“บ้าน”...ฉันไม่อยากอยู่ (5) : ครูมองวัยรุ่น...ผ่านประสบการณ์


คุณไม่ต้องเดินไปห้างสรรพสินค้าเพื่อจ่ายเงินซื้อหาความรักที่แพ็คใส่กล่องไว้ในช่องแช่แข็งมาให้ลูกเพราะความรักไม่มีขายตามห้างสรรพสินค้า


ต่อจากความเดิมตอนที่แล้ว
...
“บ้าน”...ฉันไม่อยากอยู่ (1)
"บ้าน"...ฉันไม่อยากอยู่ (2)
“บ้าน”...ฉันไม่อยากอยู่ (3) : วัยรุ่น ลมร้อน
“บ้าน”...ฉันไม่อยากอยู่ (4) : วัยรุ่น ลมร้อน และการเปลี่ยนแปลงชีวิต

          เมื่อครูมองวัยรุ่น...ผ่านประสบการณ์ของตัวเอง วัยรุ่นถือว่าเป็นวัยแห่งการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม แต่สิ่งที่เห็นชัดเจนมากที่สุด เห็นจะเป็นลักษณะรูปร่างทางกายภาพที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจนดูเก้งก้างผิดหูผิดตา วัยรุ่นจำนวนไม่น้อยที่เกิดความความสับสนกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านรูปร่าง ซึ่งในระยะแรก ๆ ของการเปลี่ยนแปลงจะรู้สึกว่าไม่มั่นใจในตนเอง 

          เมื่อมองด้านจิตใจและอารมณ์ กลับพบว่าอารมณ์ของวัยรุ่นจะไม่มั่นคงแปรปรวนเปลี่ยนแปลงได้ง่าย คือ เห็นลมพัดใบไม้ไหวก็จิตนาการไปต่าง ๆ นานา จนน้ำตาร่วง เป็นวัยที่ชอบจิตนาการและสมมติตนเป็นหนึ่งในเหตุการณ์นั้นด้วย วัยรุ่นจะรู้สึกสับสนกับการค้นหาเอกลักษณ์เฉพาะตน ในหนึ่งวันวัยรุ่นจะแสดงตัวตนที่หลากหลายแล้วแต่อารมณ์และสภาพจิตใจ จะรู้สึกสับสนกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านสรีระที่เป็นไปอย่างรวดเร็วจนบางครั้งยอมรับและทำใจไม่ได้ จึงมักขังตัวอยู่ในห้องคนเดียวเนื่องจากอายเพื่อนฝูงและคนในบ้านกับสรีระที่เปลี่ยนไป

          หากจะมองมายังด้านสติปัญญาวัยรุ่นจะมีการพัฒนาด้านสติปัญญาที่เจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและมุ่งไปสู่ความสมบูรณ์ขึ้นเรื่อย ๆ แทบจะไม่หยุดยั้ง ส่วนในเรื่องของสังคมจะเป็นวัยที่ต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนมากกว่าพ่อแม่หรือคนในครอบครัว และจะไม่ค่อยอยู่ติดบ้านหรือหากจำเป็นต้องอยู่ก็จะซ่อนตัวอยู่ในห้องคนเดียว กิจกรรมส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่การปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน เช่น การพูดคุยโทรศัพท์กับเพื่อนเป็นเวลานาน ๆ และมักจะมีข้ออ้างที่จะออกไปนอกบ้านเพื่อพบปะสังสรรค์กับเพื่อนอยู่เสมอ และบ่อยครั้งจะถูกห้ามปรามจากพ่อแม่ จนกระทั่งเป็นเหตุต้องมีปากเสียงให้ผิดใจกันเสมอ ซึ่งเป็นเหตุแห่งการนำไปสู่ความไม่เข้าใจกันของทั้งสองฝ่าย และอาจเป็นบ่อเกิดแห่งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในทางก้าวร้าว

          การเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ ของวัยรุ่น ล้วนส่งผลต่อพฤติกรรมทั้งที่นำไปในสู่เชิงบวกและเชิงลบ หากการเปลี่ยนแปลงได้ถูกอธิบายอยู่ในหลักการและเหตุผลที่ถูกต้อง เพื่อให้วัยรุ่นเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาแต่ละช่วงวัยของมนุษย์ วัยรุ่นก็จะไม่รู้สึกสับสนกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และพ่อแม่ผู้ปกครองเองก็ต้องทำความเข้าใจถึงพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยของลูกด้วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างระหว่างวัย และในความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของวัยรุ่นหากพ่อแม่ได้ใช้ความรักความเข้าใจควบคู่ไปกับการให้คำอธิบายเกี่ยวกับพัฒนาการแต่ละช่วงวัยด้วยแล้วก็จะช่วยลดปัญหาด้านพฤติกรรมลงได้เยอะ

          เมื่อกล่าวถึงความรัก ความเข้าใจ ซึ่งถือเป็นธรรมดาของมนุษย์ทุกคนที่ต่างก็มุ่งแสวงหาเรียกร้องจากผู้คนรอบข้าง ต้องการเป็นที่รักของทุกคน และยิ่งไปกว่านั้นก็ต้องการให้คนที่ตนเองรักรักตนด้วยเช่นกัน ซึ่งตรงกับทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของมนุษย์ในขั้นที่สามตามทฤษฎีของอับราฮัม มาสโลว์ (Abraham Maslow) คือ ความต้องการทางด้านสังคมและความรัก (Love and Belonging Needs) ที่มองว่ามนุษย์ทุกคนต่างต้องการความรักและมุ่งหาความรักความเข้าใจจากผู้คนและคนที่ตนรัก

          จะเห็นได้ว่า คุณไม่ต้องเดินไปห้างสรรพสินค้าเพื่อจ่ายเงินซื้อหาความรักที่แพ็คใส่กล่องไว้ในช่องแช่แข็งมาให้ลูกเพราะความรักไม่มีขายตามห้างสรรพสินค้า และไม่ต้องไปลงทุนลงแรงไปขุดไปแซะมาจากไหนเพราะมันไม่ได้ฝังอยู่ใต้ผืนดิน แต่ความรักความอบอุ่นที่ลูกต้องการนั้นมีมาจากใจด้วยใจด้วยความเข้าใจของพ่อแม่ และนั่นคือสิ่งที่ลูกทุกคนต้องการ หากพ่อแม่มีความรักเช่นนี้แล้วพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงแทบจะไม่เกิดขึ้นในสังคมและนั่นคือสิ่งที่สังคมต้องการ

หมายเลขบันทึก: 69187เขียนเมื่อ 25 ธันวาคม 2006 01:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

Best  wishes   and   Merry Christmas เช่นกันค่ะ

christmas cake.jpg

ขอบคุณมากค่ะ ขอให้มีความสุขเยอะ ๆ นะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท