ปัจจุบันนี้ server สำหรับ GotoKnow ต้องรับโหลดสูง อ่านข้อมูลอย่างเดียว น่าจะเกิน 1 Terabytes ต่อเดือนแล้ว (เทียบเท่าประมาณวันละ 30 GB - ประมาณการจากข้อมูลใน ขอ "กอด" ให้ INET ผู้สนับสนุน GotoKnow ตลอดมา)
-
สถิติทรูฮิตสำหรับ G2K มีรายงานค่า pageview หรืออีกนัยหนึ่ง ภาระรวมของระบบไว้ ซึ่งค่านี้ ควรสะท้อนองค์รวมของภาระการให้บริการของระบบ
- อ.ธวัชชัยเอง ประมาณว่า 1 pageview น่าจะเทียบเท่า 3-400 KB
- เดือน มกราคม 2550 เป็น 1.9 ล้าน pageview
- และคาดว่า สิ้นเดือนนี้ ควรอยู่ประมาณ 3.7 ล้าน pageview (ผ่านมา 24 วัน มีค่า 3.0 ล้าน pageview)
- เทียบเท่า อัตราการเติบโตของโหลดระบบ คือ +135 % ต่อปี (=คูณ 2.35 เท่า)
- ปัจจุบัน การจราจรอยู่ที่ระดับ 1+ Terabytes ต่อเดือน
- สิ้นปีหน้า จะอยู่ที่ 2+ Terabytes ต่อเดือน (คงอยู่ในช่วง 1.5-3.0 Terabytes ต่อเดือน)
- การจราจรขนาดนี้ ท้าทาย server พอสมควรทีเดียว ว่าจะรับมือไหวไหม
ถ้าผมเป็นผู้ดูแลระบบ ผมก็คงรู้สึกว่า นี่ก็เป็นสถิติที่น่าหวาดเสียวอยู่ไม่น้อย
ผลสืบเนื่องคือ ผมเริ่มเห็นการแตกแนวคิดเป็นสองสาย โดยแต่ละสาย อาจเป็นไปแบบไม่รู้ตัว
สายหนึ่ง คิดในมุมมองวิศวกรรมการออกแบบระบบ มองไปในทิศที่ว่า ความไร้สาระ ควรมีให้น้อยที่สุด เพราะเกรงว่า การใช้ทรัพยากรอย่างไม่ยั้ง อาจถึงจุด "ฟางเส้นสุดท้ายบนหลังลา" (ซึ่งจุดนั้น มีอยู่จริง แม้จะยังไม่ไปถึง แต่จะเป็นการไปถึงแบบ "ปุบปับ" หาก server หมดแรงตายซะก่อน)
อีกสายหนึ่ง มองในฐานะว่า G2K เป็น อุปกรณ์สำหรับ "สื่อ-สาน-สร้าง" สังคม ก็สอดแทรกความไร้สาระเข้ามาในสัดส่วนที่ไม่ใช่น้อย เพื่อลุถึงความเชื่อดังกล่าว จนบางครั้ง อาจเหมือน บันเทิงแบบไม่มีขีดจำกัด
คุณเบิร์ด เขียนถึงอยากให้ G2K เป็นอย่างไร ? พูดถึงการจัดการความรู้ในระดับต่าง ๆ ซึ่งผมเองเชื่อว่า การไปให้ถึง wisdom management จะต้องผ่านบริบทแวดล้อม ไม่สามารถอยู่เดี่ยว ๆ และต้องผ่านการตีความผ่านประสบการณ์ส่วนบุคคล ผ่านสุนทรียสนทนา ผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ผ่านเรื่องเล่า ผ่านการโต้ตอบพูดคุย
ซึ่งคนไร้กรอบ ก็เขียนถึงประเด็นนี้ (เก่งเฉพาะทาง รู้ลึกๆ แต่โง่กว้างๆ) ซึ่งแนะนำให้เรา...
ไปเสือกๆเรื่องอื่นๆบ้าง ไปอ่าน ไปฟัง คนนอกวงการของเราบ้าง ไปสุนทรียสนทนากับคนโน้น คนนี้ ไปฟังคนประหลาดๆ วิจารณ์งานของเราบ้าง ......
" ไปเปิดหู เปิดตา และ เปิดใจ มองโลกด้วยมุมมองใหม่ ไม่ว่าจะร้าย หรือ จะดี ......."
ไป คว้าจับ ข้อมูล แนวคิด สะกิดใจ ไปสร้าง sense ให้ตนเอง ...
จะเร่งให้เกิดการ "รู้กว้าง มาเสริมรู้ลึก"
ความบันเทิงแบบไร้สาระ มักทำหน้าที่เป็นกาวเหนียว เป็น "โซ่ข้อกลาง" ให้เกิดความเป็นชุมชน ได้ดีพอสมควร แม้จะเป็นเพียง "ความว่างเปล่า" ในเชิงของเนื้อหา
ลองนึกถึงการฟังดนตรีคลาสสิกที่มีความไพเราะ (...หรืออย่างน้อย ที่ผู้คนถือว่าไพเราะ ...สำหรับผู้ที่ไม่เห็นด้วย)
ตามปรกติแล้ว ในเสียงดนตรี มักจะมี ความเงียบ คั่นแทรกอยู่
บางเพลง เงียบนาน เงียบอ้อยอิ่ง จนคนฟัง อดไม่ได้ ต้องเติมเสียงให้ในใจ ด้วยการได้ยินเสียงที่ไม่มีในดนตรี
ความเงียบ ปราศจากเนื้อหาสาระก็จริง แต่กลับเป็นส่วนเติมเต็ม
มีแต่เสียง ไม่มีความเงียบ เสียงจะเป็น information ไม่ใช่ ดนตรี
มีแต่ความเงียบ ไม่มีเสียง ก็จะเป็นได้แต่ความเงียบ ไม่ใช่ ดนตรี
ความงดงาม อยู่ที่สมดุล ระหว่างความเงียบและเสียง ที่สอดคั่น ประสานกันพอดีนั่นต่างหาก