beeman 吴联乐
นาย สมลักษณ์ (ลักษณวงศ์) วงศ์สมาโนดน์

ความคาดหวัง 2 อารมณ์ (บล็อกและบันทึก)


ผมยกตัวอย่าง Lurker-->Blogger ให้ท่านหนึ่ง

 Blogger VS Lurker

 

     ผมไปพบคำศัพท์ที่เคยจดไว้มา 2 คำ น่าจะเอามา Share ประสบการณ์กันนะครับ

  • Blogger หมายถึงคนเขียนบันทึกลงบล็อกให้พวกเราอ่านกันเป็นประจำ (น่าจะมีความหมายถึงว่า มีคนอ่านติดตามประจำ หรือมีแฟนพันธุ์แท้นั่นแหละครับ)
  • Lurker หมายถึงคนที่อ่านบันทึกในบล็อก อาจจะชอบ Blogger คนใดเป็นพิเศษก็ได้ แต่ก็จดๆ จ้องๆ ไม่ยอมเขียนสักที (กลัวเสียฟอร์มว่างั้นเถอะ) แต่ก็มี Lurker หลายท่านพัฒนาขึ้นมาเป็น Blogger คุณภาพ (เพราะว่ามีดี หรือ มี Tacit อยู่ในตัวอยู่แล้ว แต่ว่าเจ้า Tacit นี่มันก็ฝึกฝนกันได้นะครับ)

    ผมยกตัวอย่าง Lurker-->Blogger ให้ท่านหนึ่ง ซึ่งหลายท่านคงรู้จักดี คือ ท่านอาจารย์ Panda (แพนด้า) ของผม (อย่าอ่านว่า ปานดา นะครับ) ก่อนจะมาสร้างบล็อกและเขียนบันทึก ท่านใช้เวลาอยู่ 1 เดือน เพื่ออ่านบันทึกอย่างเดียว ตั้งแต่ปลายปี 48 ถึงต้นปี 49 ครับ เริ่มบันทึกแรกเมื่อวันครู 16 มกราคม 2549 ครับ (เปลี่ยนเป็น Blogger)ตอนนี้พัฒนาการเขียนไปมากเรียกว่า เขียนบันทึกไหน มีแฟนเข้าไปรุมอ่านกันเกลียวเลยครับ....จบ

 

 

Blogger  VS Blogger

    ต่อไปเป็นตัวอย่าง Blogger 2 ท่านนะครับ ไม่ขอเอ่ยนาม ท่านหนึ่งเป็นสุภาพบุรุษเลื่องชื่อ อีกท่านก็เป็นสุภาพสตรีลือนาม

  • ท่านบุรุษเลื่องชื่อ นี่เขียนบันทึกเมื่อไร จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจเขียนก็จะมีคนเข้าไปอ่าน เพราะว่ามีแฟนประจำมากและมีคนแนะนำให้เข้าไปอ่าน บางบันทึกผู้เขียนก็จะทราบว่าเขียนไม่ค่อยดี แต่บางบันทึกก็จะรู้สึกว่าดีมากๆ  ตอนนี้ท่านมีความสุขกับการเขียนมากๆ โดยไม่สนใจว่าจะมีคนอ่านหรือไม่ (แต่คนอ่านมากทุกครั้งที่เขียน)
  • ท่านสตรีลือนาม นี่ตั้งใจเขียนบันทึกมาก ตั้งใจเขียนให้ดี โดยไม่สนใจว่าจะมีคนอ่านหรือไม่ ไม่สนใจที่จะตอบ comments (แต่หลังๆ ก็พยายามตอบ) แต่ก็จะมีผู้สนใจติดตามบันทึกของท่านมาก ถือว่าเป็นครูก็ว่าได้ แต่เดี๋ยวนี้ท่านไม่ค่อยได้เขียนแล้ว เพราะรู้สึกว่ามีคนคอยจ้องจะอ่านบันทึกของท่าน ทำให้ไม่มีอิสระในการเขียน ถ้าเขียนดีก็เสมอตัว ถ้าเขียนไม่ดีก็มีความรู้สึกค้านในตัวเองว่า ในเมื่อคนอื่นเขาคาดหวังจะให้เราเขียนให้ดี ถ้าเราเขียนไม่ดีก็จะมีความรู้สึกผิดประมาณนั้น

   บันทึกนี้ไม่ต้องการให้ทายว่า ทั้ง 2 ท่านคือใคร แต่ต้องการจะสะท้อนอารมณ์ ของ Blogger 2 ท่านเท่านั้นครับ..จบ

   ปล. บันทึกนี้มีเทคนิคมาฝากอีกแล้ว คือสร้างตารางมีขอบใส่สีพื้น และเล่นสีตัวอักษรข้างใน โดยเลือกไปที่ Heading 2
หมายเลขบันทึก: 40896เขียนเมื่อ 26 กรกฎาคม 2006 10:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 กรกฎาคม 2013 08:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)
  • ขอบคุณครับที่อ้างถึง ที่ยอมรับผมเป็น blogger แล้ว....อิอิ
  • ผมเข้ามาอ่านบันทึกของbeeman ทีไรได้เรื่อง(ดีๆ)กลับไปทุกครั้งครับผม
  • ผมชื่นชมท่านอาจารย์Panda มากครับ
  • กำลังพยายามเดินตามรอยเท้า(โดยไม่วัด)ของท่านอยู่ครับ
  • ขอบพระคุณมากครับ

 

                                  Ninja

พอเดาๆ ได้อยู่ค่ะอาจารย์ว่าเป็นใคร :) เรื่องการฝึกเขียนนี้เป็นเรื่องที่ปรับเปลี่ยนกันยากจริงๆ เลยค่ะ

หลายท่านที่ดิฉันรู้จัก เขาพูดเก่งๆ แต่กลับบอกว่า ไม่อยากเขียนบล็อก เพราะเขียนแล้วก็ต้องคิดค่ะ

ดิฉันก็บอกว่า ก็อย่าเขียนไปกระทบใครเข้า เขียนเหมือนที่พูด เขียนสิ่งที่เจอในแต่ละวัน ความรู้ ความประทับใจ อะไรทำนองนี้ เขียนสิ่งดีๆ ที่เราอยากจดจำไว้ สิ่งที่ไม่ดีอย่าเขียนเลย เขียนไปก็บั่นทอนกำลังใจ ไปเขียนเก็บใส่สมุดไดอารี่ดีกว่านะ

แล้วตรวจทานคำผิดเสียหน่อย แหม! ก็เท่านั่นเอง :)

 

เรื่อง lurker เป็นงานวิจัยค่ะ researchers สองท่านที่ดิฉันสนิทด้วยและเป็นอาจารย์ที่สอนดิฉันมาตอนสมัยเรียนเอกที่อเมริกา เล่นงานด้านนี้ค่ะ คือ Dr. Jenny Preece และ Dr. Blair Nonnecke

เรียนท่านอาจารย์ Panda

  • ตอนเห็นภาพเจ้าของที่ขึ้นบล็อก ก็ดูว่าท่านเป็นผู้มีอายุ
  • แต่พอทราบอายุของท่านและเจอตัวจริงก็ดูยังเป็นหนุ่มน้อยอยู่นะครับ

เรียนท่านบวร

  • คนเราก็ต้องหาสไตล์ตามที่ตัวเองถนัด
  • ท่านอาจจะถูกจริตในรูปแบบของท่านอาจารย์ Panda นะครับ
  • แต่ผมคิดเองว่า (ยกตัวหรือเปล่า) ว่าท่านอาจารย์ Panda ท่านก็ประยุกต์จากรูปแบบของ beeman ครับ
  • คือเป็นรูปแบบเขียนเรื่องสบายๆ เบาๆ แต่มีความรู้ซ่อนอยู่ (อาจจะไม่เกี่ยวกับ KM เลยก็ได้ แต่ถ้ามองลึกๆ ก็เกี่ยวนะครับ) เป็นการสร้างขุมความรู้ให้กับประเทศนะครับ
  • ส่วนใหญ่ก็มีเรื่องเทคนิคของการเขียนบันทึกครับ
  • เพราะว่าการเขียนบันทึก มีทั้งศาสตร์และศิลป์
  • ส่วนศาสตร์นี้พอเรียนจากวิทยากรได้ แต่ศิลป์นี้ต้องเรียนรู้จากการอ่านและฝึกปฏิบัติครับ
  • ส่วนมากผมก็จะค้นหาเทคนิค หรือลูกเล่นใหม่ๆ มาฝากสมาชิก เพื่อให้การอ่านมีรสชาติไม่จำเจครับ
  • โดยการเขียนบันทึกแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ ส่วนของเนื้อหา กับส่วนของภาพประกอบ
  • บางท่านเก่งทั้งเนื้อหา และภาพประกอบ แต่ไม่สามารถผนวกเจ้า 2 ส่วนนี้ให้เข้ากันได้อย่างกลมกลืนเป็นธรรมชาตินะครับ เพราะขาดทักษะเรื่องเทคนิคเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง

เรียนท่านอาจารย์จันทวรรณ

  • การเขียนบันทึกนี่ต้องหมั่นฝึกฝน
  • ตอนนี้ผมกำลัง ฝึกนิสิตรุ่นหนึ่ง มี 50 กว่าคน เพื่อสร้างบล็อกและเขียนบันทึก ถ้าอัตราส่วนตามทฤษฎี 20 : 80 เป็นจริง ก็อาจได้ Blogger อีก 10 คนเพิ่มขึ้นมาก็ได้
  • แต่ตอนนี้เห็นแววอยู่ 2 คนเอง
  • ผมว่าคนพูดไม่เก่ง จะเขียนเก่งเพื่อเป็นการทดแทนกัน เพราะว่าคนพูดไม่เก่งจะเป็นผุ้ฟังมาก ฟังมาก็รู้มาก ถ้าฝึกทักษะการเขียนเข้าไปอีกหน่อยก็ไปโลดเลยนะครับ
  • เวลาเขียน GotoKnow ต้องเขียนในสิ่งดีๆ ใช้คำสุภาพ และก็หมั่นตรวจคำผิดด้วย
  • บางครั้งคำที่เขียนผิดก็มีคนเข้ามาบอก แต่ถ้าเขียนผิดบ่อยๆ นี่ แสดงว่าอ่อนหลักภาษาไทยนะครับ (นิสิตผมเป็นอยู่ในขณะนี้)
  • ขอบคุณที่เพิ่มเติมเรื่อง "เลอร์กเกอร์" ด้วยครับ
  • แล้วคนที่ทั้งพูดเก่งและเขียนเก่งอย่างอาจารย์เรียกว่าอะไรดีคะ?
  • ในความเป็นจริงผมพูดไม่เก่งนะครับ ท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ยังเปรียบเหมือนนกเพนกวินเลย
  • นกเพนกวินมันเดินไม่เก่งแต่ว่ายน้ำเก่งเพราะว่ายน้ำเร็วกว่าปลา (ไม่งั้นมันจับปลากินเป็นอาหารไม่ได้)

เรียน อาจารย์ beeman

         พัฒนา โดยตั้งหัวปลาเป็น เป็ด ดีกว่า นะคะ  โดยทำกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เรื่องการพูด เพราะอาจารย์มีพื้นฐานการฟังที่ดีอยู่แล้ว และก็ยกระดับควบคู่ไปด้วย   หนังสือ เรื่องฤทธิ์มีดสั้น ให้ อรรถรส หลากหลาย ดีนะคะ  ปรัชญาชีวิต การอ่าน มองคน การพูด  การเขียน   อาจารย์ อ่านกี่รอบแล้วคะ ? ขึ้นเป็นหัวข้อ ลปรร. ใน บล็อก ก็น่าสนุก นะคะ

         เป็ด ทำได้ ทุกอย่าง  บิน เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ  ครบทุกธาตุ เป็นหนึ่งเดียว ใน เป็ด

         โดยส่วนตัว กำลังสนใจเรื่อง เทคนิคการสร้างตารางสี ที่อาจารย์ให้ความรู้ ขอบคุณมากค่ะ  จะอยู่ในแผนปฏิบัติขั้นต่อไป

เรียน คุณลิขิต

  • ฤทธิ์มีดสั้นยังไม่เคยจับหรืออ่านเลยครับ
  • อาจารย์ในมหาวิทยาลัยมีสภาพเป็น "เป็ด" อยู่แล้วครับ ทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่เก่งอะไรสักอย่าง (เก่งแบบจริงๆ)
  • เทคนิคการสร้างตารางสี ชมได้ในบันทึกถัดๆไปนะครับ ลองทำดู คิดว่าทุกคนทำได้ครับ ค่อยๆ เรียนรู้ไป
  • ขอบคุณ ที่เข้ามาลปรร.
เรียน อาจารย์ beeman สำหรับคุณลิขิต เป็ด วิเศษที่สุด ทำไมคุณลิขิต เคยเจอ ลูกน้องธุรการ ที่เปรียบเทียบตนเอง กับเป็ด แต่ดูเธอไม่ภาคภูมิใจเลย คุณลิขิต จึงยุให้เธอแต่งตัว แต่งหน้า เพราะอยู่หน้าโต๊ะประชาสัมพันธ์ และแสดงความเป็นตัวเองออกมา จึงมีโอกาสได้เห็นชีวิตชีวา ของเธอ ในเวลาไม่เกิน 3 เดือน เธอเป็นเด็กฉลาดค่ะ...เวลาคุณลิขิต ท้อแท้ ถ้าได้กิน เป็ด ซะหน่อย ก็เป็น อาหารที่สร้างพลังได้อย่างดีเชียวค่ะ...ขอบคุณค่ะ
  • ผมไม่ทานเป็ดครับ (แต่ทานไข่เป็ด)
  • ผมไม่ชอบเป็ด แต่ใช้ขนเป็ดและขนห่านในการย้ายตัวหนอนผึ้ง เพื่อทำ Royal jelly หรือผลิตผึ้งนางพญาครับ (เอาไว้จะเล่าให้ฟังเรื่องผึ้งนางพญา...แน่นอนครับ)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท