครับ อิๆๆๆๆ
  • ตอนนี้ผมเริ่มไม่รู้ เองแล้วนะครับ อิๆๆๆ
  • ช่วยกันขบคิดแล้วจัดกลุ่มดูนะครับ

  • ผู้ใดไม่รู้  และไม่รู้  ว่า ตัวเองไม่รู้
  • ผู้ใดไม่รู้  และไม่รู้  ว่า ตัวเองรู้
  • ผู้ใดไม่รู้  และรู้      ว่า  ตัวเองไม่รู้
  • ผู้ใดไม่รู้  และรู้      ว่า  ตัวเองรู้
  • ผู้ใดรู้      และไม่รู้  ว่า ตัวเองไม่รู้
  • ผู้ใดรู้      และไม่รู้  ว่า ตัวเองรู้
  • ผู้ใดรู้      และรู้      ว่า  ตัวเองไม่รู้
  • ผู้ใดรู้      และรู้      ว่า  ตัวเองรู้

  • ว่าทั้งแปดกรณีนี้ควรจะเป็นไปได้ หรือไม่ได้ แล้วควรจะจัดอยู่ในกลุ่มใด หากเราปรับให้เป็นบัว สี่เหล่า หรือ สามเหล่าครับ
  • ช่วยๆ กันนะครับ ขอบคุณมากครับ
P
Little Jazz \(^o^)/

 

สวัสดีครับคุณซูซาน

  •  ขอบคุณมากๆ นะครับผม
  • อิๆ ชอบแกล้งโง่หรือครับ ยิ้มๆ ครับ
  • ดีแล้วครับผม โง่บ้างฉลาดบ้างผสมกันครับ คนให้เข้ากันจนกลายเป็นคน คนกันจนได้รับรู้ ได้เรียนรู้ ไม่รู้จบ ก็คนกันต่อไป จนกว่าคนจะกลายเป็นคน ไม่เป็นก็ต้องคนกันต่อไปครับ
  • ได้มีโอกาสเรียนรู้จากผู้ใหญ่ ผมก็ชอบครับ เรียนลัด คอร์สเร่งรัดจริงใจไร้สารพิษครับ
  • ขอบคุณมากครับ
P
นาย เต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี

 

สวัสดีครับคุณหมอ

  •  ขอบคุณมากครับ นับว่ายอดเยี่ยมครับ ที่ไม่อยู่ตอนที่โดนผ่าครับ และโชคดีที่คัุดเอ้าท์ตัดให้เรียบร้อยครับ และก็โชคดีครับ ที่ไปแค่โมเดมครับ
  • ไม่งั้นครั้งที่สาม อาจจะไปทั้งเครื่องแย่เลยครับ ข้อมูลหายหมดครับ อิๆๆๆ  ถอดออกเสียก็ดีครับผม เพราะผมเคยได้ยินเหตุการณ์เหล่านี้บ่อยครับ
  • ฟ้าผ่าเครื่องคอมพ์ผ่านโมเด็มนะครับ
  • ขอบคุณมากครับ
P
เฒ่าหน้าเหมน

 

สวัสดีครับท่านอาจารย์

  •  ยอดเยี่ยมเลยครับ หามาฝากแบบทั้งสองแบบได้อิ่มรสกรณีทั้งสี่ครับ ทั้งสี่เหล่าครับ
  • ขอเป็นกำลังใจให้กับ ศูนย์ฝึกและ มูลนิธิด้วยนะครับ ผมดีใจที่ได้มีโอกาสเรียนรู้และรับรู้ว่าเพื่อนผม ทั้ง โส และเบิร์ด ได้ทำในสิ่งที่ดีเพื่อสังคม และหลายๆ คนอย่างอาจารย์ และหลายๆท่านที่มีประสบการณ์ ช่วยฟื้นฟูให้คนกลับมาเข้าใจระบบธรรมชาติ เกษตรกรรม ก่อนที่จะสายเกินแก้ ผมว่าท้ายที่สุดแล้วประเทศชาติก็จะเหลือสิ่งเหล่านี้เอาไว้ให้เรียนรู้ เป็นต้นทุนให้ประเทศเดินต่อไปได้ในอนาคตครับ
  • กราบขอบพระคุณมากครับ
หวัดดีพี่เม้ง
  • อันนี้ไม่เข้ามาออกความเห็นเรื่องโง่หรือฉลาดหรอกคะ แต่ก้อขอยกมือว่าตัวเองก้อเป็นคนหนึ่งที่โง่
  • พอเริ่มจะรู้อะไรซักอย่าง อ่ะมาแล้วสิ่งที่ไม่รู้ต่อคิวยาวเหยียดมาเลย
  • ยัยลูกชิ้นหมู บทความนี้คงถูกใจ อ่ะดิ ฉลาด กะ โง่ เนี่ย ถึงอดใจไม่ไหวต้องโพสต์หน่ะ
  •  นิๆ ถ้าจะอำว่าพี่คนสวยก้อพี่คนสวยไปซิ จะมาเฉลยทำไมว่าเป็นพี่ฮึ.... หรือถ้ากลัวพี่เม้งเค้านึกภาพไม่ออกก้อบอกว่าพี่ลีไปเลย ก้อได้ ทำไมต้องว่าสวยฮึ 
  • แต่ขอบใจนะน้อง ที่ชมว่าพี่สวย ร้อยวันพันปีก้อเพิ่งจะเห็นหนนี้แหละที่พูดจาดี หุๆๆ แตก้อนั้นแหละนะ อันนี้พี่ก้อพอจะรู้ตัวเองอยู่บ้างเหมือนกันนั้นแหละ
  • ออ อีกเรื่องหนึ่ง เป็นผู้หญิงอ่ะป่าวเนี่ย จะมาคับป๋มๆ อยู่ได้

สวัสดีครับน้องลี

  • ครับผม ขอบคุณมากครับผม
  • เอาแล้วครับ หยอกกันเองแล้วครับน้องสาวสองคน อิๆๆ
  • ขอบคุณมากครับผม ที่มาหยอกกันทำให้ยิ้มความอบอุ่นในภาควิชานะครับ
  • ขอบคุณมากและให้ทั้งสองสนุกในการเีรียนและทำวิจัยนะครับ 
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท