“บ้าน”...ฉันไม่อยากอยู่ (6) : ครูมองวัยรุ่น...พฤติกรรมก้าวร้าว


หากความพยายามในการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวในครั้งแรกสำเร็จเด็กก็จะรู้สึกว่าตนเองเก่ง ตัวเองคือผู้ยิ่งใหญ่ก็จะพยายามตั้งตนเป็นหัวหน้าที่คอยสั่งเพื่อน ๆ ให้ทำตาม จะมีความรู้สึกภาคภูมิใจในชัยชนะของตน และจะค่อย ๆ พัฒนาความก้าวร้าวรุนแรงขึ้นไปเรื่อย ๆ


ต่อจากความเดิมตอนที่แล้ว
...
“บ้าน”...ฉันไม่อยากอยู่ (1)
"บ้าน"...ฉันไม่อยากอยู่ (2)
“บ้าน”...ฉันไม่อยากอยู่ (3) : วัยรุ่น ลมร้อน
“บ้าน”...ฉันไม่อยากอยู่ (4) : วัยรุ่น ลมร้อน และการเปลี่ยนแปลงชีวิต
“บ้าน”...ฉันไม่อยากอยู่ (5) : ครูมองวัยรุ่น...ผ่านประสบการณ์ 

          ภาพที่สะท้อนแห่งการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงจากจุดเล็ก ๆ ในห้องเรียน ลุกลามเป็นไฟไหม้ฟางกระทั่งมีการระดมพักพวกเพื่อการชำระหนี้แค้นด้วยเพราะศักดิ์ศรีของตนถูกย่ำยีในที่สาธารณะ จากคนที่เคยถูกรุมทำร้ายในห้องเรียนตอนนี้กลับกลายเป็นยกพวกไปรุมทำร้ายผู้อื่นบ้างเพื่อเรียกศักดิ์ศรีของตนกลับคืนมา และเมื่อความโกรธถูกพัฒนาโดยอารมณ์จนถึงขีดสุดก็เป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีการแก้แค้นกันไม่มีวันจบสิ้น การชำระหนี้แค้นย่อมขึ้นอยู่กับจังหวะทีเผลอของคู่กรณี ดังนั้นความโกรธแค้นดู ๆ แล้วไม่ส่งผลให้มีความสุขเอาเสียเลย เนื่องจากต้องคอยระวังตัวอยู่ตลอดเวลาเพราะหากใครเผลอก็เท่ากับ “ชีวิต” เหมือน ๆ กับการเล่นอีมอญซ่อนผ้าที่มีคำร้องว่า “อีมอญซ่อนผ้าตุ๊กตาอยู่ข้างหลัง ใครนั่งไม่ระวัง ฉันจะตีก้นเธอ”

          หากจะว่าไปแล้วการทะเลาะกันของเด็กเล็ก ๆ ถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาของเด็กที่เล่นด้วยกันก็ย่อมทะเลาะเบาะแว้งกันบ้างตามประสาเด็ก...นั่นคือฐานคิดของผู้ใหญ่ที่มองเด็ก แต่หากจะมองให้ลึกลงไปถึงสาเหตุแล้วการทะเลาะกันของเด็กย่อมเป็นสัญญาณบอกเหตุอะไรบางอย่างให้พ่อแม่ได้ขบคิดมากไปกว่าเป็นแค่เรื่องปกติธรรมดา เพราะเด็กบางคนขาดการอบรมสั่งสอนที่ดีจากพ่อแม่ในเรื่องของการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วเด็กพวกนี้จะค่อย ๆ พัฒนาความก้าวร้าวติดตัวไปเรื่อย ๆ และจะรุนแรงขึ้นตามวัย จะเห็นได้ว่าเด็กที่แข็งแรงกว่า มีพักพวกมากกว่า หรือมีพ่อแม่คอยหนุนหลังให้การสนับสนุนอยู่เขามักจะพยายามรังแกเด็กที่อ่อนแอกว่าเสมอ และหากความพยายามในการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวในครั้งแรกสำเร็จเด็กก็จะรู้สึกว่าตนเองเก่ง ตัวเองคือผู้ยิ่งใหญ่ก็จะพยายามตั้งตนเป็นหัวหน้าที่คอยสั่งเพื่อน ๆ ให้ทำตาม จะมีความรู้สึกภาคภูมิใจในชัยชนะของตน และจะค่อย ๆ พัฒนาความก้าวร้าวรุนแรงขึ้นไปเรื่อย ๆ 

          ในขณะเดียวกันพ่อแม่ที่รักลูกมากจนเกินขอบเขตก็จะชื่นชมยินดีกับความสู้คนของลูก ชื่นชมในชัยชนะของลูก “สู้คนอย่างนี้ซิ...ถึงจะเป็นลูกพ่อ” หรือที่ได้ยินเสมอ ๆ “หากใครรังแกลูก...ลูกไม่ต้องกลัว...ชกหน้ามันเลยลูก” หารู้ไม่ว่านั่นคือการทำร้ายลูกตัวเองอยู่ โดยการพยายามปลูกฝังความก้าวร้าวความเป็นอันธพาลให้แก่ลูกโดยไม่รู้ตัว พฤติกรรมเหล่านี้จะติดตัวลูกไปเรื่อย ๆ และพร้อมที่จะสำแดงได้ทุกเมื่อเมื่อพายุอารมณ์แห่งความโกรธเกรี้ยวมาเยือน เด็กก็จะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวออกมาโดยรู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง และไม่กลัวเกรงต่อสิ่งใดรู้เพียงว่าขอให้สนองความต้องการทางอารมณ์ที่พลุกพล่าน เมื่อชำระหนี้แค้นนั้นได้สำเร็จอารมณ์นั้นก็จะค่อย ๆ ลดลง แต่วัฎจักรนี้จะกลับมาหมุนเป็นเกลียวพายุอีกเรื่อย ๆ หากไม่รีบตัดวงจรแห่งการเลี้ยงดูที่ผิด ๆ นี้ออกไปก็เท่ากับคุณกำลังเป็น “พ่อแม่...ที่รังแกลูก”

          นี่เป็นแค่เพียงสาเหตุหนึ่งเท่านั้นในการก่อเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวของวัยรุ่น ยังมีเหตุปัจจัยอีกมากมาย ซึ่งจะเสนอในบันทึกต่อ ๆ ไปค่ะ

หมายเลขบันทึก: 69299เขียนเมื่อ 25 ธันวาคม 2006 17:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 03:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

อ่านแล้วครับ โชคดีที่บ้านนี้น่าอยู่ เพราะไม่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว ขอบคุณครับ

ขอบพระคุณท่าน ผอ. ที่แวะมาเยี่ยมเยียนค่ะ

ยินดีด้วยนะคะที่มีครอบครัวที่อบอุ่น การสร้างความรักความอบอุ่นให้เกิดขึ้นในครอบครัวจะทำให้สมาชิกในครอบครัวมีความสุขค่ะ และครอบครัวของเราก็จะเป็นครอบครัวที่เข้มแข็ง สามารถเป็นเกราะป้องกันพฤติกรรมก้าวร้าวได้ดีทีเดียวค่ะ เมื่อครอบครัวเข้มแข็งสังคมก็แข็งแกร่งตามไปด้วยค่ะ

  • ในยามที่ทุกข์ท้อ  ยังดีที่มี "บ้าน" ให้หวนรำลึก
  • บ่อยครั้งสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ประสบปัญหา เคยนั่งรถกลับบ้านแต่ไปไม่ถึงบ้าน  พอถึง บขส. ก็นั่งรถกลับ ...เพียงเพราะได้คิดถึงบ้านก็เป็นสุขใจ
  • อ่านข้อเขียนของอาจารย์แล้ว ..ปีใหม่ตั้งใจจะกลับบ้าน หลังจากไม่ได้กลับมา 2 ปี เพราะต้องจัดกิจกรรมบริการชุมชนในเทศกาลปีใหม่
  • แต่ปีนี้....ผมจะกลับบ้าน....

ขอบคุณคุณ แผ่นดิน มากค่ะที่แวะเข้ามาทักทาย

ถึงแม้ตัวจะไม่ได้เยือน...แค่ส่งใจระลึกถึงบ้านก็สุขใจยิ่งแล้วค่ะ โชคดีค่ะที่ดิฉันได้กลับบ้านบ่อยมาก...แต่ถึงตัวไกลแต่ใจใกล้กันก็มีความสุขได้ค่ะ

ดีใจจังเลยที่มีคนคิดถึงบ้าน...กลับบ้านปีใหม่นี้ขอให้มีความสุขกับคนในครอบครัวนะคะ อย่าลืมบอกพ่อกับแม่นะคะว่า "ผมรักพ่อรักแม่มากครับ"

ขอให้มีความสุขกับการทำงานนะคะ

แวะเข้ามาเก็บข้อมูลไว้รับมือกับลูกศิษย์วัยรุ่นทั้งหลายค่ะ สงสัยหว้าคงต้องเป็นแฟนประจำแล้วหล่ะ

ดีใจค่ะที่ อ.ลูกหว้า มาเยือน และยินดีรับสมัครเป็นแฟนประจำค่ะ และขอสมัครเป็นแฟนพันธ์แท้ อ.ลูกหว้า ด้วยคนนะคะ

ไม่เห็นมีบันทึกใหม่ให้อ่านเลยค่ะ แวะเข้าไปดูหลายรอบแล้วค่ะ รีบ ๆ เขียนค่ะ คนคิดถึงจะได้คลายเหงาค่ะ (ยิ้ม ๆ) รออ่านอยู่นะคะ

     เข้ามาอีกที เพราะตะกี้ให้ คห.แล้วหลุดไป
     บันทึกนี้อ่านแล้ว ไม่ทราบจะถามอะไรนะครับ ประเด็นต่าง ๆ ผู้เขียนปิดเสียหมดแล้ว เลยจะถามว่าจะได้อ่านตอนต่อไปตอนไหน และมีอีกกี่ตอนล๊ะครับ

สวัสดียามดึกค่ะ คุณพี่ชายขอบ ที่เคารพ...

"เลยจะถามว่าจะได้อ่านตอนต่อไปตอนไหน และมีอีกกี่ตอน"

หากว่าง ๆ จากภาระกิจ (นอน) ยิ้ม ๆ คงได้วันละเรื่องค่ะ ส่วนอีกกี่ตอน...คงเขียนจนหมดใส้หมดพุงนะคะ ใส้ยิ่งยาว พุงยิ่งเยอะอยู่ด้วย ไม่แน่ใจว่าจะหมดเมื่อไร

ขอบคุณนะคะที่ติดตาม และเติบเต็มให้เสมอ

พักผ่อน...รักษาสุขภาพนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท