ในขณะขับรถคู่ชีพคันเก่าพร้อมคนของความรัก มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมือง ผมเหลือบไปเห็นทุ่งนาที่เขียวอย่างไม่มีชีวิต ! รวมถึงภาพที่โอ่งน้ำหรือตุ่มน้ำใบเล็กตั้งอยู่ใต้ต้นไม้ร่มใหญ่และชวนให้สนใจเป็นพิเศษ จึงไม่รีรอที่จะทอดน่องเดินลงไปเที่ยวชม และพลันแอบได้ยินเสียงของตุ่มใบเล็กสนทนากับไม้ต้นใหญ่สหายรัก อย่างไม่น่าเชื่อ –
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">อย่าเอะไปนะครับ… ผมจะพาท่านทั้งหลาย (เสียมารยาท) เฝ้าฟังคำสนทนาเหล่านั้นดูสักหน่อย …</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ตุ่มใบเล็ก : เป็นยังไงบ้างต้นไม้เพื่อนยาก พักหลังดูซึมไปนะ ?</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ต้นไม้ใหญ่ : เออ.. นั่นสิ ไม่รู้เป็นอะไรไป ระยะหลัง ๆ รู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัวเลยทีเดียว</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ตุ่มใบเล็ก : แล้วเป็นอะไรมากไปกว่านี้บ้างหรือเปล่าล่ะ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ต้นไม้ใหญ่ : ตอนนี้เพลีย ๆ ยังไงชอบกล ไม่มีเรี่ยวมีแรงพอที่จะโบกสะพัด </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> พัดปลิวเหมือนเคยแล้วล่ะ</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt 72pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ตุ่มใบเล็ก : เอะ .. รึ จะเป็นเพราะน้ำเสียจากหอพักใหญ่หลายหลังนั่นหรือ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> เปล่าที่ไหลหลากลงมาสู่ที่ดินแปลงนี้ของเรา </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ต้นไม้ใหญ่ : เออ .. นั่นสิ ฉันเองก็เริ่มผิดปกติตั้งแต่ตึกใหญ่เหล่านี้เปิดให้</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> บริการอย่างเต็มตัวเมื่อหลายเดือนก่อน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ตุ่มใบเล็ก : ดูสิ ปลาหลายตัวก็ทยอยอพยพย้ายแหล่งไปเกือบหมดแล้ว </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> เมื่อวานเจ้าของนาก็บ่นอย่างท้อใจว่าข้าวกำลังตาย เพราะโดน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> น้ำเสียกัดกินนี่แหละ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ต้นไม้ใหญ่ : ไม่นานแปลงนาของเราก็คงเงียบร้างราวป่าช้าเป็นแน่ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ตุ่มใบเล็ก : นั่นสิ ! ฉันเองก็คิดเช่นนั้น และรู้สึกใจหายมากเลยทีเดียว</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ต้นไม้ใหญ่ : โถเจ้าเพื่อนยาก นายจะวิตกจริตไปทำไม อีกไม่นานเจ้าของ</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> นาก็คงมายกนายกลับไปเก็บไว้ที่บ้านอยู่แล้ว เชื่อข้าเถอะ .. </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ตุ่มใบเล็ก : ให้มันจริงเถอะ .. </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ต้นไม้ใหญ่ : นายว่ามั๊ย .. ฉันต่างหากที่ไปไหนไม่ได้อีกแล้ว คงได้แต่ยืน</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> ต้นตายทั้งเป็นอยู่ตรงนี้สถานเดียวแหละ</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ตุ่มใบเล็ก : อย่าคิดอะไรมากเลยว่ะ คิดไปก็ปวดหัวเปล่า ๆ ฉันว่าเรามา</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> นอนพักกลางวันกันดีกว่า ..</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ต้นไม้ใหญ่ : ดีเหมือนกัน เมื่อคืนฉันก็นอนแทบไม่หลับ เพราะ</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> ไอ้เจ้าเสียงจากห้องพักในตึกใหญ่เหล่านั้น มันดังกึกก้องไม่เป็น</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> สรรพ กระหน่ำหูฉันมาตั้งแต่หัวค่ำยันเช้าวันใหม่เลยเชียวแหละ</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> เธอเอ๋ย…</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ตุ่มใบเล็ก : เมืองนี้มันช่างไม่มีกลางวันกลางคืนเลยหรือไร … ฉันเหนื่อยใจ</p><p> จริง ๆ </p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="left">….</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">กลับเถอะครับ ผมไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของสหายทั้งสอง.. และผมก็เศร้าใจเกินกว่าที่จะฟังถ้อยคำใด ๆ ได้อีกต่อไป </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p>
ผมอ่านแล้ว รู้สึกเหนื่อยๆ ภาพและความรู้สึกนี้ก็เห็นได้ทั่วไปที่เชียงใหม่
:)
... ถ้อยคำรำพัน ของสองสหายอาจดูหม่นเศร้าไปบ้าง
... แต่จินตนาการ และการถ่ายทอดของคุณแผ่นดิน เยี่ยมยอดและลึกซึ้งมากค่ะ
.... คิดว่าคู่สหายคงทำใจได้แล้วกระมังคะ ด้วยวันวัย และกาลผันผ่าน สองสหายก็มีความสุข สงบ เรียบง่าย ตามประสา กับธรรมชาติแวดล้อม
... ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับ น้องสายลม
.....
ตอนนี้แถวสารคาม โดยเฉพาะชุมชนท่าขอนยางและขามเรียงอันเป็นที่ตั้ง "มอใหม่" กำลังกลายเป็นเมืองใหม่ของเมืองมหาสารคาม - ตึกรามบ้านช่องก่อตัวสูงลิบ , บ้านที่เคยมีใต้ถุนสูงให้นั่งเล่น วิ่งเล่นและเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมของคนในครอบครัว ก็ถูกก่อด้วยอิฐบล็อกเป็นห้องหับหอพักให้นิสิตนักศึกษาเข้าพักอาศัย.. วิถีชีวิตในครอบครัวหายไปบ้างแต่ก็มีรายได้เสริม/ประจำเข้าสู่ครอบครัว
ขณะที่ตึกต่าง ๆ ก็มีรูปทรงที่หลากหลายรูปลักษณ์ ขณะที่บางแห่งสร้างอย่างเร่งร้อนรูปทรงราวกับกล่องสี่เหลี่ยมเป็นบล็อก ๆ ... ไม่เอื้อต่อบรรยากาศของการพักอาศัยและเรียนรู้ชีวิต ผู้คนอัดแน่นอยู่ในห้อง ไม่มีโถงล่างเป็นห้อง หรือพื้นที่ในการคบค้าสมาคมกันอย่างที่ควรจะเป็น
กรณีนิสิตนักศึกษาเองก็เช่นกัน จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่ตกหลุม "มายาคติ" ที่เชื่อว่าตนเองเป็นกลุ่มคนพิเศษที่ได้รับอภิสิทธิ์ในทางสังคม ด้วยชุดแต่งกายที่มีเกียรติ โดยการเรียนในระบบที่สังคมตีตราความเป็น "ปัญญาชน" ก็ยิ่งทำให้หลงลืมความเป็นบุคคลธรรมดาสามัญและขาดความตระหนักรู้ในบทบาทและหน้าที่ของตนเองไปอย่างน่าใจหาย สิ่งเหล่านี้กลายเป็นภาพที่สะท้อนให้พบเจออย่างมากมายในสังคมไทย .. นิสิตนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา ควรที่จะตระหนักรู้ว่าการเรียนในมหาวิทยาลัยคือผู้ได้รับโอกาสในทางสังคม มิใช่การได้รับอภิสิทธิ์ทางสังคม ที่ยังไงแล้ว พวกเขาจะต้องทำหน้าที่ในโอกาสนั้นอย่างเหมาะสมและก้าวออกไปทำประโยชน์ต่อสังคมอย่างที่ควรจะต้องเป็นสืบไป
....
โชคดีกับชีวิต, และขอให้มีความสุขกับการไล่ล่าความฝัน นะครับ
สวัสดีครับ
.....
ช่วงนี้อากาศทางเหนือเป็นยังไงบ้างครับ -
....
ว่าด้วยเรื่องจินตนาการ หน่อยก็น่าจะดีนะครับ.
ก่อนหน้านี้ผมเคยเป็นวิทยากร มีนิสิตถามว่า หากต้องเลือกนิสิตมาสร้างเป็น "ผู้นำนิสิต" ผมอยากได้ผู้นำนิสิตที่มีความรู้ความสามารถเข้าใจในเรื่องกฎระเบียบ หรือคนที่มีจินตนาการเป็นกลุ่มแรก
ผมตอบอย่างไม่ลังเลว่า ต้องการกลุ่มที่มี "จินตนาการ" เพราะนักกิจกรรมที่ดีต้องมีจินตนาการ, มีความคิดสร้างสรรค์, มีความเป็นศิลปะในทางความคิด ไม่ใช่ติดยึดกับกรอบวัฒนธรรมอันเป็นระเบียบข้อบังคับจนไม่รู้จักที่จะบูรณการ
เรื่องของระเบียบกฎเกณฑ์เป็นเรื่องที่สอนกันได้ .. แต่เรื่องจินตนาการเป็นเรื่องเสมือนหนึ่ง "พรสวรรค์" นักกิจกรรมที่มีจินตนาการจึงดูมีชีวิต เป็นต้นไม้ที่โยกไหวอย่างมีจังหวะ ไม่ใช่ไม้ใหญ่ที่แข็งทื่อ ..
....
ความวิเศษของกระบี่ก็คงต้องขึ้นอยู่กับผู้ใช้อยู่วันยังค่ำ หากกระบี่ชั้นเลิศ แต่ผู้ใช้ไม่รู้วิธีใช้ ไม่มีวิทยายุทธ ไม่มีความแตกฉานในเพลงกระบี่ ผมว่ากระเปล่าประโยชน์...
..
ขอบคุณครับ และต้องขออภัยหากผมพร่ำเพ้อเข้าป่าและ ออกทะเลไปจนน่าชัง
สวัสดีครับ บ่าววีร์
ผมเห็นด้วยและชื่นชมก็สังเกตของบ่าววีร์เสมอ ดูผิดแปลกไปจากคนทั่วไปไม่น้อย , และเป็นความคิดที่เต็มไปด้วยสีสันเสมอ อาทิ
อาคารแบบนี้มักมีจุดมุ่งหมายคือการลดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน. มีถังขยะร่วมกัน. ทางเดินร่วมกัน. ที่สำคัญคือใช้ที่ดินน้อย .... ที่อยู่แบบนี้ความสวยงามด้านนอกไม่ได้มีนัยยะสำคัญอะไร เพราะว่าคนที่มาอยู่ดูที่ราคาที่น้อยที่สุดที่จะหาที่ซุกหัวนอน.
หรือแม้แต่ ...
ระหว่างบ้านหรือห้องห่วยๆ กับการไม่มีที่ซุกหัวนอนมันต่างกันมากมายนัก. ต่อให้เขาเห็นด้วยว่าที่อยู่ของเขาเป็นมลพิษทางสายตาก็ตาม ก็คงต้องอยู่ไปอยู่ดี
....
เราต่างมีวันเวลาที่ใกล้เคียงกัน แต่ในเรื่องของโอกาสนั้นผมเชื่อเหลือเกินว่า คนเรามีโอกาสทางสังคมและเศรษฐกิจที่ไม่เท่าเทียมกัน .. ซึ่งหมายถึงคนเราเลือกเกิดไม่ได้ และยังมีโอกาสในการ "เลือก" ที่แตกต่างกันด้วยเหมือนกัน กระนั้น นั่นก็ไม่ใช่สาระอันสำคัญของแนวคิดทั้งหมด การได้ทำดีที่สุดอย่างเต็มที่ ณ จุดที่เป็นอยู่และในโอกาสที่เป็นอยู่นั้นต่างหากคือสาระอันสำคัญของการมีชีวิตอยู่..
การรู้สึกเช่นนั้นอาจจะหมายรวมถึงความรู้สึกภาคภูมิใจต่อสถานะของตนเอง, พอเพียง สมถะ .. ค่อยเป็นค่อยไป ...และกว้างไปถึงการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับความเป็นสังคมอย่างมีความสุขด้วยเช่นกัน
....
ผมสงสัยไม่น้อยว่า เมื่อคนที่พักอาศัยในตึกใหญ่เหล่านั้นมองผ่านช่องหน้าต่าง หรือประตูหนังห้องออกมาเห็นทุ่งนาและตุ่มน้ำใบเล็ก หรือแม้แต่ต้นไม้ที่ผมกล่าวถึงนั้น พวกเขามีความรู้สึกนึกคิดเช่นไรบ้าง หรืออาจจะเป็นเหมือนที่บ่าววีร์กล่าวไว้จริง ๆ ก็เป็นได้ นั่นคือ
ใต้ร่มไม้นั้นอาจจะเป็นที่พักหย่อนใจของคนระแวกนั้น ที่หันหลังให้มลพิษความเบียดเสียด. แล้วหันหน้าให้กับต้นไม้ใบหญ้า เพียงชั่วขณะ ก็อาจจะบำบัดจิตใจร่างกายที่อ่อนล้าอึดอัดไปได้บ้าง. แล้วค่อยกลับเผชิญความเบียดเสียดในยามที่ต้องซุกหัวนอนอีกครั้ง.
...
ครับ, บ้าน และที่ซุกหัวนอน มีความแตกต่างกันจริง ๆ ...
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ คุณเอก
ผมเองก็เหนื่อย ๆ เหมือนกันครับ ... เรื่องที่เล่าจึงดูเนือย ๆ ... เรื่อย ๆ ไม่มีจังหวะจะโคนหน่วงหนัก
...
ในทุกที่เป็นเช่นนี้ครับ ... แต่ในทุกที่นั้น จะมีเสียงสะท้อนก้องดังหรือไม่ .. นั่นคือสิ่งที่ผมเฝ้าสังเกตการณ์
ขอบคุณครับ
เห็นโอ่งกับต้นไม้ รู้สึกคุ้นๆ
เพราะเราเป็นคนชอบโอ่งและต้นไม้มาก
ที่บ้านโอ่งกับต้นไม้...จะอยู่คู่กันเสมอค่ะ
และรู้สึกดียิ่งขึ้นเมื่อรู้ว่าเขา..คุยกันรู้เรื่อง
สวัสดีครับ
คิดว่าคู่สหายคงทำใจได้แล้วกระมังคะ ด้วยวันวัย และกาลผันผ่าน สองสหายก็มีความสุข สงบ เรียบง่าย ตามประสา กับธรรมชาติแวดล้อม
....
อาจเป็นจริงตามทัศนะข้างต้นแหละครับ .. เมื่อวันเวลาล่วงมาสู่ระยะหนึ่ง ทั้งสองพานพบและสัมผัสทุกวี่วัน กลายเป็นความเคยชิน, ชินกาย, ชินใจ จนนำไปสู่การทำใจได้และจำยอมต่อภาวะเช่นนั้น เพราะไม่อาจทานแรงรุกคืบต่อสิ่งเหล่านี้ได้เลย
ผมสงสารก็แต่ที่นาแปลงนี้ที่ย่อมได้รับผลกระทบอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลย ... น้ำเสียที่เกิดจากสบู่, แชมพู, ผลซักฟอก และอื่น ๆ จิปาถะถูกถ่ายเทลงที่ดิน หรือที่นาอย่างน่าเห็นใจ และสภาพการณ์ก้เริ่มปรากฏชัดเจนว่าต้นข้าวดูจะไม่แข็งแรง เติบโตราวกับคนป่วย .. ผมเองก้ไม่แน่ใจว่า ท้ายที่สุดจะยืนระยะได้ยาวนานสักแค่ไหน
นี่คือปรากฏการณ์จริงที่เกิดขึ้นในทุกสังคม เป็นการเคลื่อนไหลในทางสังคม วัฒนธรรมเก่ากับวัฒนธรรมใหม่เจอะเจอกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ขึ้นอยู่กับว่าใครจะยืนหยัดได้ก้เท่านั้นเอง
หรือสิ่งเหล่านี้เป็นภาวะจำยอม ที่ต้อง "ยอม" และต้อง "ทน" เลยก็เป็นได้
สะท้อนใจ, เหนื่อยใจ.... กระนั้นก็ยังยืนยันว่า เห็นใจและเศร้าใจอย่างไม่เปลี่ยนแปลง
....
ขอบคุณครับ
.....
สวัสดีครับ คุณแหวว
ขอบคุณครับ บ่าววีร์..
คุณแหวว ไม่ได้มีความสุขบนความทุกข์ของผมหรอกนะครับ แต่มาช่วยให้ผมหัวเราะและชุ่มชื้นขึ้นเป็นกองต่างหาก...
ว่ามั๊ย... lol
บ่าววีร์ครับ ...
ผมค่อนข้างเห็นด้วยอย่างเต็มที่เกี่ยวกับเรื่อง "สถาปนิก, วิศวกร" ที่ทำงานภายใต้กรอบของ "นายทุน" หรือเจ้าของทุน ..เพราะเข้าของเงินคือผู้กำหนดในสิ่งที่อยากจะได้และอยากให้เป็น .. ผมเองยังคิดเลยครับว่าถ้ามีบุญวาสนาที่จะมีบ้านสักหลัง ยังวาดฝันไว้หลายอย่าง นั่นคือ ... การกำนหดรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้คนเขียนแบบและช่างได้ถอดความคิดนั้นออกมาในรูปของบ้าน
แต่คงอีกนาน และนานเลยแหละครับ
(๒)
ส่วนกรณีการจะให้เลิกชุดเครื่องแบบนิสิตนักศึกษานั้นผมกลับเห็นว่าไม่น่าจะเป็นวิธีแก้ปัญหาเลยทั้งหมด เอาเป็นว่าให้เขาใส่แบบไม่ล่อแหลม, ถูกกาละ, ไม่ฟุ้งเฟ้อ ก็น่าจะพอไหว ..
นี่ผมหัวโบราณหรือเปล่าครับ ... (ฮา..)
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับ
ต้นไม้ร่มรื่นเย็น, โอ่งน้ำใบเล็กก็ฉ่ำเย็น...
เสียดายภาพนี้ผมเข้าไปถ่ายภาพใกล้ ๆ ไม่ได้.. ไม่งั้นคงได้ภาพที่คมชัดมากกว่านี้..
ยืนยันครับ... ทั้งสองคุยกันอย่างน่ารักและน่าชื่นชมเป็นยิ่งนัก
!!!!
สวัสดีครับ บ่าววีร์
ทุกครั้งที่ได้อ่านทัศนบ่าววีร์ ผมมักได้เห็นมุมมองที่แตกต่างและแปลกแยกไปจากคนอื่นเสมอ แต่เป็นมุมมองที่บังคับให้ต้อง "หยุดคิด" ไปโดยปริยาย และนั่นคือเอกลักษณ์และสไตล์ของบ่าววีร์ในโลก G2K ..
ในเรื่องเดียวกัน, คนเรามีโอกาสได้เลือกที่ต่างกัน แต่ก็มีจำนวนมากเช่นกันที่ตัดสินใจเลือกใน "สิ่งเดียวกัน" ..
แต่วิถีของคนชั้นกลางกับนายทุน , อันที่จริงก็คาบเกี่ยวเป็นกลุ่มเดียวกันได้ มักมีโอกาสในทางสังคมที่ดีกว่าคนทั่วไปที่หมายถึงประชาชนคนยากไร้ ...
ผมไม่แน่ใจว่าอย่างกรณีชาวนานั้น, มีลักาณะร่วมอันเป็นสากลเหมือนกันหรือไม่ นั่นคือ "ยากจน" ...
....
สวัสดีครับ
สวัสดีครับ พี่ศศินันท์
ผมเขียนบันทึกนี้ในอารมณ์รู้สึกเหนื่อยล้า... และอันที่จริงก็เป็นแบบฉบับตนเองที่ชอบเขียนเรื่อย ๆ ลาก ๆ เนือย ๆ ... ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้อ่านจะซึมซับไปในห้วงมุมใด ...
แต่พี่ว่า เขียนแบบคุณพนัสก็ดีนะ ทำให้คนอ่านไม่เหนื่อยที่จะอ่าน และมีจินตนาการร่วมไปด้วย พี่เอง อ่านไป ยังนึกว่า เจ้าต้นไม้กับตุ่ม นี่มีชีวิต โต้ตอบกันจริงๆเลย เขียนได้น่ารักค่ะ
โลกมันเปลี่ยน อะไรๆมันก็เปลี่ยนค่ะ เป็นไปตามครรลองของชีวิตและสิ่งแวดล้อมค่ะ
.....
สวัสดีครับ บ่าววีร์
ว่าด้วยการสอนจินตนาการนั้น ... เราน่าจะปลูกฝังกันได้ กระตุ้นกันได้ ... แต่ก็คงไม่สมบูรณ์ในด้านของการ "สอน" ... แต่หากพบเจอ ก็ขอปาวารณาตนเป็นลูกศิษย์ด้วยคน นะครับ
...
ผมเคยคิดที่จะซื้อเลนส์ซูมเหมือนกัน.. แต่ท้ายที่สุดก็สรุปเองว่า "ยังไม่จำเป็น" ...
เลยต้อง "เอาไว้ก่อน" ...
...
ขอบคุณมากครับบ่าววีร์ ....
สวัสดีครับ บ่าววีร์ ...
บางทีในสภาพการณ์ปัจจุบัน เราก็ทำดีที่สุดด้วยการทำความเข้าใจต่อยุคสมัย, สังเคราะห์และบูรณาการเป็นหลักสำคัญ -