เมื่อวานไป สนทนา กับ ระดับ ซีแปด ขึ้นไป ที่ กรม ฯ หนึ่ง
ได้แนวคิด ลปรร กันดังนี้
(ก) KM แบบกดดัน สร้างตัวเลข เอาตัวรอด ไม่ธรรมชาติ ไม่ได้ "ใจ"
การทำ KM แบบที่ มีคนเข้ามตรวจราชการ สร้าง หรือ เสีย ความรู้สึกกันแน่ ผมเสนอแนะว่า น่าจะเปิด เวที Panel discussion ระหว่าง คนตรวจ KPI ทั้ง กพร ทั้ง TRIS และ ข้าราชการ เช่น ในลักษณะ web board จะได้ ไม่ต้อง รู้ว่าเป็น ข้าราชการที่ไหน ( เพราะ ช่วงแรกๆ ทั้งสามฝ่าย อาจจะยัง ไม่เปิดใจกัน ใช้ชื่อปลอมไปก่อน)
หรือ รายการสด เปิดโอกาสให้ คนดู ข้าราชการ ยิง internet เข้ามายัง ห้องประชุม ของ กพร ของ TRIS (พร้อมเพรียงกัน) ก็ได้
คุย กันบ่อยๆ .... เชิญ สคศ หรือ ชุมชนแบบ KM ..... ที่เข้าใจ KM แนวธรรมชาติมากที่สุด ไปเป็น กรรมการ หรือ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ด้วยก็ดี
เพราะ ดูๆแล้ว ยิ่งทำ KM แบบ Format มากๆ จะส่งผลเสียในภาพรวม มากขึ้น คือ หมดกำลังใจ
จริงๆแล้ว อยาก ให้ คุยกันมากๆ ไปฝึก "สุนทรียสนทนา" กันทุกฝ่ายเลย
KM วัดที่ พฤติกรรมครับ ไม่ใช่ ไล่ตรวจตัวเลข จากเอกสาร ไม่ใช่คุยกันในห้องประชุม หน้าดำหน้าแดง บ้าเลือด กับ ค่า 3 ค่า 4 ค่าเอื้อม ค่าท้าทาย ฯลฯ
(ข) ผม นำเสนอ บรรยากาศการทำงานแบบ KTC และ ชุมชนเข้มแข็ง ให้ ที่กรม ฯ นี้ดู ร้อง "จ๊าก" เลยครับ พวก KTC (บัตรเครดิตกรุงไทย) เขามี Fun manager ครับ
หรือ การ เล่นเรื่อง soft side management ของปูนฯ
การเรียนรู้แบบใหม่ ลดการสอนแบบ Class room training ออกไป ไปดูงาน "รุ่งอรุณ" บ้าง
เอาแต่ เชิญวิทยากร เผา Power point ก็แย่สิครับ
คุยกันบ่อยๆ นี่แหละ อีกมิติ ของการเรียนรู้
ได้แนวคิดง่ายๆ ว่า แบ่งโซน ราชการ เป็น สองโซน ก็ได้ คือ ที่ ปะทะประชาชน ก็ให้ ดูดี มีชาติตระกูลหน่อย ทำแบบ ลาว พม่า ก็ได้ คือ ใส่ผ้าถุง ชุดไทย นั่งรอที่แคร่ ออกมาล้อมวงคุยกับประชาชน ฯลฯ
โซนที่ไม่เจอ ประชาชน ก็ จัดแบบตามใจทุกคน จัดแบบ KTC คือ ไม่มี เจ้าขุนมูลนาย ศักดินา ฯลฯ ไม่มีเก้าอี้ประจำ เลิกแนวคิด เป็น เจ้าคน นายคน สักที
(ค) งานราชการ ไม่คุยกันดีๆ เลย ต่างคนต่างอยู่ อายชาวบ้านเขาไหมเนี่ย
ถ้าไม่เจอกัน ก็ทำ web board แบบ KTC คือ คุยกันได้ 24 ชม แบบ ใน เว็ป ฯ นี้ไง
นาย ลูกน้อง โพสต์ มาคุยกัน ใน ห้องต่างๆ เช่น เกี่ยวกับงาน เกี่ยวกับออฟฟิศ เกี่ยวกับสวัสดิการ เกี่ยวกับเรื่องทั่วๆไป
(ง) มี หน่วยงาน ราชการหลายแห่ง ที่ทำ KM ได้ดี แต่ มี สองแห่ง ที่ เข้าไปดูได้ แต่ อย่าติดอยู่ในนั้น คือ กรมราชทัณฑ์ กับ รพ บำรุง ฯ
กรมราชทัณฑ์ มี เรื่องดีๆ เยอะนะครับ
ก่อนจะไปดูงานที่ไหน ผมขอแนะนำว่า ควรฝึก การจับความรู้ให้เป็นก่อน ไปดู "กระบวนการคิด"ของผู้นำที่นั่น เทคนิคการสร้าง "พลัง"ในการทำงานของคนที่นั่น เทคนิคการสร้างบรรยากาศ Open mind open heart open will ของหน่วยงานที่เราไปดู ชุมชนที่เราไปดู
ไม่ใช่ไปดู "ผล" แต่ให้ไป ดู "เหตุ"
เทคนิคการคว้าจับความรู้นี้ ต้องฝึกกันก่อน เข้าค่าย How to Capture knowledge ค่าย Learn how to learn ค่าย วงจร Nonaka ค่ายสุนทรียสนทนา ฯลฯ บ่อยๆ
เพราะ ปล่อยไปดูงานทีไร ทำขายหน้าบ่อยๆ เช่น ไปสาย ดู ๑๕ นาที บ่นแล้ว "มาทำไม" "ไม่เห็นมีอะไร" ฯลฯ ก็เพราะ ยังเป็นคน "หยาบ" ยังเที่ยว แบบ ๗ วัน ๑๔ ประเทศ อยู่เลย
คนดูงานไม่เป็น ก็ต้องเอาไปฝึกให้มากๆ และ ที่น่าเกลียด คือ บ้าขอสำเนา บ้าถ่ายรูปทำแฟ้มสะสมงาน และ ดูแล้ว ก็ไม่ ลงมือทำ ไม่ Open will ..... (ในวงจร โนนากะ คือ ขาด ตกผลึก และ ไม่คิดละลองทำ ชอบแต่ จะดู ชอบแต่จะวิจารณ์)
วิธีคิด ของ ราชการไทย มักจะดี แต่ มาพัง เพราะ ชอบ One size fit all เช่น ทำ KPI น่ะ ดีมากเลย แต่ น่า จะ ทำแบบ Pilot สอง สาม หน่วยงานนำร่อง แล้ว สุนทรียสนทนากันบ่อยๆ ทั้งคนปฏิบัติ คนตรวจ นักวิชาการ นายใหญ่ นายก ฯลฯ
ไม่มีใครทำผิด ทำถูก เราทั้งประเทศต้องเรียนรู้ร่วมกัน ให้อภัยกัน ทุกคนก็หวังดีกันทั้งนั้น ..... พูดดีๆ ต่อกัน
ข้าราชการทั้งหลาย อย่าไป ต่อว่า กพร กับ TRIS เลย ..... สังคมที่ต่อว่ากัน ออกมาเป็น อคติ และ มันทำลาย " ทุนทางใจ ทุนทางสังคม ทุนทางปัญญา " ครับ ........ "เปิดหู เปิดตา เปิดใจ" คุยกันดีๆ เก่งทุกฝ่าย ดีทุกฝ่ายครับ เรียนรู้ร่วมกัน (team learning ) ครับ
ข้าราชการไทย ไม่โง่เลย เก่งๆ ทั้งนั้น ขยันๆก็เยอะแยะ แต่ ขาด "เวที" ได้ลองถูก ลองผิด ขาดกระบวนการเรียนรู้ ไม่ครบ "วงจรเรียนรู้" ..... เป็น นักกีฬาที่เก่ง แต่ ได้โค้ชแย่ เท่านั้นเอง
เรียน ท่านไร้กรอบ
สวัสดีครับ
ขอบคุณครับ
เห็นสังคมของผู้ใหญ่แล้วน่ากลัวจังคับ